เปิดมาเหมือนโกรธอะไรมา ป่าวเลยครับแค่อยากกระฉากความสนใจคุณและเน้นว่ารู้เยอะแน่ อ่านแล้วไม่เสียเวลาแน่
ผมเริ่มงานขายตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า ๆ ด้านไอทีมาตลอดจนเป็นลีดเดอร์แล้ว ให้ความมั่นใจเพิ่มครับว่าไม่ใช่ งู ๆ ปลา ๆ บ้าพลัง
และไม่มีเจตนาอื่นใดเพื่อสร้างชื่อสร้างเสียงในนี้ ผมดังในวงการระดับนึงแล้วพอ และรบกวนอย่าหาเลยนะครับ ต้องการแค่ให้มันเป็นประโยชน์
ต้องการแค่นั้นจริง ๆ ความเห็นที่ดีของคุณ ต่อยอด เป็นประโยชน์ ยินดีนะครับอยากเห็น มาว่ากันเลย
มีความเชื่อผิด ๆ หลายอย่างสำหรับอาชีพเซลแมน พนักงานขาย
กะล่อนปลิ้นปล้อนโกหก ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองขายได้, ต้องสวย ต้องหล่อ ต้องพูดเก่ง, หมาล่าเนื้อ วันไหนขายไม่ได้ก็ถูกถีบหัวส่ง, ต้องง้อลูกค้า ต้องตื้อ. มีลูกมีหลานอย่าให้ไปเป็นนะพนักงงานขาย กระจอก , เรียนจบมาเกรดดีไปทำอย่างอื่นเดี๋ยวไปเปิดบริษัท ทำเอง รวย
สำหรับความเห็นผม ผิดดดดด ทั้งหมดเลย
มืออาชีพเค้าเป็นคนที่เชื่อถือได้ ลูกค้าไว้ใจ เจ้านาย บริษัทให้ความเคารพ , บุคลิกภาพดี แต่งตัวดูดีเป็นมืออาชีพ สวยหล่อมาทีหลัง,
มีความสามารถในการสื่อสารที่ดีก็พอ ไม่ต้องพูดเยอะ จะเป็นเซลพูดไม่รู้เรื่องแล้วยังไงหล่ะที่นี้ เอาแบบรู้เรื่องอะ ดีมากพอแล้ว
เป็นพนักงานขายมีหน้าที่ขาย ขายไม่ได้จะอยู่ได้ยังไงครับ ก็มีหน้าที่ขาย พยายามหรือยัง ยอดขายเคยดีแล้วตกเพราะอะไร ? ส่วนใหญ่โทษทุกอย่าง เศรษฐกิจไม่ดี ปีที่แล้วซื้อไปแล้วปีนี้ยอดก็ต้องตกซิ สินค้าไม่ตรงความต้องการของตลาด คู่แข่งรุกหนัก โทษทุกอย่างไม่เคยโทษตัวเอง ส่วนใหญ่นะครับ
เศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องดูแลลูกค้าเก่าให้ดี หวังให้ต่อ Maintenance ซื้อเพิ่ม ซื้อใหม่ หาความต้องการในตลาดใหม่ ๆ คู่แข่งดัมป์ก็สู้ไปซิ ส่วนใหญ่โดนคู่แข่งบี้ ก็ตั้งท่าจะขายถูกอย่างเดียวกลัวขายไม่ได้ ประเด็นคือคู่แข่งขายเท่าไหร่ เล่นเกมส์อะไร เจ้าเซลเองยังไม่รู้เรื่องเลย
ปีที่แล้วซื้อไปแล้วตั้งเยอะ ปีนี้ไม่เปิดลูกค้ารายใหม่ แล้วมาอ้าง อย่างงี้อย่าแค่ถีบเลย กระโดดดร๊อบคิก ขาคู่เลย
ไม่มีหรอกครับ ขายไม่ได้แป๊บนึง เค้าจะให้ออกเลยนะ ยิ่งพวกเคยขายดีด้วยนะ ก็ต้องสื่อสารซิเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะ Lost ก็ต้องรู้ตัวต้องบอกนาย เจ้าของ
