หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[Film] ทรานไซบีเรีย ขบวนรถไฟแห่งความฝัน
กระทู้สนทนา
กล้องฟิล์ม
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สวัสดีค่ะ ได้มีโอกาสนั่งรถไฟจากจีนไปอิตาลี เป็นระยะเวลาประมาณสองเดือน โดยผ่านสิบกว่าประเทศ การเดินทางไกลในระยะเวลาเป็นเดือน แน่นอนนอกจากความสนุกจากการเที่ยวแล้ว ยังมีหลากหลายอารมณ์ เช่น เหงา สับสน ตื่นเต้น พบเจอ พลัดพรากและจากลา จึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์บางส่วนผ่านกล้องฟิล์ม แต่ด้วยเนื่องจากข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ฟิล์มหมด ของเยอะไม่เอื้ออำนวยที่จะเอากล้องออกมาถ่ายได้ตลอด เรื่องราวจึงไม่ค่อยประติดประต่อ จึงขอแชร์เท่าที่มีนะค่ะ ใครอยากรู้หรือมีคำถามเพิ่มเติมสามารถถามได้นะค่ะ ถ้าทราบ ก็จะยินดีตอบค่ะ และด้วยเนื่องจากเจ้าของกระทู้เปนคนขี้อายและปกติไม่ค่อยชอบเล่นโซเชียลเท่าไหร่ แต่ด้วยความตั้งใจตั้งแต่ก่อนเริ่มทริปว่าอยากเล่าเรื่องผ่านอะนาลอคลงพันทิปเพราะคิดว่ารถไฟสายคลาสสิคกับกล้องฟิล์มน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จึงต้องออกมาจากคอมฟอทโซนของตัวเอง แล้วลองดูสักครั้ง
สำหรับจขกท ทริปนี้เป็นทริปในฝัน ฝันไว้เมื่อสมัยยังเรียน สามสี่ปีก่อน เนื่องจากได้อ่านนิตยสาร a day แล้วมีบทสัมภาษณ์ของชายคนนึงที่รักในการเป่าแซกโซโฟน แล้วก็เดินทางโดยใช้รถไฟทรานไซบีเรียเป็นพาหนะข้ามทวีป รายละเอียดอย่างเดียวที่พอจะจำได้คือ บทสัมภาษณ์ได้กล่าวไว้ว่า การนั่งรถไฟสายนี้เหมือนได้นั่งอยู่ในไทม์แมชชีน ถึงแม้จะจำอะไรไม่ค่อยได้มาก แต่การเดินทางนี้ก็ได้ติดอยู่ในความฝัน เหมือนเป็นดังความทรงจำในวัยเด็ก ที่จำได้คร่าวๆ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังมีความสุขและยังจำความรู้ตอนนั้นๆได้ และทุกครั้งที่คิดถึงบทสัมภาษณ์นี้ก็ยังมีแรงกระตุ้นให้เดินทางตาม ไม่ต่างจากครั้งที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้เลย
การที่จะหาเพื่อนร่วมทริปที่จะไปด้วยกันสองเดือนจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ที่ว่ายากเพราะคนส่วนใหญ่ที่ยังเรียนหรือมีงานประจำจะไม่สามารถขาดเรียนหรือลางานได้ ที่ว่าง่ายเพราะมีรุ่นน้องคนนึงที่กำลังจะจบพอดี จึงนัดกันเล่นๆข้ามปีเพื่อทริปนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าทริปนี้จะได้เกิดขึ้นจริงรึป่าว
แต่ในที่สุดโชคชะตาและคนลิขิตก็ช่วยให้ทุกอย่างก็ผ่านพ้นด้วยดี เพื่อนร่วมทางสามารถจบในเวลาที่คาดไว้ (ก่อนเดินทางหนึ่งวัน ยังโดนเรียกตัวไปซ่อมวิชาที่ตกก่อนเรียนจบอยู่เลย) และ เราก็ว่างช่วงนั้นพอดี ความฝันจึงเป็นจริงในที่สุด
การเตรียมตัวทริปนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนโดยแบ่งหน้าที่กัน เป็นก่อนเข้ายุโรปและยุโรป เนื่องจากเวลาเตรียมตัวน้อย จึงวางได้แค่เมืองที่จะไป การเดินทางว่าจะเข้าออกแต่ละประเทศอย่างไร และ ที่พัก นอกนั้นก็ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันว่าแต่ละวันจะไปไหนบ้าง วันไหนที่ขี้เกียจเที่ยวก็จะนอนตื่นสาย นั่งเล่นนอนเล่น เวลาสองเดือนไม่ใช่เที่ยวเพื่อเก็บแต้ม แต่แค่อยากใช้เวลาตามใจ และใช้เวลาให้คุ้มกับสถานที่เที่ยวและความทรงจำให้มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ทริปที่ดีที่สุด แต่จะเป็นทริปที่ตามใจตัวเองที่สุด
ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็จับจองที่นั่งบนรถไฟ แล้วไปกันเลย
ประเทศแรกที่เราจะเริ่มคือจีน อยู่จีนได้พักแถวๆ Hutong ซึ่งเป็นที่พักอาศัยเก่าแก่
ขณะอยู่ปักกิ่งได้มีน้องคนไทยมาพาเที่ยว ระหว่างคิวรออาหารก็เลยแวะมาเดินเล่นในสวนสาธารณะ ซึงต้องเสียเงินค่าเข้าเล็กน้อย
ภายในสวนสาธารณะถือว่าร่มรื่นทีเดียว มีคนมาเล่นดนตรีในสวน ลูกเล็กเด็กแดงมาวิ่งเล่น พ่อลูกมาเล่นโรเลอร์เบลด นั่งมองก็เพลินดี
ก่อนไปมหาลัยปักกิ่งได้ไป Lama Temple
น้องคนไทยยังได้พาไปเดินเล่นในมหาลัยปีกกิ่ง ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถเข้าได้ แต่ต้องให้นักศึกษาแสดงบัตรแล้วพาเข้าไป
คนที่พาไปเป็นน้องของแฟนพี่ที่น้องคนไทยรู้จักอีกที ฟังดูแล้วน่างง แต่ในที่สุดเราก็เข้าไปได้ สวนไม่ทราบชื่อในมหาลัยปักกิ่ง ร่มรื่นมากเลยทีเดียว
ดอกไม้ที่ไม่แน่ใจว่าใช่ซากุระหรือไม่ ใครรู้ช่วยบอกด้วย
คุณปู่ชิว นั่งชิลๆ อยู่ริมน้ำ
คู่รักในมหาลัยปักกิ่ง พาหนะหลักในมหาลัยคงหนีไม่พ้นจักรยาน เพราะด้วยเนื้อที่อันกว้างขวาง เดินกันจนขาลากเลยทีเดียววันนี้
น้องคนไทยได้มอบหมายหนุ่มชาวจีน ชื่อไทยว่านัท มาพาพวกเราสองคนเที่ยว นัทสามารถพูดไทยได้ราวกับnative ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปพระราชวังต้องห้าม ซึ่งนัทเองก็ไม่เคยไปเช่นกัน แต่ด้วยเนื่องจากมีประชุมระดับประเทศจึงปิด และตัดสินใจกันไป Summer Palace กันแทน
นัทเล่าว่าสิ่งที่เห็นตามรูปนี้ ถ้าหลังไหนมีเยอะแสดงว่าเป็นสถานที่สำคัญ
วันสุดท้ายในจีน ก็ได้ไปพระราชวังต้องห้าม
และตอนเย็นก็ได้ดูพิธีการเชิญธงชาติลงตรงจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีชาวบ้านประชาชนจีนหอบกันมาทั้งครอบครัวเพื่อมามุงดูพิธีนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ได้ยินว่าฑูตจีน ที่ประจำในกัมพูชา คือเป็นบุคคลค่อนข้างมีความสำคัญเมื่อเทียบกับฑูตด้วยกันจริงหรือเปล่า
