สวัสดีค่ะ เราขอมาอัพเดตชีวิตเราตอนนี้ก่อนนะคะ
ต่อจากกระทู้นี้ อายุ 20 ปี กับหนี้ เกือบสี่แสน ทำไงดีคะ
http://m.pantip.com/topic/33681701
ตั้งแต่เราตั้งกระทู้มา เราได้รับความรู้ และแนวคิดมากๆเลยค่ะ
เราไม่โกรธที่โดยด่า ไม่โกรธที่โดนว่า
เพราะที่ผ่านมาเราทำตัวเราเองทั้งนั้น
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
เข้าเรื่องเลยดีกว่านะคะ เรื่องการแก้ปัญหา
จขกท. แฟน และครอบครัวตัดสินใจแก้ปัญหาดังนี้ค่ะ
1) จากเมื่อก่อนไม่เคยทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายเลย ตอนนี้เริ่มทำแล้วค่ะ หัดทำรายรับ-รายจ่าย แม้กระทั่งค่าหมากฝรั่งหรือซื้อน้ำเปล่ากิน ก็จดค่ะ
ทำแบบนี้ทำให้เราเห็นมากขึ้นค่ะ เราตั้งงบไว้จะใช้เงินวันละ 100 บาท ไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเฉยๆค่ะอย่างบางวันใช้เงินเกิน ก็จะกลับมาดูค่ะ จะรู้ตัวทันทีว่าเปลืองแล้วนะ เราจะเริ่มต้นจากตัวเราเองก่อนค่ะ
2) หลายๆคนด่า ว่า บ่น เราเรื่องแฟนและการแต่งรถของแฟนเรา บางคนบอกผัวอย่างงั้น ผัวอย่างนี้ เรายังไม่แต่งงานกันค่ะ ตอนนี้เราเปิดอกคุยกับเค้าแล้วค่ะ ว่าถ้าไม่ช่วยกัน เราคงไม่ไหวอีกต่อไป เลิกคือเลิก จบคือจบ ถือว่าเราโง่เอง
อันดับแรก เราถอดเครื่องเสียงขายค่ะ ได้เงินมาส่วนนึงให้พ่อไปค่ะ เอาไปโป๊ะหนี้ 50,000 บาท โป๊ะไม่หมด แต่ลดต้นไป = ลดดอกด้วยค่ะ ขายมา 30,000 ค่ะ
อันดับสอง แฟนเราเป็นแมสเซนเจอร์ + อาชีพรับจ๊อบนอกส่งเอกสารนิดหน่อย มีทุกวัน ขั้นต่ำ 300-500 บาทค่ะ บางวันมากกว่านึ้ แต่นานๆครั้งค่ะ เรากำหนดให้เค้าให้เราเก็บวันละ 300 ค่ะ เป็นสิ่งที่ต้องให้เราทุกวัน เงินส่วนนี้เราจะรวมไว้จ่ายหนี้ค่ะ ตอนนี้เราจะให้พ่อจัดการค่ะ จะไม่ยุ่ง เพราะคุณพ่อเราทราบดีควรจ่ายอันไหนก่อน-หลัง มากกว่าเรา
คุณพ่อจะเน้นไปทางดอกร้อยละ 10 มากกว่าค่ะ
ส่งไปเป็นแสนแล้ว เงินต้นไม่ลด
= เงินส่วนนี้ต่อเดือนเราจะได้ 9,000 บาทค่ะ อยู่ในช่วงทดลองทำ ตอนนี้ส่งเงินให้เราทุกวันไม่มีขาดค่ะ
อันดับสาม เงินเดือนแฟนเราตกอยู่ที่ 12,000/เดือน อันนี้เรายุ่งมากไม่ได้ เพราะเค้าก็มีพ่อแม่เค้าต้องดูแล รวมถึงผ่อนมอเตอร์ไซค์ของเค้า เราจะไม่ยุ่งค่ะ
