คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เคยอ่านสารคดี และดูสารคดีที่พูดถึงประเด็นสังคมแม่บ้านญี่ปุ่น ผู้หญิงแอบมีชู้ค่อนข้างสูง
เขาบรรยายว่าเพราะความกดดันและเหินห่างจากสามี
โดยเฉพาะกรณีแม่รักลูกชายตัวเอง จะมีมากกว่าสังคมตะวันตก
ถึงขนาดที่โรงหนังจะมีหนังรักๆใคร่ๆฉายยามบ่าย เรียกว่า Matinee
ผมก็เลยคิดว่า การมีชู้ของนางเอก เป็น Taboo ก็จริง คือสิ่งต้องห้าม
แต่..แม่บ้านบางส่วนก็อาจจะอยากเจอใครสักคนแบบที่นางเอกเจอก็ได้...เลยทำให้นางเอกยืนอยู่ได้ในสังคม
อยากออกความเห็นเรื่องละครเรื่องนี้นิดนึง
ตรงที่ถ้าดูดีๆ จะพบว่าภรรยาของคนรักนางเอก ป่วยเป็นโรคประสาทมานาน ไม่มีเรื่องทางเพศมานานแล้ว
สามีเป็นฝ่ายหาเงินมาเลี้ยง และไม่เคยทิ้งภรรยาเลย
ส่วนนางเอกก็เป็นแม่หม้ายที่สู้ชีวิตเพียงลำพัง เป็นคนแข็งๆ ไม่อ่อนโยน
เมื่อผู้หญิงแข็งมาเจอผู้ชายอ่อนโยน แถมมีปมให้น่าปกป้อง
ผู้ชายมาเจอผู้หญิงที่ยืนหยัดเพื่อตัวเอง ไม่หวังให้ชายต้องดูแล
ทั้งสองคนต่างมาเจอส่วนที่ตัวเองใฝ่หาในตัวกันและกัน
โอกาสสปาร์กมันก็เกิดได้ง่าย
ตัวนางเอกเองไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก แต่เพราะความเหมาะสม
ครั้งหนึ่งในชีวิตนางเอกได้มีโอกาสรับรู้ว่า "การรักใครยิ่งกว่ารักตัวเอง" เป็นอย่างไร
ก็ยังดีกว่าชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย
ผมว่าแม้มันเป็นความผิด แต่ก็มีความงดงามซ่อนอยู่นะครับ
เขาบรรยายว่าเพราะความกดดันและเหินห่างจากสามี
โดยเฉพาะกรณีแม่รักลูกชายตัวเอง จะมีมากกว่าสังคมตะวันตก
ถึงขนาดที่โรงหนังจะมีหนังรักๆใคร่ๆฉายยามบ่าย เรียกว่า Matinee
ผมก็เลยคิดว่า การมีชู้ของนางเอก เป็น Taboo ก็จริง คือสิ่งต้องห้าม
แต่..แม่บ้านบางส่วนก็อาจจะอยากเจอใครสักคนแบบที่นางเอกเจอก็ได้...เลยทำให้นางเอกยืนอยู่ได้ในสังคม
อยากออกความเห็นเรื่องละครเรื่องนี้นิดนึง
ตรงที่ถ้าดูดีๆ จะพบว่าภรรยาของคนรักนางเอก ป่วยเป็นโรคประสาทมานาน ไม่มีเรื่องทางเพศมานานแล้ว
สามีเป็นฝ่ายหาเงินมาเลี้ยง และไม่เคยทิ้งภรรยาเลย
ส่วนนางเอกก็เป็นแม่หม้ายที่สู้ชีวิตเพียงลำพัง เป็นคนแข็งๆ ไม่อ่อนโยน
เมื่อผู้หญิงแข็งมาเจอผู้ชายอ่อนโยน แถมมีปมให้น่าปกป้อง
ผู้ชายมาเจอผู้หญิงที่ยืนหยัดเพื่อตัวเอง ไม่หวังให้ชายต้องดูแล
ทั้งสองคนต่างมาเจอส่วนที่ตัวเองใฝ่หาในตัวกันและกัน
โอกาสสปาร์กมันก็เกิดได้ง่าย
ตัวนางเอกเองไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก แต่เพราะความเหมาะสม
ครั้งหนึ่งในชีวิตนางเอกได้มีโอกาสรับรู้ว่า "การรักใครยิ่งกว่ารักตัวเอง" เป็นอย่างไร
ก็ยังดีกว่าชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย
ผมว่าแม้มันเป็นความผิด แต่ก็มีความงดงามซ่อนอยู่นะครับ
แสดงความคิดเห็น
จาก ซีรี่ส์ ยอดหญิงนักออกแบบ...ถ้าเจ้าของร้านมีเรื่องชู้สาวกับลูกจ้าง คุณจะยังไปอุดหนุนร้านเค้าอยู่ไหม?
