สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรกของชีวิตนะคะ บอกเลยตื่นเต้นมากๆๆๆ เคยแต่อ่านกระทู้คนอื่นๆ เขินช้าง อิจฉาบ้าง เห็นใจบ้าง เกลียดบ้าง วันๆนึงก็อ่านกระทู้มากกว่า หนึ่งกระทู้ขึ้นไป ไม่ค่อยจะมีกระทู้ที่พลาด เป็นเหมือนบ้านอีกหลังเลยละ วันๆก็สิงอยู่แต่ในพันทิป (ว่าง่ายคือ เป็นชะนีชอบกินเผือก)
จริงๆก็คิดอยู่นานเลยละว่าจะเอาลงพันทิปดีมั้ยน๊าาา แอบกลัวฟี๊ดแบคเบาๆ แต่สุดท้ายก็โอเคลงก็ลงไปเถอะครั้งหนึ่งในชีวิตเผื่อจะมีคนเอาเรื่องเราไปทำเป็นคลับฟรายด์เดย์เดอะซีรีย์บ้าง 555555555555 เดี๋ยวๆมโนไปไกลแล้วป้า
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่หน้าตาธรรมดามากถึงขั้นสุดคนหนึ่งนี่แหละไม่ได้สวยเริศประเสริฐศรีอะไร พอเรียนมหาลัยก็ดันสอบติดที่กรุงเทพฯเมืองเทพสร้าง ขอบอกก่อนว่าตอน ม.ปลายก็เคยมีแฟนนะ คาดว่าแฟนเก่าคงหลงผิด 555555 แต่พอขึ้นมหาลัยก็เลิกกันไปในทันทีตอนรับน้อง เฮิร์ทอยู่นานเฮิร์ทจนผอมเลย อิอิ พอมาตอนนี้ก็คิดนะว่าตอนนั้นเป็นอะไรขนาดนั้น คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกัน ปีหนึ่งก็ใช้ชีวิตปกติทั่วๆไป ก็พอมีคนมาคุยๆบ้างแต่ก็ไม่ได้โอเคกับใครซักคน เพราะเริ่มจะเข็ดกับเรื่องที่ผ่านมาเหมือนกัน โสดๆไปยาวๆนานๆ
พอมาปี 2 ก็ขึ้นมาเป็นพี่ละ เริ่มมีน้องยกมือไหว้ทักทาย ช่วงรับน้องรึช่วงเปิดเทอมนี่เป็นอะไรที่คึกคักมากๆ เพราะเราจะได้ยินเสียงสวัสดีจากน้องๆปีหนึ่งดังลั่นสนั่นมหาลัยไม่ว่าไปไปมุมไหนๆก็เจอ รับไหว้กันจนเหนื่อยเลยละ 5555555555555 เทอมนี้รีบกลับมากรุงเทพฯก่อนเปิดเทอมเกือบเดือนเลยละ เพราะจะต้องไปเป็นตัวแทนคณะไปรับน้องร่วมกับพี่ๆที่ทำงานสภานิสิต เป็นน้องคณะใหม่เพิ่งเปิดเลยต้องมีสภาฯมาดูแล คณะเราก็เข้าร่วมรับน้องคณะใหม่ ชื่อคณะใหม่นี่ก็ยาวมากๆ ถึงขั้นต้องท่องกันสามวันเเปดวันเลย ก่อนรับน้องก็มีการจัดเตรียม คุยงาน เตรียมกิจกรรมต่างๆกันไป ก็มีการวางแผนงาน และก็เลือกหน้าที่แต่ละฝ่ายไป เราก็มีหน้าที่นะเป็นหน้าที่ที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย หน้าที่นี้ได้มาเพราะหน้าตาล้วนๆ 5555555555 หลังจากนั้นกิจกรรมรับน้องก็ผ่านเลยไป... ชีวิตก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
