สวัสดีค่าา พอดีลงเรื่องต่างๆในเฟสแล้ว
แต่ที่นี้มันมีเรื่องเยอะแยะเลย
ไม่อยากลงเป็นภาษาไทยมันเสียมารยาทกับเพื่อนชาวฮังการี
เลยกะเอาประสบการณ์ต่างๆที่เจอ มาลงในพันทีพเพื่อให้แฟนคลับ เอ้ย เพื่อนๆ อ่านกัน 5555
(ทีนี้รู้แล้วสินะว่าชั้นเป็นใคร)
ตรง spoil จะเป็นเรื่องที่ลง FB ไปแล้ว เรื่องที่จะลงจะเป็นเรื่องราวต่อจากนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แบ่งปันเรื่องราวนะคะ (นึกว่าพันทิพ)
โครตซวย แต่ก็แฝงความโชคดี
คือเรื่องมันมีอยู่ว่าเราต้องไปทรานซิสที่รัสเซีย ประมาณ 18 ชม วันที่ 29 May
ก็เลยวางแผนว่าจะไปเที่ยว(คนเดียว) แถวจตุรัสแดงตอนแย็นๆถึงสองทุ่มเพราะดูพยาการอากาศ พระอาทิตย์มันจะตกเกือบสามทุ่ม
แล้วก็นเดินไปที่พัก ชิวๆ เช้ามาก็นั่งรถเมโทรไปขึ้น Aeroexpress กลับเหมือนเดิม
ปรากฏว่า มาถึงจริงๆ กว่าจะได้ออกจากสนามบินก็ปาไปห้าโมงละ ยืนต่อแถวตรวจพาสปอร์ต
นานมาก พอถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่ดูบัตร ไม่เหนตั้งคำถาม ก็เลยอธิบายไปว่ามาทรานซิส พาสปอร์ตไทยไม่ต้องใช้วีซ่า
จะแวะเที่ยวในเมืองคืนนึง พรุ่งนี้นั่งรถกลับแอร์พอร์ต เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าไปบูดาเปสนี่ ตั๋วไม่ได้เข้ามอสโคว
เราก็บอกใช่ แต่แวะเที่ยวก่อน ทางนั้นก็บอก ถ้าไปบูดาเปส ต้องไปทรานซิสอีกช่อง
คือเค้าพูดรัสเซีย ฟังรู้เรื่องอยู่สามคำ บูดาเปส มอสโคว กับทรานซิส 555 ก็ตีความได้
ก็อธิบายไปอีกว่าเจ้าหน้าที่ตรงนู้นบอกถ้าเข้าเมืองให้มาทางนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็แย้ง
โวยวายอยู่สองสามรอบ เราก็อธิบายใหม่ สุดท้ายเค้าตะโกนเรียกให้
เจ้าหน้าที่อีกคนที่พูดอังกฤษได้มาถามว่าตกลงเราต้องไปช่องไหน สุดท้าย มาถูกช่องละค่า า ก็ผ่านมาได้ ให้ยิ้มส่งท้ายไป 1 ที 555
พอจะขึ้นรถไฟเข้าเมือง ก็นึกได้ว่าลืมแลกเงิน อะก็ไปถามประชาสัมพันธ์ พอจะซื้อตั๋ว
ที่รู้ว่าคือเที่ยวเดียว 400 ไปกลับ 800 แต่ถ้ารวมเมโทรในเมืองกะรถไฟเข้าสนามบินแบบไปกลับจะราคา 1010
ตอนแรกเล็ง 400 ไว้ตั้งแต่บ้าน ก็จะตัดสินใจ 800 หรือ 1010 ก็ถามเจ้าหน้าที่ก็คนข้างหลังไปพักนึง 555 ในที่สุดก็ได้ 1010 มา
พอจะแตะบัตรเข้ารถไฟ ก็โชว์โง่ แตะช่องผิด ในรถไปมี wifi ฟรีด้วย
พอมาถึงที่นึกไว้นึกว่าจะเป็นคล้ายๆ MRT ป่าว เปิดโล่งๆ บนพื้น
วนเข้าเรื่องสภาพอากาศ ตอนนั้นห้าโมง ครึ้มมากก ใจแป้ว ไหนว่ามืดช้าไงวะ
