ขอปรึกษาหน่อยนะครับผม
ผมอาศัยอยู่กับภรรยากับลูกสาวสองคน คนเล็ก อายุ 6 เดือน คนโตอายุห้าขวบ และรับน้องเขยกับแม่ยายมาอยู่ด้วย
แม่ยายนี่อายุ 60 กว่า ส่วนน้องเขยนี่อายุเท่าผม 33 แต่เป็นดาวน์ซินโดรม .....
น้องเขยถึงแม้ว่าจะเป็นดาวน์ซินโดรม แต่ก็สามารถดูแลตัวเองได้ปกติครับ กินข้าว อาบน้ำ ซักผ้าตัวเอง รีดผ้าตัวเอง ทำงานบ้าน เอาขยะไปทิ้ง ซื้อของได้ ขี่มอเตอร์ไซค์ก็ได้ ทำได้ทุกอย่างเหมือนคนปกติ แทบไม่ต้องให้การช่วยเหลืออะไรเลย
กิจกรรมหลักๆของเค้าคือการ เดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์บอลตอนเช้า แล้วเอากลับมาลอกข้อความลงในสมุด เค้าอ่านหนังสือไม่ออก แต่สามารถบอกได้ว่า คำนี้คืออะไร ใช้วิธีการจำเหมือนรูปภาพ
สมัยเด็กๆเค้าเคยถูกส่งเรืยนโรงเรียนพิเศษ แต่ด้วยความเกเร พาเพื่อนหนีออกจากโรงเรียนได้ ต่อยกะเพื่อนได้ จึงต้องออก เพราะจริงๆ เค้าค่อนข้างฉลาดกว่าเด็กดาวน์ทั่วไป
แต่ข้อเสียคือ บางทีเค้าแอบหงุดหงิด โดยที่เราไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เค้าก็จะทำท่าชกต่อยลมต่อยฟ้าเหมือนระบายอารมณ์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานซืนคือ เค้าบอกว่าเค้าปวดท้อง และหิวข้าว แม่ก็เลยเรียกลงมากินข้าวครับ เค้าก็ลงมากินปกติ จากนั้นแม่ก็บอกว่าแม่จะขึ้นนอนแล้วให้เค้าเก็บล้างด้วยนะ แต่เค้าทำเป็นไม่ตอบสนอง ทำเฉยๆ แม่ก็เลยนับ หนึ่ง สอง สาม พอสามเท่านั้นครับ น้องก็ชกหมัดขวาเข้าหน้าแม่ที่นั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงกันข้าม จากนั้นก็ลุกขึ้นมา เดินอ้อมโต๊ะเข้าไปถีบเก้าอี้แม่ เอามือขวาจับคอเสื้อแม่แล้วมือซ้ายอัดเข้าหน้าหลายหมัดจนแม่ตกเก้าอี้ลงมา
ผมนั่งทำงานอยู่ด้านล่างได้ยินเสียงโวยวาย ผมก็รีบวิ่งขึ้นไป เห็นภาพตอนที่น้องกำลังจับคอเสื้อแม่แล้วก็ชกจนร่วงลงไป ผมเข้าไปห้าม โดยการจับมือซ้ายเค้าไว้ไม่ให้ต่อย แต่เค้าหันมาเอามือขวาชกสวนมาทันที ผมหลบได้ครับ น้องมันก็หันไปอัดแม่ต่อ ผมเข้าไปจับมันก็เตะต่อยแบบมั่วไปหมด แม่คว้าคอมันล็อคไว้ มันก็ดันแม่ไปจนกระแทกลงบนโซฟา ชุลมุน กัน จนในที่สุดน้องมันก็หยุด เพราะแม่กอดคอมันไว้จากด้านหลัง และทั้งสองคนทั้งแม่ทั้งน้องนอนอยู่บนพื้นแล้วครับ ตอนนี้น้องทำไรไม่ได้ เพราะโดนแม่รัดแน่นอยู่ แม่ก็ตะโกนว่าให้ผมแจ้งตำรวจ ผมก็ไม่กล้าทิ้งแม่ไป ผมก็เข้าไปจับมือน้องบอกว่า ใจเย็นๆก่อน ลงไปเล่นไอแพดกัน ชั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ โกรธชั้นทำไม ไม่มีใครแจ้งตำรวจ ลงไปข้างล่างกัน
