[CR] 'สัตวแพทย์ตัวจิ๋วกับการไปwwoof แคนาดาครั้งแรกในชีวิต'

ขอเกริ่นนำก่อน…อันนี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนก็ขอโทษด้วยนะค๊า><
เราไปมาเมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้วค่ะ เพิ่งจะมีเวลาได้เขียนรีวิว อมยิ้ม08 (ละเอียดมาก ฝอยเยอะมาก และรูปเยอะมากกก><)
ป.ล. เพิ่งได้กล้องมาถ่ายไม่ค่อยเก่งนะคะ บางรูปก็จะเบี้ยว TT^TT



     เรื่องการไป wwoof ครั้งนี้เริ่มจากเนื่องจากคณะเราหยุดยาวหลายเดือน เพื่อนสนิทที่อยู่ถาปัต(คือนางเป็นเจ้าแม่เที่ยวต่างประเทศค่ะ คือนางไปมาเกือบทั่วโลกแล้วค่ะ5555) เลยชวนไป wwoof  แล้วเราก็แบบ wwoof อะไรไม่ดีมั้งงง เพราะเคยได้ยินเพื่อนที่คณะพูดถึงเหมือนกัน เพื่อนเราเล่าให้ฟังว่าอยากไปwwoof Japan  แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไมมันดูน่ากลัวจัง (คือเพื่อนเล่าว่าไปทำงานแลกที่อยู่ที่กิน เราก็แบบเค้าจะฆ่าเราหมกป่ามั้ยนะ5555 เลยไม่ได้สนใจอะไร)  แต่แบบตอนนี้หยุดยาวเลยคิดว่าลองดูคงไม่เสียหายครั้งนึงในชีวิต เลยไปเล่าให้แม่ฟัง แต่แม่ก็บ่น คือเราเป็นลูกคนเดียว แล้วก็ไม่เคยไปต่างประเทศคนเดียว  เรานี่โน้มน้าวทุกอย่าง บอกว่าเคยไปออกค่ายอยู่ป่า หลายรอบแล้วนะ คงไม่ต่างกันสบายมาก บลาๆๆ  คุยไปคุยมาเลยตกลงกันว่า เราต้องไปอยู่กับป้าที่อเมริกาก่อน 1 เดือนแล้วค่อยบินไป แคนาดาอีก 1 เดือน (คือแม่บอกว่าอยากให้ไปปรับตัวที่นั่นก่อนค่ะ)
เรื่องตะลุยอเมริกา เดี๋ยวจะเขียนรีวิวให้ติดตามอีกกระทู้นึงนะคะ ><
       พอแม่อนุญาตเรากับเพื่อนก็เลยคุยกันแล้วก็หาข้อมูลว่าจะไป wwoof กันที่ไหนดี ตอนแรกเพื่อนเสนอ Japan แต่เหมือนมีคนเคยไปแล้ว เลยคิดว่าจะไปทั้งทีต้องไปให้ไกล! เลยได้ที่ Switzerland ตอบโจทย์มากค่ะ บรรยากาศดีมากและที่นั่นก็มีพวกปศุสัตว์เลยคิดว่าไม่ห่างไกลจากอาชีพเราเท่าไหร่นัก  แต่!!!พอหาข้อมูลไปมา ที่Switzerland เหมือนกฎหมายจะยังไม่รองรับ  เราเลยคุยกันว่ามันเสี่ยงเดี๋ยวไม่ได้กลับบ้านนะ555555   งั้นเปลี่ยนที่  เลยได้ที่ Canada ค่ะ เป็นพระเทศที่คนน้อยและทรรศนียภาพสวยมากค่ะ เนื่องจากเป็นภูเขาและป่าเยอะมาก
พอตกลงกันได้เราก็จัดการเข้าเว็บ www.wwoof .ca  พอเข้าไปแล้วต้องทำการสมัครสมาชิกก่อนนะคะ 2000บาท