ให้เค้าลงมาเล่นลงมาควบคุมเอง เราทำงานเราแล้วมีปัญหาปิดเงียบ จนแพ้ให้คู่แข่ง บริษัทเค้าเสียดีล เสียมาเก็ตแชร์ เสียลูกค้าเก่า เค้าก็ไม่แฮปปี้ คุณก็ซวย บริษัทเค้าลงทุนกับตัวคุณไปเยอะแยะ เพราะฉะนั้น ขายไม่ได้ถีบส่งเนี้ยไม่จริง มีแต่พวกไม่ได้เรื่องและสรุปแล้วว่าไม่ได้เรื่อง
นะแหละครับที่เค้าจะถีบ
คุณพ่อคุณแม่เจ้าของกิจการ อยากให้มรดกกิจการตกทอดกับลูก ส่งไปเป็นเซลเลยครับ ไปอยู่กับคู่แข่งได้ยิ่งดี เจ้าตลาดก็ยิ่งดี
ถ้าจะฝึกเค้าเองให้ไปเป็นเซลอยู่ในฟิวเลยครับ แล้วอย่าให้ไปเยอะเพราะ spoil กับหัวหน้างานนะครับ
เค้าจะรู้จักตลาด ลูกค้า คู่แข่ง ทำการตลาดเป็น ส่วนเรื่องความเป็นเจ้าของ การลงทุนค่อยไปสอนเค้าทีหลัง กิจการอะไรในโลกเนี้ยมีอะไรไม่ขายบ้าง สินค้าดี ขายไม่ได้ เจ๊งครับ บริษัทดี ๆ สินค้าดี ขายเยอะรวย ขายน้อยจน เจ๊ง ง่าย ๆ อย่างงั้น
มีบริษัทใหญ่โต มหาอำนาจ ในโลก CEO นะเซลแมนนะครับ พี่มาร์ค พี่จ๊อบ พี่บิลเกต พี่เดล สำหรับความเห็นผมเนี้ยผู้นำทางด้านการขายขั้นเทพเลยแหละ ถ้าเอาพื้นฐานการทำงานผู้บริหารตัวหลักๆ ในบริษัทชั้นนำแล้วมีอำนาจ เสียงดัง ส่วนใหญ่เป็นเซลนะครับ ไม่ใช่ผู้ก่อตั้งพวกนั้นจะถอยไปแล้วฟังหลักการดำเนินธุรกิจจาก เซลแมน
เป็นมนุษย์เงินเดือน อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง เริ่มไปเป็นเซลแมนในสายงาน สินค้าที่คุณจะทำ ช่วยได้เยอะมาก
อยากทำธุรกิจให้ลองทำเล็ก ๆ อย่าเล็งผลเลิศ มีอะไรเยอะมากที่คุณไม่รู้ การได้ไปเป็นเซลเมนในตลาดช่วยคุณลดสิ่งที่คุณไม่รู้
ช่วยลดความเสี่ยงช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ยอมไม๊
ถ้าไม่ยอมเสียเวลา ไม่รู้อะไรเลย แค่ชอบอยากจะทำ ต้องวัดดวงครับ ถ้ายอมไปเรียนรู้ธุรกิจ ก็อย่าเอาเงินเดือนที่เก่ามาเป็นประเด็น เคยทำงานอื่นมา เปลี่ยนฟิวมาเป็นเซล จะเอาเงินเดือนเยอะเท่าเดิม ประสบการณ์การขายไม่มี เค้ารับคุณทำงานก็ถือว่าบริษัทเค้าให้โอกาสแล้วครับ
คิดในมุมกลับด้วย ถ้าเป็นคุณจะรับไม๊
มือใหม่
ไม่มีฐานลูกค้าเป็นของตัวเอง ก็ขายได้น้อย ขายได้ยาก ธรรมดาโลกมาก อย่าเพิ่งยอมแพ้ครับ คุณแค่พยายามให้เต็มที่ เรียนรู้ อย่าหยุด วันนึงคุณจะผ่าน
อย่าไปโทษบริษัทไม่ให้ลูกค้าเก่า มาดูแล ก็เลยรับประทานแกลบ ก็มือใหม่ ใครจะไปไว้ใจให้ลูกค้าไปอยู่กับคุณหละ ?
