หลังจากที่ดองรีวิวไว้นาน (อีกตามเคย) เราก็จะมาต่อกันกับตอนที่ 2 ซึ่งในตอนนี้จะเกี่ยวกับลอมบอกกับหมู่เกาะกิลีกันค่ะ
ตื่นเช้าของวันที่ 4 ของการเดินทาง เราและเพื่อนCheck out จากโรงแรมแล้วเดินจากโรงแรมไปที่ Bus Terminal ของ Surabaya เพื่อนั่งรถ Damri Bus ไปสนามบิน ใช้เวลาประมาน 45 นาที
ดูๆไฟล์ทเปรียบเทียบราคา จากสนามบินสุราบายาไปลอมบอก ในที่สุดก็เลือกที่จะบินกับ Lion Air เพราะราคาโอเค แล้วรวมโหลดกระเป๋าด้วย แต่เพราะเราจองที่หน้าเคาน์เตอร์ ราคาเลยแพงกว่าปกติแต่ก็ยังเป็นราคาที่รับได้คือประมาน 2000 บาท ไฟล์ทใช้เวลา 55 นาทีในการเดินทางแต่เมื่อเราไปถึงแล้ว เวลาของที่ลอมบอกจะเร็วกว่าสุราบายา 1 ชั่วโมง คือในการเดินทางครั้งนี้เรางงมากค่ะ เพราะเวลาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อาศัยว่าพอถึงสนามบินมีอินเตอร์เน็ต iPhone มันจะอัพเวลาอัตโนมัติ นาฬิกาข้อมือเรานี่ไม่ได้อัพเวลาเลยค่ะ ยังคงเป็นเวลาของบาหลีตลอดการเดินทาง5555
ภาพนี้เป็นภาพระหว่างเดินทางจากสุราบายาไปลอมบอกค่ะ
หลังจากที่มาถึงสนามบินมาตารามหรือลอมบอกที่เราๆเรียกกัน ก็เดินอออกมารับกระเป๋า ตรงทางออกด้านซ้ายมือจะมีบู๊ทขายตั๋วรถบัส(DAMRI)ไป Mataram กับ Senggigi เราเลือกที่จะไปSenggigiเพราะเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวค่ารถอยู่ที่ 90 บาทใช้เวลาประมาน 1.30 ชั่วโมงรถนั่งสบาย แอร์เย็น คือรถที่เรานั่งในอินโดนีเซี่ยนี่จะมีหลายแบบค่ะ ถ้าเป็นแบบทั่วๆไปคือรถไม่มีแอร์ รถแบบนี้จะรับส่งตลอด จอดทุกป้าย เก็บทุกคน ใครโบกตรูจอดหมด เบียดสุดในสามโลก แน่นจนแทบจะกระโดดขี่คอกัน ถ้าได้นั่งก็สบายหน่อย ถ้าต้องยืนนี่คือแบบ ทำใจค่ะ เมื่อยตรีนไปแปดวัน ถ้าเป็นรถแอร์ ก็จะสบายหน่อย แต่ถ้าในเมืองอย่างสุราบายาคือรถติดมาก อารมณ์คล้ายกรุงเทพบ้านเราแต่ความเจริญยังไม่เท่า แต่ก็ไม่ได้แย่มาก รถของDamri Bus รถแบบนี้จะดีมาก คันไม่ใหญ่แต่นั่งสบาย แอร์เย็นเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ มีที่จัดเก็บกระเป๋าแยกออกมาทำให้นั่งสบาย





ผ่านไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง ก็มาถึง Senggigi พอลงมาจากรถเท่านั้นแหละค่ะ ผึ่ง! ลมร้อนตีเข้าหน้าแบบแสบสุดเลยเธอ ในหัวนี่blankมาก คือต้องเดินไปทางไหน อะไรยังไงไม่รู้เลย แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยหาร้านนั่งกินข้าวแล้วค่อยคิดต่อว่าจะไปทางไหนอะไรยังไง
สำหรับคนที่ไม่เคยไปเกาะในอินโดนีเซีย เราขอเตือนเลยนะคะว่าตั้งแต่เดือน กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงหน้าhighของเค้า ที่พักส่วนใหญ่เต็มหมด เต็มชนิดที่ว่าต่อให้ในเว็บAgent ทั้งหลายว่าเหลือห้องว่าง พอเราจองปุ๊บ ไปถึงโรงแรม ไม่มีห้องค่ะ ยิ่งที่Lombok กับ Gili T. นี่คือ คนต้องนอนบนหาดเลยค่ะ นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับการยืนยันจากคนท้องถิ่นแล้วว่าการที่เห็นชาวต่างชาตินอนบนหาดตอนกลางคืนนี่เป็นเรื่องปกติ ชินกันไปแล้วค่ะ เรากับเพื่อนนั่งปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี สุดท้ายเราเลยอาศัยไวไฟร้านอาหารหาโรงแรมเอาซึ่งก็ไปจบที่ Transit ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่เดียวที่เหลืออยู่ในเว็บAgent และเป็นราคาที่รับได้ คือประมาน 900 บาท/2คน เราเลยทำการจองออนไลน์