จะถ่ายวิวกลางวันก็อดแหง แย่กว่านั้น พอลงรถไฟ ฝนก็ตกเปาะแปะ ก็คิดว่าซวยละ
ทีนี้แม้แต่วิวกลางคืนก็ไม่ได้ ฝนตกเม็ดใหญ่ขึ้น ทุกคนถือร่ม คือฝนจกแบบนี้คงไปเดินไม่ได้ละ
เดินคว้างอยู่แถวนั้นไม่รู้จะไปไหน มาคุณป้าคนนึงเข้ามาทัก ถามๆ นี่ก็งง พอฟังรู้เรื่องปุ๊ปว่า metro ป้าก็ส่ายหน้าและเดินหนีแล้ว 5555
คือตรงสถานี Belorussky มันก็สวยละไง ตึกแบบอลัง ก็กะจะเดินเล่นแถวนั้น ละนั่งกลับแอร์พอร์ตดึกๆ ก็ได้
ทีนี้ฝนตกหนักขึ้น เลยเดินไปหาร้านนั่ง เจอ ผญ ก็เลยไปถามว่าไปไหนได้บ้าง เค้าก็แนะนำ จตุรัสแดงเหมือนเดิม
นี่ก็อะ ไปก็ไปวะ ก็เดินลงเมโทรไป ลงมา งง ไปทางไหนวะ เยอะละเกิน ก็ถาม ลงก็ถาม ต่ออีกสายก็ถาม
ขึ้นก็ถาม ถาม ถาม ถาม เยอะมากกก ไม่อยากหลง สุดท้าย ก็ออกมาตรงที่จะเดินไป จตุรัสแดง แต่ออกมาก็เดินมึนอีกกว่าจะไปถูก
ฝนก็เรื่มลงเม็ดเปาะแปะ ก็ไม่แคร์เดินต่อไป เจอแยก ถามคน
ทุกแยก






สุดท้ายก็มาถึงจตุรัสแดง เดินถ่ายรูปไปได้แปปนึงฝนก็ตกหนัก ก็หลบอยู่ชานตึก พักนึง พอฝนหยุดก็ออกไปเดินเที่ยวต่อ
ที่นี้ฟ้าเรื่มดีขึ้น แสงสว่างเริ่มมา ก็เดินออกมายาว













พอเดินมาได้สักพีก ฝนลงเม็ด ก็หลบ เดินต่อ ลุยๆฝนไป
ไม่ทันเปียกหรอก ที่ไหนได้
มากกก ฟ้าเรื่มครึ้ม ครึ้มมากกก ดำปี๋ ลมแรง
ถามคน เค้าก็บอกว่าเมโทรข้างหน้าไม่ไกล
ก็เดินๆ ตากฝนที่เริ่มตกหนักขึ้เรื่อยๆ สุดท้ายวิ่ง
ไม่มีที่หลบข้างทางเลย เดินไปเจอป้าย Tram คน
เต็มเบียด
นี่อยู่อยู่นอก ฝน ลม มาเลยจ้า แรงแบบ กุไม่รอดแน่ เสื้อไปก่อน คลุมกระเป๋ากันเปียกไว้ ตามมาด้วยรองเท้าผ้าใบกุววว กางเกง ผม อิลมก็พัดจังงงง หลังคาก็ไม่ถึงกุเลยย รอฝนหยุดนานมาก
ไม่หยุด เปียกแบบโชกมากก สุดท้าย เอาวะ หลังถามคนไปเป็นสิบล้านคน ก็เดินไปเมโทร
ฝน
ก็ไม่หยุด เดินข้ามถนน ลุยน้ำ แต่ปลื้มใจตรงรถ หยุดให้ทุกทางม้าลายเลย ลองมาเป็นไทยสิ เร่งน้ำกระจายซ้ำเติมแน่ๆ
เดินๆไปฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เมโทรกุอยู่ไหนน สุดท้ายไม่ไหวแล้วขอเจอร้านสักร้านเถอะ แล้วก็เจอ เข้ามาแบบ
โอ้ยย กุรอดแล้ววว แต่ก็ช้าไปไม๊ เปียกแบบเล่นสงกรานต์ ก็นั่งร้านนั้น กินของกินกันน่าเกลียดสักพัก แต่กว่าจะสั่งของได้ 555
ชื่อเป็นภาษารัสเซีย นี่ก็ให้เค้าแนะนำว่าอันไหนดี ตอนแรกพนักงานผู้หญิง เค้าฟังไม่เข้าใจ เลยเรียกพนักงานผช อีกคนมาคุยให้
ก็ได้ของกินหน้าตาแปลกๆ ทำมาจากแครอทฝอย ทูนา มันฝรั่ง ตรีม อะไรไม่รู้ 55 rub กับขนมสตอเบอร์รี่ 170 rub