มหาลัยมีค่าย เป็นค่ายของมหาลัยที่จัดขึ้นให้น้องๆปีหนึ่ง เหมือนเป็นค่ายที่เตรียมความพร้อมให้กับน้องๆที่น้องๆทุกคนจะต้องผ่านค่ายนี้เพราะถ้าไม่ได้เข้าค่ายนี้ก็จะไม่จบหลักสูตร(รึเปล่า?) ไม่แน่ใจ เราเองก็ต้องไปดูแลน้องๆในฐานะพี่ ก็ต้องไปค่ายด้วย ค่ายก็หลายวันมาก ก่อนถึงวันมีค่ายเราก็ถูกส่งตัวไปก่อนล่วงหน้า (ความจริงคือเหมือนไปอบรม เวิร์คช็อปนี่แหละ) ก็มีเพื่อนๆพี่ๆอีก 4 คนไปด้วย ไปเป็นตัวแทนของคณะใหม่ ตื่นเต้นๆๆ จะต้องไปเจอพี่ๆเพื่อนต่างคณะอีกหลายคณะ ไปถึงวันแรกก็ไม่มีอะไรมากเหมือนเป็นการพูดคุยรายละเอียด เพราะปีนี้มีกิจกรรมใหม่และเราก็เป็น ......กลางมหาลัยรุ่นที่ 1 มีเสื้อด้วยๆ ลิมิเต็ด อิดิชั่นสุดๆ เเต่เสื้อตัวใหญ่ไปนิด เราใส่ไปนี่ยังกะผ้าห่ม และมีอยู่วันนึงที่เราต้องไปเวิร์คช็อปกันโดยการวิ่งรอบๆ ม เพราะกิจกรรมใหม่ของปีนี้นี่ก็ต้องวิ่งรอบ ม โอ๊ยยย ทั้งร้อน เหนื่อย หอบยังกะป้าเลยยย หน้านี่ฉ่ำเยิ้มเป็นสังขยา แต่ก็สนุกดีนะได้เพื่อนใหม่ได้รู้จักเพื่อนเพิ่ม แถมดำขึ้นอีกด้วย TT (ปกติก็ขาวนักนี่ ฮึๆ) หลังจากทุกคนเวิร์คช็อปเสร็จก็กลับมารวมตัว กินข้าว พักผ่อนกันที่ห้องที่ใช้ประชุมกับพี่ๆจากองค์การฯ โดยมีพี่ N ซึ่งเป็นเฮดหลักในกิจกรรมนี้ เรากับเพื่อนๆก็กลับมานั่งพักผ่อน และพูดคุยกับพี่ N นี่แหละ ก็คุยกันทั่วๆไป
สักพักเราก็อยากดื่มน้ำขึ้นมา เลยเดินไปกดน้ำที่เขาเตรียมใส่แทงค์น้ำไว้ให้ดื่ม ก็มีคนยืนต่อแถวยาวมากหลายร้อยกิโล (เว่อร์ไว้เพื่อรรถรสในการอ่าน)อยู่หลายคน โอ๊ยยย หิวน้ำจนคอแห้ง แห้งจนจะเป็นผงอยู่แล้ว แดดที่นี่ก็ร้อนยังกะทะเลทรายซาฮาร่า คิดอยู่ว่าถ้ามีอูฐมาเดินที่นี่ก็ไม่แปลก เวอร์ไปนิด เราก็ต่อแถวไปเรื่อยๆจนจะถึงคิวเราได้ดื่มน้ำละ อีกแค่นิดเดียว ทนๆๆๆ คนที่ยืนหน้าเรากดน้ำแล้วววววว สักพักคนที่ยืนหน้าเราก็ส่งน้ำแก้วที่เขากดให้เรา เราก็อึ้งงงงง (เพลง รักแรกพบขึ้นมาในทันที เราก็คิดในใจ โห้ยยยย ผู้ชายแสนดี พ่อสุภาพบุรุษ คนๆนี้น่าสนใจซะแล้ว ) เราก็รับแก้วน้ำจากเค้าแล้วก็บอกขอบคุณเขาไป จากนั้นก็ดื่ม ดื่มแบบคนตาอดตายอยากมากๆอะ ไม่อายคนที่ยืนตรงหน้าเลย (หมดกันงานแอ๊ปงานเรียบร้อย เรียบร้อยตอนไหนวะ? 55555) ตอนเราดื่มน้ำก็เห็นเขากดน้ำแล้วดื่ม เราก็แอบมองเขาเบาๆ แอบสังเกต อิอิ ประเมินเค้าด้วยสายตาคร่าวๆ คนๆนี้ ก็เฉยๆนะ ไม่ได้โดดเด่นเลย แต่คนอะไรขนตายสวยชะมัดเลย เห็นแล้วเราเป็นผู้หญิงยังอายเลย คิดเล่นๆ รึว่านางเป็นสาว แล้วติดขนตามาป่าววะ บ้าาาา ไม่น่าใช่ เค้าคมเข้มขนาดนั้น คงไม่ใช่หรอก จากนั้นเราก็เดินกลับไปนั่งคุยกันกับเพื่อนๆพี่ๆ ก็แอบเหล่มองเขาแบบไม่ตั้งใจตลอดเว (โรคจิตเบาๆ)
