เราสังเกตตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าเรามักจะกลัวอะไรที่กว้างๆ
อะไรที่ไกลสุดลูกหูลูกตา หรือไม่ก็อะไรที่มองไม่เห็นขอบเขตของมัน
คิดว่าโตขึ้นแล้วอาการแบบนี้จะหายไปเองแต่ก็ยังเหมือนเดิม
ไม่กล้าถามเพื่อนว่าเป็นเหมือนกันไหม กลัวถูกหาว่ากระแดะหรือเวอร์เวินเกินเหตุ
สิ่งที่เรากลัวก็ยกตัวอย่างเช่น
ตอนเรียนว่ายน้ำ ช่วงที่ต้องดำลงไปใต้น้ำเรามักจะดำลงไปได้ไม่นาน (ครึ่งนาทีก็ไม่เคยถึงเลยด้วยซ้ำ) เพราะรู้สึกกลัวมาก
ลงไปอยู่ใต้น้ำแล้วพอเหลือบไปทางไหนก็จะเจอแต่บรรยากาศขุ่นๆ มัวๆ เหมือนจะมีอะไรโผล่มาข้างตัวอยู่ตลอดเวลา
เราต้องรีบโผล่ขึ้นมาจากน้ำทันทีเพื่อให้หายกลัว
ตอนทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มหาลัย ช่วงพักเบรกรุ่นพี่จะให้นอนหงายแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองก้อนเมฆบนท้องฟ้า
บอกว่าเพื่อผ่อนคลาย แต่ทำไมเรากลับไม่รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่พี่เขาว่าเลย แถมยังรู้สึกโหว่งใจจนต้องหลับรีบหลับตาลงทันที
เคยไปท้องฟ้าจำลอง เพื่อนก็ชมว่าท้องฟ้าสวยมากโน้นนี่นั่นเห็นแล้วก็พากันร้องอู้อ้ากันใหญ่
แต่ทำไมพอเรามองแล้วเรารู้สึกโคตรกลัวอ่ะ ขนลุกขนพองไปหมด ตั้งแต่นั้นมาเลยไม่คิดอยากจะมองท้องฟ้าจำลองอีกเลย
ตอนดูสารคดี เวลาเห็นพวกธารน้ำแข็ง หรือแนวเขาที่สูงๆ ยาวๆ หรือแม้แต่ทะเลกว้างๆ เราก็รู้สึกกลัวเช่นกัน
ดูได้ แต่จ้องนานไม่ได้ มันแบบ...คือไม่รู้อ่ะค่ะ ต้องรีบหารีโมทมาเปลี่ยนช่องหนีทันที
และที่เห็นได้ชัดว่าเรากลัวที่กว้างมากที่สุดก็คือ ตอนที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์
เราต้องใช้โปรแกรม Google earth ในการทำรายงาน ตอนที่เสิร์ทหาพิกัดพื้นที่ต่างๆ มันทรมานใจจริงๆ
เพราะทั้งได้เห็นภูมิประเทศ ได้เห็นมุมสูงๆ ของโลก มันกล้ำกลืนสุดๆ แล้วยิ่งต้องจ้อง ต้องดู ต้องวัดด้วย
แทบอยากจะร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว ไม่ทำก็ไม่ได้อีก ไม่มีส่ง!
และที่พีคสุดเลยก็คือ ตอนที่เราใส่พิกัดพื้นที่ผิด โปรแกรมเลยแพลนออกไปนอกโลก
แล้วมันก็ปรากฏเป็นภาพดวงดาวในจักรวาลต่างๆ ณ เสี้ยววินาทีนั้นเราผวาแรงเลยค่ะ
อยู่คนเดียวด้วย รีบปิดหน้าจอโน้ตบุกลงด้วยสีหน้าแบบหวาดหวั่น ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก
ทั้งหมดนี้เราก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงกลัว ไม่เชิงว่าเห็นแล้วดิ้นพล่านๆ แต่ก็ไม่สามารถมองดูได้อย่างคนปกติ
เลยอยากถามทุกคนว่าอาการแบบนี้เขาเรียกว่าโรคอะไรหรือเปล่าคะ หรือเรามีความผิดปกติด้านไหนสักด้านหรือเปล่า
แล้วถ้าจะแก้ต้องแก้ยังไง
กลุ้มใจแล้วก็หงุดหงิดมากที่ตัวเองต้องมากลัวอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้
ที่สำคัญคือมันมีผลต่อการเรียนรู้ในสาขาวิชาที่เรากำลังศึกษาอยู่
ก็เลยอยากจะรีบปรับปรุงจุดบกพร่องตรงนี้ให้ได้ค่ะ
ถ้ากลัวอะไรแบบนี้ ถือว่าผิดปกติมากไหมคะ?