3) เรื่องดอกรายวันที่ทุกคนเข้าใจ อันนี้เราอธิบายไม่ละเอียดเอง ขออภัยด้วยค่ะ ดอกรายวันที่เราบอกเดือนละ 8,000 ก็คือ
เรากู้เค้ามา 8,000 บาท
ดอก 20% = 1,600 บาท
= รวมต้น+ดอก 9600.-
หารด้วย 24 วัน = ส่งวันละ 400.- ค่ะ
เป็นดอกที่ส่งรายวันแบบลดต้นและดอกค่ะ
อันนี้อยู่ที่ตัวเราจะกู้หรือไม่กู้ ตอนนี้ยังไม่กู้ค่ะ
เพิ่งส่งครบไป เลยยังไม่อยากเพิ่มภาระให้ตัวเอง
ตอนนี้บอกความจริงคุณพ่อทุกอย่างแล้ว
ท่านบอกให้ตัดตรงนี้ไป และท่านให้เรารับปากว่าจะไม่เอารายวันแบบนี้อีกค่ะ ท่านบอกว่า ถ้าไม่มีกินหรือไม่มีใช้จริงๆให้มาเอาที่ท่านค่ะ ท่านไม่ปล่อยให้ลูกตัวเองอด
เดี๋ยวนี้เวลาคุยกันท่านจะย้ำเสมอว่า " ป๊าบอกแล้วนะ ถ้าข้างหน้าเป็นเหว มีมีด มีดาบปักอยู่ ลูกจะฆ่าตัวตาย โดดลงไป ป๊าก็ช่วยไม่ได้ ทุกอย่างต่อไปป๊าจะวางแผนให้ลูกเอง " เราเชื่อพ่อค่ะ ตอนนี้ พ่อจะชี้ให้ไปทางไหนตอนนี้ เราจะทำตามหมดค่ะ ไม่มีข้อแม้เลย พ่อเราเป็นคนจีนค่ะ พ่อเราตอนนี้ทำอาชีพค้าขายค่ะ เลยไม่แปลกที่ท่านจะสนับสนุนเรา แต่เราผิดเอง ทุกวันนี้ท่านยังโทษตัวท่านว่าทำให้เราเป็นแบบนี้ เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยค่ะ มันคือความผิดเรา ความผิดเราคนเดียว ได้แต่ขอขมาพ่อกับแม่ค่ะ และสัญญาจะไม่ทำอีก
4) หลายๆคนถามเราว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ตอนนี้เรายังไม่กลับไปเรียนค่ะ และบางคนที่ว่าเราว่าพ่อแม่ส่งเรียนไม่เรียน เราไม่เคยขอค่าเทอมพ่อกับแม่ค่ะ ขายของส่งตัวเองเรียนจนจบ ปวส. เหลือแค่ต่อปริญญาตรีค่ะ เรียนมายาว เราเลยอยากพักค่ะอาจจะไปต่อปีหน้า อาชีพเราตอนนี้ เราก็คงเป็นแม่ค้าออนไลน์อยู่ค่ะ ถามว่าไม่มีทุนส่งของยังไง เราเริ่มจากฝากร้านใหญ่ส่ง ตอนนี้ก็ฝากส่งค่ะ แต่อย่างที่แจ้งมันไม่เหมือนเราส่งเอง ส่งให้ลูกค้าเราช้า บางทีก็ตรงเวลาก็มี พักหลังจะช้ามาก จะหาร้านใหม่เราก็ไม่ไว้ใจ เพราะลูกค้าเราพอสมควร อีกอย่างเรารับร้านนี้มาตลอด ขายราคานี่ ถ้าขึ้นราคาลูกค้าคงไม่เอา ตอนนี้ฝากส่งต่อไปค่ะ
อาชีพเสริมอีกอย่าง เราขายของจะมีเวลาเล่นเน็ตเล่นคอมทั้งวัน เรารับทำรายงานค่ะ รับพิมพ์งาน ปริ้นงาน ถ่ายเอกสาร ไม่ได้ร้านใหญ่นะคะ เรามีเครื่องปริ้นส์แบบ 3in1 เลยเอามาทำเงินค่ะ ส่วนมากก้อคนแถวคอนโดแหละค่ะ เพราะถ้าไม่ถ่ายเอกสารหรือปริ้นงานก้อเดินไป 3 ซอย เราคิดค่าถ่ายแผ่นละ 2฿ ค่ะ
