กิตติศักดิ์ ปัดโกงเงินสจล. ตร.มั่นใจเป็น ‘บอสใหญ่’

กระทู้สนทนา
กิตติศักดิ์ มัทธุจัด” ปัดยักยอกเงินสจล. เผยยืมเงินทรงกลดครั้งละ 200 ล้าน นาน 3 ปี ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ มั่นใจเป็น “บอสใหญ่” ผบ.ตร.ชี้ไม่ใช่การมอบตัว

ความคืบหน้าการติดตามคดียักยอกทรัพย์ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กว่า 1.6 พันล้านบาท หลังนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญติดต่อขอเข้ามอบตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเดินทางมาแถลงข่าวยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยมีพล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปรามร่วมแถลง

ซึ่งผลจากการสอบสวนเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ระบุไม่รู้จักกับ นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสจล. เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับว่ารู้จักนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ ที่รู้จักกับน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลังของสจล.อีกทอดหนึ่ง โดยได้ยืมเงินนายทรงกลดมาลงทุน ซึ่งนายทรงกลดได้โอนเงินให้ครั้งละประมาณ 100-200 ล้านบาท เป็นจำนวนหลายสิบครั้งในระยะเวลา 3 ปี โดยไม่รู้แหล่งที่มาของเงินดังกล่าว

ทั้งนี้พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ ส่วนการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ ยืนยันว่าได้จับกุมนายกิตติศักดิ์ไม่ใช่การมอบตัวซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปประสานความร่วมมือกับตำรวจอังกฤษ กดดันนายกิตติศักดิ์ จนเดินทางกลับประเทศไทย และจากการตรวจสอบพบนายทรงกลด โอนเงินให้นายกิตติศักดิ์ กว่าพันล้าน โดยมีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมการเงินชัดเจน และเชื่อว่ามีการเตรียมตัวปรึกษากับนักกฎหมายมาเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะส่งตัวนายกิตติศักดิ์ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สอบปากคำต่อ พร้อมคัดค้านประกันตัวก่อนขออำนาจศาลฝากขังต่อไป

ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยว่า ทั้งนี้นอกจากนายกิตติศักดิ์แล้ว ไม่น่าจะมีผู้บงการใหญ่กว่านี้ เนื่องจากการสืบสวนของตำรวจ ไม่พบมีเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นอีก และจากการสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ ให้การว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดของลูกน้องเกี่ยวกับเรื่อง “บอสใหญ่” โดยตัวการใหญ่ของคดีนี้น่าจะเป็น นายกิตติศักดิ์

สำหรับคดีนี้ มีผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน ส่งฟ้องดำเนินคดีแล้ว 11 คน ประกอบด้วย นายทรงกลด ศรีประสงค์, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์, นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์, นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ, นางสมบัติ โสประดิษฐ์, น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์, นางระดม มัทธุจัด, นายภาดา บัวขาว, นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล., นายศรุต ราชบุรี และนายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดี สจล. และยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายสมพงษ์ สหพรอุดมการ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ

....................

ตำรวจกองปราบคุมตัว กิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญยักยอกเงิน สจล.กว่า 1.6 พันล้านคาสุวรรณภูมิ บินจากอังกฤษขอมอบตัวสู้คดี จ่อแถลง 10 โมงวันนี้

วันที่ 22 พ.ค. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเข้าควบคุมตัว นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด หรือเป้ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันฟอกเงินของสถานบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) หลังติดต่อขอมอบตัวเพื่อสู้คดี



ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา และเป็นผู้ต้องหารายสำคัญซึ่งกุญแจสำคัญในการสาวไปถึงตัวบอสใหญ่ ในคดีร่วมกันลักทรัพย์เงินสจล.ไปกว่า 1.6 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้นายกิตติศักดิ์ หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ

ส่วนรายละเอียดจะแถลงข่าวอีกครั้งที่กองบังคับการปราบปราม ในวลา 10.00 น.วันนี้

http://news.mthai.com/hot-news/general-news/444393.html

.................

อ่านดูแล้วแปลก เหมือนตำรวจ พูดดักคอเรื่อง บอสใหญ่ ว่าไม่มี

สรุปแล้วงานนี้ ไทยพานิช ต้องรับผิดชอบไหม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่