น้องมันก็บอกว่า "ผมขอโทษครับ ผมหายแล้วครับ แม่ปล่อยผม ผมปวดท้อง แม่ปล่อยผม"
แล้วน้องก็จับมือผมไว้ให้ผมดึงมันลุกขึ้นมา
ผมก็บอกแม่ว่า ปล่อยมันได้แล้วแม่ เพราะดูมันสงบละ และมันทำหน้าตาปวดท้อง พอแม่ปล่อยปุ๊บ มันพลิกตัวกลับหันหน้าเข้าหาแม่แล้วอัดใส่หน้าเลยครับ
ผมก็เข้าไปจับที่นี้จับแน่นเลยไม่มีใครกล้าปล่อยครับ ภรรยาผมอุ้มลูกคนเล็กหกเดือนเห็นเหตุการณ์ตลอดแล้วก็วิ่งลงไปเรียกคนมาช่วยตอนไหนไม่รู้
มีเด็กวัยรุ่นสองคนขึ้นมา แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาน้องเค้า พอมันเห็นปุ๊บ มันก็เลิกดิ้น ส่วนแม่ก็หมดแรงรัดมัน ผมก็ปล่อย แล้วมันก็ ก้มกราบเท้าแม่ครับ
แล้วก็บอกว่า ผมขอโทษครับ ผมหายแล้วครับ แต่ตายังขวางอยู่ครับ แล้วมันก็ลุกขึ้นมาโดยมีวัยรุ่นสองคนกับผมยืนคุมเชิงอยู่ ผมบอกว่าให้ออกไปสงบสตินอกบ้านก่อนนะ
น้องมันก็บอกว่า ขอกินข้าวให้เสร็จก่อน พวกเราก็รอมันกินข้าวครับ กินจนเสร็จก็พาไปรอนอกบ้าน มันก็ไปทำท่าหงุดหงิดอยู่นอกบ้าน
ผมก็เอาไอแพดออกไปให้มันเล่นครับ แล้วก็พาไปซื้อเป๊บซี่เย็นๆกิน แล้วกลับมานั่งเล่นหน้าบ้าน ดูอาการมัน พอเห็นมันโอเคดูไอแพดแล้วหัวเราะ ผมก็เข้าบ้านแล้วล็อคประตูครับ แต่เป็นประตูมุ้งลวดเหล็ดดัดธรรมดามองเห็นกันปกติ แล้วผมก็นั่งเฝ้ามันกลัวมันเดินหนีหายไปไหน ตั้งแต่สองทุ่มกว่า ถึงห้าทุ่มครึ่ง ผมไม่ให้มันเข้าบ้านเลย ภรรยาก็ลงมาบอกอย่าพึ่งให้เข้า จนมันเล่นไอแพดเสร็จ มันจะเข้าบ้านรู้ว่าประตูล็อค มันก็เรียกให้เปิด
ผมบอกผมไม่เปิด เธอทำร้ายแม่หนักมาก ทำร้ายชั้น ไม่มีใครกล้าให้เธอเข้าบ้าน เค้าก็มานั่งคุกเข่าตรงประตูแล้วก็แกล้งร้องไห้ คือดูรู้ครับว่าแกล้ง
แฟนผมก็ว่าๆมัน แล้วก็ไม่ให้เข้าบ้าน ตกลงกันว่าต้องให้มันสำนึกจริงๆก่อน คือมันร้องไห้ขอโทษจริงๆค่อยให้มันเข้า เพราะในบ้านมีเด็กสองคนอันตราย
ผมกับแฟนก็นั่งอยู่ในบ้านเฝ้ามัน ไม่ให้มันเข้าบ้าน มันก็ฉลาดครับ มันวิ่งออกจากบ้านไปครับ ไปหลบ พอเราสองคนเห็นไม่เห็นก็ต้องเปิดประตูออกไป มันก็โผล่ออกมา แล้วผมก็เข้าบ้านก็ยังให้มันอยู่หน้าบ้านเหมือนเดิม พอดึกเข้ามันเริ่มไม่ไหวครับ มันก็มาเกาะลูกกรง ผมก็ให้แฟนเป็นคนเข้าไปคุยครับ
แฟนก็ถามว่า รู้มั้ยทำอะไรลงไป ทำทำไม เค้าก็บอกเค้ารู้ เค้าขอโทษ แฟนยิ่งพูดก็ยิ่งโมโหครับ ก็ยังไม่ให้เค้าเข้าบ้าน แล้วน้องเค้าก็บอกว่า
ผมขอโทษ ผมไม่รู้ตัว ผมเป็นคนสมองไม่ดี ........