แพงไหม แพงค่ะ แต่ก็มีมาเรียกใช้บริการเรื่อยๆ
ช่วงบ่ายเราขายไอติมทอดค่ะ แฟนจะแอบแว๊บมาขนของเปิดร้าน และช่วยพักนึงค่ะ รายได้ไม่เยอะ ขายถูก แต่เน้นกำไรน้อย แต่อยากอยู่นานๆค่ะ เวียนไปตามหน้าโรงเรียนต่างๆ ไม่ให้จำเจค่ะ
5) เรื่องรถ เราเอารายได้จากการขายของของเรา มาผ่อนค่ะ เดือนละ 6,000 บาท แต่รถเราบางทีก็มีงานนะคะ บางทีมีคนมาจ้างส่งของ เราก็ได้ไปค่ะ พ่อแนะนำให้กัดฟันผ่อนต่อค่ะ
6) หนี้ญาติ เราเปิดใจคุยกับญาติแล้วค่ะ เค้าไม่มีปัญหา แต่แอบบ่นเรา และว่าเราทำไมไม่มาบอกเค้าแต่แรก เค้าไม่ใช่คนใจร้ายบอกเพียงแต่ว่าตั้งตัวได้ค่อยเอามาผ่อน เงินส่วนที่เค้าให้มาเป็นเงินเย็น ไม่รีบใช้อะไร เค้าบอกยังไงก็ให้เราใช้หนี้เงินดอกให้หมดก่อน และมีค่อยมาผ่อน เพราะยังไงก็ญาติกัน เค้ามีเราเป็นหลานคนเดียว ไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว
ตั้งแต่เราตั้งกระทู้นี้มา เราได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างมาก จากที่จนมุมไม่รู้จะเริ่มจากอะไร อันไหนก่อน อันไหนหลัง ตอนนี้เราจับทางได้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเวิร์คไหมที่ทำแบบนี้ เราไม่อยากสร้างภาระให้ครอบครัวเราเพิ่ม เราจะพยายามทำให้ได้ เราจะเริ่มต้นด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่จากคนอื่น ทยอยผ่อนหนี้ไปจนครบ ปรับปรุงนิสัย หรือที่เรียกว่า "สันดาน" ที่ไม่ดีของเรา กระทู้ของเราอาจจะเป็นข้อคิด เป็นบทเรียน หรือเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับการใช้เงิน และการบริหารเงินค่ะ
ถามว่าเราจะเลิกไหม กับการสร้างธุรกิจของเรา เราไม่ล้มเลิกค่ะ แต่เราจะเป็นคนเริ่มต้นเอง จะค่อยๆเก็บเงินเอง เราน่าจะภูมิใจมากกว่า ที่ธุรกิจของเราก่อตั้งเพราะเงินของเราเอง เงินที่เราลำบากหามา มันคงจะดูเป็นธุรกิจที่มีค่ากับเรามากกว่า เพราะเราขึ้นบันไดไม่ได้ก้าวทีละขั้น เราดันก้าวข้ามขั้นไปเยอะ เพราะหวังจะถึงชั้นบนเร็วๆ
ผลออกมาคือตกบันได เลยเจ็บแบบนี้
เพื่อนๆว่าที่เราทำอยู่ตอนนี้ แนวทางที่เราวางไว้ โอเคไหมคะ
สุดท้าย เราขอบคุณคำชม ของคุณคำด่า ขอบคุณกำลังใจค่ะ
