ความฝัน ความจริง เจอดีที่บ้านกลางน้ำเชียงราย เรื่องจากประสบการณ์จริง

กระทู้สนทนา
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมานะครับ สมัยเป็นครีเอทีฟอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ในช่วงนั้นครีเอทีฟอย่างผมและเพื่อนหรือพี่ๆที่ทำงานในสายงานเดียวกันนั้นเราตัดสินใจหาบ้านหลังหนึ่งเพื่อใช้งานเป็นออฟฟิตในการทำงาน ในการออกแบบเขียนแบบคิดงานที่สร้างสรรค์ต่างๆนาๆ เราจึงแบ่งกันออกไปหาบ้านเช่าในจังหวัดเชียงราย หาอยู่นานครับเกือบอาทิตย์รุ่นพี่ผมคนนึงก็ไปเจอกับบ้านหลังหนึ่งใจกลางเมืองเชียงรายซึ่งผมมั่นใจว่าหลายๆคนที่เป็นคนเชียงรายเองหรือเคยมาอยู่ที่เชียงรายนั้นไม่ทราบแน่ๆครับว่า มีบ้านแบบนี้หลงเหลืออยู่ในจังหวัดเชียงราย เข้าไปในซอยลึกจะเจอรั่วเก่าๆผมไม่ขอระบุตำแหน่งชัดเจนละกันนะครับ และเข้าไปข้างในซอยจะเจอรั้วเก่าๆอีกที ข้างหน้าจะมีบ้านไม้หลังเก่าๆตั้งอยู่เหมือนจะให้ลูกจ้างชาวพม่าอาศัยอยู่นี่แหละครับและจะเจอรั้วอีกชั้นหนึ่ง และจากรั่วจะเป็นสะพานเข้าไปยังตัวบ้านครับ ซึ่งพี่ผมเล่าให้ฟังว่าตอนมาเจอบ้านหลังนี้ครั้งแรกนั้น มีป้ายติดว่าให้เช่าอยู่ครับ เป็นป้ายสังกะสีเก่า มีเบอร์โทรอยู่ ซึ่งตอนที่จะโทรเพื่อติดต่อขอเช่านั้น พี่ผมต้องเอามือปัดฝุ่นเพื่อให้เห็นตัวเลขที่ถูกปิดบังอยู่อะครับเพื่อโทรติดต่อกลับเจ้าของบ้านเพื่อขอเช่าครับ ซึ่งตัวบ้านจะเป็นบ้านไม้เก่าทรงประมานยุครัชกาลที่ 5 ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ บริเวณบ้านมีต้นไม้ล้อมรอบร่มรื่นสวยงามมากครับตั้งอยู่บนพื้นที่กลางน้ำประมาน 6ไร่คิดว่าค่าเช่าน่าจะแพงใช่ไหมครับ แต่ผมเช่ากันในราคา 4000 บาทมีค่าประกันอีก 4000บาทเนื่องจากภายในบ้านเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราน ทั้งตู้ ชุดรับแขก นาฬิกา ตู้หนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณในสมัยปี 24xx ขึ้นไปทั้งนั้น ทั้งถ้วยชาม แก้ว อลังการงานสร้างมากครับเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบรักของเก่ากันเลยที่เดียว ตัวบ้านถูกจัดสรรเป็นโซนห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำสวยงามมากครับ บวกกับบรรยากาศบ้านซึ่งมีน้ำล้อมรอบชิวมากๆเลยครับ พวกผมจึงตัดสินใจขอเช่าและเริ่มเข้ามาทำความสะอาดกันในวันนั้นเลยครับ