ผมกับแฟนมองหน้ากันแบบว่า เฮ้ย นี่คิดได้ยังไงเนี่ย
เราก็เลยยิ่งไม่ให้มันเข้าบ้านเลยครับ เพราะกลัวครับ ระแวงไปแล้วครับไม่รู้หลอกหรือเปล่า
ผมก็เลยโทรไปคุยกับเพื่อนที่เป็นจิตแพทย์ แล้วเล่าเรื่องราวแต่แรกให้ฟังทั้งหมด เค้าก็บอกว่า แบบนี้แปลว่ารู้ตัวมาก ต้องระวังให้ดี เพราะถ้าเค้าเห็นคนมากๆแล้วหยุด แปลว่าเค้าจะคุมตัวเองได้ต่อเมื่อเจออำนาจมากกว่า แต่ถ้าไม่มีใครมีอำนาจมากกว่าเค้าก็จะคุมตัวเองไม่อยู่ และถ้าเค้าก้มกราบแม่ทันที แปลว่าเค้ารู้ว่า สิ่งที่เค้าทำมันร้ายแรงมาก ดังนั้นมีทางเลือกสองทางคือ จับมัดแล้วให้อยู่ในบ้านรอส่ง รพ หรือเรียกตำรวจให้ส่งรพ เลย
แฟนผมก็เลยบอกมันว่า ถ้าจะเข้าบ้านก็ได้ แต่ต้องมัดมือนะ มันก็บอกว่าได้ครับ เราสองคนก็ออกไป แล้วก็เอาเชือกมามัดมือมันไว้ครับแน่นมาก
แล้วก็ให้มันเข้ามาในบ้าน แต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดีเพราะเราไม่มีห้องขังเค้า ถึงจะมัดมือก็เถอะ และในอดีตเค้าเคยเอาไฟแชค์จุดไฟเผาตู้ใส่หนังสือในบ้านมาแล้ว ก็เลยยังกังวล ผมก็เลยพาเค้าขึ้นรถไปสถานนีตำรวจครับ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
ตำรวจก็นั่งคุยกับเค้า เค้าก็ทำตัวแบบคนละคนเลยครับ ทำแบบหงอยๆ ทำปัญญาอ่อนแบบเต็มที่เลย ทำเอ๋อๆ หงอยๆ คือ ถ้าเล่าให้ใครฟังนี่คงไม่มีใครเชื่อเลยจริงๆ ครับ ตำรวจก็คุยๆถามๆ เค้าก็ตอบค๊าบ ค๊าบ ทำเสียงแบบเด็กๆ ตำรวจก็บอกพากลับบ้านไปเถอะมัดไว้แน่นๆคงไม่มีไรค่อยพาไปหาหมอ
ผมก็พากลับมา พอมันขึ้นรถปุ๊บมันยิ้มเลยครับ แล้วมันก็บอกว่า ได้กลับบ้านแล้วว ....
กลับมาบ้านผมก็ให้มันนอนข้างล่างคนเดียวมันแต่ก็ยังมัดมือไว้แบบหลวมๆ ให้นอนในห้องทีมีกล้อง online ไว้ดูเด็กๆครับ
แล้วผมก็เอาเชือกผูกกลอนประตูด้านนอกไว้กับระเบียงบันได มันจะได้เปิดออกจากห้องไม่ได้
แล้วผมก็ขึ้นไปนอน
ตื่นเช้ามาครับ มันแกะเชือกแกะไร เดินเปิดประตูออกไปนอกบ้าน อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยยยยย งง เลย
เช้ามาทุกคนยังกลัวมันหมด และมันก็ไม่พูดไรกะใครครับ
ผมกับแฟนก็เลยพาไปโรงบาลบ้านสมเด็จ เล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟังครับ หมอก็บอกว่าเค้าไม่ได้ปัญญาอ่อนแต่เค้าไอคิวต่ำกว่าปกติ
ต้องลองคุยดูว่า เค้าแค่ไอคิวต่ำเฉยๆหรือบ้าด้วย คือมีอาการหูแว่ว บ้างหรือเปล่า
หมอก็เรียกเค้าไปคุย เค้าก็คุยกับหมอได้หมด หมอบอกทำร้ายแม่ทำไม เค้าก็บอกเค้าโมโห
