เราเพิ่งออกจากอิตาลีมาได้สัก 2-3 วันละค่ะ ตอนนี้อยู่ปารีส (มีความสุขมากๆ) แต่ขอระบายความรู้สึกต่อเมืองมิลานหน่อยค่ะ
นาทีแรกที่เราได้เหยียบที่มิลานนี่ ขอบอกเลยว่า ก็ไม่ชอบแล้วแหละค่ะ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่ากลัวของคนเร่ร่อน ขอทาน คนผิวสีที่ดูไม่เป็นมิตร และกลิ่นปัสสาวะที่ไม่รู้ว่าของคนหรือสัตว์ โฉยฉุนตามจุดต่างๆจนเรารู้สึกขยะแขยง
ขอทานที่ไม่ได้พิการ แต่สิ้นคิด อับจนปัญญาในการทำมาหากินอย่างอื่น เที่ยวยื่นมือไปขอเงินคนอื่นไปทั่ว จนมือจะทิ่มมาในลูกตาเราอยู่แล้วค่ะ (มารยาททรามมากๆ) และพอบางคนไม่ให้ เห็นมีการด่าใส่เป็นภาษาท้องถิ่นด้วยนะคะ แต่เราแปลไม่ออก เลยไม่ได้สนใจอะไร
แล้วขโมยก็ชุกด้วยนะคะ เผลอวางของโดยไม่เฝ้าไว้ หรือ ลืมอะไรทิ้งไว้แป๊บเดียวนี่ไม่ได้เลย มีมือปริศนาคว้าเอาไปทันที
พอจะกดตู้ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน ก็มีคนอาสามาช่วยบอกให้ แต่สุดท้ายก็ขอแบ่งเงินทอนไป 1 ยูโร (เขาดูแล้งน้ำใจจังเลยค่ะ แต่งตัวก็ไม่ได้ดูยากจนนะคะ สงสัยคงสิ้นปัญญาหากินสุจริตทางอื่นละมั้ง)
พอไปถึงดูโอโม่ ก็เจอคนดำมาขายด้ายสี ขายอาหารนก ซึ่งจู่ๆก็ยื่นมือมาส่งให้ จะมายัดเยียดใส่มือเรา
พอเราหนีก็ตามมาคุกคาม พูดจาภาษาท้องถิ่นใส่ เหมือนจงใจให้รับสินค้าไปให้ได้ แต่เราสลัดหลุด และวิ่งหนีออกมาปะปนกับฝูงชนได้สำเร็จค่ะ
(แต่เห็นสาวเอเชียคนนึงคงตกใจนะคะ นั่งร้องไห้ใหญ่เลย เพราะถูกด่าจนอายมั้ง และเธอคงคิดว่าเขาแจกฟรี เป็นด้าย(อัป)มงคล เลยรับมา สุดท้ายคนพวกนั้นเลยรุมล้อมมากดดันเธอน่ะค่ะ)
ที่เจ็บใจและโกรธมาก คือตอนนั่งรถไฟขากลับค่ะ เราไม่ได้คิดไปเองนะคะ แต่เรารู้สึกจริงๆว่ามีคนลวนลาม
เพราะตอนนั้นรถไฟคนก็ไม่แน่น แต่เรารู้สึกว่ามีคนมาจับสะโพกค่ะ (ตอนนั้นยืนอ่านป้ายสถานีรถไฟในขบวนอยู่ค่ะ ใส่กางเกงยีนส์ อาจจะรัดรูปนิดนึง เพราะเป็นขาเดฟ แต่มิดชิดนะคะ) พอรู้สึกตัวว่าโดนจับ เลยหันไป แต่ไม่ทันค่ะ มันออกจากขบวนรถไฟไปก่อน (แค้นมากๆ) ที่รู้ว่าเป็นมัน เพราะมีอยู่คนเดียวที่ออกจากโบกี้เดียวกะเราน่ะค่ะ
ตอนนี้ก็ยังแค้นไม่หายนะคะ เสียความรู้สึกกับมิลานมาก ไม่น่าแวะมาเลยจริงๆ
ขยะแขยง พะอืดพะอม อุตส่าห์เป็นเมืองแฟชั่นอันดับรอง (แฟชั่นเบอร์หนึ่งคือปารีสนะจ๊ะ มิลานอย่ามโน ) ทำไมถึงแย่ เสื่อม ทราม สกปรก แบบนี้ไปซะได้
รถใต้ดินก็สกปรกมาก เหม็นอับ เก่า โทรม (เจอหนูตัวใหญ่ๆวิ่งตามซอกถังขยะด้วยค่ะ) แถมขอทานก็ยังอุตส่าห์ตามลงมาถึงชานชาลา
เสื่อมมากอ่ะ เข็ดจริงๆค่ะกับอิตาลี
เจอขโมยของในโรม ยังเศร้าไม่หาย นี่มาเจอลวนลามที่มิลานอีก
ลาขาดแล้วจริงๆ ค่ะ กับประเทศรูปทรงรองเท้าบู้ต ที่ต่ำตมสมกับเป็นรองเท้าซะจริงๆ !!!
