สิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากให้ทริปนั้นของคุณประทับใจและเป็นที่น่าจดจำ

จากที่ผมได้มีโอกาศเดินทางท่องเที่ยวที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง คนเดียวบ้างเป็นกลุ่มบ้าง ผมขอนำประสบการณ์ที่ได้ยินได้เห็นมาแชร์ให้อ่านดูกันนะจ๊ะ

1. ไม่ควรใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน นอกเสียจากว่ารีบไปให้ทันเวลารถไฟเวลาเครื่องบิน เพราะมันจะทำให้คุณพลาดโอกาสได้เห็นสิ่งต่างๆระหว่างทางมากมาย ไม่ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองที่คุณไปเที่ยว ไม่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมตึกรามบ้านช่องอันงดงาม ควรจะใช้บริการรถไฟบนดินหรือลอยฟ้า แต่ถ้าอยากสัมผัสถึงวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองนั้นจริงๆ ให้ใช้บริการรถประจำทางเป็นอันดีที่สุด เพราะความสุขของการเดินทางท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่มันอยู่ที่ช่วงเวลาขณะเดินทางจริงไหม? #ความรักก็เช่นกัน

2. ไม่ควรเสียเวลาไปกับการถ่ายรูป เมื่อผมเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง มักจะเห็นคนใช้เวลาที่มีหมดไปกับการถ่ายรูป ถ่ายเดียวบ้างคู่บ้างหมู่บ้าง ได้ยินเสียงพูดหนึ่งสองสามนับสิบภาษา ถ่ายเสร็จก็เดินทางไปถ่ายที่อื่นต่อ จนบางครั้งอาจลืมไปว่า เรามาเที่ยวเพื่อพักผ่อน อยากให้วางกล้องลงบ้าง กวาดสายตาไปรอบๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ทำจิตใจให้สบาย ซึมซับบรรยากาศรอบข้าง ภาพวิวตรงหน้าสวยงามน่าจดจำแค่ไหน เสียงที่ได้ยินนั้นสงบร่มเย็นหรือไพเราะเสนาะหู ลมที่พัดผ่านอบอุ่นหรือเย็นยะเยือก สถานที่บางแห่งวิวสวยอากาศดี ผมนี่นั่งนิ่งๆไดัเป็นชั่วโมง จริงๆนะ

3. ไม่ควรใช้ไม้เซลฟี่ในการถ่ายรูป ข้อนี่บอกเลย ไปเที่ยวที่ไหนๆอย่าทำตัวเหมือนมีแค่คุณคนเดียวในโลก อั๊วมาเที่ยวคนเดียวอั๊วไม่รู้จักใครอั๊วไม่สนใครผู้ใดทั้งสิ้น อั๊วจะถ่ายรูปคู่กับไม้กวาดก้านยาวของอั๊วเท่านั้น ไม่นะ ไม่เอาแบบนั้น มองไปรอบๆครับ ใครคนไหนที่หน้าตาดีๆหน้าไม่แปลกเท่าไหร่ ขอร้องให้ช่วยเลย คุณๆช่วยถ่ายรูปให้หน่อย ไม่ยากเลยครับ ภาษาไม่ใช่อุปสรรค เผลอๆคุณอาจจะไม่ได้แค่รูปภาพ คุณอาจได้เพื่อนใหม่ ได้มิตรภาพดีๆ ผลัดกันถ่ายรูปกันไป พูดคุยกันไปๆ ชวนมาเที่ยวไทยบ้าง อาจสนิทกัน เป็นแฟนแต่งงานกันเข้าไปอีก เอ้า ลองดูครับ เพราะเราออกไปเที่ยวเพื่อหาสิ่งแปลกใหม่ เพื่อพบปะผู้คนใหม่ๆ จริงปะ?

4. ไม่ควรพึ้งเครื่องนําทางจีพีเอส ช่วงนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำ ไปไหนก็ไม่หลงแค่จิ้มนิ้วลงบนจอมือถือ วันหนึ่งที่สิงคโปร์ ผมเจอสาวไทยสองคนก้มหน้าจิ้มจอคุยกันงุ๊งงิ๊งว่า หาเจอหรือยัง? กำลังหาอยู่!!! ทั้งที่คนยืนกันเต็มสถานีรถไฟฟ้า ผมทนดูอยู่นานจนทนไม่ใหวต้องเข้าไปช่วย ดังนั้นก็อย่างที่บอกข้างต้น ใว้หลงป่าเหลือแค่ตัวคนเดียวก่อนผมถึงจะใช้มัน ถึงอย่างไรเทคโนโลยีก็สู้ประสบการณ์ไม่ได้ ผู้คนที่อยู่ที่แห่งนั้นมาทั้งชีวิต เดินทางในเมืองนั้นทุกๆวัน ย่อมรู้ดีว่าจะไปที่ไหนได้อย่างไร ถามเถอะครับ ไม่มีใครว่า ใครๆชนชาติไหนก็อยากช่วยเหลือทั้งนั้น

ฝากใว้เท่านี้ก่อน ใว้คิดออกจะมาเขียนต่อ ใครมีประสบการณ์ได้เห็นอะไรนอกเหนือจากนี้ หรือมีความคิดเห็นอย่างไร มาแชร์กันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่