กลุ่มไอเอสประกาศรับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดของชาวชีอะห์ ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย
ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ศพ วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:42 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด
ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่ากลุ่มไอเอสออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของนักรบจีฮัด ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
การก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดของชาวชีอะห์ ในหมู่บ้านอัล-กาดีห์ ตั้งอยู่ในเขตกาทีฟของจังหวัดอีสเทิร์น ทางตะวันออก
ของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันศุกร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 81 คน ในจำนวนนี้ 12 คนมีอาการสาหัส
แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในซีเรียและอิรัก รับสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงบนแผ่นดินซาอุดีอาระเบีย
พร้อมทั้งประกาศกร้าวจะ "กวาดล้าง" ชาวชีอะห์ให้หมดสิ้นไปจากคาบสมุทรอาหรับ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ เรียกร้องให้รัฐบาลริยาด "รับผิดชอบ" ความสุญเสียที่เกิดขึ้น และเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ จังหวัดอีสเทิร์นถือเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำมันสำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งในเป้าหมายก่อความวุ่นวายของกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2554“
อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/foreign/323129
มือระเบิดพลีชีพ IS บึ้มมัสยิสมุสลิมชีอะห์ ในซาอุฯดับ 20 ศพ!!
ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ศพ วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:42 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด
ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่ากลุ่มไอเอสออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของนักรบจีฮัด ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
การก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดของชาวชีอะห์ ในหมู่บ้านอัล-กาดีห์ ตั้งอยู่ในเขตกาทีฟของจังหวัดอีสเทิร์น ทางตะวันออก
ของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันศุกร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 81 คน ในจำนวนนี้ 12 คนมีอาการสาหัส
แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในซีเรียและอิรัก รับสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงบนแผ่นดินซาอุดีอาระเบีย
พร้อมทั้งประกาศกร้าวจะ "กวาดล้าง" ชาวชีอะห์ให้หมดสิ้นไปจากคาบสมุทรอาหรับ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ เรียกร้องให้รัฐบาลริยาด "รับผิดชอบ" ความสุญเสียที่เกิดขึ้น และเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ จังหวัดอีสเทิร์นถือเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำมันสำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งในเป้าหมายก่อความวุ่นวายของกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2554“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/323129