ก็สมดังคำที่ท่านนายกสมาคมพูดไว้ตอนต้นๆว่า "จะอยู่ในเส้นทาง หรือนอกเส้นทาง ยังไงก็คือชีวิตมนุษย์ มนุษย์เราก็ต้องดิ้นรนชีวิต" เราตีความไปว่า ถ้าเลือกตัดสินใจที่จะนอกกรอบที่สังคมวางเอาไว้ ก็ต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ เพราะมันจะลำบากกว่าคนที่อยู่ในกรอบมากกว่าเท่านั้นเอง คือเราคิดว่า ประธานคงมีหัวคิดที่เป็นกลางๆ คือมองเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คือเห็นใจทั้งคู่ด้วย แต่ท่านจะออกตัวสนับสนุน มันก็เป็นเรื่องไม่ควร เพราะในขนบสังคมญี่ปุ่นนั้น ยังถือเรื่องผิดศีลกามาว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ ต่อให้ชอบกันด้วยใจก็ตาม (ถ้าเป็นละครไทย ไม่รู้จะโดนแบนหรือเปล่า เพราะมันสุ่มเสี่ยงออกไปในทางส่งเสริมคนที่เป็นเมียน้อยให้กล้าสู้มากขึ้น?)
อิโตะจังก็คิดแบบว่า ทั้งพ่อและสามีก็ตายไปแล้ว นางจะยึดติดกับคนที่ไม่ได้อยู่แล้วไปเพื่ออะไร ยึดไปชีวิตก็ทุกข์ นางทุกข์มามากแล้ว ขอมีความสุขสำหรับตัวเองไม่ได้หรือ...เรื่องนี้ก็เห็นใจอิโตะนะ แต่เราก็เห็นด้วยแค่ครึ่งเดียว เพราะถ้าอิโตะอยู่กับซูโอะซังแค่สองคน มันก็อีกเรื่อง แต่นี่มันส่งผลกระทบกับลูกจ้างคนอื่นๆ ที่เค้าไม่ได้มีหัวคิดทันสมัยแบบเดียวกันด้วยนี่ซิ อย่างเวลาไปซื้อของในเมือง ก็จะโดนคนซุบซิบนินทาว่า เป็นลูกจ้างร้านอื้อฉาว
ถ้าเป็นเรา เราคงไม่กล้าเดินหน้าแบบอิโตะจังขนาดนั้นแน่ๆ เพราะสังคมญี่ปุ่นยุคนั้น ไม่ได้คิดมองเป็นเรื่องส่วนตัวที่แยกส่วนกันแบบที่อิโตะจังคิด...ไม่ต้องเอาอดีต เอาแค่ปัจจุบัน แค่เรารู้เรื่องส่วนตัวอื้อฉาวของเจ้าของร้าน เช่น เป็นเมียน้อยคนอื่น ไปแย่งสามีเค้ามา ไปสวมเขาให้สามีบ้านอื่น เราเป็นคนหัวที่ไม่ชอบการผิดลูกผิดเมีย ยังไม่อยากจะไปอุดหนุนเลย จนกระทั่งเจอจังๆเข้ากับเพื่อนใกล้ตัว ตอนแรกก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขานะ แต่ต่อมาชีวิตเขาลำบาก ก็สู้ชีวิตเลี้ยงลูกเป็นแม่หม้ายสามีทิ้งไป ก็เลยเห็นใจเขา...และเพื่อนคนนึงเคยกับเราว่า "ถ้าเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ได้ไปทำให้เราเดือดร้อน แล้วเราจะไปโกรธเขาทำไม?" การที่เขาทำผิดศีล 3 นี่ อาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่คนนอกอย่างเราไม่รู้ถ่องแท้ก็ได้ เราดีแค่ไหนกันจึงไปตัดสินชีวิตเขาว่าเลวแบบนั้น? จนมองข้ามสิ่งที่เขาทำมาหากินไปเพื่อเลี้ยงปากท้อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องศีลธรรมเลย
แต่ก็คิดในอีกแง่ว่า ถ้าคนเรามองเพิกเฉยแค่ว่า การผิดลูกผิดเมีย เป็นเรื่องส่วนตัวปกติธรรมดามนุษย์ที่ใครก็ทำกันได้แล้ว เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขานัก...สังคมมันจะไม่แหลกเหลวฤา? เพราะสังคมญี่ปุ่นที่เขาเคร่งครัดเรื่องพวกนี่ ก็เพราะไม่อยากให้คนสร้างปัญหามากขึ้นนี่เอง...เพราะการกำหนดกรอบศีลธรรมขึ้นมา ก็เพื่อไม่ให้มนุษย์ทำตัวตามใจเหลวแหลกนั่นเอง
แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะยังอุดหนุนสินค้าของเขาอยู่ไหมคะ?