หัวใจ...หมา

กระทู้ข่าว
เรื่อง  หัวใจ...หมา
โดย...สุราผี เสพจันทร์
ป้าดี ชื่อนี้เหมาะสมกับตัวแกมาก ที่ว่าเหมาะก็เพราะแกเป็นคนแก่ที่ใจบุญสุนทานเมตตากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวงโดยเฉพาะพวกหมาแหละแมว แกรักเอ็นดูเป็นพิเศษ
แกใช้ชีวิตอยู่ลำพังคนเดียวมานานหลายปี หลังจากน้องสาวของแกป่วยเสียชีวิตเสียก่อน
ป้าดีไม่เคยแต่งงาน ครองโสดมาร่วม 76 ปีแล้ว ในอคีต แกเคยเลี้ยงหมาพันธุ์น่ารักๆ
เป็นเพื่อนเป็นลูกคลายเหงามาก่อน แกรักมันมากขนาดทำเป็นเตียงนอน มีมุ้งให้พวกมันได้หลับนอนที่เดียวแต่อนิจจังที่สุดพวกมันต้องจากป้าดีไปตลอดกาล
แกถึงกับซึมเศร้าอาลัยรักพวกมันอยู่นานวัน
เจ๊ตา แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่เยื้องกับบ้านป้าดีไปเพียงสามหลังนั้น
พอทราบข่าวว่าหมาของป้าดีตายเรียบ นางถึงกับมีสีหน้าแช่มชื่นยิ้มได้ทั้งวัน
สาเหตุเพราะนางเป็นคนเกลียดหมา เกลียดแมวเข้าถึงกระดูกดำที่เดียว

จะว่าไปแล้ว หมาน่ารักพวกนี้ มันก็ไม่เคยสร้างความสกปรกเขตบ้านของนางสักหน่อย แต่นางกลับบอกว่ารำคาญไอ้พวกหมาปากเปราะดีแต่เห่า
เจ๊ตาเป็นคนขยันทำมาหากิน นางต้องตื่นแต่ดึกแต่ดื่นออกไปจ่ายตลาดแล้วกลับมาเปิดร้านเตรียมจัดของเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวต่อไป
ส่วนนายบอย หมอนี่เป็นหนุ่มนักเลงอันธพาลในตลาดสามชุกมาก่อน ตอนหลังได้แต่งเมียแล้ว เขากลับเป็นคนเอางานเอาการดีผิดคนไปเลย
แต่นายบอยมีนิสัยเหมือนกับเจ๊ตาอยู่อย่าง คือเป็นคนเกลียดหมา เกลียดแมวเป็นที่สุด
เช่น เห็นหมาเดินมาหยุดทำท่าจะถ่ายทุกข์หรือถ่ายเบาที่หน้าบ้านเข้าละก็
นายบอยเป็นต้องยิงด้วยง่ามไม้หนังสติ๊กกระสุนดินเหนียวร้องเอ๋ง
วิ่งแจ้นหางจุกตูดไปเสียทุกตัว
แมวก็เหมือนกัร มันกำลังนั่งเบ่งอึ เบ่งเหยี่ยวกลางถนนหน้าบ้านสบายอารมณ์
นายบอยเล่นเอาน้ำร้อนสาดโครมจนแมวเปียกโชกสะดุ้งตกใจวิ่งแจ้นแทบ
ช็อกเอาแน่ะ
หลังจากพวกหมาน่ารักของป้าดีตายไปไม่นาน แกก็หันมาผูกมิตรเลี้ยงหมาจรจัดแก้เหงาตามประสาของแก
คืนนั้น แกเห็นหมาจรจัดสองตัวคุ้ยเขี่ยหาอาการกินในถังขยะ แกสังเกตุว่าเจ้าขนสีดำเมี่ยมทั้งตัวนั้นเป็นเพศผู้ ส่วนอีกตัวขนสีออกน้ำตาลอมแดงตัวเล็กกว่าเป็นเพศเมีย อยู่ใกล้คลอเคลียอีกตัวเสมอ
ป้าดีกลับเข้าไปในบ้าน สักครู่ออกมาพร้อมกับเศษอาหารที่เหลือ ถือมาสองถาดวางให้มันกินตรงหน้าบ้าน
แรกๆ พวกมันยืนเลียปากลังเลไม่กล้าเข้าใกล้ ครั้นป้าดีพูดกล่อมพวกมันดีๆ
ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรเปี่ยมด้วยจิตเมตตาไปแล้วนั่นแหละ แกถึง
ชนะใจมันได้
มันสองตัวกัมหน้ากัมตากินอย่างเดียวจนหมดถาด แล้วเงยหน้าเลียปากมองผู้
มีพระคุณต่อมันเขม็ง ป้าดีแกก็ยิ้มตอบรับพวกมันอย่างเมตตาเอ็นดู
นับจากนั้นมา หญิงชราผู้โดดเดี่ยวกับหมาจรจัดก็ผูกมิตรไมตรีอันดีต่อกันเรื่อยมา
ป้าดีให้อาหารหมาสองตัวนี้กินทุกวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน กระทั่งเอาพวกมันเข้ามาอยู่ในบ้านเลี้ยงดูมันอย่างดีแต่ขณะเดียวกัน ป้าดีก็ได้แมวจรจัดมิตรใหม่เพิ่มอีกสามตัว และพวกมันทั้งสามก็สามารถเดินเข้าเดินออกภายในบ้านของป้าดีได้อย่างสะดวกสบาย โดยที่ไม่มีการทะเลาะกับพวกหมาแต่อย่างใด
ป้าดีแกตื่นแต่เข้ามืดทุกวัน เพื่อไปตลาดหาซื้อซี่โครงไก่สวยๆ ให้หมา และ ซื้อปลาทูดีๆ ให้แมวกินตลอดทั้งวัน
หมา แมว ป้าดีตั้งชื่อให้พวกมันทุกตัว อย่างหมาตัวผู้ชื่อไอ้ดำ หมาตัวเมียก็ชื่อ
อีตาลตามสีขนของพวกมัน ส่วนแมวชนิดขาวเพศผู้ก็ชื่อว่าไอ้ผ่อง ตัวที่สองชื่อไอ้เทา และตัวที่สามเพศเมียชื่ออีแต้ม
สำหรับไอ้ผ่องเป็นแมวที่ฉลาดประจบสอพลอเก่ง ป้าดีรักมันเป็นพิเศษ
ที่สำคัญ หนูในบ้านแกถูกไอ้ผ่องจับกินเรียบ
ในตลาดสามชุก ชาวบ้านนิยมเลี้ยงหมา แมวอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน ทั้งนี้เพราะบ้านเรือนปลูกติดกันยาวเป็นหางว่าวและเป็นแหล่งย่านชุมชนทีผู้คนจอแจมากมาย
ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่มีใครคิดอุตริอยากจะเลี้ยงหมา แมวให้ชวนปวดหัวเวียน
กบาลของตนเองและของผู้อื่นนักหรอก
ขึ้นชื่อว่าหมากับแมวแล่วย่อมเป็นศัตรูกันไปทั้งชาติแม้หมากับแมวของป้าดีจะปรองดองรักใคร่กันดี มันต้องมีสักวันที่เกิดทะเลาะกันขึ้น
เย็นของวันหนึ่งขณะป้าดีให้อาหารพวกมันปกติ ไอ้ดำมันแย่งอาหารของไอ้ผ่อง
เลยโดนไอ้ผ่องตบจนไอ้ดำร้องลั่นซอย ขณะที่เจ๊ตากำลังขายก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้า
อยู่ นางถึงกับชะงักไม่สบอารมณ์ทีพวกมันทำลายบรรยากาศของการค้า
คล้ายพวกมันเข้าข่ายสัตว์อัปมงคล
"อะไรกันนักกันหนาโว้ย เมื่อไรคนหมา แมว จะตายโหงตายห่ากันสักทีไม่รู้ จะลงจะเลี้ยงมันห่าเหวอะไร" เจ๊ตาบ่นไปขายไป
แต่ป้าดีแกเก็บอาการนิ่งไม่แยแสใส่ใจ แกหันมาดุไอ้ดำกับไอ้ผ่อง แล้วนั่งเฝ้าดูพวกมันกินข้าวจนหมดถาด
และที่น่าสนใจคือพวกมันต่างเชื่อฟังกันดี
ตกกลางคืน เสียงแมวก็เริ่มวิ่งไล่กัดกันบนหลังคาสังกะสี ดังให้ขรมโครมครามทุกคืนเรื่อยมา