ต่อจาก อายุ 20 เป็นหนี้เกือบสี่แสน ทำไงดีคะ
ต่อจากกระทู้นี้ อายุ 20 ปี กับหนี้ เกือบสี่แสน ทำไงดีคะ http://m.pantip.com/topic/33681701
ตั้งแต่เราตั้งกระทู้มา เราได้รับความรู้ และแนวคิดมากๆเลยค่ะ
เราไม่โกรธที่โดยด่า ไม่โกรธที่โดนว่า
เพราะที่ผ่านมาเราทำตัวเราเองทั้งนั้น
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
เข้าเรื่องเลยดีกว่านะคะ เรื่องการแก้ปัญหา
จขกท. แฟน และครอบครัวตัดสินใจแก้ปัญหาดังนี้ค่ะ
1) จากเมื่อก่อนไม่เคยทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายเลย ตอนนี้เริ่มทำแล้วค่ะ หัดทำรายรับ-รายจ่าย แม้กระทั่งค่าหมากฝรั่งหรือซื้อน้ำเปล่ากิน ก็จดค่ะ
ทำแบบนี้ทำให้เราเห็นมากขึ้นค่ะ เราตั้งงบไว้จะใช้เงินวันละ 100 บาท ไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเฉยๆค่ะอย่างบางวันใช้เงินเกิน ก็จะกลับมาดูค่ะ จะรู้ตัวทันทีว่าเปลืองแล้วนะ เราจะเริ่มต้นจากตัวเราเองก่อนค่ะ
2) หลายๆคนด่า ว่า บ่น เราเรื่องแฟนและการแต่งรถของแฟนเรา บางคนบอกผัวอย่างงั้น ผัวอย่างนี้ เรายังไม่แต่งงานกันค่ะ ตอนนี้เราเปิดอกคุยกับเค้าแล้วค่ะ ว่าถ้าไม่ช่วยกัน เราคงไม่ไหวอีกต่อไป เลิกคือเลิก จบคือจบ ถือว่าเราโง่เอง
อันดับแรก เราถอดเครื่องเสียงขายค่ะ ได้เงินมาส่วนนึงให้พ่อไปค่ะ เอาไปโป๊ะหนี้ 50,000 บาท โป๊ะไม่หมด แต่ลดต้นไป = ลดดอกด้วยค่ะ ขายมา 30,000 ค่ะ
อันดับสอง แฟนเราเป็นแมสเซนเจอร์ + อาชีพรับจ๊อบนอกส่งเอกสารนิดหน่อย มีทุกวัน ขั้นต่ำ 300-500 บาทค่ะ บางวันมากกว่านึ้ แต่นานๆครั้งค่ะ เรากำหนดให้เค้าให้เราเก็บวันละ 300 ค่ะ เป็นสิ่งที่ต้องให้เราทุกวัน เงินส่วนนี้เราจะรวมไว้จ่ายหนี้ค่ะ ตอนนี้เราจะให้พ่อจัดการค่ะ จะไม่ยุ่ง เพราะคุณพ่อเราทราบดีควรจ่ายอันไหนก่อน-หลัง มากกว่าเรา
คุณพ่อจะเน้นไปทางดอกร้อยละ 10 มากกว่าค่ะ
ส่งไปเป็นแสนแล้ว เงินต้นไม่ลด
= เงินส่วนนี้ต่อเดือนเราจะได้ 9,000 บาทค่ะ อยู่ในช่วงทดลองทำ ตอนนี้ส่งเงินให้เราทุกวันไม่มีขาดค่ะ
อันดับสาม เงินเดือนแฟนเราตกอยู่ที่ 12,000/เดือน อันนี้เรายุ่งมากไม่ได้ เพราะเค้าก็มีพ่อแม่เค้าต้องดูแล รวมถึงผ่อนมอเตอร์ไซค์ของเค้า เราจะไม่ยุ่งค่ะ