ถ้าเทียบกับฑูตจีนที่ประจำที่ไทยคือ ฑูตจีนที่ประจำกัมพูชาคือพวกสายตรงรัฐบาลปักกิ่งหรือมีความสำคัญ เปรียบเทียบ ประมาณฑูตไทยที่ประจำ USA ประจำอังกฤษ หรือประจำในประเทศสำคัญ อาจจะไม่ได้สำคัญที่สุดแต่สำคั
สมาชิกหมายเลข 9095986
เกี่ยวกับตั๋วรถไฟสายทรานมองโกเลีย ไม่จองล่วงหน้า ได้ไหมคะ
กลางเดือนพ.ค.นี้จะเก็บบัคเกตลิสท์ นั่งรถไฟสายทรานไซบีเรีย หรือ มองโกเลีย จากมอสโควไปปักกิ่ง+เที่ยวเมืองจีน แล้วบินกลับเมืองไทย มีเวลาเหลือเยอะเพราะปิดเทอมค่ะ (เรียนอยู่อเมริกา) สงสัยว่า ถ้าไม่จองล่วง
มันเผา
น้องนาย กรชิต ศิลปินด้านการกุศลของ มูลนิธิหยวนเหมิง 🌻☁️
มูลนิธิการกุศลหยวนเหมิง ได้มีการเปิดตัวแคมเปญสวัสดิการด้านสาธารณกุศล ที่สถานีรถไฟใต้ดินเซินเจิ้น โดยมูลนิธิการกุศลปักกิ่งหยวนเหมิงร่วมกับ QQ Browser และ ศิลปิน ด้านการกุศล 4 คน คือ Meng Ziyi , Liu Zh
แมวสีเทาตุ่น
🚂 การเดินทางโดยรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก!
การเดินทางด้วยรถไฟเป็นสิ่งที่มีมนต์เสน่ห์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของระบบรางในศตวรรษที่ 19 ที่ช่วยเชื่อมโยงเมืองและอารยธรรมเข้าด้วยกัน ประเทศต่างๆ ได้พัฒนาเครือข่า
วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานครับผม
อัจฉริยะ ที่ธรรมดาสามัญที่สุด ใน ปักกิ่ง
เว่ย ตงอี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่งวัย 34 ปี อัจฉริยะคณิตศาสตร์ เงินเดือนหลักแสน ใช้เดือนละ 1,500 กับชีวิตมินิมัลขั้นสุด ย้อนไปในปี 2021 มีคลิปสัมภาษณ์เขาโดยบังเอิญ ซึ่งเขาปรากฏตัวในสภาพผมเผ้ายุ่งเ
สมาชิกหมายเลข 7749566
มีเมืองไหนในจีนที่มีฟิลบรรยากาศคล้ายคลึงกับเมืองในอเมริกา
เมืองในจีนที่คล้ายกับเมืองในอเมริกา แล้วคนอื่นๆ คิดว่าเมืองไหนบ้าง ปักกิ่ง - วอชิงตัน ดีซี เซี่ยงไฮ้ - ชิคาโก้ ฮ่องกง - แอลเอ เซินเจิ้น กวางโจว - นิวยอร์ก มาเก๊า - ลาสเวกัส ซานย่า - ไมอามี่ ต้าเหลียน
สมาชิกหมายเลข 6329304
ทรัมป์ว่าไง ขนาดญี่ปุ่นยังเริ่มเข้าข้างจีน
ญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านจีน ซึ่งสะท้อนถึงการพึ่งพาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่มีต่อปักกิ่ง โดยในปี 2024 จีนคิดเป็น 19.4% ของการส่งออกและ 23.5% ของการนำเข้าข
Froyo
รอบสัมภาษณ์มหาลัยสามารถสัมภาษณ์ได้กี่มหาลัยหรอคะ