พยายามแล้ว พยายามอยู่ ก็พยายามต่อไปนะแหละ ง่าย ๆ อย่างงั้น อย่าโทษตัวเอง คุณไม่ได้ผิดอะไร ไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นเพราะยังไม่เก่งครับ
เก่งแล้วก็จะขายได้เอง เรื่องยากเป็นง่ายไปหมด ถ้าจะยอมแพ้ให้ถามตัวเองนะครับเก่งแล้วเหรอยัง ถ้าเก่งผมรับรองขายได้ดี ถ้าไม่เก่งแล้วจะยอม
เซ็นตรงนี้ครับ สามเดือนไม่จ่ายนะคุณลาออกเอง สรุปก็คือต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน ต้องสู้ เมื่อไหร่ที่ลูกค้าเชื่อมั่นคุณ เชื่อใจคุณ อะไรต่อมิอะไรง่ายไปเยอะ
ทำมาแล้วพักนึง เบื่อเปลื่ยนบริษัท เปลี่ยนสินค้า ทำได้ครับ แต่เล่นเปลี่ยนฟิวเลย เคยขาย IT เปลี่ยนไปขายอสังหา เคยขายสินค้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปขายสินค้าอุปโภคบริโภค แบบเนี้ยเสียเวลานะครับ ถ้าโฟกัสในฟิวเดิมได้จะดีกว่า คุณได้ใช้ประโยชน์จากทักษะกลุ่มลูกค้าเดิม ง่ายกว่าเยอะ
เมื่อไหร่ที่อยู่บริษัทเล็ก แล้วมั่นใจว่าเก่งแล้ว เปลี่ยนบริษัทใหญ่ขึ้นได้ครับ สร้างชื่อเสียงในวงการของคุณเป็นซุปตาร์ แล้วไม่ต้องกลัวจะตกงาน
คุณไม่มีวันได้เงินเยอะๆ ในบริษัทเล็ก ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ( ไม่ทั้งหมดนะครับ มีดีมีเสียอยู่เสมอ )
แต่ขอสักครั้งนะครับลองทั้งเล็ก ทั้งใหญ่
ชื่อเสียง ผู้ร่วมงาน เจ้านาย คู่ค้า ลูกค้า ให้ความสำคัญนะครับ คุณฉุ่ย ๆ ทำงานไม่ได้เรื่อง งอแง โกหก ขึ้โกง และอื่นๆ ที่ไม่ดี
คนพวกนี้แหละที่จะพาคุณไปไกล หรือเหยียบคุณเอาไว้ วิธีการทำงานที่ดีของคุณ เพื่อนคุณ เจ้านายคุณ ลูกค้าคุณจะรับรู้ครับ
เค้าจะยินดีที่จะทำงานร่วมกับคุณต่อไปในบทบาทใหม่ บริษัทใหม่ๆ ที่คุณไปอยู่ ในทางตรงกันข้าม ไม่มีใครเอา
สำหรับผมเลือกทำงานกับคนที่ผมเคยทำงานด้วยและเก่ง ดี มากกว่าไปเลือกพวก CV สวย Linkedin popular พวกนี้ส่วนใหญ่ Fake
พูดเยอะ พรีเซ้นดี ทำไม่ค่อยเป็นหรอก
เก่งแล้ว ภูมิใจได้ครับ มั่นใจเป็นเรื่องที่ดี อย่าผยอง ยโส โอหัง arrogant เก่งและเป็นที่รักดีกว่า เก่งแต่คนเค้าเกลียด
หรือไม่เก่งแต่ผยองอันนี้ต้องถีบขาคู่อีกเช่นเดียวกัน มีเยอะแยะเลยครับไม่รู้ทำ ทำไม
เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ทำยังไงถึงจะเก่งหล่ะ นี่ซิเข้าประเด็น ซื้ออะไรมากินแล้วเก่ง อ่านหนังสือแล้วเก่ง เรียนปริญญาโทซิเด๋วเก่ง
