เป็นวลีที่ติดปากและชินหูมานานเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลาวกับไทยในฐานะบ้านพี่เมืองน้อง ความที่มีวัฒนธรรมและภาษาพูดที่คล้ายคลึงกัน จึงไม่แปลกและไม่ผิดหรอกที่เราจะให้เป็นความใกล้ชิดฉันท์พี่น้อง....แต่...ใครคนพี่? ใครคนน้อง? และวลีนี้ถูกใช้มาตั้งแต่เมื่อใด?
ก็คงต้องย้อนประวัติกันไปตั้งแต่ยุคก่อนสร้างบ้านแปงเมืองของสองแคว้นอยุธยาและแคว้นเชียงทอง(หลวงพระบาง) ยุคที่ผู้ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในภูมิภาคนี้ก็คือ “ขุนบรม” ขุนบรมมีพระโอรสเจ็ดพระองค์และส่งแต่ละพระองค์ไปปกครองหรือหาทำเลตั้งแว่นแคว้นของตัวเอง(จากหนังสือแอ่งอารยธรรมอีสาน ความจริงก็มีพงศาวดารและตำนานกล่าวถึงเรื่องนี้มาตลอด)ซึ่งรวมถึงอยุธยาด้วย
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอรวบรัดตัดฉากมาที่สมัยพระเจ้าอู่ทองอพยพผู้คนหนีโรคห่ามาตั้งหลักปักฐานที่อยุธยาเลย(บางตำนานเล่าเรื่องการตั้งอยุธยาไปคนละอย่างและพิศาดาร เช่นเรื่องของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง(พระเจ้าอู่ทอง)และนางสร้อยดอกหมาก) อยุธยาในระยะนั้นน่าจะเป็นช่วงที่กำลัง “ตั้งไข่” ซ่องสุมไพร่กำลังพลอยู่ อาณาเขตก็ยังไม่กว้างไกล สุโขทัยและเชียงใหม่เองก็ยังเป็นอิสระ จะเห็นว่าอาณาเขตอยุธยาตอนนั้นยังไม่กล้างไกลนัก
ฝ่ายด้านเมืองเชียงทองที่มีพระเจ้าฟ้างุ้มทรงปกครองอยู่นั้น พระองค์เป็นราชลูกเขยแห่งอาณาจักรขอม(ถ้าเล่าความเป็นมาคงยาว) ตีเอาหัวเมืองต่างๆ จากกัมพูชา เวียงจันท์ ขึ้นไปจนถึงหลวงพระบางแล้วเปลี่ยนชื่อจากเมืองเชียงทองเป็นหลวงพระบางตามชื่อพระพุทธรูปที่พระพ่อตาจากกัมพูชามอบให้ เจ้าฟ้างุ้มขยายอาณาเขตขึ้นเหนือจรดแคว้นสิบสองจุไท ด้านตะวันออกถึงเมืองแถน(เวียดนาม) จากนั้นพระองค์ก็ทรงหันมาสนใจที่จะขยายอาณาเขตด้านทิศใต้หรือตะวันตก ตีเอาเมืองต่างๆ จรดเมืองร้อยเอ็ด และถึงเมืองพระงาม(ลพบุรี) ก่อนจะเข้าตีอยุธยา พระเจ้าฟ้างุ้มก็ส่งราชสาสน์ถึงอยุธยาว่า จะต่อสู้กันหรือว่ายอมโดยดี ทางอยุธยามีราชสาสน์ตอบกลับมา อ้างตามตำราของประเทศลาว(รู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนี้ประวัติศาสตร์ไทยไม่ได้เอ่ยถึง)
“ความเป็นมาของชนชาติลาว” ของมหาบุนมี เทบสีเมืองว่า
“เฮาหากเป็น
พี่น้องกัน มาตั้งแต่
ขุนบรมพุ้นได๋ เจ้าอยากได้เมืองให้เจ้าเอาแต่เขตแดนดงสามเส้าถึงภูพระยาพ่อและแดนเมืองนครไทย......”
คำว่า “พุ้นได๋” ภาษาลาวและไทยอีสานแปลว่า เมื่อครั้งกระโน้น
คำว่า “พี่น้อง”ที่ปรากฏในพระราชสาสน์ตอบกลับพระเจ้าฟ้างุ้มได้สาวอ้างถึง “ขุนบรม” ที่ผมเกริ่นเอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนใครจะพี่ใครจะน้องนั้น.....ก็แล้วแต่ใครคิดก็แล้วกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าเราก็ควรเรียกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็น่าจะพอ เพราะฟังน้ำเสียงจากญาติทางลาวของผมเอง ดูพวกเขาไม่ใคร่จะพอใจนักกับคำว่าบ้านพี่เมืองน้อง
อนึ่ง ตำราทางฝั่งลาวเรียกอาณาจักรอยุธยาว่า “ล้านเพีย” (พม่าเรียกเราว่า “โยเดีย”???) มีคนสันนิษฐานว่าคำว่า “ล้านเพีย” มาจากคำว่า ล้านพญา ต่อมาคำว่า “พญา” ก็ถูกรวบเป็น “เพีย” มานั่งๆ นึกดูก็จะมีส่วนจริงอยู่บ้างนะ ล้านพญา เพราะเรามีตำแหน่งขุนนางใหญ่น้อยมากมายเหลือเกิน ว่าไปทำไมมี??.....แม้ปัจจุบันนี้ “นายพล” ในประเทศไทยมีมากมายจนทหารชั้นผู้น้อยตะเบ๊ะกันไม่ถูกว่าไผเป็นไผ?
