สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ พอดีช่วงนี้กำลังว่างงานเลยมีโอกาสมาตะลอนเว็ป ส่องคนนู้นคนนี่ ตามไปเที่ยวที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศ เราเลยถือโอกาสนี้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมารีวิวการไปใช้ชีวิต เรียนและเที่ยวในประเทศรัสเซียตลอดระยะเวลา 62 วันกัน
ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนเลย เราเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย ได้ทุนไปอบรมด้านการสอนภาษารัสเซียในฐานะภาษาต่างประเทศที่ 2 โดยได้ไปเรียนที่สถาบัน Academy of labor and social relationship (Академия труда и социальных отношений - АТИСО) ที่มอสโก 2 เดือนเต็ม (28 มีนาคมถึง 30 พฤษภาคม 2557)
ปล.ภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่ มีทั้งถ่ายจากมือถือบ้าง กล้องตัวใหญ่บ้าง
ที่นอนกับที่เรียน
อันนี้เป็นรูปของสถาบันที่ไปเรียน ตัวสถาบันเองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร มีตึกเรียน 2 ตึกมั้งถ้าจะไม่ผิด แล้วก็มีอาคารหอพัก 1 หลัง
ตอนช่วงที่ไปถึงจริงๆเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศตอนนั้นก็ยังหนาวอยู่(มากกกก) ก่อนไปเราว่าเราเช็คอากาศดีแล้ว ถามเพื่อนถามพี่ที่เรียนที่โน้น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่หนาวแล้ว แหม...ก็แน่ล่ะ แต่ละคนผ่าน -35 องศา ผ่านจุดนั้นมาแล้ว กับอีแค่ลบต้นๆก็ไม่หนาวน่ะสิ แต่เดี๋ยวก่อนคุณคะ ดิฉันบินไปจากเมืองร้อนค่ะ ไปถึงวันแรก ตอนประมาณ 5 โมงเย็นของที่นู้น ออกจากสนามบินปุ๊บ 2 องศาค่ะ แน่นอนว่า"หนาวววววว" แต่ด้วยเป็นคนชอบอากาศหนาว เลยชิล ขนของเข้าที่พักเสร็จก็...ไปหาไรกินกัน จาก 2 องศาตอนไปถึง ผ่านไป 3 ชั่วโมง -4 คร่า




อยากจะซุกอยู่ใต้ฮีตเตอร์

บรรยากาศคืนแรกที่ไปถึง วิวจากห้องนอน โรแมนติกไหมล่ะคุณผู้ชม ***คิดถึงบ้านสุดๆอ่ะ
ตื่นเช้ามาก็ แจ๊น!!!

หิมะค่ะ หิมะแรก ตื่นเต้นนะ แต่ไม่วิ่งออกไปยืนท่ามกลางหิมะเหมือนในหนังหรอก มันหนาวววววว สภาพตอนนั้นคือยืนเอาผ้าห่มห่อตัวไว้ แล้วเอาขาแนบฮีตเตอร์
สภาพห้องนอน

มีสองห้อง ต้องย้ายห้องครั้งหนึ่งเพราะคนที่อยู่ด้วยเขาอยากได้ห้องที่มีอ่างอาบน้ำ เอาพื้นที่ไว้ซักผ้า ตากผ้า
พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่ม วิวจากห้องครัวชั้น 5

ส่วนตัวเราชอบท้องฟ้าที่รัสเซียมาก สีสวย ถ่ายรูปออกมาก็สวย เราชอบพระอาทิตย์ตกดินมาก มันให้ความรู้สึกเหงาๆ คิดถึงบ้าน แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ เราก็ยังอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน
ตอนไปช่วงแรกๆ คิดถึงบ้านแค่คืนแรกที่ไปถึง แต่หลังๆเริ่มคิดถึงอาหารไทยแต่อาหารไทย ทำไมนะหรอ? ก็เค้ากินอาหารที่นู่นไม่อร่อยเลยน่ะสิ อาหารพื้นเมือง อาหารประจำชาติ อย่าได้ถามถึง กลืนไม่ลง
และนี่ก็คือสิ่งที่กินอยู่ประจำ -->

