ความหงุดหงิดมันเริ่มจากเราได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลให้น้องที่มาใหม่ทำงานของเขาให้สำเร็จ (ซึ่งงานของเราก็ต้องทำให้สำเร็จไปพร้อมกัน) แรกๆเราช่วยเค้าดีค่ะ พอวันที่ 3-4 เค้าเริ่มบ่นว่า มันเยอะ จะเสร็จมั้ย ทำไมต้องทำแบบนี้ เราก็อธิบายไปบ้างเกี่ยวกับเหตุผลของงาน(ที่เราไม่ใช่คนสั่ง) คือบ่นทั้งวันจริงๆค่ะ จนเราหมดความอดทนอดกลั้นก็บอกกลับไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดบอกว่า "งานก็งานเธอ จะบ่นทำไม พลอยจะทำให้คนช่วยหมดกำลังใจ หมดความอดทนไปด้วย" เพราะเราคิดว่า งานของเราก็หนักที่เราแบ่งเวลาไปช่วยงานของเขานี่เขาไม่คิดจะพูดอะไรให้มันดีกว่านี้เลยใช่มั้ย เช่น พี่วันนี้งานเยอะนะ แต่น่าจะเสร็จแหล่ะ ,,,, คือพูดอะไรก็ได้ที่มันจรรโลงใจทั้งสองฝ่าย
หลังๆเค้าไม่บ่นแล้วค่ะ แต่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับงานที่เราอธิบายแล้วไม่เข้าใจ คงอาจเป็นเพราะเราพูดไม่รู้เรื่อง แต่อารมณ์ก็มาขึ้น หงุดหงิด ฉุนเฉียวไปซะงั้น แต่ทุกครั้งที่หงุดหงิดรู้ตัวทุกครั้งแต่มันยั้งอารมณ์ไม่อยู่จริงๆค่ะ
อันแรกช่วยแนะนำหรือตักเตือนหรืออะไรที่คิดว่าเราควรจะคิดหรือควรจะทำ เพราะตอนนี้มองไม่เห็นว่าเราควรปรับวิธีคิดยังไง
อันดับสอง ช่วยแนะนำวิธีดับทุกข์หรือแนวคิดให้เราหน่อยค่ะ ถ้ามีวัดที่แนะนำให้ทำสมาธิก็ขออนุญาติช่วยแนะนำคนทุกข์ใจด้วยนะคะ
ปล. อยากเป็นคนคิดดีทำดี และกลัวการโดนมองเป็นคนขี้หงุดหงิด โลกมืด กลัวมากๆค่ะ
ช่วยแนะนำวิธีจัดการอารมณ์ฉุนเฉียวและหงุดหงิดง่ายด้วยค่ะ
หลังๆเค้าไม่บ่นแล้วค่ะ แต่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับงานที่เราอธิบายแล้วไม่เข้าใจ คงอาจเป็นเพราะเราพูดไม่รู้เรื่อง แต่อารมณ์ก็มาขึ้น หงุดหงิด ฉุนเฉียวไปซะงั้น แต่ทุกครั้งที่หงุดหงิดรู้ตัวทุกครั้งแต่มันยั้งอารมณ์ไม่อยู่จริงๆค่ะ
อันแรกช่วยแนะนำหรือตักเตือนหรืออะไรที่คิดว่าเราควรจะคิดหรือควรจะทำ เพราะตอนนี้มองไม่เห็นว่าเราควรปรับวิธีคิดยังไง
อันดับสอง ช่วยแนะนำวิธีดับทุกข์หรือแนวคิดให้เราหน่อยค่ะ ถ้ามีวัดที่แนะนำให้ทำสมาธิก็ขออนุญาติช่วยแนะนำคนทุกข์ใจด้วยนะคะ
ปล. อยากเป็นคนคิดดีทำดี และกลัวการโดนมองเป็นคนขี้หงุดหงิด โลกมืด กลัวมากๆค่ะ