วันที่ต่อมาก็เวิร์คช็อปอีก วันนี้เราแอบมองเขาอีกแหละ อิอิ แอบสังเกตทุกอิริยบทเลย เป็นเอาหนักละเรา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน ก็เห็นบุคลิกเขานี่โอ๊ยยยย มีความเป็นผู้นำ พูดจาโอเคเลย แถมเรื่องเมื่อวานนั้นอีก นี่แหละๆๆ ฉันกรี๊ดเค้าเข้าให้แล้ว ตายๆๆๆๆๆๆ นี่เค้าอาจจะเป็นรุ่นพี่เราก็ได้นะดูจากหน้าตาและบุคลิก หลังจากกลับไปพักผ่อนเราก็เปิดเฟสบุ๊คแล้วเข้าไปหาสมาชิกในกรุ๊ปเฉพาะที่พี่ๆองค์การฯตั้งไว้คุยงานกันในกิจกรรมนี้ ก็ไล่หาเฟสเค้าไปเรื่อยๆตอนนั้นใจนี่เต้นแรงมาก ตื่นเต้นอะ ไม่เคยทำแบบนี้เลย ให้ตายเหอะๆๆ ไล่หาไปสักพักก็เจอ เห้ย เฟสผู้ชายคนนั้นจริงๆด้วย เจอแล้ว จะแอดดีมั้ยน๊าาา คิดอยู่นานสุดท้ายก็แอดไป หลังจากแอ๊ดไปแล้วก็รอลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ ใจนี่สั่นมากๆ ยังกะดูประกาศผลตอนสอบเข้ามหาลัยเลย ผ่านไปหลายชั่วโมงก็เห็นเขากดรับเราเป็นเพื่อน ตอนนั้นวินาทีนั้นฉันแทบกรี๊ดดดดดดด โคตรดีใจเลย อยากจะจุดพรุ (อันนี้ก็เวอร์ไปนะยะหล่อน) หลังจากเขารับเฟสเราแล้ว ฉันก็ส่องงงงงงงงงงงงง ส่องทุกๆอย่าง และสุดท้าย คาดว่าเขาน่าจะยังไม่มีแฟนนน อิอิ แอบดีใจนะ
ค่อยมาต่อ ขอไปดูอีแย้มก่อน อีแย้มจะตายแล้ว อีแย้มมมมมมมมมม
กาลครั้งหนึ่ง ดี ใ จ น ะ ที่ เ ร า พ บ กั น . . (ผู้หญิงหน้าร้าย กับผู้ชายที่ ชาติที่แล้วเกิดใต้ธารน้ำแข็ง)
จริงๆก็คิดอยู่นานเลยละว่าจะเอาลงพันทิปดีมั้ยน๊าาา แอบกลัวฟี๊ดแบคเบาๆ แต่สุดท้ายก็โอเคลงก็ลงไปเถอะครั้งหนึ่งในชีวิตเผื่อจะมีคนเอาเรื่องเราไปทำเป็นคลับฟรายด์เดย์เดอะซีรีย์บ้าง 555555555555 เดี๋ยวๆมโนไปไกลแล้วป้า
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่หน้าตาธรรมดามากถึงขั้นสุดคนหนึ่งนี่แหละไม่ได้สวยเริศประเสริฐศรีอะไร พอเรียนมหาลัยก็ดันสอบติดที่กรุงเทพฯเมืองเทพสร้าง ขอบอกก่อนว่าตอน ม.ปลายก็เคยมีแฟนนะ คาดว่าแฟนเก่าคงหลงผิด 555555 แต่พอขึ้นมหาลัยก็เลิกกันไปในทันทีตอนรับน้อง เฮิร์ทอยู่นานเฮิร์ทจนผอมเลย อิอิ พอมาตอนนี้ก็คิดนะว่าตอนนั้นเป็นอะไรขนาดนั้น คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกัน ปีหนึ่งก็ใช้ชีวิตปกติทั่วๆไป ก็พอมีคนมาคุยๆบ้างแต่ก็ไม่ได้โอเคกับใครซักคน เพราะเริ่มจะเข็ดกับเรื่องที่ผ่านมาเหมือนกัน โสดๆไปยาวๆนานๆ
