@ เมนูในความทรงจำ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา.........ทำ "เคาหยก" ส่งการบ้าน.......@

"เคาหยก"
เป็นอาหารจีนชั้นสูง พูดอย่างนี้ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะเป็นอาหารที่หากินได้ยาก
ขั้นตอนการประกอบก็ยากใช้เวลาอย่างมาก ตั้งแต่วัตถุดิบเช่นผัก"ใช้กัว"หรือผักแห้งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเคาหยกนี้

วันนี้มีโอกาสได้ทำเคาหยกกินนับว่าเป็นวาสนายิ่งนัก ทั้งนี้ต้องขอเอ่ยนาม"มันแกวกะแห้วหมู"เชื่อว่าหลายท่านที่อยู่ในก้นครัว
มานานจะรู้จักดี ป้าเน็ทขอขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ

นอกจากจะกรุณาส่งผักใช้กัวให้ป้าเน็ทแล้ว ยังส่งตำราการทำเคาหยกมาด้วยค่ะ
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/11/D12881991/D12881991.html


เริ่มลงมือทำตั้งแต่เมื่อวาน เพิ่งได้ทานวันนี้เองค่ะ นี่แหละค่ะ "เคาหยก" ฝีมือป้าเน็ท



หน้าตาไม่ค่อยยั่วน้ำลายเหมือนของคุณครูเท่าไรเลยค่ะ แต่ขอบอกว่ารสชาติอร่อยฝุด ฝุด
รสออกเค็ม หวาน หอม กลมกล่อม หอมจากกลิ่นของผักใช้กัวนี่แหละค่ะที่เป็นเอกลักษณ์มากต้องได้ลิ้มลองแล้วจะติดใจแบบป้าเน็ทค่ะ


มาดูหน้าตาของผักใช้กัว หรือผักแห้งกันค่ะ คุณครูได้อธิบายไว้แล้วจากกระทู้ของท่านสนใจเข้าไปอ่านกันได้ค่ะ




มาเริ่มดูป้าเน็ททำกันเลยค่ะ ได้ผักมาแล้วต้องมาล้างเอาเศษเกลือที่ติดมากับผักออกให้หมด ล้างน้ำโดยการฉีกผักออกเป็นใบๆ
แล้วคลี่ล้างทีละใบต้องพิถีพิถันหน่อยค่ะ เสร็จแล้วใช้น้ำกรองอย่างดีแช่ผักค้างคืนไว้สัก 1 คืนเพื่อลดความเค็มค่ะ



รุ่งเช้าเราก็มาล้างน้ำเอาขึ้นมาเตรียมขั้นตอนต่อไปค่ะ จะเห็นได้ว่าผักอิ่มน้ำขึ้นมาน่ากินจังค่ะ



ต่อไปเตรียมส่วนผสมแห้งมีดังนี้ค่ะ แล้วนำเห็ดหอมแห้งพร้อมปลาหมึกแช่น้ำไว้ค่ะ
  - กระเทียม
  - ปลาหมึกแห้ง
  - เห็ดหอมแห้ง




เตรียมนำผักแห้งที่แช่น้ำแล้วไปหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ




แล้วนำผักที่ได้ไปต้มในน้ำเดือดสัก 15 นาทีค่ะ




เสร็จแล้วนำขึ้นมาพักไว้ให้เสด็ดน้ำ



แล้วเตรียมหั่นเห็ดหอม  สับกระเทียม หั่นปลาหมึกแห้งเตรียมไว้ปรุงค่ะ



มาเตรียมเครื่องปรุงที่เป็นน้ำดังนี้ค่ะ
  - ซีอิ้วขาว
  - ซีอิ้วดำหวาน
  - ซีอิ้วดำเค็ม
  - น้ำส้มสายชูหมัก
  - เหล้าจีน
  - น้ำมันหอย
มาตราส่วนให้ไปดูจากกระทู้คุณครูนะคะ แหะ แหะ!!



เพิ่มน้ำต้มผัก(คุณครูใช้น้ำธรรมดา)แต่ป้าเน็ทเสียดายน้ำต้มผักค่ะมันหอมดี เลยเตรียมไว้สัก 1 ถ้วย
พร้อม น้ำตาล 1 ก้อนค่ะ



ได้เครื่องปรุงครบถ้วนแล้ว นำมาไว้ใกล้ๆหัวเตา เตรียมตัวผัดผักกันค่ะ



วันนี้ป้าเน็ทเตรียมกระทะใบใหญ่ไว้ผัดค่ะ กะว่าทีเดียวเสร็จ อิอิ...
นำน้ำมันใส่กระทะเล็กน้อย เอาเห็ดหอมลงผัดก่อน พอหอมแล้วจึงนำกระเทียมสับลงไปผัดพร้อมกันค่ะ