               หลังจากนั้นพวกผมก็ทยอยขนของเข้ามาและจัดตกแต่งเพิ่มเติมให้กลืนกับบรรยากาศบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของใช้จนผมเกือบลืมไปว่าผมเอง อยู่ในปีไหนกันแน่หลังจากจัดบ้านทำความสะอาดเสร็จ ตามประสาคนวัยมันส์อย่างพวกผมครับก็ไม่ลืมที่จะปาร์ตีกันซักหน่อยในคืนแรกเพื่อฉลองบ้านและออฟฟิตหลังใหม่ของพวกเราครับ ด้วยความที่เราเป็นคนเพื่อนเยอะครับจึงทำให้ปาร์ตีในวันนั้นครึกคักเป็นพิเศษ ทั้งเหล้า บุหรี่ จัดเต็มและเพื่อนของผมคนนึงซึ้งรักชอบในการตกปลาก็ไม่ลืมที่จะพกเบ็ดมาตกปลาติดมือมาตก ในบ้านผมซึ่งอยู่กลางน้ำอีกด้วย ปาร์ตีดำเนินมากันจนถึงเวลาประมานเกือบจะเที่ยงคืนครับ ผมจำได้ว่าพวกเราเสียงดังกันมาก จนทำให้วันแรกป้าเจ้าของบ้านที่มีหน้าที่ดูแลบ้านหลังนี้ ซึ่งก็อาศัยอยู่ใกล้ๆระแวงบ้านหลังนี้อีกที ออกมาด่าเลยครับ ซึ่งป้าแกดูเหมือนจะโกรธมากๆครับ และยืนขึ้นบนกำแพงและชี้นิ้วมาทางพวกผม และตระโกนด่าว่า "พวกเมื่อไหร่จะหยุด พวกเมื่อไหร่จะเลิกกินกันได้แล้ว ไป ไป  ออกไปจากบ้านกู ออกไปพวกรีบออกไปจากบ้านกู"เป็นภาษาเหนือ แล้วแกก็เดินออกไป ซึ่งผิดกับคุณป้าผู้ใจดีเมื่อเช้าที่พวกเราคุยด้วยเป็นอย่างมากพวกเราจึงเลิกปาร์ตีกันเด่วนั้นเลยครับ เพราะด้วยความเกรงใจบวกกับมันก็ดึกแล้วจึงเลิกปาร์ตีและแยกย้าย ซึ่งก็จะเหลือแค่เพียงผม รุ่นพี่ผมกับเพื่อนผม แล้วก็แฟนของรุ่นพี่ผมครับ4คนในบ้าน จากบรรยากาศในวันแรกที่เป็นสวรรค์บนดินก็กลายเป็นบรรยากาศบ้านโบรานกลางน้ำที่เงียบสงัดทันทีซึ่งด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวันและเริ่มเมาสุราจึงทำให้ผมและเพื่อนหลับกันอย่างสบายในคืนแรกครับ โดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนเลยแม้แต่นอน


           หลังจากวันนั้นพวกเราก็มีการมาปาร์ตีกันบ้างแต่ปาร์ตีกันแบบเงียบๆครับ และเพื่อนๆก็ทยอยกันมาเยี่ยมชมบ้าง เพราะว่าบ้านหลังนี้สวยมากๆครับเพื่อนคนไหนมาก็จะชอบบวกกับการจัดแต่งของพวกเราที่ทำให้บ้านหลังนี้ดูน่าอยู่มากๆในเวลานั้นครับ ผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนที่เราอยู่บ้านหลังนี้มาพวกเราไม่เคยเจออะไรที่ผิดแปลกอีกเลยครับจนมีอยู่วันหนึ่ง เวลาประมานตี 2 กว่าครับด้วยการที่พวกเรา ทำงานด้านครีเอทีฟจึงชอบทำงานกันตอนกลางคืนมากกว่าครับเพราะว่าจะเงียบและคิดอะไรสร้างสรรค์ได้มากกว่า ระหว่างนั้นเองก็มีชายคนนึ่ง รูปร่างผอมครับ ท่าทางเมาสุราเดินเปิดประตูรั่วเข้ามาในบ้านพร้อมกับมีดหนึ่งเล่มและชี้ขู่มาทางพวกเราซึ่งนั่งทำงานกันอยู่ตรงกลางบ้าน แล้วตะโกนเป็นภาษาเหนือว่า "พวกออกไป กูรำคาญพวก เด่วกูจะเอามีดสับหัว " และตะโกนด่าเป็นภาษาเหนืออีกหลายคำครับ ผมจึ่งรีบวิ่งไปหยิบปืนพกใต้โต๊ะมาเพื่อป้องกันตัวและเกรงว่าเพื่อนๆจะเป็นอันตราย และเดินไปทางลุงคนนั้นและบอกให้แกออกไปจากบริเวณบ้านหลังนี้ ไม่งั้นเราจะแจ้งตำรวจ แกก็เลยเดินถอยออกไป และแวะตรงศาลพระภูมิหน้าบ้านครับหลังจากนั้นแกก็นั่งกินเครื่องเส้นที่พวกเราจะนำไปไหว้กันเป็นประจำครับ พอแกกินเครื่องเส้นเสร็จแกก็ไปหลังจากนั้นมา ถ้าเริ่มดึกพวกเราก็จะล็อคกุญแจรั่วไว้ครับเพราะกลัวว่าแกจะเข้ามาทำอันตรายคนในบ้านในยามวิกาล หลังจากนั้นก็ผ่านไปประมานเดือนเศษๆครับก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนเพื่อนผมเริ่มสงสัยอะไรบางอย่างครับ เพราะว่าในบ้านหลังนี้จะมีห้องอยู่ห้องนึงซึ่งเป็นเหมือนห้องเก็บของเล็กๆที่เจ้าของบ้านเอาไว้เก็บของในบ้านและล็อคไว้และสั่งห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไปยุ่งในนั้นครับ แต่ด้วยกลัวป้าเจ้าของบ้านจะมาต่อว่า เราก็เลยตัดสินใจไม่งัดเข้าไปดูครับว่ามีอะไร เรื่องราวก็ผ่านไปเรื่อยๆครับจนกระทั่งวันที่ผมเริ่มได้รับรู้สัญญานอะไรบ้างอย่างในคืนนึง