เราก็จะสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆในแต่ละฟาร์มได้เลยค่ะ แต่ถ้าจะดูคร่าวๆก็ยังไม่ต้องสมัครก็ได้ค่ะ ที่หน้าเว็บก็จะบอกรายละเอียดทุกอย่างว่าฟาร์มนั่นเป็นฟาร์มเกี่ยวกับอะไร มีสมาชิกในบ้านกี่คน เราสามารถเลือกจากความต้องการของเราได้ค่ะ ว่าต้องการจะไปอยู่แถวไหน กินแบบไหน คือเลือกได้หมดค่ะ
จากนั้นเมื่อได้ที่ที่เราต้องการก็ทำการติดต่อกับhost ผ่านทาง E-mail ค่ะ ที่เราจะไปนี้คือ 2 ที่ค่ะ
1. Oraganic Sport Ranch,British Columbia
2. Gabriola Island

**แนะนำว่าต้องส่ง E-mail คุยกับ host ให้ละเอียดนะคะ**
จากนั้นเราทำการหาข้อมูล และวางแผนเที่ยวทุกอย่างเป็น List เลยค่ะว่าเราจะไปที่ไหนวันไหนบ้าง เนื่องจากสะดวกต่อการขอวีซ่าค่ะ เวลาขอวีซ่าแนะนำเป็นแบบขอไปท่องเที่ยวนะคะ เนื่องจากหากเราบอกว่าไป wwoof เค้าจะให้ยากค่ะ และคำแนะนำอีกเรื่องคือ เราต้องlist ข้อมูลไปให้เป๊ะๆ+ตั๋วเครื่องบิน(printscreen หน้าไฟล์ทที่เราต้องการไปให้เค้าก็ได้) แล้วรับรองจะผ่านง่ายมากค่ะ : )) เราได้วีซ่าแคนาดามา 3 ปีเลยค่ะ  (เพื่อนเราคนนี้เคยไปเรียนAFSที่แคนาดามาปีนึง นางเลยข้อมูลเป๊ะมากค่ะ><)
>>รายละเอียดในการขอวีซ่าดูตามในเว็บได้เลย ตอนที่เราไปขอคือนำเอกสารต่างๆที่เตรียมไปยื่นที่อาคาร Regent House ใกล้ๆรถไฟฟ้าราชดำริค่ะ  คำแนะนำถ้าเรายังเป็นนิสิต ให้ใช้statement ของคุณพ่อ หรือคุณแม่ค่ะ เราได้ยินมาว่าที่จริงไม่ต้องซีเรียสเรื่องจำนวนเงินในบัญชีก็ได้ค่ะ ขอแค่ให้มีพอกับการไปใช้ชีวิต 1 เดือน(ตามระยะเวลาที่เราจะไป) และstatement ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ 1 ปี(อันนี้เรายื่นวีซ่าเมากาด้วย แม่เราเลยทำย้อนหลังให้ 1 ปีค่ะ) มีเงินในบัญชีเข้า-ออก ตลอดเวลา ก็พอแล้วค่ะ  (เราไปwwoof คราวนี้คือไม่ได้ตั้งใจจะไปwwoofอย่างเดียวนะคะ พวกเราตั้งใจจะไปเที่ยวด้วยค่ะ เราไป wwoofที่ละ 1 อาทิตย์เท่านั้นค่ะ)
พอเราจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาเที่ยวกันได้เล้ยยยยยยยยยยยยยย อมยิ้ม01

'Every adventure is worthwhile'


2 June 2014
    เรากับเพื่อนนัดเจอกันที่สนามบิน Vancouver เนื่องจากเราบินมาจากบ้านป้าที่florida ส่วนเพื่อนเราบินมาจากกรุงเทพค่ะ  จากนั้นก็เข้าที่พักที่จองในเนตไว้ แล้วก็เดินเล่นชมเมืองค่ะ
อันนี้วิวเหนือ Canada