น้ำเปล่าขวดเล็กประมาณ 5 บาทเซเว่น ที่นี้ 125 rub
นั่งกินแบบสงสารตัวเองมาก หลังจากนั้นก็หาเนตคิดว่าคงมีให้ ก็มีจริงๆ
เล่นเนตฟรี หาโรงแรงใหม่ หาทางรอดใหม่ สุดท้ายก็โชคดี เจอโฮสเทลที่เคยเล็งไว้ อยู่ใกล้ๆแถวนี้พอดี แบบดีใจมากก
เหลือเตียงสุดท้ายแล้ว รีบจองเลยจ้า แล้วก็นั่งพัก นั่งทำใจกะชะตาตัวเองแปป


พอเกือบสามทุ่ม ก็ออกมา
งงง ฝนไม่หยุดตกซักที ปอยแบบเม็ดใหญ่ๆ แล้วก็หนาวมากก ตัวก็เปียกหนาวแบบสั่น อยู่ข้างในอุ่นไง
ไม่นึกว่าตัวออกมาจะเป็นแบบนี้ เดินมาหาที่พัก ก็หาไม่เจอ สุดท้ายถามป้า ความจริงเป็นน้ามากกว่า ใจดีมากก
นี่หาที่อยู่ที่พักไม่เจอซักที ก็รอ ฝนก็ไม่หยุดตก
สุดท้ายเค้าก็กางร่มให้ พอเจอที่อยู่ ก็เดินมาส่ง พอถามคนที่นั่น ปรากฏมันอยู่ตึกข้างๆ ก็พาไป พาเข้าไปในตึก ขึ้นชั้น
แบบส่งถึงหน้าห้องเลย แบบโอ้ยย โครตซึ้งใจ ตอนนั้นหนาวแบบกุไม่ไหวแล้วว ถึงที่พักปุ๊ป กุรอดแล้ว อีกรอบ 55555
(พอก่อน เรียงความสามร้อยหน้าละ )
ปล เล่าในไลน์มันพิมยาก หลายคน เอาทีเดียว เอาให้รู้ว่ากุน่าสงสารจริงๆ
นึกสภาพ เดินคนเดียว ข้างถนน ท่ามกลางฝนที่ตกแบบลงห่า แถมแบกกระเป๋าที่หนักมาก แล้วเปนของใช้ไฟฟ้าทั้งนั้น คอม กล้อง มือถือ
สิ่งที่ไม่อยากเจอที่สุดตอนแบกของพวกนี้ก็ฝน แล้วเฮี่ยมาก พุ่งนี้รองเท้าจะเอาไหน จะแห้งทันไหม ชุดที่เอามาก็กะเอามานอน
พุ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรกว่าจะถึงแอร์พอร์ต อย่าแย่ไปกว่านี้เลย
พออยู่ในโฮสเทล เจ้าของเค้าก็เป็นกันเองมาก เตียงใหม่ สวยดี เพื่อนรว่มโฮสเทลส่วนใหญ่เป็นผช มาจากไหนนักไม่รู้
แต่ที่เดาจากหน้าตา น่าจะมี เยอรมัน ฝรั่งเศส ด้วย
ประมาณห้าทุ่มหลังพิมเรื่องลง FB เสร็จก็นอนแล้วก็ตื่นตอนตีสี่กว่าๆ เล่นเนตนู้นนี่นั่นพอเกือบหกโมงก็เตรียมเก็บของ กลับสนามบิน
ไปดูเสื้อผ้า รองเท้าไม่แห้งจริงด้วยย ก็ต้องใส่เปียกท้งแบบนั้น อับแน่ๆ ทำใจไว้เลย 555


นี่ก็เดินไปขึ้นเมโทร สายส้ม ใกล้กับที่พักมาก ฝนก็เหมือนตกทั้งคืน เฉอะแฉะไปหมด อากาศก็เย็นๆ จนต้องรีบคว้าเสื้อมาคลุม
ในเมโทรก็งง ถามคนนั้นคนนี้ เช้าๆ ยังไม่เจอเด็กๆ เค้าก็ไม่พูดอังกฤษกัน สุดท้าย เจอ ผญ น่าจะวัยไม่เกิน 25 ใจดีมาก
เราถามเค้าเค้าก็พาเราไปส่งตรงสายที่จะพาไปเรากลับ เบเรรุสสกายา เพื่อไปขึ้น เอโรเอกซเพลส
ระหว่างนั้นเค้าก็ชวนคุยเรื่องเมือง แบบ nice มากๆ
พอเดินขึ้นบรรไดมา ไอ่เราก็คิดว่าถึงสถานีที่จะขึ้นไปที่จุดหมายละ ก็ขอบคุณเค้าไป
