
ตะลอนทัวร์ 12 วัน ในยุโรป

ตอนที่ 3 ถนนหมายเลข 164 จาก Fussen สู่ Hallstatt ความสวยงามที่ไม่อาจลืม
วันนี้จะเป็นวันที่เราต้องขับรถไกลที่สุดในช่วง 12 วัน คือเราต้องเดินทางออกจาก ฟุซเซ่น เพื่อที่จะไป Hallstatt ด้วยระยะทางกว่า 400 km
เมื่อเราขับจนเข้าถึงถนนของออสเตรีย สิ่งแรกที่แตกต่างจากถนนของเยอรมันนีคือ ถนนของออสเตรีย จะมีไหล่ทางให้สำหรับจอดรถพัก
แต่...ถนนสายหลักของเขา จะปิดกั้น ซ้ายขวา คือไม่สามารถมองเห็อะไรที่อยู่ข้างทางได้เลย (เราไม่แน่ใจว่าเขาทำไว้เพื่ออะไร แต่สัญนิฐานเอาเองว่า
น่าจะทำไว้เพื่อบังลม เวลาขับรถ ) นี้เราต้องเดินทางโดยวิวข้างทางเป็นกำแพงใหญ่ปิดกั้นระหว่างเรากับความงามของวิวข้างทางหรื อ ?
ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว....เราเลยขอให้คนขับรถผู้ใจดีเปลี่ยนเส้นทางขอเข้าไปถนนเล็กๆ ที่ไม่ใช่ โทลเวย์ละกัน...
และนี้คือที่มาของ ถนน สหมายเลข 164 ความงาม ที่ไม่อาจลืม
แรกเริ่มเราก็ขับรถแบบสบายๆ พื้นระนาบปกติ เจอวิวสวยๆ ก็จอดแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

สีเขียวๆ กับยอดภูเขาที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่ ช่างสวยงามเหลือเกิน....
ถนนเล็กๆ ขนาดแค่รถพอสวนกันได้...แต่วิวข้างทางสวยงามเกินบรรยาย

ขับมาเรื่อย ๆ เราก็ไม่แน่ใจว่า หมู่บ้านนี้คือหมู่บ้านอะไร เหมือนกับเป็นจุดท่องเที่ยวซักอย่างหนึ่งของออสเตรีย
เป็นเมืองเล็กๆ มีโรงแรม กับร้านอาหารอยู่ มากมาย (แต่ปิด ทุกร้าน ><)
จอดถ่ายรูปป้ายมา เผื่อจะได้รู้พิกัดว่าตัวเองผ่านมาทางนี้
ถนนเล็กๆ ทอดยาวคดโค้งไปเรื่อยๆ
พ้นจากหมู่บ้าน เล็กๆ นี้มา วิวช่างสวยงามตระการตา
หารู้ไม่ว่าเมื่อพ้นหมู่บ้านนี้ไป เราต้องขึ้นเขา และผ่านเขาอันสูงชัน หลายลูกเลยทีเดียว
ถนนข้างทางเล็ก ๆ มีน้ำป่าไหลลงมา (น้ำที่เกิดจากการละลายตัวของหิมะ)
ถนนเล็ก ๆ คดโค้งไปตามไหล่เขา (ลักษณะ การคดโค้งจะเหมือนกับ ถนนปาย บ้านเราอะค่ะ แต่ที่นี้ชัน กว่า ถนนเเคบเล็กกว่า)
เสียดาย ไม่ได้ถ่ายภาพมาด้วย เนื่องจาก อากาศค่อนข้างครึ้ม อีกทั้งเรากลัวว่าจะมืดแล้วจะขับรถไปไม่ได้ เลยรีบไปนิด ..เสียดายยมาก)
เรา ไต่ระดับมาจนอยู่ บน ณ จุด ที่เรามองเห็น ว่ามันคือยอดภูเขานั้นเองค่ะ
ใช้เวลา กว่า สองชั่วโมง กว่าเราจะ ผ่าน ภูเขาต่างๆ ออกมาได้
เหนื่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ตลอดระยะทาง เราไม่หลับเลยแม้ซักวินาทีเดียว
ถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปอีกครั้ง เราก็ยังยืนยันว่าจะใช้เส้นทางเล็กๆ เหมือนเดิม
"เพราะความสะดวกสะบาย..อาจทำให้เราประหยัดเวลาขึ้น..และอาจทำให้เราเนื่อยน้อยลง.......
....แต่.....บางทีอาจทำให้เราพลาดโอกาสในการพบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย บนโลกกลม ๆ ใบ นี้"
ถึงแล้วนะจ๊ะ Hallstatt