นาฬิกาไอน้ำเรือนแรกของโลก



ชายหาดของ Vancouveur (จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรร TT )


3 June 2014
    เราก็มาเที่ยว Stanley Park กันค่ะ เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากขอย้ำว่าใหญ่มากกกค่ะ   เดินกันขาขวิด  17 กิโล (คือเกิดมาไม่เคยเดินไกลขนาดนี้ 55555)  เป็นPark ที่มีทางเดินเป็นขอบติดกับทะเล  วิวดีมากค่ะ ชาวแคนาดาก็จะมาเดินเล่น ออกกำลังกาย บรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ><




บรรยากาศด้านในของสวนค่ะ อ่านจากประวัติเค้าบอกว่าที่นี่เคยเป็นที่าบมาก่อน แล้วน้ำก็เริ่มท่วม จนกลายเป็นระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์มากๆเลย


4 June 2014
    วันนี้เราตั้งใจจะมาเที่ยวอีกเมืองกันค่ะ โดยนั่ง bus จากตัวเมืองไป เป้าหมายของเราคือ ‘Suspension bridge capilano’ ก็คือสะพานแขวนยาวๆนั่นเองงงงง  


คล้ายๆการเดินrally เมื่อเราจ่ายค่าเข้าจะได้แผนที่มาพร้อมกระดาษมีช่องให้ปั๊มตามฐานต่างๆค่ะ สนุกไปอีกแบบบ : ))


คอนี่ถึงราวสะพานแล้ววว -..-



อากาศดีมากกกก หนาวนิดหน่อย



วิวจากบนสะพานแขวน


ทางออกก็จะมีร้านขายของที่ระลึก สินค้าน่ารักมาก แล้วก็ไม่แพงมากด้วยค่ะ


5 June 2014
    วันนี้เราต้องออกเดินทางเพื่อไปบ้านhost ที่ british Columbia กันแล้วค่ะ เดินทางโดย Greyhound bus ราคาไป-กลับต่อคน ประมาณ 6,000 บาทคงคล้ายๆรถทัวร์ดีๆของเมืองไทย มี wifi บนรถด้วยนะเออ เล่นกันมันส์ไปเลยยยยยยยยยย  รถคันนี้จะวิ่งระยะทางยาวมาก วิวข้างทางนี้เริ่ดสุดๆไปเลยค่ะ><


6 – 8 June 2014
    และแล้ววววว เราก็มาถึงโดยนัดกับhostที่ปั๊มน้ำมัน   วันแรกhost ยังไม่ค่อยให้ทำอะไรค่ะ ให้พักผ่อนแล้วก็เดินดูรอบๆ  
นี่บ้านพักพวกเราค่ะ


วิวจากห้องพัก  ดีงาม>< เห็นRocky Mountain ด้วย


ที่นี่เป็นฟาร์มorganic รวมกับสนามเล่นกีฬาค่ะ มีสนามกอล์ฟคือมันไม่เหมือนกับสนามกอล์ฟทั่วไปจะเป็นทางวิบาก มีความชันเป็นการขว้างลูกกอล์ฟในจุดที่กำหนดให้เข้าห่วงแล้วเก็บแต้มค่ะ แปลกดี เราก็เพิ่งเคยเห็น555555  แล้วที่นี่ก็สนามเทนนิส  นอกจากนี้hostยังเลี้ยงแพะนม ไก่  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวละครใน havest moonมากๆค่ะ5555