เอออออออ ผมไม่เห็นด้วยครับ ต่อคราวหน้าตรับ
The Blazer
ผมเป็นเซลแมน พนักงานขายขอย้ำ ประสบการณ์ 15 ปีและจะเป็นต่อไป
ผมเริ่มงานขายตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า ๆ ด้านไอทีมาตลอดจนเป็นลีดเดอร์แล้ว ให้ความมั่นใจเพิ่มครับว่าไม่ใช่ งู ๆ ปลา ๆ บ้าพลัง
และไม่มีเจตนาอื่นใดเพื่อสร้างชื่อสร้างเสียงในนี้ ผมดังในวงการระดับนึงแล้วพอ และรบกวนอย่าหาเลยนะครับ ต้องการแค่ให้มันเป็นประโยชน์
ต้องการแค่นั้นจริง ๆ ความเห็นที่ดีของคุณ ต่อยอด เป็นประโยชน์ ยินดีนะครับอยากเห็น มาว่ากันเลย
มีความเชื่อผิด ๆ หลายอย่างสำหรับอาชีพเซลแมน พนักงานขาย
กะล่อนปลิ้นปล้อนโกหก ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองขายได้, ต้องสวย ต้องหล่อ ต้องพูดเก่ง, หมาล่าเนื้อ วันไหนขายไม่ได้ก็ถูกถีบหัวส่ง, ต้องง้อลูกค้า ต้องตื้อ. มีลูกมีหลานอย่าให้ไปเป็นนะพนักงงานขาย กระจอก , เรียนจบมาเกรดดีไปทำอย่างอื่นเดี๋ยวไปเปิดบริษัท ทำเอง รวย
สำหรับความเห็นผม ผิดดดดด ทั้งหมดเลย
มืออาชีพเค้าเป็นคนที่เชื่อถือได้ ลูกค้าไว้ใจ เจ้านาย บริษัทให้ความเคารพ , บุคลิกภาพดี แต่งตัวดูดีเป็นมืออาชีพ สวยหล่อมาทีหลัง,
มีความสามารถในการสื่อสารที่ดีก็พอ ไม่ต้องพูดเยอะ จะเป็นเซลพูดไม่รู้เรื่องแล้วยังไงหล่ะที่นี้ เอาแบบรู้เรื่องอะ ดีมากพอแล้ว
เป็นพนักงานขายมีหน้าที่ขาย ขายไม่ได้จะอยู่ได้ยังไงครับ ก็มีหน้าที่ขาย พยายามหรือยัง ยอดขายเคยดีแล้วตกเพราะอะไร ? ส่วนใหญ่โทษทุกอย่าง เศรษฐกิจไม่ดี ปีที่แล้วซื้อไปแล้วปีนี้ยอดก็ต้องตกซิ สินค้าไม่ตรงความต้องการของตลาด คู่แข่งรุกหนัก โทษทุกอย่างไม่เคยโทษตัวเอง ส่วนใหญ่นะครับ
เศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องดูแลลูกค้าเก่าให้ดี หวังให้ต่อ Maintenance ซื้อเพิ่ม ซื้อใหม่ หาความต้องการในตลาดใหม่ ๆ คู่แข่งดัมป์ก็สู้ไปซิ ส่วนใหญ่โดนคู่แข่งบี้ ก็ตั้งท่าจะขายถูกอย่างเดียวกลัวขายไม่ได้ ประเด็นคือคู่แข่งขายเท่าไหร่ เล่นเกมส์อะไร เจ้าเซลเองยังไม่รู้เรื่องเลย
ปีที่แล้วซื้อไปแล้วตั้งเยอะ ปีนี้ไม่เปิดลูกค้ารายใหม่ แล้วมาอ้าง อย่างงี้อย่าแค่ถีบเลย กระโดดดร๊อบคิก ขาคู่เลย
ไม่มีหรอกครับ ขายไม่ได้แป๊บนึง เค้าจะให้ออกเลยนะ ยิ่งพวกเคยขายดีด้วยนะ ก็ต้องสื่อสารซิเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะ Lost ก็ต้องรู้ตัวต้องบอกนาย เจ้าของ