              ในคืนนึงที่ปกติครับ ไม่มีเหตุการณ์ประหลาดอะไรเกิดขึ้นทั้งวัน ผมก็ได้นอนหลับไปซึ่งผมก็ได้ฝันครับ ในฝันนั้นผมฝันว่าผมก็ได้นอนอยู่บนเตียงนี่แหละครับซึ่งก็เป็นเตียงเก่าโบราณ เตียงไม้แกะสลักสวยงามเหมือนในหนังโบรานที่ประมานว่าถ้าคุณนอนแล้วคุณจะสามารถย้อนอดีตระลึกชาติได้เหมือนในหนังช่อง3เรื่องนึงอะครับอย่างนั้นเลย ระหว่างนอนผมก็ในฝันว่ามีผู้หญิงแก่ๆ คนนึงครับใส่ชุดสีขาวสะอาดหน้าตาใจดี ซึ่งในฝันเป็นตอนกลางวันนะครับ บรรยากาศดูสบายแสงแดดยามเช้าประมานนั้นเลยครับ ค่อยๆเดินทางมาจากประตูบ้าน ผ่านสะพานเข้าบ้าน ผ่านห้องโถง ระเบียงกลางบ้าน จนมาถึงห้องผม และมายืนข้างๆเตียงผมซึ่งผมก็นอนอยู่นี่แหละครับเพียงแต่คือในความฝัน แล้วค่อยๆก้มลงมากระซิบที่ข้างๆผมว่า  "ลูก ลูกมาอยู่ที่นี้หน่ะ ออกไปเถอะ เจ้าของบ้านเขาไม่อยากให้มาอยู่ที่นี้"เป็นภาษาเหนือ แล้วแกก็เอามือกำปัน คล้ายจะมะเหงก เคาะที่หัวผมแล้วก็ค่อยเดินออกไป ผมก็เรียกแก ยายๆๆเด่วๆๆ และลุกขึ้นจากเตียงและ จะวิ่งตามไปเพื่อจะไปคุยถามด้วยความสงสัยแต่แกก็หายไปแล้ว(ยังอยู่ในความฝันนะครับ) ระหว่างนั้นผมก็ลุกเดินออกจากห้องและภาพที่ผมเห็นปรากฏในฝันนั้นมันก็คือภาพของ ท่านนายพลทหารแต่งกายคล้ายท่านนายพลทหารโบรานกำลังนั่ง ทำท่าคล้ายๆกำลังมวนยาสูบนั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขกทรงโบราณตัวเดียวกับในบ้านที่พวกผมใช้กันอยู่ทุกวันตรงนั้น และบรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยคนครับ คนโบรานเป็นเหมือนบริวารอยู่เต็มบ้านไปหมด บางคนก็กำลังทำสวน บางคนก็กำลังทำความสะอาดบ้าน บางคนก็กำลังลงไปเล่นในน้ำ คล้ายกับผมหลุดไปในยุคนั้นเลยครับ แต่ก็เป็นเพียงแค่ความฝัน ระหว่างที่ผมกำลังดูสำรวจโดยรอบอยู่นั้น ก็สังเกตุเห็นวัวตัวนึงครับ ส่งเสียงร้องเสียงดังเดินผ่านมาทางหน้าบ้าน และจังหวะนั้นเองท่านนายพลผมขอเรียกท่านนายพลละกันนะครับ ก็คว้าเอาปืนสั่นโบราน ยิงเข้าไปที่วัว ด้วยความรำคาญ เพราะว่าท่านเป็นคนดูค่อนข้างดุครับ จากการที่ผมสังเกตุในเวลานั้นและผมด้วยความตกใจก็สดุงตื่นขึ้นมา ก็เกือบเช้าแล้ว เรื่องก็ผ่านไปครับก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหลังจากนั้นไม่นานครับผมก็เอาไปเล่าให้เพื่อนผมฟังว่า ฝันยังไง และเพื่อนผมเองก็ฝันคล้ายๆผมเหมือนกัน แต่ก็เป็นอีกอิริยาบถนึงที่แตกต่างกันออกไป และพวกเราก็ทำสิ่งที่ไม่คาดฝันเด่วมาเล่าต่อนะครับพอดีหิวข้าวไปเซเว่นแปบ

เลื่อนลงไปความเห็นที่ 16ได้เลยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่