อะไรที่ไกลสุดลูกหูลูกตา หรือไม่ก็อะไรที่มองไม่เห็นขอบเขตของมัน
คิดว่าโตขึ้นแล้วอาการแบบนี้จะหายไปเองแต่ก็ยังเหมือนเดิม
ไม่กล้าถามเพื่อนว่าเป็นเหมือนกันไหม กลัวถูกหาว่ากระแดะหรือเวอร์เวินเกินเหตุ
สิ่งที่เรากลัวก็ยกตัวอย่างเช่น
ตอนเรียนว่ายน้ำ ช่วงที่ต้องดำลงไปใต้น้ำเรามักจะดำลงไปได้ไม่นาน (ครึ่งนาทีก็ไม่เคยถึงเลยด้วยซ้ำ) เพราะรู้สึกกลัวมาก
ลงไปอยู่ใต้น้ำแล้วพอเหลือบไปทางไหนก็จะเจอแต่บรรยากาศขุ่นๆ มัวๆ เหมือนจะมีอะไรโผล่มาข้างตัวอยู่ตลอดเวลา
เราต้องรีบโผล่ขึ้นมาจากน้ำทันทีเพื่อให้หายกลัว
ตอนทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มหาลัย ช่วงพักเบรกรุ่นพี่จะให้นอนหงายแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองก้อนเมฆบนท้องฟ้า
บอกว่าเพื่อผ่อนคลาย แต่ทำไมเรากลับไม่รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่พี่เขาว่าเลย แถมยังรู้สึกโหว่งใจจนต้องหลับรีบหลับตาลงทันที
เคยไปท้องฟ้าจำลอง เพื่อนก็ชมว่าท้องฟ้าสวยมากโน้นนี่นั่นเห็นแล้วก็พากันร้องอู้อ้ากันใหญ่
แต่ทำไมพอเรามองแล้วเรารู้สึกโคตรกลัวอ่ะ ขนลุกขนพองไปหมด ตั้งแต่นั้นมาเลยไม่คิดอยากจะมองท้องฟ้าจำลองอีกเลย
ตอนดูสารคดี เวลาเห็นพวกธารน้ำแข็ง หรือแนวเขาที่สูงๆ ยาวๆ หรือแม้แต่ทะเลกว้างๆ เราก็รู้สึกกลัวเช่นกัน
ดูได้ แต่จ้องนานไม่ได้ มันแบบ...คือไม่รู้อ่ะค่ะ ต้องรีบหารีโมทมาเปลี่ยนช่องหนีทันที
และที่เห็นได้ชัดว่าเรากลัวที่กว้างมากที่สุดก็คือ ตอนที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์
เราต้องใช้โปรแกรม Google earth ในการทำรายงาน ตอนที่เสิร์ทหาพิกัดพื้นที่ต่างๆ มันทรมานใจจริงๆ
เพราะทั้งได้เห็นภูมิประเทศ ได้เห็นมุมสูงๆ ของโลก มันกล้ำกลืนสุดๆ แล้วยิ่งต้องจ้อง ต้องดู ต้องวัดด้วย
แทบอยากจะร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว ไม่ทำก็ไม่ได้อีก ไม่มีส่ง!
และที่พีคสุดเลยก็คือ ตอนที่เราใส่พิกัดพื้นที่ผิด โปรแกรมเลยแพลนออกไปนอกโลก
แล้วมันก็ปรากฏเป็นภาพดวงดาวในจักรวาลต่างๆ ณ เสี้ยววินาทีนั้นเราผวาแรงเลยค่ะ
อยู่คนเดียวด้วย รีบปิดหน้าจอโน้ตบุกลงด้วยสีหน้าแบบหวาดหวั่น ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก
ทั้งหมดนี้เราก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงกลัว ไม่เชิงว่าเห็นแล้วดิ้นพล่านๆ แต่ก็ไม่สามารถมองดูได้อย่างคนปกติ
เลยอยากถามทุกคนว่าอาการแบบนี้เขาเรียกว่าโรคอะไรหรือเปล่าคะ หรือเรามีความผิดปกติด้านไหนสักด้านหรือเปล่า
แล้วถ้าจะแก้ต้องแก้ยังไง
กลุ้มใจแล้วก็หงุดหงิดมากที่ตัวเองต้องมากลัวอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้
ที่สำคัญคือมันมีผลต่อการเรียนรู้ในสาขาวิชาที่เรากำลังศึกษาอยู่
ก็เลยอยากจะรีบปรับปรุงจุดบกพร่องตรงนี้ให้ได้ค่ะ