และที่สำคัญที่ผมพึ่งรุ้จากแฟนคือ เค้าเคยทำแบบนี้มาก่อน ตอนอยู่กับแม่กันสองคน เค้าต่อยๆแม่จนหมดแรงแล้วก็เดินออกไปทิ้งแม่ไว้ เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณสิบปีก่อน
พอเค้าคุยกันเสร็จหมอก็บอกว่า เค้าปกติ ไม่ได้บ้า ไม่หูแว่วหรือหลอนอะไร ให้ยากล่อมประสาทให้ง่วงๆกลับบ้านมา
ผมกลับบ้านมานอนคิดกับแฟนทั้งคืนครับ ทำไรไม่ถูกครับ คือทำอะไรกับมันไม่ถูกครับ ใจนึงก็แค้นอยากจะตี แต่อีกใจก็คิดว่าตีคนบ้ามันไม่ประโยชน์แต่อีกใจก็รู้ดีว่า เค้าไม่ได้บ้า พอคิดสิ่งที่มันทำสิ่งที่มันพูดหลอกล่อ มันก็ไม่เหมือนปัญญาอ่อน หรือไม่รู้เรื่องซักทีเดียว เพราะจริงๆมันก็รู้เรื่อง เหมือนเด็กอายุสิบสองสิบสาม
เราตัดสินใจไม่ถูกว่า เค้าเป็นเด็กปัญญาอ่อนหรือเค้าเป็นเด็กอายุสิบสอง
เราก็เลยไม่รู้ว่จะปฏิบัติกับเค้าอย่างไรครับ ถ้าเป็นเด็กก็ต้องโดนลงโทษ ถ้าเป็นบ้าก็ต้องรักษา
แต่หมอบอกไม่ได้บ้า ปกติดี
ปวดหัวมากครับ และก็ระแวงมาก ตอนนี้ไม่ให้เด็กๆเข้าใกล้
จากเหตุการณ์ที่เล่ามา ผมควรจะมองเค้าแบบใหนดีครับ และปฏิบัติตัวกับเค้ายังไงดีครับ
ขอบคุณครับ
น้องชายเป็นดาวน์ซินโดรม อาละวาดต่อยแม่ตัวเองไม่ยั้ง จะทำอย่างไรดี
ผมอาศัยอยู่กับภรรยากับลูกสาวสองคน คนเล็ก อายุ 6 เดือน คนโตอายุห้าขวบ และรับน้องเขยกับแม่ยายมาอยู่ด้วย
แม่ยายนี่อายุ 60 กว่า ส่วนน้องเขยนี่อายุเท่าผม 33 แต่เป็นดาวน์ซินโดรม .....
น้องเขยถึงแม้ว่าจะเป็นดาวน์ซินโดรม แต่ก็สามารถดูแลตัวเองได้ปกติครับ กินข้าว อาบน้ำ ซักผ้าตัวเอง รีดผ้าตัวเอง ทำงานบ้าน เอาขยะไปทิ้ง ซื้อของได้ ขี่มอเตอร์ไซค์ก็ได้ ทำได้ทุกอย่างเหมือนคนปกติ แทบไม่ต้องให้การช่วยเหลืออะไรเลย
กิจกรรมหลักๆของเค้าคือการ เดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์บอลตอนเช้า แล้วเอากลับมาลอกข้อความลงในสมุด เค้าอ่านหนังสือไม่ออก แต่สามารถบอกได้ว่า คำนี้คืออะไร ใช้วิธีการจำเหมือนรูปภาพ
สมัยเด็กๆเค้าเคยถูกส่งเรืยนโรงเรียนพิเศษ แต่ด้วยความเกเร พาเพื่อนหนีออกจากโรงเรียนได้ ต่อยกะเพื่อนได้ จึงต้องออก เพราะจริงๆ เค้าค่อนข้างฉลาดกว่าเด็กดาวน์ทั่วไป
แต่ข้อเสียคือ บางทีเค้าแอบหงุดหงิด โดยที่เราไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เค้าก็จะทำท่าชกต่อยลมต่อยฟ้าเหมือนระบายอารมณ์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานซืนคือ เค้าบอกว่าเค้าปวดท้อง และหิวข้าว แม่ก็เลยเรียกลงมากินข้าวครับ เค้าก็ลงมากินปกติ จากนั้นแม่ก็บอกว่าแม่จะขึ้นนอนแล้วให้เค้าเก็บล้างด้วยนะ แต่เค้าทำเป็นไม่ตอบสนอง ทำเฉยๆ แม่ก็เลยนับ หนึ่ง สอง สาม พอสามเท่านั้นครับ น้องก็ชกหมัดขวาเข้าหน้าแม่ที่นั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงกันข้าม จากนั้นก็ลุกขึ้นมา เดินอ้อมโต๊ะเข้าไปถีบเก้าอี้แม่ เอามือขวาจับคอเสื้อแม่แล้วมือซ้ายอัดเข้าหน้าหลายหมัดจนแม่ตกเก้าอี้ลงมา