พอมาปี 2 ก็ขึ้นมาเป็นพี่ละ เริ่มมีน้องยกมือไหว้ทักทาย ช่วงรับน้องรึช่วงเปิดเทอมนี่เป็นอะไรที่คึกคักมากๆ เพราะเราจะได้ยินเสียงสวัสดีจากน้องๆปีหนึ่งดังลั่นสนั่นมหาลัยไม่ว่าไปไปมุมไหนๆก็เจอ รับไหว้กันจนเหนื่อยเลยละ 5555555555555 เทอมนี้รีบกลับมากรุงเทพฯก่อนเปิดเทอมเกือบเดือนเลยละ เพราะจะต้องไปเป็นตัวแทนคณะไปรับน้องร่วมกับพี่ๆที่ทำงานสภานิสิต เป็นน้องคณะใหม่เพิ่งเปิดเลยต้องมีสภาฯมาดูแล คณะเราก็เข้าร่วมรับน้องคณะใหม่ ชื่อคณะใหม่นี่ก็ยาวมากๆ ถึงขั้นต้องท่องกันสามวันเเปดวันเลย ก่อนรับน้องก็มีการจัดเตรียม คุยงาน เตรียมกิจกรรมต่างๆกันไป ก็มีการวางแผนงาน และก็เลือกหน้าที่แต่ละฝ่ายไป เราก็มีหน้าที่นะเป็นหน้าที่ที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย หน้าที่นี้ได้มาเพราะหน้าตาล้วนๆ 5555555555 หลังจากนั้นกิจกรรมรับน้องก็ผ่านเลยไป... ชีวิตก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
มหาลัยมีค่าย เป็นค่ายของมหาลัยที่จัดขึ้นให้น้องๆปีหนึ่ง เหมือนเป็นค่ายที่เตรียมความพร้อมให้กับน้องๆที่น้องๆทุกคนจะต้องผ่านค่ายนี้เพราะถ้าไม่ได้เข้าค่ายนี้ก็จะไม่จบหลักสูตร(รึเปล่า?) ไม่แน่ใจ เราเองก็ต้องไปดูแลน้องๆในฐานะพี่ ก็ต้องไปค่ายด้วย ค่ายก็หลายวันมาก ก่อนถึงวันมีค่ายเราก็ถูกส่งตัวไปก่อนล่วงหน้า (ความจริงคือเหมือนไปอบรม เวิร์คช็อปนี่แหละ) ก็มีเพื่อนๆพี่ๆอีก 4 คนไปด้วย ไปเป็นตัวแทนของคณะใหม่ ตื่นเต้นๆๆ จะต้องไปเจอพี่ๆเพื่อนต่างคณะอีกหลายคณะ ไปถึงวันแรกก็ไม่มีอะไรมากเหมือนเป็นการพูดคุยรายละเอียด เพราะปีนี้มีกิจกรรมใหม่และเราก็เป็น ......กลางมหาลัยรุ่นที่ 1 มีเสื้อด้วยๆ ลิมิเต็ด อิดิชั่นสุดๆ เเต่เสื้อตัวใหญ่ไปนิด เราใส่ไปนี่ยังกะผ้าห่ม และมีอยู่วันนึงที่เราต้องไปเวิร์คช็อปกันโดยการวิ่งรอบๆ ม เพราะกิจกรรมใหม่ของปีนี้นี่ก็ต้องวิ่งรอบ ม โอ๊ยยย ทั้งร้อน เหนื่อย หอบยังกะป้าเลยยย หน้านี่ฉ่ำเยิ้มเป็นสังขยา แต่ก็สนุกดีนะได้เพื่อนใหม่ได้รู้จักเพื่อนเพิ่ม แถมดำขึ้นอีกด้วย TT (ปกติก็ขาวนักนี่ ฮึๆ) หลังจากทุกคนเวิร์คช็อปเสร็จก็กลับมารวมตัว กินข้าว พักผ่อนกันที่ห้องที่ใช้ประชุมกับพี่ๆจากองค์การฯ โดยมีพี่ N ซึ่งเป็นเฮดหลักในกิจกรรมนี้ เรากับเพื่อนๆก็กลับมานั่งพักผ่อน และพูดคุยกับพี่ N นี่แหละ ก็คุยกันทั่วๆไป