แล้วใส่ผักใช้กัวลงผัดให้หอม ถ้ารู้สึกว่าแห้งให้ใส่น้ำที่เตรียมไว้ลงไปเล็กน้อยค่ะ (กลัวไหม้)



ตามลงไปด้วย ปลาหมึกที่ฉีกไว้ค่ะ



ผัดทุกอย่างให้หอมดีแล้ว จึงใส่เครื่องปรุงน้ำทั้งหมดลงไปผัดด้วยค่ะ



ผัดๆไป เริ่มมีน้ำออกมาให้เอาฝาหม้อมาปิดกระทะไว้ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวข้างบ้านจะได้กลิ่นของเรานะคะ ฮ่าๆๆ



ตอนแรกตกใจว่าทำไมน้ำออกมาเยอะจัง พอผัดต่อไปๆ น้ำเริ่มงวดขึ้นค่ะ
ไหนลองชิมหน่อยสิ! โห...รสชาติได้ดังใจค่ะ ตามสูตรของคุณครูเป็ะเลยค่ะ อร่อยมากๆ แทบอยากเอาราดข้าวสวยกินเลยทีเดียว



จะเห็นได้ว่าน้ำเริ่มแห้งแล้วค่ะ เราก็ปิดไฟแล้วพักไว้ ต่อไปจะจัดการกับหมูละค่ะ



นี่อ่านกันมาถึงตรงนี้เพิ่งจะเห็นว่าเขาใส่หมูกันด้วยนะคะ ก็ป้าเน็ทลืมบอกเสียแต่แรกนี่นา นานๆ จะมาเขียนกระทู้ทีลืมเสียนี่
หมูสามชั้นเชียวค่ะ นำมาล้างน้ำให้ดี แล้วนำส่วนที่เป็นหนังขึ้นจี่ไฟ จะใช้กระทะอย่างไรก็ได้นะคะ



ย่างจนหนังออกเกรียมๆ ก็พอค่ะ ตอนนี้อยากกินเคาหยกแล้วต้องเร่งมือหน่อยจร้าาา....



แล้วนำมาบรรจงหั่นเป็นชิ้นๆ ยาวสัก 3 นิ้ว ความหนาตามต้องการเลยค่ะ (คุณครูบอกขั้นตอนนี้ไว้อย่างละเอียด)
ป้าเน็ทบอกคร่าวๆ ละกัน ที่เขียนเป็นกระทู้ก็อยากจะเอาไว้จำ และทำกินต่อไปน่ะค่ะ หั่นแล้วก็นำไปใส่ชามสำหรับที่จะนึ่ง
ได้ วันนี้หาภาชนะที่ดีเหมาะสมกว่านี้ไม่ได้ค่ะ เลยใช้อย่างที่เห็นนี่แหละ เรื่องพลิกแพลงต้องยกให้ป้าเน็ทละค่ะ อิอิ..



แล้วนำเอาผักที่เราผัดปรุงรสไว้มาโปะบนหมู แล้วเตรียมนึ่งให้สุกต่อไปค่ะ



คุณครูบอกว่าใช้วิธีนึ่งจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ป้าเน็ทเลยใช้หม้อแรงดันแทนการนึ่งค่ะ
ใส่น้ำในหม้อประมาณ 1/3 ของหม้อ แล้วหาตะแกรงมีขามาตั้งเพื่อรองรับชามหมูของเรา ปิดฝาหม้อแล้วตั้งไฟไปตาม
การใช้หม้อแรงดันค่ะ แต่ป้าเน็ทใช้เวลาในหม้อแรงดันเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ





เมื่อหม้อแรงดันเย็นลงแล้วเราก็นำชามหมูออกมา แล้วปล่อยให้เย็นรินน้ำในชามออกใส่ถ้วยไว้ก่อนค่ะ
เดี๋ยวเราต้องหาจานใบใหญ่มาปิดชามหมูแล้วคว่ำชามเพื่อจะพลิกให้หมูออกมาอยู่ด้านบน เพราะตอนที่เรานึ่ง
หรือใส่หม้อแรงดัน เราเอาผักมาโปะไว้ข้างบนหมูยังไงล่ะคะ ขั้นตอนนี้แหละที่ยากกกก....



ในเรื่องยาก ก็ยังมีเรื่องง่ายๆค่ะ ตักข้าวสวยใส่จาน แล้ววางชิ้นหมูกับผักราดน้ำลงไปเตรียมชิม"เคาหยก"อาหารอร่อย
ทำยาก แต่คุ้มค่าในการทำจริงๆค่ะ เมนูนี้อยากทานต้องลงมือทำแล้วค่ะ เพราะหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ นะค๊า!!



"สุขใดหรือจะเท่า  สุขที่เราได้กินของโปรด"
ขอบคุณที่ติดตาม
สวัสดีค่ะ อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่