ผมนั่งทำงานอยู่ด้านล่างได้ยินเสียงโวยวาย ผมก็รีบวิ่งขึ้นไป เห็นภาพตอนที่น้องกำลังจับคอเสื้อแม่แล้วก็ชกจนร่วงลงไป ผมเข้าไปห้าม โดยการจับมือซ้ายเค้าไว้ไม่ให้ต่อย แต่เค้าหันมาเอามือขวาชกสวนมาทันที ผมหลบได้ครับ น้องมันก็หันไปอัดแม่ต่อ ผมเข้าไปจับมันก็เตะต่อยแบบมั่วไปหมด แม่คว้าคอมันล็อคไว้ มันก็ดันแม่ไปจนกระแทกลงบนโซฟา ชุลมุน กัน จนในที่สุดน้องมันก็หยุด เพราะแม่กอดคอมันไว้จากด้านหลัง และทั้งสองคนทั้งแม่ทั้งน้องนอนอยู่บนพื้นแล้วครับ ตอนนี้น้องทำไรไม่ได้ เพราะโดนแม่รัดแน่นอยู่ แม่ก็ตะโกนว่าให้ผมแจ้งตำรวจ ผมก็ไม่กล้าทิ้งแม่ไป ผมก็เข้าไปจับมือน้องบอกว่า ใจเย็นๆก่อน ลงไปเล่นไอแพดกัน ชั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ โกรธชั้นทำไม ไม่มีใครแจ้งตำรวจ ลงไปข้างล่างกัน
น้องมันก็บอกว่า "ผมขอโทษครับ ผมหายแล้วครับ แม่ปล่อยผม ผมปวดท้อง แม่ปล่อยผม"
แล้วน้องก็จับมือผมไว้ให้ผมดึงมันลุกขึ้นมา
ผมก็บอกแม่ว่า ปล่อยมันได้แล้วแม่ เพราะดูมันสงบละ และมันทำหน้าตาปวดท้อง พอแม่ปล่อยปุ๊บ มันพลิกตัวกลับหันหน้าเข้าหาแม่แล้วอัดใส่หน้าเลยครับ
ผมก็เข้าไปจับที่นี้จับแน่นเลยไม่มีใครกล้าปล่อยครับ ภรรยาผมอุ้มลูกคนเล็กหกเดือนเห็นเหตุการณ์ตลอดแล้วก็วิ่งลงไปเรียกคนมาช่วยตอนไหนไม่รู้
มีเด็กวัยรุ่นสองคนขึ้นมา แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาน้องเค้า พอมันเห็นปุ๊บ มันก็เลิกดิ้น ส่วนแม่ก็หมดแรงรัดมัน ผมก็ปล่อย แล้วมันก็ ก้มกราบเท้าแม่ครับ
แล้วก็บอกว่า ผมขอโทษครับ ผมหายแล้วครับ แต่ตายังขวางอยู่ครับ แล้วมันก็ลุกขึ้นมาโดยมีวัยรุ่นสองคนกับผมยืนคุมเชิงอยู่ ผมบอกว่าให้ออกไปสงบสตินอกบ้านก่อนนะ
น้องมันก็บอกว่า ขอกินข้าวให้เสร็จก่อน พวกเราก็รอมันกินข้าวครับ กินจนเสร็จก็พาไปรอนอกบ้าน มันก็ไปทำท่าหงุดหงิดอยู่นอกบ้าน
ผมก็เอาไอแพดออกไปให้มันเล่นครับ แล้วก็พาไปซื้อเป๊บซี่เย็นๆกิน แล้วกลับมานั่งเล่นหน้าบ้าน ดูอาการมัน พอเห็นมันโอเคดูไอแพดแล้วหัวเราะ ผมก็เข้าบ้านแล้วล็อคประตูครับ แต่เป็นประตูมุ้งลวดเหล็ดดัดธรรมดามองเห็นกันปกติ แล้วผมก็นั่งเฝ้ามันกลัวมันเดินหนีหายไปไหน ตั้งแต่สองทุ่มกว่า ถึงห้าทุ่มครึ่ง ผมไม่ให้มันเข้าบ้านเลย ภรรยาก็ลงมาบอกอย่าพึ่งให้เข้า จนมันเล่นไอแพดเสร็จ มันจะเข้าบ้านรู้ว่าประตูล็อค มันก็เรียกให้เปิด
