ความจริงจากเด็ก Work And Travel 2015

หลายคนคงบอกว่าชีวิตของเด็ก work and travel เป็นชีวิตที่ดี๊ดี แต่อยากจะบอกทุกคนเลยว่าสิ่งที่ทุกคนคิดกับสิ่งที่เป็นมันแตกต่างกันลิบลับ การที่เรามาอยู่นี่เราต้องวางแผนทุกอย่างตั้งแต่ออกจากบ้านจนกระทั่งเข้านอนและยังต้องวางแผนถึงวันถัดไปอีกด้วย และสิ่งหนึ่งที่ต้องวางแผนเลยคือเรื่อง เงิน!!! เพราะถ้าคุณวางแผนไม่ถูกคุณจะใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากมาก
เอาความจริงในส่วนของ จขกท. ที่เจอตั้งแต่มาอยู่นี่เลยนะ (ไม่เหมารวมกับคนอื่น เพราะเป็นประสบการณ์ของแต่ละคน) ตั้งแต่ันที่ออกเดินทางมา คือ 22 พ.ค. 2558 จนถึงวันนี้วันที่ 30 พ.ค. 2558 จขกท. ยังไม่ได้ทำงานเลย วันที่เริ่มทำงานจริงคือวันที่ 25 พ.ค. 2558 ฟังดูอาจจะว่าไม่ได้มีปัญหาตรงไหนแต่ที่จริงมันมีปัญหาอย่างมาก คือ ในข้อตกลงสัญญาที่เราเซ็นกับนายจ้างที่นี่ เราต้องทำงานอาทิตย์ละ 30 ชั่วโมง/สัปดาห์ ซึ่งในความเป็นจริง เราได้ทำงานแค่ 1 วันในสัปดาห์ และวันละ 3-6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งมันไม่ตรงกับสัญญาที่เราได้ทำข้อตกลงกันไว้ แล้วค่าจ้างที่เขาจะจ่ายอยู่ที่ชั่วโมงละ 7.5 ดอลลาร์ ยังไม่หักภาษี ถ้าหักภาษีก็จะอยู่ที่ชั่วโมงละไม่ถึง 6 ดอลลาร์ ด้วยซ้ำ แล้วรายจ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละสัปดาห์ของ จขกท. คือค่าเช่าห้อง อาทิตย์ละ 80 เหรียญ ค่าซักผ้าอาทิตย์ละ 3 เหรียญ ค่ากินค่าอยู่อีก อาทิตย์ละ 10-20 เหรียญ เป็นอย่างต่ำ แล้วจะให้เราเอาเงินมาจากที่ไหน แค่ทำงานวันเดียวมันไม่พอหรอก หลายคนอาจจะบอกว่าแล้วทำไมไม่หางานที่ 2 ทำล่ะ ซึ่งเราได้เดินไปหามาแล้ว แต่การที่จะทำงานที่ 2 ของที่นี่ได้คุณต้องมีใบ social security หรือ ใบ ss เขาถึงจะรับคุณ ถ้าหากคุณไม่มีคุณก็ทำไม่ได้ หลายคนอาจจะบอกว่าก็ไปทำมาสิ เราอยากจะตอบว่าใบนี้มันใช้ระยะเวลาในการทำ 2-4 สัปดาห์เขาถึงจะส่งมาให้ ส่วนงานที่ไม่ต้องใช้ใบนี้เขาก็มีคนทำเต็มหมดแล้ว และไม่รับคนเพิ่มอีกด้วย แล้วนี่จะให้เราไปเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่เงินจากทางบ้าน แค่ค่าโครงการก็ไปหลายบาทแล้ว ไหนจะต้องมาเสียกับค่าอยู่ค่ากินอีก แล้วเราโทรกลับไปให้แม่เราโทรไปถาม agency ที่เมืองไทย เราได้รับคำตอบมาว่า เป็นความผิดพลาดของร้านที่คำนวณจำจนวนเด็กที่รับมาผิด ซึ่งในร้านมีคนงานประจำอยู่ 15 คน แล้วเด็กที่รับมาตั้ง 25 คน ซึ่งมันถือว่ามากไปสำหรับร้านเล็กๆแค่คูหาเดียวที่ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย ซึ่งตอนนี้เด็กที่มาทำงานร้านนี้กำลังประสบปัญหาเดียวกันคือ ถูกลดชั่วโมงการทำงานลง แล้วเรื่องยังไม่จบแค่นี้ ทางเจ้าของร้านมีการตอบกลับมาว่า คุณก็ไปหาานที่ 2 3 ทำสิ เราจะไม่อะไรมากเลยนะถ้าเราได้ใบ ss แล้ว แต่นี่คือเรายังไม่ได้ไง แล้วจะให้เราทำไง จะให้แจ้งกับ agency ที่นำเราเข้ามา ก็จะทำให้มีปัญหากับนายจ้าง เผลอเราจะโดนไล่ออกจากงานแล้วต้องกลับบ้านไปแบบมือเปล่าอีก
เราอยากจะให้ทุกคนเข้าในว่าการมาเป็นเด็ก work and travel มันไม่ใช่ชีวิตที่ดีหรอก ชื่อมันอาจฟังดูสวยหรู แต่พอเข้ามาแล้วมันเหมือนกับว่าเขาเอาเรามาทำเหมือนหมูหมากาไก่ เหมือนว่าเรามาฟรี ทั้งที่ค่าโครงการเราก็จ่าย เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะมา work and travel เราอยากให้คิดให้ดีก่อน แล้วลองศึกษาดูให้ดีด้วย เป็นไปได้ก็แนะนำว่าไม่อยากให้มาเลย เพราะมันลำบากจริงๆกับการที่มาแล้วมันไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ถ้าจะบอกว่ามาหาประสบการณ์ เราแนะนำว่าให้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจะดีกว่า เพราะมันจะได้อะไรมากกว่านี้

ปล. ใครไม่ชอบก็มองมุมขวาบน แล้วเลื่อนเมาส์ไปกากบาทแล้วก็กดปิดไปนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่