[CR] ตะลอนทัวร์ 12 วัน ในยุโรป ตอนที่ 3 ถนนหมายเลข 164 จาก Fussen สู่ Hallstatt ความสวยงามที่ไม่อาจลืม
ตอนที่ 3 ถนนหมายเลข 164 จาก Fussen สู่ Hallstatt ความสวยงามที่ไม่อาจลืม
วันนี้จะเป็นวันที่เราต้องขับรถไกลที่สุดในช่วง 12 วัน คือเราต้องเดินทางออกจาก ฟุซเซ่น เพื่อที่จะไป Hallstatt ด้วยระยะทางกว่า 400 km
เมื่อเราขับจนเข้าถึงถนนของออสเตรีย สิ่งแรกที่แตกต่างจากถนนของเยอรมันนีคือ ถนนของออสเตรีย จะมีไหล่ทางให้สำหรับจอดรถพัก
แต่...ถนนสายหลักของเขา จะปิดกั้น ซ้ายขวา คือไม่สามารถมองเห็อะไรที่อยู่ข้างทางได้เลย (เราไม่แน่ใจว่าเขาทำไว้เพื่ออะไร แต่สัญนิฐานเอาเองว่า
น่าจะทำไว้เพื่อบังลม เวลาขับรถ ) นี้เราต้องเดินทางโดยวิวข้างทางเป็นกำแพงใหญ่ปิดกั้นระหว่างเรากับความงามของวิวข้างทางหรื อ ?
ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว....เราเลยขอให้คนขับรถผู้ใจดีเปลี่ยนเส้นทางขอเข้าไปถนนเล็กๆ ที่ไม่ใช่ โทลเวย์ละกัน...
และนี้คือที่มาของ ถนน สหมายเลข 164 ความงาม ที่ไม่อาจลืม
แรกเริ่มเราก็ขับรถแบบสบายๆ พื้นระนาบปกติ เจอวิวสวยๆ ก็จอดแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
สีเขียวๆ กับยอดภูเขาที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่ ช่างสวยงามเหลือเกิน....
ถนนเล็กๆ ขนาดแค่รถพอสวนกันได้...แต่วิวข้างทางสวยงามเกินบรรยาย
ขับมาเรื่อย ๆ เราก็ไม่แน่ใจว่า หมู่บ้านนี้คือหมู่บ้านอะไร เหมือนกับเป็นจุดท่องเที่ยวซักอย่างหนึ่งของออสเตรีย
เป็นเมืองเล็กๆ มีโรงแรม กับร้านอาหารอยู่ มากมาย (แต่ปิด ทุกร้าน ><)
จอดถ่ายรูปป้ายมา เผื่อจะได้รู้พิกัดว่าตัวเองผ่านมาทางนี้
ถนนเล็กๆ ทอดยาวคดโค้งไปเรื่อยๆ
พ้นจากหมู่บ้าน เล็กๆ นี้มา วิวช่างสวยงามตระการตา
หารู้ไม่ว่าเมื่อพ้นหมู่บ้านนี้ไป เราต้องขึ้นเขา และผ่านเขาอันสูงชัน หลายลูกเลยทีเดียว
ถนนข้างทางเล็ก ๆ มีน้ำป่าไหลลงมา (น้ำที่เกิดจากการละลายตัวของหิมะ)
ถนนเล็ก ๆ คดโค้งไปตามไหล่เขา (ลักษณะ การคดโค้งจะเหมือนกับ ถนนปาย บ้านเราอะค่ะ แต่ที่นี้ชัน กว่า ถนนเเคบเล็กกว่า)
เสียดาย ไม่ได้ถ่ายภาพมาด้วย เนื่องจาก อากาศค่อนข้างครึ้ม อีกทั้งเรากลัวว่าจะมืดแล้วจะขับรถไปไม่ได้ เลยรีบไปนิด ..เสียดายยมาก)
เรา ไต่ระดับมาจนอยู่ บน ณ จุด ที่เรามองเห็น ว่ามันคือยอดภูเขานั้นเองค่ะ
ใช้เวลา กว่า สองชั่วโมง กว่าเราจะ ผ่าน ภูเขาต่างๆ ออกมาได้
เหนื่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ตลอดระยะทาง เราไม่หลับเลยแม้ซักวินาทีเดียว
ถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปอีกครั้ง เราก็ยังยืนยันว่าจะใช้เส้นทางเล็กๆ เหมือนเดิม
"เพราะความสะดวกสะบาย..อาจทำให้เราประหยัดเวลาขึ้น..และอาจทำให้เราเนื่อยน้อยลง.......
....แต่.....บางทีอาจทำให้เราพลาดโอกาสในการพบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย บนโลกกลม ๆ ใบ นี้"
ถึงแล้วนะจ๊ะ Hallstatt