ผมบอกผมไม่เปิด เธอทำร้ายแม่หนักมาก ทำร้ายชั้น ไม่มีใครกล้าให้เธอเข้าบ้าน เค้าก็มานั่งคุกเข่าตรงประตูแล้วก็แกล้งร้องไห้ คือดูรู้ครับว่าแกล้ง
แฟนผมก็ว่าๆมัน แล้วก็ไม่ให้เข้าบ้าน ตกลงกันว่าต้องให้มันสำนึกจริงๆก่อน คือมันร้องไห้ขอโทษจริงๆค่อยให้มันเข้า เพราะในบ้านมีเด็กสองคนอันตราย
ผมกับแฟนก็นั่งอยู่ในบ้านเฝ้ามัน ไม่ให้มันเข้าบ้าน มันก็ฉลาดครับ มันวิ่งออกจากบ้านไปครับ ไปหลบ พอเราสองคนเห็นไม่เห็นก็ต้องเปิดประตูออกไป มันก็โผล่ออกมา แล้วผมก็เข้าบ้านก็ยังให้มันอยู่หน้าบ้านเหมือนเดิม พอดึกเข้ามันเริ่มไม่ไหวครับ มันก็มาเกาะลูกกรง ผมก็ให้แฟนเป็นคนเข้าไปคุยครับ
แฟนก็ถามว่า รู้มั้ยทำอะไรลงไป ทำทำไม เค้าก็บอกเค้ารู้ เค้าขอโทษ แฟนยิ่งพูดก็ยิ่งโมโหครับ ก็ยังไม่ให้เค้าเข้าบ้าน แล้วน้องเค้าก็บอกว่า
ผมขอโทษ ผมไม่รู้ตัว ผมเป็นคนสมองไม่ดี ........
ผมกับแฟนมองหน้ากันแบบว่า เฮ้ย นี่คิดได้ยังไงเนี่ย
เราก็เลยยิ่งไม่ให้มันเข้าบ้านเลยครับ เพราะกลัวครับ ระแวงไปแล้วครับไม่รู้หลอกหรือเปล่า
ผมก็เลยโทรไปคุยกับเพื่อนที่เป็นจิตแพทย์ แล้วเล่าเรื่องราวแต่แรกให้ฟังทั้งหมด เค้าก็บอกว่า แบบนี้แปลว่ารู้ตัวมาก ต้องระวังให้ดี เพราะถ้าเค้าเห็นคนมากๆแล้วหยุด แปลว่าเค้าจะคุมตัวเองได้ต่อเมื่อเจออำนาจมากกว่า แต่ถ้าไม่มีใครมีอำนาจมากกว่าเค้าก็จะคุมตัวเองไม่อยู่ และถ้าเค้าก้มกราบแม่ทันที แปลว่าเค้ารู้ว่า สิ่งที่เค้าทำมันร้ายแรงมาก ดังนั้นมีทางเลือกสองทางคือ จับมัดแล้วให้อยู่ในบ้านรอส่ง รพ หรือเรียกตำรวจให้ส่งรพ เลย
แฟนผมก็เลยบอกมันว่า ถ้าจะเข้าบ้านก็ได้ แต่ต้องมัดมือนะ มันก็บอกว่าได้ครับ เราสองคนก็ออกไป แล้วก็เอาเชือกมามัดมือมันไว้ครับแน่นมาก
แล้วก็ให้มันเข้ามาในบ้าน แต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดีเพราะเราไม่มีห้องขังเค้า ถึงจะมัดมือก็เถอะ และในอดีตเค้าเคยเอาไฟแชค์จุดไฟเผาตู้ใส่หนังสือในบ้านมาแล้ว ก็เลยยังกังวล ผมก็เลยพาเค้าขึ้นรถไปสถานนีตำรวจครับ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
ตำรวจก็นั่งคุยกับเค้า เค้าก็ทำตัวแบบคนละคนเลยครับ ทำแบบหงอยๆ ทำปัญญาอ่อนแบบเต็มที่เลย ทำเอ๋อๆ หงอยๆ คือ ถ้าเล่าให้ใครฟังนี่คงไม่มีใครเชื่อเลยจริงๆ ครับ ตำรวจก็คุยๆถามๆ เค้าก็ตอบค๊าบ ค๊าบ ทำเสียงแบบเด็กๆ ตำรวจก็บอกพากลับบ้านไปเถอะมัดไว้แน่นๆคงไม่มีไรค่อยพาไปหาหมอ
ผมก็พากลับมา พอมันขึ้นรถปุ๊บมันยิ้มเลยครับ แล้วมันก็บอกว่า ได้กลับบ้านแล้วว ....
