.....แบงก์จุก! ลูกหนี้บัตรแห่ชำระขั้นต่ำ กลุ่มจ่ายเต็ม50% แบกภาระสำรองNPLหลังแอ่น......เศรษฐกิจดีหรือยัง ?

กระทู้คำถาม
.....แบงก์จุก! ลูกหนี้บัตรแห่ชำระขั้นต่ำ กลุ่มจ่ายเต็ม50% แบกภาระสำรองNPLหลังแอ่น......เศรษฐกิจดีหรือยัง ?

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1432711179

แบงก์-น็อนแบงก์กุมขมับ หนี้เน่ารายย่อยลามทุ่ง ฉุดสินเชื่อบุคคลกระทบสินเชื่อบัตรเครดิต ชี้เศรษฐกิจโตช้า-หนี้ครัวเรือนสูง พ่วงฤดูกาลเปิดเทอมดึงสภาพคล่องตึง ผู้บริโภคชักหน้าไม่ถึงหลัง จ่ายค่างวดผ่อนบัตรขั้นต่ำ 10% ยังไม่ไหว "กสิกรฯ" ชี้มีลูกค้าชำระหนี้เต็มจำนวนแค่ 50% "กรุงศรีคอนซูมเมอร์" ตั้งทีมติดตามหนี้เพิ่ม 200 คน




อ่านต่อ วาป ไปเลย.... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1432711179


.....ถามว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือยัง ในไตรมาตร3 ?

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
....แถมให้อีก .........

https://www.hereandthere.today/?p=2179

รายงาน BOI ประจานซ้ำ 4เดือนต่อเนื่อง ม.ค.-เม.ย.58 ไทยไร้ “บิ๊กโปรเจ็ค” ไม่มีแม้เงาโครงการลงทุนเกิน 5พันล้าน

เศรษฐกิจไทย ยังคงย่ำแย่อย่างหนัก แม้คณะรัฐประหาร คสช.จะครองอำนาจมานานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ซ้ำร้ายยังดูเหมือนทุกอย่างจะตกต่ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม

โดยรายงานของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) หรือ “สภาพัฒน์” ได้เผยแพร่ “ภาวะสังคมไทย ไตรมาสหนึ่ง ปี 2558 Social Situation and Outlook” ซึ่งเผยแพร่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2558 ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยอัตราการว่างงานที่มีมากขึ้น จำนวนชั่วโมงการทำงานต่อคนลดน้อยลง นายจ้างพยายามลดจำนวนพนักงานส่งผลให้โอกาสในการหางานทำของประชาชนลดน้อยลงไปด้วย ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ภาวะหนี้สินของคนไทยยังปรากฏอย่างชัดเจนว่า มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราหนี้เสียมากขึ้นตามไปด้วย

ล่าสุดพบว่า “ตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ” อีกตัวหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทย ตกต่ำย่ำแย่ต่อเนื่องก็คือ การลงทุนในประเทศ ซึ่งตัวเลขต่างๆ ยังน่าเป็นห่วงอย่างหนัก ที่สำคัญคือโครงการลงทุนขนาด 5 พันล้านบาทขึ้นไปในประเทศไทยนั้นปรากฎว่า

โดยสถิติ “การขอรับการส่งเสริมการลงทุนสุทธิ มกราคม-เมษายน 2558 เปรียบเทียบกับปี 2556 และปี 2557” ของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) หรือ BOI ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า จำนวนโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน ในเดือน มกราคม-เมษายน 2558 มีจำนวนเพียง 237 โครงการ จำนวนเงินลงทุน 37.62 พันล้านบาท ในขณะที่เดือน มกราคม-เมษายน 2557 มีจำนวนโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนถึง 360 โครงการ จำนวนเงินลงทุน 259.81 พันล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบว่า สถิติต่างชาติรายใหญ่ที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน ยังลดลงมากอย่างน่าใจหาย คือ กรณีประเทศญี่ปุ่น เคยมีตัวเลข สูงถึง 66.22 พันล้านบาท ในเดือนมกราคม-เมษายน 2557 กลับลดลงเหลือเพียง 2.32 พันล้านบาทในเดือนมกราคม-เมษายน2558 หรืออย่าง ยุโรปที่มีตัวเลขสูงถึง 63.55 พันล้านบาท ในเดือนมกราคม-เมษายน 2557 กลับลดลงเหลือเพียง 0.56 พันล้านบาท และสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีตัวเลขสูงถึง 26.33 พันล้านบาท ในเดือนมกราคม-เมษายน 2557 กลับลดลงเหลือเพียง 0.11 พันล้านบาท ในเดือนมกราคม-เมษายน 2558



ที่น่าตกใจที่สุด ก็คือ ตัวเลขการขอรับการลงทุนในโครงการที่มีขนาดเงินลงทุน มากกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งในเดือน มกราคม-เมษายน 2557 มีทั้งสิ้น 17 โครงการ มูลค่า 192.50 พันล้านบาท แต่ปรากฏว่าในเดือนมกราคม-เมษายน 2558 ไม่มีการลงทุนเลย โดยสถิติของ BOI แจ้งตัวเลขเป็น “0” โครงการ และจำนวนเงิน “0.00”พันล้านบาท



เป็นจำนวน 0 โครงการ เงินลงทุน 0.00 บาท เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

------------------------------

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่