เค้าก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรจะพูด 555 แต่นี้ก็เดินไปละ
ปรากฏว่า ไม่ใช่ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่ไม่ให้คนขึ้นขบวนนี้ รถผ่านไปสองขบวนก็ชักยังไงๆ สุดท้ายตัดสินใจถามเจ้าหน้าที่
เค้าก็พาเราไปตรงแผนที่เส้นทางรถไฟ เราก็เห็นเค้าชี้ สายน้ำตาล
นี่ก็คิดในใจ เออ รู้แล้ว แต่จะนั่งขบวนไหน ขึ้นบรรไดฝั่งไหน ออกตรงไหนนน
ก็ยืนคว้างอีกละ พอดีเหลือบไปเห็นผญ ใส่ชุดพพนักงานเอโรฟรอท พอดี ก็ปรี่ไปถามเค้าเลยว่าเค้าจะไปสนามบินใช่ไหม
เค้าก็ถามว่า สนามบินไหน ด้วยวามที่จำชื่อเต็มสนามบินไม่ได้ ก็เอาทิคเกต ให้เค้าดูเค้าก็พยักหน้า ละก็ตามเค้าไป
แบบโชคดีมากกกก เค้าพาเดินขึ้นบรรได นั่งสายเหลืองไปเชื่อมที่สายน้ำตาล เห็นเส้นทางละ ถ้าไปเองหลงแน่ๆ
แล้วก็นั่งสายน้ำตาลมาลง Belarusskaya นี่ก็เห็นเค้าพานั่งสายเขียวออกไป ก็เอ ไม่ออกไปข้างนอกหรอวะ
ก็เปิดแผนที่ดู มันสามารถนั่งเมโทรไปลงตรงสุดทางละเดินออกมาขึ้นรถ minibus 75 rub เพื่อไปสนามบินได้
ก็ดี ได้เจอเส้นทางใหม่ๆ ได้ชมเมืองผ่านทางบนถนนปกติบ้าง ใช้เวลาประมานไม่นานครึ่งชม เอง
พอถึง เทอมินอล เอฟ เค้าก็บอกว่าถึงแล้ว สุดท้าย 8.15 ประมาณนี้ก็ถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ
มาถึงตรงนี้ อยากบอกว่า คนรัสเซียไม่ได้หน้ายักษ์ อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ
ทุกคนยิ้มแย้มถ้าเรายิ้มให้ ช่วยเหลือดีมาก แค่รู้จักถาม แค่นั้นเอง
แม้ไม่ถามแต่ดูงง ก็มีคนมาช่วย อย่างตอนครั้งแรกที่เราเจอคุณป้ามาถาม 5555
พอผ่านไปอีกหน่อยก็ถามน้องผญ ตรงตึกข้างเมโทร น้องก็แนะนำดีมากกกก ยิ้มแย้ม
พออยู่ในเมโทร ถามคนพอมีอายุหน่อย ส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้ ที่นี้พอรู้หลักแล้ว ก็เลยเรื่องถามคนที่ยังไม่แก่มาก
พออยู่ในสถานี ถามวัยรุ่นสองคน ก็แนะนำแม้ไม่แน่ใจ แถมอวยพรให้โชคดี
พออกมาถามคุณป้า แต่เค้าไม่รู้เรื่อง หลานเค้า เด็กๆ น่าจะสิบขวบ พูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็ยืนยิ้มมองเรา ตอนเราพูด
พอเดินไปตรงทางแยก ก็ ก็เจอ ญช วันทำงาน ก็ถามทางเค้า เค้าก็ปรึกษาเถียงกันให้เรา แบบดีมากก
พอเดินไปตรงสะพานก็เก็นดอกไม้วางอยู่ ตอนแรกคิดว่าขาย พอเห็นป้าย ก็เดาว่าไม่น่าใช่ละ เลยเลือกถาม คุณน้าที่ยืนแถวๆนั้น
แม้เค้าพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เค้าก็พยายาม ก็จับความได้ว่า วางไว้ให้คนที่เคยเสียชีวิตบริเวณนี้
