สอบถามนักบัญชีเรื่องการคำนวน ค่างวดรถ ไฟแนนท์

ผม งง "ที่มา" ของการคำนวนดอกเบี้ย  เพื่อปิดบัญชีก่อนกำหนดนะครับ

คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆ ด้วยครับ  เพราะส่วนใหญ่ก็คงผ่อนรถกันทั้งนั้น จะได้เข้าใจกัน
(หรือผมแค่ยังไม่รู้เรื่องคนเดียวก็ไม่ทราบ)

รถคันนี้จริงๆ ก็ไม่ใช่คันแรก เคยงงมาก่อนนี้ 2 รอบแล้ว แต่ก็แบบ ช่างมัน

ปกติตอนคำนวนดอกเบี้ย(บาท)จากไฟแนนท์ คิดแบบ flat rate ตามที่เข้าใจกัน คือ
ต้น x ดอก(%) x ปี  <<< แล้วนำค่านี้ไปบวกเงินต้น หาร ด้วย จำนวนงวด + VAT ก็จะได้ค่างวดที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือน
แต่........ตอน ผ่อนชำระทำไมการหักดอกจึงเป็นแบบ effective rate

สมมุติดังนี้  ผ่อนชำระงวดละ 20000 บาท
งวด 1   ต้น 3000   ดอก 17000
งวด 2   ต้น 3200   ดอก 16800
งวด 3   ต้น 3400   ดอก 16600

ทำไมจึงไม่เป็น

งวด 1   ต้น 10000   ดอก 10000
งวด 2   ต้น 10000   ดอก 10000
งวด 3   ต้น 10000   ดอก 10000

จึงพยายามหาที่มา ก็พบข้อมูล แรก


คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีคำประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2543 ตามความข้อ 3 วงเล็บ 10 ว่า ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อมีความประสงค์
จะขอชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งหมดในคราวเดียวโดยไม่ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อเป็นรายงวดตามสัญญาเช่าซื้อ เพื่อปิดบัญชีค่าเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50  ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โดยให้คิดคำนวนตามแถลงการณ์มาตรฐานการบัญชี ของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย เรื่อง การบัญชีเกี่ยวกับการเช่าซื้อ – ทางด้านผู้ให้เช่าซื้อ

จากราชธานี ลีสซิ่ง

ค้นต่อ >>>   "มาตรฐานการบัญชี ของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย เรื่อง การบัญชีเกี่ยวกับการเช่าซื้อ – ทางด้านผู้ให้เช่าซื้อ”

ก็พบว่า ปี 2550 มาตรฐานนี้ให้  "ยกเลิก"  ไป    >>>>>

๑. ให้ยกเลิกมาตรฐานการบัญชี ตามประกาศ ก.บช. ฉบับที่ ๔๒ (พ.ศ. ๒๕๔๓) เรื่อง มาตรฐานการบัญชี รวม ๕ ฉบับ และการตีความตามมาตรฐานการบัญชีที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน ๑ ลำดับ ดังนี้
               ๑.๑ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๗ เรื่อง การบัญชีเกี่ยวกับการเช่าซื้อ - ทางด้านผู้ให้เช่าซื้อ
               ๑.๒ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๑๔ เรื่อง การบัญชีสำหรับการวิจัยและพัฒนา
               ๑.๓ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๒๙ เรื่อง การบัญชีสำหรับสัญญาเช่าระยะยาว
               ๑.๔ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๓๑ เรื่อง สินค้าคงเหลือ
               ๑.๕ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๔๓ เรื่อง การรวมธุรกิจ
               ๑.๖ การตีความตามมาตรฐานการบัญชีที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน ลำดับที่ ๔ เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ – รายจ่ายที่กิจการในขั้นพัฒนาและกิจการที่พัฒนาแล้วบันทึกไว้เป็นสินทรัพย์
          ๒. ให้ใช้มาตรฐานการบัญชีตามบัญชีแนบท้ายประกาศนี้แทน
               ๒.๑ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๒๙ (ปรับปรุง ๒๕๕๐) เรื่อง สัญญาเช่า
               ๒.๒ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๓๑ (ปรับปรุง ๒๕๕๐) เรื่อง สินค้าคงเหลือ
               ๒.๓ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๔๓ (ปรับปรุง ๒๕๕๐) เรื่อง การรวมธุรกิจ
               ๒.๔ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๕๑ เรื่อง สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ที่มา  http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=1145&filename=law

เข้าใจว่าให้ใช้ มาตรฐาน 2.1 แทน  >>>  เรื่อง "มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๒๙ (ปรับปรุง ๒๕๕๐) เรื่อง สัญญาเช่า”

ซึ่ง ต่อมาก็ แก้ไขเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย
แก้ปี 2552
แก้ปี 2555
และสุดท้ายตอนนี้ 2557
http://www.fap.or.th/images/column_1412565962/TAS%2017-web.pdf

พยายามอ่านจนปวดหัว  ด้วยไม่เข้าใจภาษา  และงง  จึงทำให้หาวิธีคำนวณ ยังไม่เจอ

รบกวนท่านผู้มีความสามารถทางด้านบัญชีและไฟแนนท์ ช่วยทีครับ
1. ที่มาการคำนวณมันอยู่ตรงไหน?
2. เหตุใดสภาวิชาชีพถึงใช้การคำนวณแบบนั้น?
3. ทำไมคิดดอกตอนทำสัญญาคิดแบบ flat rate แต่ตอนผ่อนชำระถึงออกมาในรูปแบบ effective rate?
4. มันเป็นมาตรฐานโลกหรือไม่?

........
ของผมเหลือยอดปิดหลังหักส่วนลด 4.87 แสน
(ส่วนลด ราวๆ 2.3 หมื่น)  / 30 งวด
..........เอา 4.87 แสนไปฝากประจำ ดอก 2.5%
จำนวน 30 งวด (2ปีครึ่ง) ได้เงินมากกว่า 2.3 หมื่น อีกแหะ (30437)
(เห็นปีที่แล้วก็มีของกสิกรไทย  เงินฝากประจำซูเปอร์ ซีเนียร์ 3.0%)

ขอบคุณมากครับผม

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สินเชื่อรถยนต์ การเงิน ธนาคาร
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่