จากอดีตของชายหนุ่มผู้ต้อยต่ำที่สุดในศาสนา
๑.เป็นผู้ครุ่นคิดเรื่องผู้เป็นใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่สมัยวัยทีน
๒.เป็นผู้แผ่เมตตาจิตให้กับเหล่าผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นที่นั่น
๓.เป็นผู้พบญิบีลที่นำอาชูร่อมาป้อนในโลกพิเศษ
๔.เป็นผู้ญิบีลมอบผลึกสีเขียวให้ ๓ ก้อน
๕.เป็นผู้ที่ได้รับการเคารพจากดวงวิญญานของผู้นำแนวทาง
๖.เป็นผู้รู้จักที่อยู่ของโลกบัรซัรที่ตั้งอยู่ในประเทศ
๗.เป็นผู้เข้าไปในโลกบัรซัรทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่โดยการนำทางของวิญญานนักรบ
๘.เป็นผู้รู้คัมภีร์วิเศษซึ่งแตกต่างกับที่ตีพิมพ์ในโลกมนุษย์
๙.เป็นผู้รู้เห็นและใช้อำนาจจากคัมภีร์นั้นควบคุมดินฟ้าอากาศได้ แม้กระทั่งบงการให้ฟ้าลงมาผ่าตรงที่ต้องการได้
๑๐.เป็นผู้ที่พบกับชายหนุ่มผู้มาขอผลึกสีเขียวนั่นคืนแต่ให้ไปเพียงก้อนเดียว
๑๑.เป็นผู้สามารถทำให้ผลึกนั้นมีขนาดก้อนใหญ่ขึ้นและเพิ่มจำนวนมากขึ้นทางจิตวิญญาน
๑๒.เป็นแนวหน้าอัลซาบิกูนผู้อยู่ไร้บ้านและไร้ค่าและห่างไกลศาสนา
๑๓.เป็นผู้ขอให้ตนเองได้รับความทุกข์ทนทรมานมากที่สุดยิ่งกว่า อิบลีสและดัจญัล ซัยตอน มัคโล๊ะใดๆในดินแดนญะฮันนัม เพราะสงสารผู้อื่น
๑๔.เป็นผู้ไม่อาจหวนคืนกลับไปเป็นผู้มีรุก่นอิหม่านศรัทธาเหมือนเดิม เพราะถ้ากลับไปจะต้องเกิดสงครามใหญ่ และจะมีมนุษย์ตายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสามารถชี้ทางไปโลกบัรซัรได้ และจะเกิดนักรบทางด้านจิตวิญญานครั้งรุนแรงและใหญ่ที่สุดไม่แพ้ที่ใดในโลก
๑๕.ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิม มนุษย์ที่นับถือศาสนาอื่นจะถูกทำลายล้างจนจบสิ้นศาสนา ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่และลึกลับนั้น
แม้ทุกวันนี้จะถูกทาบทามให้ไปพบ อ.บรรจง บินกาซัน ให้ได้แต่เราก็ปฎิเสธที่จะไป เราคิดว่าจบที่ตรงนี้พอแล้ว รู้มากกว่านี้จะเป็นอันตราย และเราไม่อยากฆ่าทำร้ายใครอีก
จบอดีตจารึกนี้ ขอให้ลืมเราไปซะ ถือว่าเราได้เปิดเผยแล้วในบางส่วน เป็นหลักฐานยืนยันสถานะภาพของเราในศาสนานี้ ในอดีตก่อนเกิดเรื่องราวที่แม้แต่มนุษย์ก็ตั้งตัวรับไม่ทัน และแน่นอนวันสิ้นสุดหรือวันพิพากษานั้นได้ใกล้มาถึงแล้วในไม่ช้า
จาก MUHAMMAD AKIRA มนุษย์ผู้เร้นลับและต้อยต่ำที่สุดในศาสนา
[ความเร้นลับทางจิตวิญญานทางศาสนาของ >MUHAMMAD AKIRA]
๑.เป็นผู้ครุ่นคิดเรื่องผู้เป็นใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่สมัยวัยทีน
๒.เป็นผู้แผ่เมตตาจิตให้กับเหล่าผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นที่นั่น
๓.เป็นผู้พบญิบีลที่นำอาชูร่อมาป้อนในโลกพิเศษ
๔.เป็นผู้ญิบีลมอบผลึกสีเขียวให้ ๓ ก้อน
๕.เป็นผู้ที่ได้รับการเคารพจากดวงวิญญานของผู้นำแนวทาง
๖.เป็นผู้รู้จักที่อยู่ของโลกบัรซัรที่ตั้งอยู่ในประเทศ
๗.เป็นผู้เข้าไปในโลกบัรซัรทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่โดยการนำทางของวิญญานนักรบ
๘.เป็นผู้รู้คัมภีร์วิเศษซึ่งแตกต่างกับที่ตีพิมพ์ในโลกมนุษย์
๙.เป็นผู้รู้เห็นและใช้อำนาจจากคัมภีร์นั้นควบคุมดินฟ้าอากาศได้ แม้กระทั่งบงการให้ฟ้าลงมาผ่าตรงที่ต้องการได้
๑๐.เป็นผู้ที่พบกับชายหนุ่มผู้มาขอผลึกสีเขียวนั่นคืนแต่ให้ไปเพียงก้อนเดียว
๑๑.เป็นผู้สามารถทำให้ผลึกนั้นมีขนาดก้อนใหญ่ขึ้นและเพิ่มจำนวนมากขึ้นทางจิตวิญญาน
๑๒.เป็นแนวหน้าอัลซาบิกูนผู้อยู่ไร้บ้านและไร้ค่าและห่างไกลศาสนา
๑๓.เป็นผู้ขอให้ตนเองได้รับความทุกข์ทนทรมานมากที่สุดยิ่งกว่า อิบลีสและดัจญัล ซัยตอน มัคโล๊ะใดๆในดินแดนญะฮันนัม เพราะสงสารผู้อื่น
๑๔.เป็นผู้ไม่อาจหวนคืนกลับไปเป็นผู้มีรุก่นอิหม่านศรัทธาเหมือนเดิม เพราะถ้ากลับไปจะต้องเกิดสงครามใหญ่ และจะมีมนุษย์ตายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสามารถชี้ทางไปโลกบัรซัรได้ และจะเกิดนักรบทางด้านจิตวิญญานครั้งรุนแรงและใหญ่ที่สุดไม่แพ้ที่ใดในโลก
๑๕.ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิม มนุษย์ที่นับถือศาสนาอื่นจะถูกทำลายล้างจนจบสิ้นศาสนา ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่และลึกลับนั้น
แม้ทุกวันนี้จะถูกทาบทามให้ไปพบ อ.บรรจง บินกาซัน ให้ได้แต่เราก็ปฎิเสธที่จะไป เราคิดว่าจบที่ตรงนี้พอแล้ว รู้มากกว่านี้จะเป็นอันตราย และเราไม่อยากฆ่าทำร้ายใครอีก
จบอดีตจารึกนี้ ขอให้ลืมเราไปซะ ถือว่าเราได้เปิดเผยแล้วในบางส่วน เป็นหลักฐานยืนยันสถานะภาพของเราในศาสนานี้ ในอดีตก่อนเกิดเรื่องราวที่แม้แต่มนุษย์ก็ตั้งตัวรับไม่ทัน และแน่นอนวันสิ้นสุดหรือวันพิพากษานั้นได้ใกล้มาถึงแล้วในไม่ช้า
จาก MUHAMMAD AKIRA มนุษย์ผู้เร้นลับและต้อยต่ำที่สุดในศาสนา