ให้เค้าลงมาเล่นลงมาควบคุมเอง เราทำงานเราแล้วมีปัญหาปิดเงียบ จนแพ้ให้คู่แข่ง บริษัทเค้าเสียดีล เสียมาเก็ตแชร์ เสียลูกค้าเก่า เค้าก็ไม่แฮปปี้ คุณก็ซวย บริษัทเค้าลงทุนกับตัวคุณไปเยอะแยะ เพราะฉะนั้น ขายไม่ได้ถีบส่งเนี้ยไม่จริง มีแต่พวกไม่ได้เรื่องและสรุปแล้วว่าไม่ได้เรื่อง
นะแหละครับที่เค้าจะถีบ
คุณพ่อคุณแม่เจ้าของกิจการ อยากให้มรดกกิจการตกทอดกับลูก ส่งไปเป็นเซลเลยครับ ไปอยู่กับคู่แข่งได้ยิ่งดี เจ้าตลาดก็ยิ่งดี
ถ้าจะฝึกเค้าเองให้ไปเป็นเซลอยู่ในฟิวเลยครับ แล้วอย่าให้ไปเยอะเพราะ spoil กับหัวหน้างานนะครับ
เค้าจะรู้จักตลาด ลูกค้า คู่แข่ง ทำการตลาดเป็น ส่วนเรื่องความเป็นเจ้าของ การลงทุนค่อยไปสอนเค้าทีหลัง กิจการอะไรในโลกเนี้ยมีอะไรไม่ขายบ้าง สินค้าดี ขายไม่ได้ เจ๊งครับ บริษัทดี ๆ สินค้าดี ขายเยอะรวย ขายน้อยจน เจ๊ง ง่าย ๆ อย่างงั้น
มีบริษัทใหญ่โต มหาอำนาจ ในโลก CEO นะเซลแมนนะครับ พี่มาร์ค พี่จ๊อบ พี่บิลเกต พี่เดล สำหรับความเห็นผมเนี้ยผู้นำทางด้านการขายขั้นเทพเลยแหละ ถ้าเอาพื้นฐานการทำงานผู้บริหารตัวหลักๆ ในบริษัทชั้นนำแล้วมีอำนาจ เสียงดัง ส่วนใหญ่เป็นเซลนะครับ ไม่ใช่ผู้ก่อตั้งพวกนั้นจะถอยไปแล้วฟังหลักการดำเนินธุรกิจจาก เซลแมน
เป็นมนุษย์เงินเดือน อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง เริ่มไปเป็นเซลแมนในสายงาน สินค้าที่คุณจะทำ ช่วยได้เยอะมาก
อยากทำธุรกิจให้ลองทำเล็ก ๆ อย่าเล็งผลเลิศ มีอะไรเยอะมากที่คุณไม่รู้ การได้ไปเป็นเซลเมนในตลาดช่วยคุณลดสิ่งที่คุณไม่รู้
ช่วยลดความเสี่ยงช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ยอมไม๊
ถ้าไม่ยอมเสียเวลา ไม่รู้อะไรเลย แค่ชอบอยากจะทำ ต้องวัดดวงครับ ถ้ายอมไปเรียนรู้ธุรกิจ ก็อย่าเอาเงินเดือนที่เก่ามาเป็นประเด็น เคยทำงานอื่นมา เปลี่ยนฟิวมาเป็นเซล จะเอาเงินเดือนเยอะเท่าเดิม ประสบการณ์การขายไม่มี เค้ารับคุณทำงานก็ถือว่าบริษัทเค้าให้โอกาสแล้วครับ
คิดในมุมกลับด้วย ถ้าเป็นคุณจะรับไม๊
มือใหม่
ไม่มีฐานลูกค้าเป็นของตัวเอง ก็ขายได้น้อย ขายได้ยาก ธรรมดาโลกมาก อย่าเพิ่งยอมแพ้ครับ คุณแค่พยายามให้เต็มที่ เรียนรู้ อย่าหยุด วันนึงคุณจะผ่าน
อย่าไปโทษบริษัทไม่ให้ลูกค้าเก่า มาดูแล ก็เลยรับประทานแกลบ ก็มือใหม่ ใครจะไปไว้ใจให้ลูกค้าไปอยู่กับคุณหละ ?