กลับมาบ้านผมก็ให้มันนอนข้างล่างคนเดียวมันแต่ก็ยังมัดมือไว้แบบหลวมๆ ให้นอนในห้องทีมีกล้อง online ไว้ดูเด็กๆครับ
แล้วผมก็เอาเชือกผูกกลอนประตูด้านนอกไว้กับระเบียงบันได มันจะได้เปิดออกจากห้องไม่ได้
แล้วผมก็ขึ้นไปนอน
ตื่นเช้ามาครับ มันแกะเชือกแกะไร เดินเปิดประตูออกไปนอกบ้าน อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยยยยย งง เลย
เช้ามาทุกคนยังกลัวมันหมด และมันก็ไม่พูดไรกะใครครับ
ผมกับแฟนก็เลยพาไปโรงบาลบ้านสมเด็จ เล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟังครับ หมอก็บอกว่าเค้าไม่ได้ปัญญาอ่อนแต่เค้าไอคิวต่ำกว่าปกติ
ต้องลองคุยดูว่า เค้าแค่ไอคิวต่ำเฉยๆหรือบ้าด้วย คือมีอาการหูแว่ว บ้างหรือเปล่า
หมอก็เรียกเค้าไปคุย เค้าก็คุยกับหมอได้หมด หมอบอกทำร้ายแม่ทำไม เค้าก็บอกเค้าโมโห
และที่สำคัญที่ผมพึ่งรุ้จากแฟนคือ เค้าเคยทำแบบนี้มาก่อน ตอนอยู่กับแม่กันสองคน เค้าต่อยๆแม่จนหมดแรงแล้วก็เดินออกไปทิ้งแม่ไว้ เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณสิบปีก่อน
พอเค้าคุยกันเสร็จหมอก็บอกว่า เค้าปกติ ไม่ได้บ้า ไม่หูแว่วหรือหลอนอะไร ให้ยากล่อมประสาทให้ง่วงๆกลับบ้านมา
ผมกลับบ้านมานอนคิดกับแฟนทั้งคืนครับ ทำไรไม่ถูกครับ คือทำอะไรกับมันไม่ถูกครับ ใจนึงก็แค้นอยากจะตี แต่อีกใจก็คิดว่าตีคนบ้ามันไม่ประโยชน์แต่อีกใจก็รู้ดีว่า เค้าไม่ได้บ้า พอคิดสิ่งที่มันทำสิ่งที่มันพูดหลอกล่อ มันก็ไม่เหมือนปัญญาอ่อน หรือไม่รู้เรื่องซักทีเดียว เพราะจริงๆมันก็รู้เรื่อง เหมือนเด็กอายุสิบสองสิบสาม
เราตัดสินใจไม่ถูกว่า เค้าเป็นเด็กปัญญาอ่อนหรือเค้าเป็นเด็กอายุสิบสอง
เราก็เลยไม่รู้ว่จะปฏิบัติกับเค้าอย่างไรครับ ถ้าเป็นเด็กก็ต้องโดนลงโทษ ถ้าเป็นบ้าก็ต้องรักษา
แต่หมอบอกไม่ได้บ้า ปกติดี
ปวดหัวมากครับ และก็ระแวงมาก ตอนนี้ไม่ให้เด็กๆเข้าใกล้
จากเหตุการณ์ที่เล่ามา ผมควรจะมองเค้าแบบใหนดีครับ และปฏิบัติตัวกับเค้ายังไงดีครับ
ขอบคุณครับ