เช่น ซื้อคูปอง 500 กินได้ 1000 บาท หรือ 300 กินได้ 600 บาท หรืออาหารที่จัดมาเป็นเซ็ท รู้ราคาแน่นอนแล้ว
เพราะจะวางงบไว้คือ ประมาณ 500 บาท+- ต่อคน ทั้งค่าอาหารและเครื่องดื่ม ร้านแนวนั่งดื่มกินแฮงเอาท์ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง (เช่น cafe/pub bar & restuarant/อาหารญี่ปุ่น) คือถ้าไปกินราคาเต็มงบจะบานปลาย คือประมาณ 1000+- ซึ่งถือว่าสิ้นเปลืองสำหรับรายได้
ทีนี้ก็เลยติดนิสัยว่า ถ้าร้านไหนไม่มีดีลก็จะไม่เข้า หรือร้านเดิมที่เคยไปใช้ดีล ก็จะไม่ไปกินจนกว่าจะมาขายดีลอีกรอบ
คำถามคือ ทำแบบนี้จะเอาเปรียบเจ้าของร้านเกินไปมั้ยที่ไปกินแต่ช่วงลดราคา ทั้งๆที่เค้าขายดีลเพื่อให้เราไปลองใช้บริการ และกลับไปอุดหนุนซ้ำ!
*หมายเหตุ
1. เฉพาะร้านแนวกินดื่มเที่ยว ไม่ใช่กินข้าวในชีวิตประจำวัน
2. ร้านอาหารที่ราคาไม่แพงมาก หรือบุฟเฟต์หัวละไม่เกิน 500 ก็กินในราคาปกติได้ (เพราะฉนั้นไม่ขอคำตอบประมาณว่าก็ไปกินร้านอื่นที่ถูกกว่าสิ)
ถ้าติดนิสัยว่า ร้านอาหารไหนมีดีลถึงไปกิน ร้านไหนไม่มีก็จะไม่กิน แบบนี้ถือว่าเสียนิสัยมั้ย??
เพราะจะวางงบไว้คือ ประมาณ 500 บาท+- ต่อคน ทั้งค่าอาหารและเครื่องดื่ม ร้านแนวนั่งดื่มกินแฮงเอาท์ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง (เช่น cafe/pub bar & restuarant/อาหารญี่ปุ่น) คือถ้าไปกินราคาเต็มงบจะบานปลาย คือประมาณ 1000+- ซึ่งถือว่าสิ้นเปลืองสำหรับรายได้
ทีนี้ก็เลยติดนิสัยว่า ถ้าร้านไหนไม่มีดีลก็จะไม่เข้า หรือร้านเดิมที่เคยไปใช้ดีล ก็จะไม่ไปกินจนกว่าจะมาขายดีลอีกรอบ
คำถามคือ ทำแบบนี้จะเอาเปรียบเจ้าของร้านเกินไปมั้ยที่ไปกินแต่ช่วงลดราคา ทั้งๆที่เค้าขายดีลเพื่อให้เราไปลองใช้บริการ และกลับไปอุดหนุนซ้ำ!
*หมายเหตุ
1. เฉพาะร้านแนวกินดื่มเที่ยว ไม่ใช่กินข้าวในชีวิตประจำวัน
2. ร้านอาหารที่ราคาไม่แพงมาก หรือบุฟเฟต์หัวละไม่เกิน 500 ก็กินในราคาปกติได้ (เพราะฉนั้นไม่ขอคำตอบประมาณว่าก็ไปกินร้านอื่นที่ถูกกว่าสิ)