ตอนอยู่ตรงป้ายรถเมล์หลบฝน ก็ถามทางชญ เค้าก็อุตส่าเอาโทรศัพมาเปิดดูให้เราทั้งๆที่ฝนตก
พอมาในร้านขนม ถาม ญ วัยรุ่น เค้าก็อธิบายดีมาก ชวนคุย แถมสักพักก็สะกิด เปิดแผนที่ในไอแพดให้เราดู
วันต่อมา ก็เจอคนช่วยเหลือดีมาก
คือประทับใจมากๆๆๆๆ เมืองก็สวย ผู้คนก็น่ารัก



เข้าเรื่องสนามบิน เครื่องดีเลย์ไปเป็นชม. แถมยังรู้สึเหมือนเป็นไข้เล็กๆ
แต่ก็โอเคขึ้น และแล้วเครื่องก็ลงสู่สนามบิน Ferihegy ปลายทา
1 วันกับการ transit ใน Moscow
แต่ที่นี้มันมีเรื่องเยอะแยะเลย
ไม่อยากลงเป็นภาษาไทยมันเสียมารยาทกับเพื่อนชาวฮังการี
เลยกะเอาประสบการณ์ต่างๆที่เจอ มาลงในพันทีพเพื่อให้แฟนคลับ เอ้ย เพื่อนๆ อ่านกัน 5555
(ทีนี้รู้แล้วสินะว่าชั้นเป็นใคร)
ตรง spoil จะเป็นเรื่องที่ลง FB ไปแล้ว เรื่องที่จะลงจะเป็นเรื่องราวต่อจากนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พออยู่ในโฮสเทล เจ้าของเค้าก็เป็นกันเองมาก เตียงใหม่ สวยดี เพื่อนรว่มโฮสเทลส่วนใหญ่เป็นผช มาจากไหนนักไม่รู้
แต่ที่เดาจากหน้าตา น่าจะมี เยอรมัน ฝรั่งเศส ด้วย
ประมาณห้าทุ่มหลังพิมเรื่องลง FB เสร็จก็นอนแล้วก็ตื่นตอนตีสี่กว่าๆ เล่นเนตนู้นนี่นั่นพอเกือบหกโมงก็เตรียมเก็บของ กลับสนามบิน
ไปดูเสื้อผ้า รองเท้าไม่แห้งจริงด้วยย ก็ต้องใส่เปียกท้งแบบนั้น อับแน่ๆ ทำใจไว้เลย 555
นี่ก็เดินไปขึ้นเมโทร สายส้ม ใกล้กับที่พักมาก ฝนก็เหมือนตกทั้งคืน เฉอะแฉะไปหมด อากาศก็เย็นๆ จนต้องรีบคว้าเสื้อมาคลุม
ในเมโทรก็งง ถามคนนั้นคนนี้ เช้าๆ ยังไม่เจอเด็กๆ เค้าก็ไม่พูดอังกฤษกัน สุดท้าย เจอ ผญ น่าจะวัยไม่เกิน 25 ใจดีมาก
เราถามเค้าเค้าก็พาเราไปส่งตรงสายที่จะพาไปเรากลับ เบเรรุสสกายา เพื่อไปขึ้น เอโรเอกซเพลส
ระหว่างนั้นเค้าก็ชวนคุยเรื่องเมือง แบบ nice มากๆ
พอเดินขึ้นบรรไดมา ไอ่เราก็คิดว่าถึงสถานีที่จะขึ้นไปที่จุดหมายละ ก็ขอบคุณเค้าไป
เค้าก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรจะพูด 555 แต่นี้ก็เดินไปละ
ปรากฏว่า ไม่ใช่ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่ไม่ให้คนขึ้นขบวนนี้ รถผ่านไปสองขบวนก็ชักยังไงๆ สุดท้ายตัดสินใจถามเจ้าหน้าที่
เค้าก็พาเราไปตรงแผนที่เส้นทางรถไฟ เราก็เห็นเค้าชี้ สายน้ำตาล
นี่ก็คิดในใจ เออ รู้แล้ว แต่จะนั่งขบวนไหน ขึ้นบรรไดฝั่งไหน ออกตรงไหนนน
ก็ยืนคว้างอีกละ พอดีเหลือบไปเห็นผญ ใส่ชุดพพนักงานเอโรฟรอท พอดี ก็ปรี่ไปถามเค้าเลยว่าเค้าจะไปสนามบินใช่ไหม