พายแอปเปิล

สลัดอะไรไม่รู้ แต่ชีสเยอะมาก เลี่ยนดี
นอกจากนั้นก็กินพวกโยเกิร์ตกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (ถูกกว่าเมืองไทยเยอะเลย) กินกันเป็นจานพูนๆเลย
ตอนช่วงแรกๆเราแทบไม่ได้ไปไหนเลยเพราะมันยังหนาวอยู่ แล้วก็บรรยากาศช่วงนั้นก็ไม่ค่อยเอื้อต่อการเดินเที่ยวเท่าไหร่ มองไปทางไหนก็มีแต่สีดำ สีน้ำตาล หดหู่ชะมัด

วิวในสวนสาธารณะใกล้ๆกับที่เรียน น่าไปพักผ่อนหย่อนใจไหมละคุ๊ณณณณ

สนามเด็กเล่น ในสวนเดียวกับข้างบนน่ะ

อากาศมันน่าซุกตัวนอนดูทีวีทั้งวัน และดิชั้นก็ทำแบบนั้นจริงๆ
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัย ว่าไหนบอกไปเรียน มาๆๆๆ ไหนๆก็ไหนๆ ไปเรียนด้วยกันเถอะ


ห้องเรียนก็สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ใกล้ชิดเป็นกันเองสุด
ครู 1 คน นักเรียน 2 คน คนนึงคือ จขกท. ส่วนอีกคนคืออาจารย์ของจขกท. ซึ่งเป็นถึง ผศ. ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษารัสเซียท่านนึงในเมืองไทย โอ้วววม้ายยยยยย ( ย.ยักษ์ 108 ตัว) เครียดไหมล่ะคุณ คือเราจบป.ตรี สาขาวิชาภาษารัสเซีย พูดได้ ด่าได้ ซื้อข้าวกินเป็น ไปไหนมาไหนคนเดียวในรัสเซียได้ แต่ทำมั๊ยยยยย ทำไมต้องเรียนกับอาจารย์ตัวเอง ตอนนั้นคือเครียดสุดชีวิต คิดตลอดว่ากรูจะเรียนรู้เรื่องไหมเนี่ย เค้าจะรำคาญกรูไหมถ้าถามคำถามโง่ๆออกไป สรุปคือ ไม่ถามอะไรใดๆทั้งสิ้น เรียนค่ะ ก้มหน้าก้มตาเรียน กลับห้องมาก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ เพิ่มมันสมองให้กับตัวเอง พึงระลึกเสมอว่า "อย่าทำให้รัฐบาลไทยเสียเงินฟรี เขาส่งเรามาเรียน เราต้องได้ประโยชน์อะไรกลับเมืองไทยไปบ้าง ถึงจะไม่มากแต่ก็ห้ามน้อย เพราะยังมีลูกศิษย์อีกหลายสิบชีวิตที่รอความรู้จากเราอยู่ ฮึ้บสิฮึ้บ สู้ตาย"
อย่าถามหาว่า จขกท. ไปไหน ทำไมไม่มีรูป เค้าเป็นคนถ่ายรูป จะถ่ายแต่ละรูปก็ต้องหาจังหวะดี ไม่ตอนครูเผลอก็ตอนครูจดโน้ตหลังสอนเสร็จ ว่าหัวข้อต่อไปจะสอนอะไร การเรียนของเราเป็นแบบที่นักเรียนอยากรู้อะไร ให้บอกครู ครูเขาจะไปหาข้อมูลมาให้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องมีคำถามเพิ่มหลังสอนจบอีกเลย ละเอียดยิบ!!! ถ้าหัวข้อไหนต้องออกทริปไปดูของจริง ครูเขาก็พาไป ไปไม่ได้ดูเพลินๆนะ ความรู้นี่ก็กลับมาแน่นจริงๆ บางทริปกลับมานี่ไมเกรนขึ้นสามวันสามคืนเลย

ขึ้นจากรถไฟใต้ดิน นางก็เริ่มบรรเลงความรู้ที่นางมีให้ฟัง เอาง่ายๆตั้งแต่เริ่มเดินทางจนจบทริปกลับถึงหอ เรื่องที่จะต้องรู้ก็หมดพอดี นางอธิบายแบบโปรเฟสชั่นนอลสุดๆ