มิลาน เป็นเมืองที่ห่วยแตกมากค่ะ
นาทีแรกที่เราได้เหยียบที่มิลานนี่ ขอบอกเลยว่า ก็ไม่ชอบแล้วแหละค่ะ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่ากลัวของคนเร่ร่อน ขอทาน คนผิวสีที่ดูไม่เป็นมิตร และกลิ่นปัสสาวะที่ไม่รู้ว่าของคนหรือสัตว์ โฉยฉุนตามจุดต่างๆจนเรารู้สึกขยะแขยง
ขอทานที่ไม่ได้พิการ แต่สิ้นคิด อับจนปัญญาในการทำมาหากินอย่างอื่น เที่ยวยื่นมือไปขอเงินคนอื่นไปทั่ว จนมือจะทิ่มมาในลูกตาเราอยู่แล้วค่ะ (มารยาททรามมากๆ) และพอบางคนไม่ให้ เห็นมีการด่าใส่เป็นภาษาท้องถิ่นด้วยนะคะ แต่เราแปลไม่ออก เลยไม่ได้สนใจอะไร
แล้วขโมยก็ชุกด้วยนะคะ เผลอวางของโดยไม่เฝ้าไว้ หรือ ลืมอะไรทิ้งไว้แป๊บเดียวนี่ไม่ได้เลย มีมือปริศนาคว้าเอาไปทันที
พอจะกดตู้ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน ก็มีคนอาสามาช่วยบอกให้ แต่สุดท้ายก็ขอแบ่งเงินทอนไป 1 ยูโร (เขาดูแล้งน้ำใจจังเลยค่ะ แต่งตัวก็ไม่ได้ดูยากจนนะคะ สงสัยคงสิ้นปัญญาหากินสุจริตทางอื่นละมั้ง)
พอไปถึงดูโอโม่ ก็เจอคนดำมาขายด้ายสี ขายอาหารนก ซึ่งจู่ๆก็ยื่นมือมาส่งให้ จะมายัดเยียดใส่มือเรา
พอเราหนีก็ตามมาคุกคาม พูดจาภาษาท้องถิ่นใส่ เหมือนจงใจให้รับสินค้าไปให้ได้ แต่เราสลัดหลุด และวิ่งหนีออกมาปะปนกับฝูงชนได้สำเร็จค่ะ
(แต่เห็นสาวเอเชียคนนึงคงตกใจนะคะ นั่งร้องไห้ใหญ่เลย เพราะถูกด่าจนอายมั้ง และเธอคงคิดว่าเขาแจกฟรี เป็นด้าย(อัป)มงคล เลยรับมา สุดท้ายคนพวกนั้นเลยรุมล้อมมากดดันเธอน่ะค่ะ)
ที่เจ็บใจและโกรธมาก คือตอนนั่งรถไฟขากลับค่ะ เราไม่ได้คิดไปเองนะคะ แต่เรารู้สึกจริงๆว่ามีคนลวนลาม
เพราะตอนนั้นรถไฟคนก็ไม่แน่น แต่เรารู้สึกว่ามีคนมาจับสะโพกค่ะ (ตอนนั้นยืนอ่านป้ายสถานีรถไฟในขบวนอยู่ค่ะ ใส่กางเกงยีนส์ อาจจะรัดรูปนิดนึง เพราะเป็นขาเดฟ แต่มิดชิดนะคะ) พอรู้สึกตัวว่าโดนจับ เลยหันไป แต่ไม่ทันค่ะ มันออกจากขบวนรถไฟไปก่อน (แค้นมากๆ) ที่รู้ว่าเป็นมัน เพราะมีอยู่คนเดียวที่ออกจากโบกี้เดียวกะเราน่ะค่ะ
ตอนนี้ก็ยังแค้นไม่หายนะคะ เสียความรู้สึกกับมิลานมาก ไม่น่าแวะมาเลยจริงๆ
ขยะแขยง พะอืดพะอม อุตส่าห์เป็นเมืองแฟชั่นอันดับรอง (แฟชั่นเบอร์หนึ่งคือปารีสนะจ๊ะ มิลานอย่ามโน ) ทำไมถึงแย่ เสื่อม ทราม สกปรก แบบนี้ไปซะได้
รถใต้ดินก็สกปรกมาก เหม็นอับ เก่า โทรม (เจอหนูตัวใหญ่ๆวิ่งตามซอกถังขยะด้วยค่ะ) แถมขอทานก็ยังอุตส่าห์ตามลงมาถึงชานชาลา
เสื่อมมากอ่ะ เข็ดจริงๆค่ะกับอิตาลี
เจอขโมยของในโรม ยังเศร้าไม่หาย นี่มาเจอลวนลามที่มิลานอีก
ลาขาดแล้วจริงๆ ค่ะ กับประเทศรูปทรงรองเท้าบู้ต ที่ต่ำตมสมกับเป็นรองเท้าซะจริงๆ !!!