3) เรื่องดอกรายวันที่ทุกคนเข้าใจ อันนี้เราอธิบายไม่ละเอียดเอง ขออภัยด้วยค่ะ ดอกรายวันที่เราบอกเดือนละ 8,000 ก็คือ
เรากู้เค้ามา 8,000 บาท
ดอก 20% = 1,600 บาท
= รวมต้น+ดอก 9600.-
หารด้วย 24 วัน = ส่งวันละ 400.- ค่ะ
เป็นดอกที่ส่งรายวันแบบลดต้นและดอกค่ะ
อันนี้อยู่ที่ตัวเราจะกู้หรือไม่กู้ ตอนนี้ยังไม่กู้ค่ะ
เพิ่งส่งครบไป เลยยังไม่อยากเพิ่มภาระให้ตัวเอง
ตอนนี้บอกความจริงคุณพ่อทุกอย่างแล้ว
ท่านบอกให้ตัดตรงนี้ไป และท่านให้เรารับปากว่าจะไม่เอารายวันแบบนี้อีกค่ะ ท่านบอกว่า ถ้าไม่มีกินหรือไม่มีใช้จริงๆให้มาเอาที่ท่านค่ะ ท่านไม่ปล่อยให้ลูกตัวเองอด
เดี๋ยวนี้เวลาคุยกันท่านจะย้ำเสมอว่า " ป๊าบอกแล้วนะ ถ้าข้างหน้าเป็นเหว มีมีด มีดาบปักอยู่ ลูกจะฆ่าตัวตาย โดดลงไป ป๊าก็ช่วยไม่ได้ ทุกอย่างต่อไปป๊าจะวางแผนให้ลูกเอง " เราเชื่อพ่อค่ะ ตอนนี้ พ่อจะชี้ให้ไปทางไหนตอนนี้ เราจะทำตามหมดค่ะ ไม่มีข้อแม้เลย พ่อเราเป็นคนจีนค่ะ พ่อเราตอนนี้ทำอาชีพค้าขายค่ะ เลยไม่แปลกที่ท่านจะสนับสนุนเรา แต่เราผิดเอง ทุกวันนี้ท่านยังโทษตัวท่านว่าทำให้เราเป็นแบบนี้ เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยค่ะ มันคือความผิดเรา ความผิดเราคนเดียว ได้แต่ขอขมาพ่อกับแม่ค่ะ และสัญญาจะไม่ทำอีก
4) หลายๆคนถามเราว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ตอนนี้เรายังไม่กลับไปเรียนค่ะ และบางคนที่ว่าเราว่าพ่อแม่ส่งเรียนไม่เรียน เราไม่เคยขอค่าเทอมพ่อกับแม่ค่ะ ขายของส่งตัวเองเรียนจนจบ ปวส. เหลือแค่ต่อปริญญาตรีค่ะ เรียนมายาว เราเลยอยากพักค่ะอาจจะไปต่อปีหน้า อาชีพเราตอนนี้ เราก็คงเป็นแม่ค้าออนไลน์อยู่ค่ะ ถามว่าไม่มีทุนส่งของยังไง เราเริ่มจากฝากร้านใหญ่ส่ง ตอนนี้ก็ฝากส่งค่ะ แต่อย่างที่แจ้งมันไม่เหมือนเราส่งเอง ส่งให้ลูกค้าเราช้า บางทีก็ตรงเวลาก็มี พักหลังจะช้ามาก จะหาร้านใหม่เราก็ไม่ไว้ใจ เพราะลูกค้าเราพอสมควร อีกอย่างเรารับร้านนี้มาตลอด ขายราคานี่ ถ้าขึ้นราคาลูกค้าคงไม่เอา ตอนนี้ฝากส่งต่อไปค่ะ
อาชีพเสริมอีกอย่าง เราขายของจะมีเวลาเล่นเน็ตเล่นคอมทั้งวัน เรารับทำรายงานค่ะ รับพิมพ์งาน ปริ้นงาน ถ่ายเอกสาร ไม่ได้ร้านใหญ่นะคะ เรามีเครื่องปริ้นส์แบบ 3in1 เลยเอามาทำเงินค่ะ ส่วนมากก้อคนแถวคอนโดแหละค่ะ เพราะถ้าไม่ถ่ายเอกสารหรือปริ้นงานก้อเดินไป 3 ซอย เราคิดค่าถ่ายแผ่นละ 2฿ ค่ะ