พยายามแล้ว พยายามอยู่ ก็พยายามต่อไปนะแหละ ง่าย ๆ อย่างงั้น อย่าโทษตัวเอง คุณไม่ได้ผิดอะไร ไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นเพราะยังไม่เก่งครับ
เก่งแล้วก็จะขายได้เอง เรื่องยากเป็นง่ายไปหมด ถ้าจะยอมแพ้ให้ถามตัวเองนะครับเก่งแล้วเหรอยัง ถ้าเก่งผมรับรองขายได้ดี ถ้าไม่เก่งแล้วจะยอม
เซ็นตรงนี้ครับ สามเดือนไม่จ่ายนะคุณลาออกเอง สรุปก็คือต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน ต้องสู้ เมื่อไหร่ที่ลูกค้าเชื่อมั่นคุณ เชื่อใจคุณ อะไรต่อมิอะไรง่ายไปเยอะ
ทำมาแล้วพักนึง เบื่อเปลื่ยนบริษัท เปลี่ยนสินค้า ทำได้ครับ แต่เล่นเปลี่ยนฟิวเลย เคยขาย IT เปลี่ยนไปขายอสังหา เคยขายสินค้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปขายสินค้าอุปโภคบริโภค แบบเนี้ยเสียเวลานะครับ ถ้าโฟกัสในฟิวเดิมได้จะดีกว่า คุณได้ใช้ประโยชน์จากทักษะกลุ่มลูกค้าเดิม ง่ายกว่าเยอะ
เมื่อไหร่ที่อยู่บริษัทเล็ก แล้วมั่นใจว่าเก่งแล้ว เปลี่ยนบริษัทใหญ่ขึ้นได้ครับ สร้างชื่อเสียงในวงการของคุณเป็นซุปตาร์ แล้วไม่ต้องกลัวจะตกงาน
คุณไม่มีวันได้เงินเยอะๆ ในบริษัทเล็ก ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ( ไม่ทั้งหมดนะครับ มีดีมีเสียอยู่เสมอ )
แต่ขอสักครั้งนะครับลองทั้งเล็ก ทั้งใหญ่
ชื่อเสียง ผู้ร่วมงาน เจ้านาย คู่ค้า ลูกค้า ให้ความสำคัญนะครับ คุณฉุ่ย ๆ ทำงานไม่ได้เรื่อง งอแง โกหก ขึ้โกง และอื่นๆ ที่ไม่ดี
คนพวกนี้แหละที่จะพาคุณไปไกล หรือเหยียบคุณเอาไว้ วิธีการทำงานที่ดีของคุณ เพื่อนคุณ เจ้านายคุณ ลูกค้าคุณจะรับรู้ครับ
เค้าจะยินดีที่จะทำงานร่วมกับคุณต่อไปในบทบาทใหม่ บริษัทใหม่ๆ ที่คุณไปอยู่ ในทางตรงกันข้าม ไม่มีใครเอา
สำหรับผมเลือกทำงานกับคนที่ผมเคยทำงานด้วยและเก่ง ดี มากกว่าไปเลือกพวก CV สวย Linkedin popular พวกนี้ส่วนใหญ่ Fake
พูดเยอะ พรีเซ้นดี ทำไม่ค่อยเป็นหรอก
เก่งแล้ว ภูมิใจได้ครับ มั่นใจเป็นเรื่องที่ดี อย่าผยอง ยโส โอหัง arrogant เก่งและเป็นที่รักดีกว่า เก่งแต่คนเค้าเกลียด
หรือไม่เก่งแต่ผยองอันนี้ต้องถีบขาคู่อีกเช่นเดียวกัน มีเยอะแยะเลยครับไม่รู้ทำ ทำไม
เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ทำยังไงถึงจะเก่งหล่ะ นี่ซิเข้าประเด็น ซื้ออะไรมากินแล้วเก่ง อ่านหนังสือแล้วเก่ง เรียนปริญญาโทซิเด๋วเก่ง
เอออออออ ผมไม่เห็นด้วยครับ ต่อคราวหน้าตรับ
The Blazer