[CR] 12 Days Backpacking in Indonesia : Part 2 - Lombok & Gili Islands
ตื่นเช้าของวันที่ 4 ของการเดินทาง เราและเพื่อนCheck out จากโรงแรมแล้วเดินจากโรงแรมไปที่ Bus Terminal ของ Surabaya เพื่อนั่งรถ Damri Bus ไปสนามบิน ใช้เวลาประมาน 45 นาที
ดูๆไฟล์ทเปรียบเทียบราคา จากสนามบินสุราบายาไปลอมบอก ในที่สุดก็เลือกที่จะบินกับ Lion Air เพราะราคาโอเค แล้วรวมโหลดกระเป๋าด้วย แต่เพราะเราจองที่หน้าเคาน์เตอร์ ราคาเลยแพงกว่าปกติแต่ก็ยังเป็นราคาที่รับได้คือประมาน 2000 บาท ไฟล์ทใช้เวลา 55 นาทีในการเดินทางแต่เมื่อเราไปถึงแล้ว เวลาของที่ลอมบอกจะเร็วกว่าสุราบายา 1 ชั่วโมง คือในการเดินทางครั้งนี้เรางงมากค่ะ เพราะเวลาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อาศัยว่าพอถึงสนามบินมีอินเตอร์เน็ต iPhone มันจะอัพเวลาอัตโนมัติ นาฬิกาข้อมือเรานี่ไม่ได้อัพเวลาเลยค่ะ ยังคงเป็นเวลาของบาหลีตลอดการเดินทาง5555
ภาพนี้เป็นภาพระหว่างเดินทางจากสุราบายาไปลอมบอกค่ะ
หลังจากที่มาถึงสนามบินมาตารามหรือลอมบอกที่เราๆเรียกกัน ก็เดินอออกมารับกระเป๋า ตรงทางออกด้านซ้ายมือจะมีบู๊ทขายตั๋วรถบัส(DAMRI)ไป Mataram กับ Senggigi เราเลือกที่จะไปSenggigiเพราะเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวค่ารถอยู่ที่ 90 บาทใช้เวลาประมาน 1.30 ชั่วโมงรถนั่งสบาย แอร์เย็น คือรถที่เรานั่งในอินโดนีเซี่ยนี่จะมีหลายแบบค่ะ ถ้าเป็นแบบทั่วๆไปคือรถไม่มีแอร์ รถแบบนี้จะรับส่งตลอด จอดทุกป้าย เก็บทุกคน ใครโบกตรูจอดหมด เบียดสุดในสามโลก แน่นจนแทบจะกระโดดขี่คอกัน ถ้าได้นั่งก็สบายหน่อย ถ้าต้องยืนนี่คือแบบ ทำใจค่ะ เมื่อยตรีนไปแปดวัน ถ้าเป็นรถแอร์ ก็จะสบายหน่อย แต่ถ้าในเมืองอย่างสุราบายาคือรถติดมาก อารมณ์คล้ายกรุงเทพบ้านเราแต่ความเจริญยังไม่เท่า แต่ก็ไม่ได้แย่มาก รถของDamri Bus รถแบบนี้จะดีมาก คันไม่ใหญ่แต่นั่งสบาย แอร์เย็นเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ มีที่จัดเก็บกระเป๋าแยกออกมาทำให้นั่งสบาย
ผ่านไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง ก็มาถึง Senggigi พอลงมาจากรถเท่านั้นแหละค่ะ ผึ่ง! ลมร้อนตีเข้าหน้าแบบแสบสุดเลยเธอ ในหัวนี่blankมาก คือต้องเดินไปทางไหน อะไรยังไงไม่รู้เลย แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยหาร้านนั่งกินข้าวแล้วค่อยคิดต่อว่าจะไปทางไหนอะไรยังไง
สำหรับคนที่ไม่เคยไปเกาะในอินโดนีเซีย เราขอเตือนเลยนะคะว่าตั้งแต่เดือน กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงหน้าhighของเค้า ที่พักส่วนใหญ่เต็มหมด เต็มชนิดที่ว่าต่อให้ในเว็บAgent ทั้งหลายว่าเหลือห้องว่าง พอเราจองปุ๊บ ไปถึงโรงแรม ไม่มีห้องค่ะ ยิ่งที่Lombok กับ Gili T. นี่คือ คนต้องนอนบนหาดเลยค่ะ นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับการยืนยันจากคนท้องถิ่นแล้วว่าการที่เห็นชาวต่างชาตินอนบนหาดตอนกลางคืนนี่เป็นเรื่องปกติ ชินกันไปแล้วค่ะ เรากับเพื่อนนั่งปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี สุดท้ายเราเลยอาศัยไวไฟร้านอาหารหาโรงแรมเอาซึ่งก็ไปจบที่ Transit ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่เดียวที่เหลืออยู่ในเว็บAgent และเป็นราคาที่รับได้ คือประมาน 900 บาท/2คน เราเลยทำการจองออนไลน์
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น