แพงไหม แพงค่ะ แต่ก็มีมาเรียกใช้บริการเรื่อยๆ
ช่วงบ่ายเราขายไอติมทอดค่ะ แฟนจะแอบแว๊บมาขนของเปิดร้าน และช่วยพักนึงค่ะ รายได้ไม่เยอะ ขายถูก แต่เน้นกำไรน้อย แต่อยากอยู่นานๆค่ะ เวียนไปตามหน้าโรงเรียนต่างๆ ไม่ให้จำเจค่ะ
5) เรื่องรถ เราเอารายได้จากการขายของของเรา มาผ่อนค่ะ เดือนละ 6,000 บาท แต่รถเราบางทีก็มีงานนะคะ บางทีมีคนมาจ้างส่งของ เราก็ได้ไปค่ะ พ่อแนะนำให้กัดฟันผ่อนต่อค่ะ
6) หนี้ญาติ เราเปิดใจคุยกับญาติแล้วค่ะ เค้าไม่มีปัญหา แต่แอบบ่นเรา และว่าเราทำไมไม่มาบอกเค้าแต่แรก เค้าไม่ใช่คนใจร้ายบอกเพียงแต่ว่าตั้งตัวได้ค่อยเอามาผ่อน เงินส่วนที่เค้าให้มาเป็นเงินเย็น ไม่รีบใช้อะไร เค้าบอกยังไงก็ให้เราใช้หนี้เงินดอกให้หมดก่อน และมีค่อยมาผ่อน เพราะยังไงก็ญาติกัน เค้ามีเราเป็นหลานคนเดียว ไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว
ตั้งแต่เราตั้งกระทู้นี้มา เราได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างมาก จากที่จนมุมไม่รู้จะเริ่มจากอะไร อันไหนก่อน อันไหนหลัง ตอนนี้เราจับทางได้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเวิร์คไหมที่ทำแบบนี้ เราไม่อยากสร้างภาระให้ครอบครัวเราเพิ่ม เราจะพยายามทำให้ได้ เราจะเริ่มต้นด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่จากคนอื่น ทยอยผ่อนหนี้ไปจนครบ ปรับปรุงนิสัย หรือที่เรียกว่า "สันดาน" ที่ไม่ดีของเรา กระทู้ของเราอาจจะเป็นข้อคิด เป็นบทเรียน หรือเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับการใช้เงิน และการบริหารเงินค่ะ
ถามว่าเราจะเลิกไหม กับการสร้างธุรกิจของเรา เราไม่ล้มเลิกค่ะ แต่เราจะเป็นคนเริ่มต้นเอง จะค่อยๆเก็บเงินเอง เราน่าจะภูมิใจมากกว่า ที่ธุรกิจของเราก่อตั้งเพราะเงินของเราเอง เงินที่เราลำบากหามา มันคงจะดูเป็นธุรกิจที่มีค่ากับเรามากกว่า เพราะเราขึ้นบันไดไม่ได้ก้าวทีละขั้น เราดันก้าวข้ามขั้นไปเยอะ เพราะหวังจะถึงชั้นบนเร็วๆ
ผลออกมาคือตกบันได เลยเจ็บแบบนี้
เพื่อนๆว่าที่เราทำอยู่ตอนนี้ แนวทางที่เราวางไว้ โอเคไหมคะ
สุดท้าย เราขอบคุณคำชม ของคุณคำด่า ขอบคุณกำลังใจค่ะ