เค้าก็ถามว่า สนามบินไหน ด้วยวามที่จำชื่อเต็มสนามบินไม่ได้ ก็เอาทิคเกต ให้เค้าดูเค้าก็พยักหน้า ละก็ตามเค้าไป
แบบโชคดีมากกกก เค้าพาเดินขึ้นบรรได นั่งสายเหลืองไปเชื่อมที่สายน้ำตาล เห็นเส้นทางละ ถ้าไปเองหลงแน่ๆ
แล้วก็นั่งสายน้ำตาลมาลง Belarusskaya นี่ก็เห็นเค้าพานั่งสายเขียวออกไป ก็เอ ไม่ออกไปข้างนอกหรอวะ
ก็เปิดแผนที่ดู มันสามารถนั่งเมโทรไปลงตรงสุดทางละเดินออกมาขึ้นรถ minibus 75 rub เพื่อไปสนามบินได้
ก็ดี ได้เจอเส้นทางใหม่ๆ ได้ชมเมืองผ่านทางบนถนนปกติบ้าง ใช้เวลาประมานไม่นานครึ่งชม เอง
พอถึง เทอมินอล เอฟ เค้าก็บอกว่าถึงแล้ว สุดท้าย 8.15 ประมาณนี้ก็ถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ
มาถึงตรงนี้ อยากบอกว่า คนรัสเซียไม่ได้หน้ายักษ์ อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ
ทุกคนยิ้มแย้มถ้าเรายิ้มให้ ช่วยเหลือดีมาก แค่รู้จักถาม แค่นั้นเอง
แม้ไม่ถามแต่ดูงง ก็มีคนมาช่วย อย่างตอนครั้งแรกที่เราเจอคุณป้ามาถาม 5555
พอผ่านไปอีกหน่อยก็ถามน้องผญ ตรงตึกข้างเมโทร น้องก็แนะนำดีมากกกก ยิ้มแย้ม
พออยู่ในเมโทร ถามคนพอมีอายุหน่อย ส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้ ที่นี้พอรู้หลักแล้ว ก็เลยเรื่องถามคนที่ยังไม่แก่มาก
พออยู่ในสถานี ถามวัยรุ่นสองคน ก็แนะนำแม้ไม่แน่ใจ แถมอวยพรให้โชคดี
พออกมาถามคุณป้า แต่เค้าไม่รู้เรื่อง หลานเค้า เด็กๆ น่าจะสิบขวบ พูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็ยืนยิ้มมองเรา ตอนเราพูด
พอเดินไปตรงทางแยก ก็ ก็เจอ ญช วันทำงาน ก็ถามทางเค้า เค้าก็ปรึกษาเถียงกันให้เรา แบบดีมากก
พอเดินไปตรงสะพานก็เก็นดอกไม้วางอยู่ ตอนแรกคิดว่าขาย พอเห็นป้าย ก็เดาว่าไม่น่าใช่ละ เลยเลือกถาม คุณน้าที่ยืนแถวๆนั้น
แม้เค้าพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เค้าก็พยายาม ก็จับความได้ว่า วางไว้ให้คนที่เคยเสียชีวิตบริเวณนี้
ตอนอยู่ตรงป้ายรถเมล์หลบฝน ก็ถามทางชญ เค้าก็อุตส่าเอาโทรศัพมาเปิดดูให้เราทั้งๆที่ฝนตก
พอมาในร้านขนม ถาม ญ วัยรุ่น เค้าก็อธิบายดีมาก ชวนคุย แถมสักพักก็สะกิด เปิดแผนที่ในไอแพดให้เราดู
วันต่อมา ก็เจอคนช่วยเหลือดีมาก
คือประทับใจมากๆๆๆๆ เมืองก็สวย ผู้คนก็น่ารัก
เข้าเรื่องสนามบิน เครื่องดีเลย์ไปเป็นชม. แถมยังรู้สึเหมือนเป็นไข้เล็กๆ
แต่ก็โอเคขึ้น และแล้วเครื่องก็ลงสู่สนามบิน Ferihegy ปลายทา