นี่ไง เอารูปมายืนยันว่าเราเลคเชอร์กันจริงจัง กลางแดดเลย
เดี๋ยวกลับมาต่อ พาร์ทต่อไปจะพาไปเที่ยวแล้ว
[SR] รัสเซีย ไม่ไปไม่รู้(จัก)
ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนเลย เราเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย ได้ทุนไปอบรมด้านการสอนภาษารัสเซียในฐานะภาษาต่างประเทศที่ 2 โดยได้ไปเรียนที่สถาบัน Academy of labor and social relationship (Академия труда и социальных отношений - АТИСО) ที่มอสโก 2 เดือนเต็ม (28 มีนาคมถึง 30 พฤษภาคม 2557)
ปล.ภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่ มีทั้งถ่ายจากมือถือบ้าง กล้องตัวใหญ่บ้าง
อันนี้เป็นรูปของสถาบันที่ไปเรียน ตัวสถาบันเองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร มีตึกเรียน 2 ตึกมั้งถ้าจะไม่ผิด แล้วก็มีอาคารหอพัก 1 หลัง
ตอนช่วงที่ไปถึงจริงๆเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศตอนนั้นก็ยังหนาวอยู่(มากกกก) ก่อนไปเราว่าเราเช็คอากาศดีแล้ว ถามเพื่อนถามพี่ที่เรียนที่โน้น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่หนาวแล้ว แหม...ก็แน่ล่ะ แต่ละคนผ่าน -35 องศา ผ่านจุดนั้นมาแล้ว กับอีแค่ลบต้นๆก็ไม่หนาวน่ะสิ แต่เดี๋ยวก่อนคุณคะ ดิฉันบินไปจากเมืองร้อนค่ะ ไปถึงวันแรก ตอนประมาณ 5 โมงเย็นของที่นู้น ออกจากสนามบินปุ๊บ 2 องศาค่ะ แน่นอนว่า"หนาวววววว" แต่ด้วยเป็นคนชอบอากาศหนาว เลยชิล ขนของเข้าที่พักเสร็จก็...ไปหาไรกินกัน จาก 2 องศาตอนไปถึง ผ่านไป 3 ชั่วโมง -4 คร่า
บรรยากาศคืนแรกที่ไปถึง วิวจากห้องนอน โรแมนติกไหมล่ะคุณผู้ชม ***คิดถึงบ้านสุดๆอ่ะ
ตื่นเช้ามาก็ แจ๊น!!!
หิมะค่ะ หิมะแรก ตื่นเต้นนะ แต่ไม่วิ่งออกไปยืนท่ามกลางหิมะเหมือนในหนังหรอก มันหนาวววววว สภาพตอนนั้นคือยืนเอาผ้าห่มห่อตัวไว้ แล้วเอาขาแนบฮีตเตอร์
สภาพห้องนอน
มีสองห้อง ต้องย้ายห้องครั้งหนึ่งเพราะคนที่อยู่ด้วยเขาอยากได้ห้องที่มีอ่างอาบน้ำ เอาพื้นที่ไว้ซักผ้า ตากผ้า
พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่ม วิวจากห้องครัวชั้น 5
ส่วนตัวเราชอบท้องฟ้าที่รัสเซียมาก สีสวย ถ่ายรูปออกมาก็สวย เราชอบพระอาทิตย์ตกดินมาก มันให้ความรู้สึกเหงาๆ คิดถึงบ้าน แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ เราก็ยังอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน
ตอนไปช่วงแรกๆ คิดถึงบ้านแค่คืนแรกที่ไปถึง แต่หลังๆเริ่มคิดถึงอาหารไทยแต่อาหารไทย ทำไมนะหรอ? ก็เค้ากินอาหารที่นู่นไม่อร่อยเลยน่ะสิ อาหารพื้นเมือง อาหารประจำชาติ อย่าได้ถามถึง กลืนไม่ลง
และนี่ก็คือสิ่งที่กินอยู่ประจำ -->
พายแอปเปิล