หัวข้ออาจจะงงๆ คือหนูอยากรู้ว่าสมมุติเราติดรอบพอร์ต2มหาลัยแล้วจะสอบสัมภาษณ์เราสามารถสอบสัมภาษณ์ได้แค่ที่เดียวหรือสอบได้ทั้งสองที่เลยคะ
สมาชิกหมายเลข 7256732
ปักกิ่งอากาศดีขึ้นมากมั้ยครับ อยากสอบถามคนไทยที่เคยไปหรือเคยอยู่ที่นั่นครับ
เมื่อก่อนเนี่ยซัก15ปีที่แล้ว ปักกิ่งมีฝุ่น PM 2.5ขั้นรุนแรงเกือบทั้งปี ทั้งยังมีพายุทรายจากมองโกเลียด้วยอยากทราบถึงความเห็นของคนไทยในปักกิ่ง คือ ในปัจจุบันค่าฝุ่นลดลงมากมั้ยอากาศดีขึ้นกว่าเดิมบ้างมั้ย
สมาชิกหมายเลข 5947390
จีนระวังตัวไว้ให้ดีนะ, เดี๋ยวถูกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสั่งโดนระเบิด 2 จุดจุดคือปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้
ผมดูแล้ว หากจีนกร่างไปมากกว่านี้ หรือใช้แนวรบแบบจิตวิทยา ชักชวนสมัครพรรคพวกทั้งลาวกัมพูชาญี่ปุ่นหรือยุโรปต่อต้านสหรัฐอเมริกา ระวัง, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คุณปู่ Goodness Trump จะโยนระเบิด 2 ลูก
สมาชิกหมายเลข 8737158
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
กล้องฟิล์ม
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2.3 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[Film] ทรานไซบีเรีย ขบวนรถไฟแห่งความฝัน
สำหรับจขกท ทริปนี้เป็นทริปในฝัน ฝันไว้เมื่อสมัยยังเรียน สามสี่ปีก่อน เนื่องจากได้อ่านนิตยสาร a day แล้วมีบทสัมภาษณ์ของชายคนนึงที่รักในการเป่าแซกโซโฟน แล้วก็เดินทางโดยใช้รถไฟทรานไซบีเรียเป็นพาหนะข้ามทวีป รายละเอียดอย่างเดียวที่พอจะจำได้คือ บทสัมภาษณ์ได้กล่าวไว้ว่า การนั่งรถไฟสายนี้เหมือนได้นั่งอยู่ในไทม์แมชชีน ถึงแม้จะจำอะไรไม่ค่อยได้มาก แต่การเดินทางนี้ก็ได้ติดอยู่ในความฝัน เหมือนเป็นดังความทรงจำในวัยเด็ก ที่จำได้คร่าวๆ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังมีความสุขและยังจำความรู้ตอนนั้นๆได้ และทุกครั้งที่คิดถึงบทสัมภาษณ์นี้ก็ยังมีแรงกระตุ้นให้เดินทางตาม ไม่ต่างจากครั้งที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้เลย
การที่จะหาเพื่อนร่วมทริปที่จะไปด้วยกันสองเดือนจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ที่ว่ายากเพราะคนส่วนใหญ่ที่ยังเรียนหรือมีงานประจำจะไม่สามารถขาดเรียนหรือลางานได้ ที่ว่าง่ายเพราะมีรุ่นน้องคนนึงที่กำลังจะจบพอดี จึงนัดกันเล่นๆข้ามปีเพื่อทริปนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าทริปนี้จะได้เกิดขึ้นจริงรึป่าว
แต่ในที่สุดโชคชะตาและคนลิขิตก็ช่วยให้ทุกอย่างก็ผ่านพ้นด้วยดี เพื่อนร่วมทางสามารถจบในเวลาที่คาดไว้ (ก่อนเดินทางหนึ่งวัน ยังโดนเรียกตัวไปซ่อมวิชาที่ตกก่อนเรียนจบอยู่เลย) และ เราก็ว่างช่วงนั้นพอดี ความฝันจึงเป็นจริงในที่สุด
การเตรียมตัวทริปนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนโดยแบ่งหน้าที่กัน เป็นก่อนเข้ายุโรปและยุโรป เนื่องจากเวลาเตรียมตัวน้อย จึงวางได้แค่เมืองที่จะไป การเดินทางว่าจะเข้าออกแต่ละประเทศอย่างไร และ ที่พัก นอกนั้นก็ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันว่าแต่ละวันจะไปไหนบ้าง วันไหนที่ขี้เกียจเที่ยวก็จะนอนตื่นสาย นั่งเล่นนอนเล่น เวลาสองเดือนไม่ใช่เที่ยวเพื่อเก็บแต้ม แต่แค่อยากใช้เวลาตามใจ และใช้เวลาให้คุ้มกับสถานที่เที่ยวและความทรงจำให้มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ทริปที่ดีที่สุด แต่จะเป็นทริปที่ตามใจตัวเองที่สุด
ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็จับจองที่นั่งบนรถไฟ แล้วไปกันเลย
ประเทศแรกที่เราจะเริ่มคือจีน อยู่จีนได้พักแถวๆ Hutong ซึ่งเป็นที่พักอาศัยเก่าแก่
ขณะอยู่ปักกิ่งได้มีน้องคนไทยมาพาเที่ยว ระหว่างคิวรออาหารก็เลยแวะมาเดินเล่นในสวนสาธารณะ ซึงต้องเสียเงินค่าเข้าเล็กน้อย
ภายในสวนสาธารณะถือว่าร่มรื่นทีเดียว มีคนมาเล่นดนตรีในสวน ลูกเล็กเด็กแดงมาวิ่งเล่น พ่อลูกมาเล่นโรเลอร์เบลด นั่งมองก็เพลินดี
ก่อนไปมหาลัยปักกิ่งได้ไป Lama Temple
น้องคนไทยยังได้พาไปเดินเล่นในมหาลัยปีกกิ่ง ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถเข้าได้ แต่ต้องให้นักศึกษาแสดงบัตรแล้วพาเข้าไป
คนที่พาไปเป็นน้องของแฟนพี่ที่น้องคนไทยรู้จักอีกที ฟังดูแล้วน่างง แต่ในที่สุดเราก็เข้าไปได้ สวนไม่ทราบชื่อในมหาลัยปักกิ่ง ร่มรื่นมากเลยทีเดียว
ดอกไม้ที่ไม่แน่ใจว่าใช่ซากุระหรือไม่ ใครรู้ช่วยบอกด้วย
คุณปู่ชิว นั่งชิลๆ อยู่ริมน้ำ
คู่รักในมหาลัยปักกิ่ง พาหนะหลักในมหาลัยคงหนีไม่พ้นจักรยาน เพราะด้วยเนื้อที่อันกว้างขวาง เดินกันจนขาลากเลยทีเดียววันนี้
น้องคนไทยได้มอบหมายหนุ่มชาวจีน ชื่อไทยว่านัท มาพาพวกเราสองคนเที่ยว นัทสามารถพูดไทยได้ราวกับnative ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปพระราชวังต้องห้าม ซึ่งนัทเองก็ไม่เคยไปเช่นกัน แต่ด้วยเนื่องจากมีประชุมระดับประเทศจึงปิด และตัดสินใจกันไป Summer Palace กันแทน
นัทเล่าว่าสิ่งที่เห็นตามรูปนี้ ถ้าหลังไหนมีเยอะแสดงว่าเป็นสถานที่สำคัญ
วันสุดท้ายในจีน ก็ได้ไปพระราชวังต้องห้าม
และตอนเย็นก็ได้ดูพิธีการเชิญธงชาติลงตรงจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีชาวบ้านประชาชนจีนหอบกันมาทั้งครอบครัวเพื่อมามุงดูพิธีนี้