เข้ามาแก้คำผิด
...........การเมืองระหว่างประเทศ “บ้านพี่เมืองน้อง”.....ตกลงใครพี่ใครน้อง??..................
ก็คงต้องย้อนประวัติกันไปตั้งแต่ยุคก่อนสร้างบ้านแปงเมืองของสองแคว้นอยุธยาและแคว้นเชียงทอง(หลวงพระบาง) ยุคที่ผู้ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในภูมิภาคนี้ก็คือ “ขุนบรม” ขุนบรมมีพระโอรสเจ็ดพระองค์และส่งแต่ละพระองค์ไปปกครองหรือหาทำเลตั้งแว่นแคว้นของตัวเอง(จากหนังสือแอ่งอารยธรรมอีสาน ความจริงก็มีพงศาวดารและตำนานกล่าวถึงเรื่องนี้มาตลอด)ซึ่งรวมถึงอยุธยาด้วย
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอรวบรัดตัดฉากมาที่สมัยพระเจ้าอู่ทองอพยพผู้คนหนีโรคห่ามาตั้งหลักปักฐานที่อยุธยาเลย(บางตำนานเล่าเรื่องการตั้งอยุธยาไปคนละอย่างและพิศาดาร เช่นเรื่องของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง(พระเจ้าอู่ทอง)และนางสร้อยดอกหมาก) อยุธยาในระยะนั้นน่าจะเป็นช่วงที่กำลัง “ตั้งไข่” ซ่องสุมไพร่กำลังพลอยู่ อาณาเขตก็ยังไม่กว้างไกล สุโขทัยและเชียงใหม่เองก็ยังเป็นอิสระ จะเห็นว่าอาณาเขตอยุธยาตอนนั้นยังไม่กล้างไกลนัก
ฝ่ายด้านเมืองเชียงทองที่มีพระเจ้าฟ้างุ้มทรงปกครองอยู่นั้น พระองค์เป็นราชลูกเขยแห่งอาณาจักรขอม(ถ้าเล่าความเป็นมาคงยาว) ตีเอาหัวเมืองต่างๆ จากกัมพูชา เวียงจันท์ ขึ้นไปจนถึงหลวงพระบางแล้วเปลี่ยนชื่อจากเมืองเชียงทองเป็นหลวงพระบางตามชื่อพระพุทธรูปที่พระพ่อตาจากกัมพูชามอบให้ เจ้าฟ้างุ้มขยายอาณาเขตขึ้นเหนือจรดแคว้นสิบสองจุไท ด้านตะวันออกถึงเมืองแถน(เวียดนาม) จากนั้นพระองค์ก็ทรงหันมาสนใจที่จะขยายอาณาเขตด้านทิศใต้หรือตะวันตก ตีเอาเมืองต่างๆ จรดเมืองร้อยเอ็ด และถึงเมืองพระงาม(ลพบุรี) ก่อนจะเข้าตีอยุธยา พระเจ้าฟ้างุ้มก็ส่งราชสาสน์ถึงอยุธยาว่า จะต่อสู้กันหรือว่ายอมโดยดี ทางอยุธยามีราชสาสน์ตอบกลับมา อ้างตามตำราของประเทศลาว(รู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนี้ประวัติศาสตร์ไทยไม่ได้เอ่ยถึง) “ความเป็นมาของชนชาติลาว” ของมหาบุนมี เทบสีเมืองว่า
คำว่า “พี่น้อง”ที่ปรากฏในพระราชสาสน์ตอบกลับพระเจ้าฟ้างุ้มได้สาวอ้างถึง “ขุนบรม” ที่ผมเกริ่นเอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนใครจะพี่ใครจะน้องนั้น.....ก็แล้วแต่ใครคิดก็แล้วกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าเราก็ควรเรียกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็น่าจะพอ เพราะฟังน้ำเสียงจากญาติทางลาวของผมเอง ดูพวกเขาไม่ใคร่จะพอใจนักกับคำว่าบ้านพี่เมืองน้อง
อนึ่ง ตำราทางฝั่งลาวเรียกอาณาจักรอยุธยาว่า “ล้านเพีย” (พม่าเรียกเราว่า “โยเดีย”???) มีคนสันนิษฐานว่าคำว่า “ล้านเพีย” มาจากคำว่า ล้านพญา ต่อมาคำว่า “พญา” ก็ถูกรวบเป็น “เพีย” มานั่งๆ นึกดูก็จะมีส่วนจริงอยู่บ้างนะ ล้านพญา เพราะเรามีตำแหน่งขุนนางใหญ่น้อยมากมายเหลือเกิน ว่าไปทำไมมี??.....แม้ปัจจุบันนี้ “นายพล” ในประเทศไทยมีมากมายจนทหารชั้นผู้น้อยตะเบ๊ะกันไม่ถูกว่าไผเป็นไผ?
เข้ามาแก้คำผิด