สลัดอะไรไม่รู้ แต่ชีสเยอะมาก เลี่ยนดี
นอกจากนั้นก็กินพวกโยเกิร์ตกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (ถูกกว่าเมืองไทยเยอะเลย) กินกันเป็นจานพูนๆเลย
ตอนช่วงแรกๆเราแทบไม่ได้ไปไหนเลยเพราะมันยังหนาวอยู่ แล้วก็บรรยากาศช่วงนั้นก็ไม่ค่อยเอื้อต่อการเดินเที่ยวเท่าไหร่ มองไปทางไหนก็มีแต่สีดำ สีน้ำตาล หดหู่ชะมัด
วิวในสวนสาธารณะใกล้ๆกับที่เรียน น่าไปพักผ่อนหย่อนใจไหมละคุ๊ณณณณ
สนามเด็กเล่น ในสวนเดียวกับข้างบนน่ะ
อากาศมันน่าซุกตัวนอนดูทีวีทั้งวัน และดิชั้นก็ทำแบบนั้นจริงๆ
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัย ว่าไหนบอกไปเรียน มาๆๆๆ ไหนๆก็ไหนๆ ไปเรียนด้วยกันเถอะ
ห้องเรียนก็สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ใกล้ชิดเป็นกันเองสุด
ครู 1 คน นักเรียน 2 คน คนนึงคือ จขกท. ส่วนอีกคนคืออาจารย์ของจขกท. ซึ่งเป็นถึง ผศ. ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษารัสเซียท่านนึงในเมืองไทย โอ้วววม้ายยยยยย ( ย.ยักษ์ 108 ตัว) เครียดไหมล่ะคุณ คือเราจบป.ตรี สาขาวิชาภาษารัสเซีย พูดได้ ด่าได้ ซื้อข้าวกินเป็น ไปไหนมาไหนคนเดียวในรัสเซียได้ แต่ทำมั๊ยยยยย ทำไมต้องเรียนกับอาจารย์ตัวเอง ตอนนั้นคือเครียดสุดชีวิต คิดตลอดว่ากรูจะเรียนรู้เรื่องไหมเนี่ย เค้าจะรำคาญกรูไหมถ้าถามคำถามโง่ๆออกไป สรุปคือ ไม่ถามอะไรใดๆทั้งสิ้น เรียนค่ะ ก้มหน้าก้มตาเรียน กลับห้องมาก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ เพิ่มมันสมองให้กับตัวเอง พึงระลึกเสมอว่า "อย่าทำให้รัฐบาลไทยเสียเงินฟรี เขาส่งเรามาเรียน เราต้องได้ประโยชน์อะไรกลับเมืองไทยไปบ้าง ถึงจะไม่มากแต่ก็ห้ามน้อย เพราะยังมีลูกศิษย์อีกหลายสิบชีวิตที่รอความรู้จากเราอยู่ ฮึ้บสิฮึ้บ สู้ตาย"
อย่าถามหาว่า จขกท. ไปไหน ทำไมไม่มีรูป เค้าเป็นคนถ่ายรูป จะถ่ายแต่ละรูปก็ต้องหาจังหวะดี ไม่ตอนครูเผลอก็ตอนครูจดโน้ตหลังสอนเสร็จ ว่าหัวข้อต่อไปจะสอนอะไร การเรียนของเราเป็นแบบที่นักเรียนอยากรู้อะไร ให้บอกครู ครูเขาจะไปหาข้อมูลมาให้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องมีคำถามเพิ่มหลังสอนจบอีกเลย ละเอียดยิบ!!! ถ้าหัวข้อไหนต้องออกทริปไปดูของจริง ครูเขาก็พาไป ไปไม่ได้ดูเพลินๆนะ ความรู้นี่ก็กลับมาแน่นจริงๆ บางทริปกลับมานี่ไมเกรนขึ้นสามวันสามคืนเลย
ขึ้นจากรถไฟใต้ดิน นางก็เริ่มบรรเลงความรู้ที่นางมีให้ฟัง เอาง่ายๆตั้งแต่เริ่มเดินทางจนจบทริปกลับถึงหอ เรื่องที่จะต้องรู้ก็หมดพอดี นางอธิบายแบบโปรเฟสชั่นนอลสุดๆ
นี่ไง เอารูปมายืนยันว่าเราเลคเชอร์กันจริงจัง กลางแดดเลย
เดี๋ยวกลับมาต่อ พาร์ทต่อไปจะพาไปเที่ยวแล้ว