สักพักเราก็อยากดื่มน้ำขึ้นมา เลยเดินไปกดน้ำที่เขาเตรียมใส่แทงค์น้ำไว้ให้ดื่ม ก็มีคนยืนต่อแถวยาวมากหลายร้อยกิโล (เว่อร์ไว้เพื่อรรถรสในการอ่าน)อยู่หลายคน โอ๊ยยย หิวน้ำจนคอแห้ง แห้งจนจะเป็นผงอยู่แล้ว แดดที่นี่ก็ร้อนยังกะทะเลทรายซาฮาร่า คิดอยู่ว่าถ้ามีอูฐมาเดินที่นี่ก็ไม่แปลก เวอร์ไปนิด เราก็ต่อแถวไปเรื่อยๆจนจะถึงคิวเราได้ดื่มน้ำละ อีกแค่นิดเดียว ทนๆๆๆ คนที่ยืนหน้าเรากดน้ำแล้วววววว สักพักคนที่ยืนหน้าเราก็ส่งน้ำแก้วที่เขากดให้เรา เราก็อึ้งงงงง (เพลง รักแรกพบขึ้นมาในทันที เราก็คิดในใจ โห้ยยยย ผู้ชายแสนดี พ่อสุภาพบุรุษ คนๆนี้น่าสนใจซะแล้ว ) เราก็รับแก้วน้ำจากเค้าแล้วก็บอกขอบคุณเขาไป จากนั้นก็ดื่ม ดื่มแบบคนตาอดตายอยากมากๆอะ ไม่อายคนที่ยืนตรงหน้าเลย (หมดกันงานแอ๊ปงานเรียบร้อย เรียบร้อยตอนไหนวะ? 55555) ตอนเราดื่มน้ำก็เห็นเขากดน้ำแล้วดื่ม เราก็แอบมองเขาเบาๆ แอบสังเกต อิอิ ประเมินเค้าด้วยสายตาคร่าวๆ คนๆนี้ ก็เฉยๆนะ ไม่ได้โดดเด่นเลย แต่คนอะไรขนตายสวยชะมัดเลย เห็นแล้วเราเป็นผู้หญิงยังอายเลย คิดเล่นๆ รึว่านางเป็นสาว แล้วติดขนตามาป่าววะ บ้าาาา ไม่น่าใช่ เค้าคมเข้มขนาดนั้น คงไม่ใช่หรอก จากนั้นเราก็เดินกลับไปนั่งคุยกันกับเพื่อนๆพี่ๆ ก็แอบเหล่มองเขาแบบไม่ตั้งใจตลอดเว (โรคจิตเบาๆ)
วันที่ต่อมาก็เวิร์คช็อปอีก วันนี้เราแอบมองเขาอีกแหละ อิอิ แอบสังเกตทุกอิริยบทเลย เป็นเอาหนักละเรา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน ก็เห็นบุคลิกเขานี่โอ๊ยยยย มีความเป็นผู้นำ พูดจาโอเคเลย แถมเรื่องเมื่อวานนั้นอีก นี่แหละๆๆ ฉันกรี๊ดเค้าเข้าให้แล้ว ตายๆๆๆๆๆๆ นี่เค้าอาจจะเป็นรุ่นพี่เราก็ได้นะดูจากหน้าตาและบุคลิก หลังจากกลับไปพักผ่อนเราก็เปิดเฟสบุ๊คแล้วเข้าไปหาสมาชิกในกรุ๊ปเฉพาะที่พี่ๆองค์การฯตั้งไว้คุยงานกันในกิจกรรมนี้ ก็ไล่หาเฟสเค้าไปเรื่อยๆตอนนั้นใจนี่เต้นแรงมาก ตื่นเต้นอะ ไม่เคยทำแบบนี้เลย ให้ตายเหอะๆๆ ไล่หาไปสักพักก็เจอ เห้ย เฟสผู้ชายคนนั้นจริงๆด้วย เจอแล้ว จะแอดดีมั้ยน๊าาา คิดอยู่นานสุดท้ายก็แอดไป หลังจากแอ๊ดไปแล้วก็รอลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ ใจนี่สั่นมากๆ ยังกะดูประกาศผลตอนสอบเข้ามหาลัยเลย ผ่านไปหลายชั่วโมงก็เห็นเขากดรับเราเป็นเพื่อน ตอนนั้นวินาทีนั้นฉันแทบกรี๊ดดดดดดด โคตรดีใจเลย อยากจะจุดพรุ (อันนี้ก็เวอร์ไปนะยะหล่อน) หลังจากเขารับเฟสเราแล้ว ฉันก็ส่องงงงงงงงงงงงง ส่องทุกๆอย่าง และสุดท้าย คาดว่าเขาน่าจะยังไม่มีแฟนนน อิอิ แอบดีใจนะ
ค่อยมาต่อ ขอไปดูอีแย้มก่อน อีแย้มจะตายแล้ว อีแย้มมมมมมมมมม