นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า จากกรณีคำสั่งของศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินกรณีที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องให้ดีแทคยุติการนำเสา และอุปกรณ์โทรคมนาคม ไปให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งในที่นี่คือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ใช้งาน เนื่องจากตามสัญญาสัมปทานเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท กสทฯ เท่านั้น
ทั้งนี้ภายหลังจากการ หารือระหว่างบริษัท กสทฯ และนายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป รวมทั้งตนนั้น ก็มีทางออกที่น่าพอใจและน่าจะหาข้อยุติร่วมกันได้ นอกจากนี้ดีแทคกำลังจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าว ภายใน 30 วัน เพราะเห็นว่าการห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์ไปติดตั้งแก่รายอื่น ถือเป็นอุปสรรค ขัดขวางการขยายโครงข่ายที่ช่วยเหลือแผนดิจิตอล อีโคโนมี ของรัฐบาล และยังขัดต่อนโยบายของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในเรื่องการเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน (อินฟราสตรัคเจอร์ แชร์ริ่ง)
นอกจากนี้ดีแทคต้องการที่จะเห็นภาครัฐเร่งวางโรดแมปคลื่นความถี่ในระยะยาว หรือแผนของปี 2559 ที่จะนำมาประมูลในอนาคตอันใกล้ให้ชัดเจน นอกเหนือจาก การประมูล 4จี ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมนี้ ซึ่งดีแทคอยากเห็นการบริหารจัดสรรคลื่นความถี่ของชาติมาใช้เป็นกลไกขับ เคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิตอลที่สำคัญที่สุด ดีแทคมองไปข้างหน้าว่า การนำคลื่นความถี่ที่ยัง ไม่ได้ใช้ เช่น คลื่น 1800, 850 และ 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) มาร่วมประมูลในอนาคต จะสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและพื้นที่การให้บริการ 4จี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ จีเอสเอ็มเอ ระบุว่า จะมีจำนวนผู้ใช้งาน 4จี สูงถึง 13.8 ล้านคน ในปี 2562 และอัตราการเข้าถึงโมบายล์ บรอดแบนด์ จะพุ่งสูงจาก 55% เมื่อปี 2556 ไปเป็น 133% ในปี 2563 จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ของประเทศมากขึ้นอีก 7.3 แสนล้านบาท และจากการคาดการณ์ของดีแทคต่ออัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจแมชชีนทูแมชชีนใน ประเทศไทย ว่า จะมีจำนวนซิม ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์มากถึง 400 ล้านเครื่อง เป็น อย่างน้อยในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ไตรมาส 1/2558 มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 419,000 เลขหมาย ทำให้ฐานลูกค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 28.4 ล้านเลขหมาย โดยไม่ได้คาดการณ์ว่าจนถึงสิ้นปี 2558 จะมีลูกค้ารวมในระบบจำนวนเท่าใด แต่ เป้าหมายสูงสุดตั้งไว้ว่าจะต้องมีลูกค้าใช้งาน 4จี บน คลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์(GHz) 2.5 ล้านราย ส่วนการขออัพเกรดคลื่นความถี่ 1800 MHz ในสัมปทาน 2จี ที่ปัจจุบันมีลูกค้าใช้งาน อยู่ 8 ล้านราย ดีแทคต้องการจะขอใช้คลื่นนี้ 10 เมกะเฮิรตซ์ มาทำ 4จี ขณะนี้ได้ผ่าน ขั้นตอนของคณะกรรมการ (บอร์ด)กสทฯ แล้ว เหลือเพียงรอการพิจารณา
นาย ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง กล่าวว่า ล่าสุดดีแทคได้ปรับโครงสร้างการทำงาน โดยแต่งตั้งผู้ดูแลภูมิภาคใน 5 พื้นที่ คือ
1.นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ อาวุโสธุรกิจภูมิภาค-กรุงเทพฯ และปริมณฑล
2.นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคเหนือ
3.นายวรวัฒน์ วงศ์สง่า ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4.นายปัญญา เวชบรรยงค์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคใต้และตะวันตก และ
5.นายอำนาจ โกศลรอด ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคกลางและตะวันออก
แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดีแทคเล็งอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครอง ขอติดตั้งเสา-อุปกรณ์โทรคมนาคม อ้างขัดต่ออินฟราสตรัคเจอร์แชร์ริ่ง
นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า จากกรณีคำสั่งของศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินกรณีที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องให้ดีแทคยุติการนำเสา และอุปกรณ์โทรคมนาคม ไปให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งในที่นี่คือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ใช้งาน เนื่องจากตามสัญญาสัมปทานเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท กสทฯ เท่านั้น
ทั้งนี้ภายหลังจากการ หารือระหว่างบริษัท กสทฯ และนายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป รวมทั้งตนนั้น ก็มีทางออกที่น่าพอใจและน่าจะหาข้อยุติร่วมกันได้ นอกจากนี้ดีแทคกำลังจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าว ภายใน 30 วัน เพราะเห็นว่าการห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์ไปติดตั้งแก่รายอื่น ถือเป็นอุปสรรค ขัดขวางการขยายโครงข่ายที่ช่วยเหลือแผนดิจิตอล อีโคโนมี ของรัฐบาล และยังขัดต่อนโยบายของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในเรื่องการเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน (อินฟราสตรัคเจอร์ แชร์ริ่ง)
นอกจากนี้ดีแทคต้องการที่จะเห็นภาครัฐเร่งวางโรดแมปคลื่นความถี่ในระยะยาว หรือแผนของปี 2559 ที่จะนำมาประมูลในอนาคตอันใกล้ให้ชัดเจน นอกเหนือจาก การประมูล 4จี ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมนี้ ซึ่งดีแทคอยากเห็นการบริหารจัดสรรคลื่นความถี่ของชาติมาใช้เป็นกลไกขับ เคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิตอลที่สำคัญที่สุด ดีแทคมองไปข้างหน้าว่า การนำคลื่นความถี่ที่ยัง ไม่ได้ใช้ เช่น คลื่น 1800, 850 และ 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) มาร่วมประมูลในอนาคต จะสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและพื้นที่การให้บริการ 4จี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ จีเอสเอ็มเอ ระบุว่า จะมีจำนวนผู้ใช้งาน 4จี สูงถึง 13.8 ล้านคน ในปี 2562 และอัตราการเข้าถึงโมบายล์ บรอดแบนด์ จะพุ่งสูงจาก 55% เมื่อปี 2556 ไปเป็น 133% ในปี 2563 จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ของประเทศมากขึ้นอีก 7.3 แสนล้านบาท และจากการคาดการณ์ของดีแทคต่ออัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจแมชชีนทูแมชชีนใน ประเทศไทย ว่า จะมีจำนวนซิม ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์มากถึง 400 ล้านเครื่อง เป็น อย่างน้อยในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ไตรมาส 1/2558 มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 419,000 เลขหมาย ทำให้ฐานลูกค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 28.4 ล้านเลขหมาย โดยไม่ได้คาดการณ์ว่าจนถึงสิ้นปี 2558 จะมีลูกค้ารวมในระบบจำนวนเท่าใด แต่ เป้าหมายสูงสุดตั้งไว้ว่าจะต้องมีลูกค้าใช้งาน 4จี บน คลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์(GHz) 2.5 ล้านราย ส่วนการขออัพเกรดคลื่นความถี่ 1800 MHz ในสัมปทาน 2จี ที่ปัจจุบันมีลูกค้าใช้งาน อยู่ 8 ล้านราย ดีแทคต้องการจะขอใช้คลื่นนี้ 10 เมกะเฮิรตซ์ มาทำ 4จี ขณะนี้ได้ผ่าน ขั้นตอนของคณะกรรมการ (บอร์ด)กสทฯ แล้ว เหลือเพียงรอการพิจารณา
นาย ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง กล่าวว่า ล่าสุดดีแทคได้ปรับโครงสร้างการทำงาน โดยแต่งตั้งผู้ดูแลภูมิภาคใน 5 พื้นที่ คือ
1.นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ อาวุโสธุรกิจภูมิภาค-กรุงเทพฯ และปริมณฑล
2.นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคเหนือ
3.นายวรวัฒน์ วงศ์สง่า ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4.นายปัญญา เวชบรรยงค์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคใต้และตะวันตก และ
5.นายอำนาจ โกศลรอด ผู้อำนวยการอาวุโสธุรกิจภูมิภาค-ภาคกลางและตะวันออก
แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้