ตัวนี้ชื่อ Forest ค่ะ เป็นโกลเด้นขาใหญ่ประจำที่นี่ 555


พอวันรุ่งขึ้นก็เริ่มทำงานค่ะ เริ่มจากทำความสะอาดเล้าแพะ แล้วก็รีดนมค่ะ

จากนั้นก็ไปเก็บไข่ในเล้าไก่กุ๊กๆแล้วก็ให้อาหาร ไก่ที่นี่ตัวใหญ่มากค่ะ  เนื่องจากhostเลี้ยงไว้ดูเล่น ให้เดินเล่นในเล้า อายุมันมากแล้ว มีไก่ประมาณ 10ตัวให้ไข่ แค่ ฟองสองฟองเองค่ะ สงสัยเป็นความสุขทางใจ 555555  เมื่อทำความสะอาดกับให้อาหารเรียบร้อย เราก็จะต้อนแพะให้ไปกินหญ้า เดินเล่นข้างนอกค่ะ เนื่องจากhost มีพื้นที่เยอะมากกกกกกกก เขาเกือบทั้งลูก แพะเลยแฮปปี้เดินเล่นสบายใจเชิบ แล้วตอนเช้าวันรุ่งขึ้นค่อยต้อนกลับเข้ามาในเล้าใหม่เพื่อรีดนมค่ะ

Host เอาลูกเจี๊ยบมาลงใหม่ค่ะ มีลูกไก่งวงด้วยย น่ารักมากกกเลยย ><


ตอนทำแปลงstrawberry อยู่ เจ้าเหมียวก็เดินมาทักทายพวกเราค่ะ เลยจับถ่ายรูปซะเลยย55555



แอบขโมยรูปเพื่อนมาใส่ค่ะ อิอิ (นางกำลังทำงาอย่างขะมักเขม้น)



9 June 2014
    วันนี้day-offค่ะ host อนุญาตให้เราไปเที่ยวกันได้หนึ่งวัน เราเลยตกลงกันว่าไปเที่ยวที่ ‘Radium hot spring’ ค่ะ คือคล้ายๆเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แต่น้ำจะเป็นน้ำอุ่น เพราะเป็นน้ำที่มีธาตุเรเดียม(มั้ง) เลยทำให้น้ำร้อย เหมือนกับแช่น้ำพุร้อนที่ญี่ปุ่นหน่ะค่ะ  ก็สบายๆกันไป  ขากลับไม่อยากจะบอกก เกือบตกbus กันค่ะ ไปยืนรอรถคนละฝั่งกับที่เค้ามารับ โชคดีที่คนขับจำได้ ไม่งั้นได้เดินกลับบ้านแน่ๆค่ะ 555555


13 June 2014
    Hostบอกว่ารู้จักคนไทยที่มาพักที่แคนาดา แต่อยู่ที่เมือง Invermere ขับรถไปไม่ไกล host เลยพาพวกเราไปหาค่ะ ชื่อ คุณ Siri มาอยู่ที่นี่เกือบ 20 ปีแล้ว ทำงานเป็นคนคอยดูแลคนชราที่บ้านพักคนชราค่ะ (บ้านพักที่นี่ดีมาก เหมือนคอนโดที่มีพยาบาลคอยดูแลตลอดเวลา) K.Siri ดีใจมากที่เจอพวกเราค่ะ host เลยให้พักที่บ้านเค้า 1 คืนแล้วเดี๋ยวhostค่อยมารับ เราก็สบายเลยค่ะ เพราะบ้านเค้าเปิดเป็นโรงแรมดีๆนี่เอง

อันนี้เป็นท่าเรือข้างๆบ้าน K.Siriค่ะ ตอนเช้าๆบรรยากาศดีมาก



วันรุ่งขึ้น K.Siri ก็พาพวกเราไปร่วมงานการกุศลเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรับบริจาคเงินให้ผู้ที่อยู่บ้านพักคนชรา และโรงพยาบาลค่ะ มีวงดนตรี มีเกมส์ แล้วก็อาหารแจกฟรี แค่donate ก็ได้รับไปฟรีๆแล้วค่า><



เค้าเรียกกันว่า 'Big foot' เป็นขนมที่แปลกดี55
ชื่อสินค้า:   WWOOF CANADA
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่