แน่นอนที่ชาวบ้านต่างสุดเอือมระอาพวกมันโดยที่ไม่สามารถจะสยบพวกมันได้เลย
แต่นายบอยประกาศลั่นว่า เขาจะเป็นผู้ที่สยบพวกมันเองไม่คืนใดก็คืนหนึ่ง
เขาเกลียดพวกหมา แมวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพวกมันมากัดกันให้เสียงดังปึงปัง
เช่นนี้แล้วเขายิ่งทั้งเกลียดทั้งแค้นมากขึ้นเป็นทวีที่ผ่านมาก็เป็นการสั่งสอนให้พวกมันกลัวหลาบจำแบบเบาะๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้นายบอยคิดเอาจริง
นับจากวันนั้น นายบอยรอสบโอกาสที่จะอาฆาตพยาบาทกับมัน ให้สาสมกับที่มันเที่ยววิ่งไล่กัดกันบนหลังคาผ่านหน้าบ้านเขาแทบตะพัง พลอยทำให้คนในบ้านต้องนอนสะดุ้งผวากันทั้งบ้าน แถมตอนกลางคืน พวกมันบางตัวแอบเข้ามาในบ้านเขา แล้วทำการรื้อค้นหาอะไรกินในถังขยะห้องครัว จนล้มกระจัดกระจาย
เกลื่อนกลาด
เนื้อหมูสามชั้นที่ภรรยาของเขาซื้อมาห้อยแขวนบนเสาในครัว ก็ถูกไอ้ผ่องแมวขี้ขโมยลักเอาไปกิน มันกินไม่หมดเหลือเศษเนื้อหมูเท่ากำปั้นตกเรี่ยราดตาม
พื้นครัวให้เจ้าของไว้ดูต่างหน้า เท่านี้ยังไม่พ่อ แถมมันยังขี้รดเป็นหย่อมๆ ใน
บ้านให้เจ้าของบ้านสูดกลิ่นที่ว่านี้เข้าไปอีกเต็มรัก
พอเขาตื่นเช้าขึ้นมาจะออกมาจากบ้านไปขับรถให้คนที่มาว่าจ้าง นายบอยถึงกับอารมณ์เสียหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทั้งกองขี้หมาขี้แมวปรากฏสะดุดตาสะดุดใจ
อยู่ที่กลางถนนหน้านบ้านบ้าง และข้างกระถ่านต้นว่าน ริมบ้านบ้าง
"รอให้กูกลับมาก่อนเถอะ" นายบอยรำพึงในใจขณะเดินจะไปขับรถ
เที่ยงคืนวันนั้นนายบอยก็กลับมาถึงบ้าน บรรยากาศภายในซอยเงียบกริบ
หมาสักตัวก็ไม่เห็น แมวสักตัวก็ไม่มีให้เขาหาอะไรขว้างปามันได้
ภรรยานายบอยลุกเดินมาเปิดประตูรับสามี
"พี่ สงสัยแมวแอบเข้ามาในบ้านอีกแล้วละ" ภรรยาพูดขึ้น
"มันไปรึยัง" นายบอยถามทันควัน ขณะเดินไปเปิดตู้เย็นดื่มน้ำ
"ยัง แอบอยู่ในบ้านนี่แหละ หลบเก่งจริงๆ หาเท่าไรก็ไม่เจอ"
สิ้นคำพูดของภรรยา นายบอยรีบคว้าง่ามไม้หนังสติ๊กพร้อมกระสุนดินเหนียว ที่เขาบรรจงปั้นตากแดดเพื่อยิงหมา
แมวเป็นร้อยลูกโดยเฉพาะ
"คราวนี้เสร็จกูแน่" นายบอยโพล่งขึ้นอย่างคิดอาฆาตระคนดีใจ พร้อมย่องเบาหายเข้าไปในครัวคนเดียว แล้วค่อยๆเปิดไฟนีออนขึ้น
พอไฟสว่างพรึบ ไอ้ผ่องปรากฏตัวกระโจนแผล็วออกจากซอกมืด ทะยานตัวปีนขึ้นโอ่งน้ำ แล้วสปริงตัวขึ้นตะเกียกตะกายรั้วสังกะสีเพื่อจะหนี
ตายข้ามไปอีกบ้านหนึ่ง
นายบอยเตรียมตัวอยู่แล้ว เลยยิงออกไปทันที
เสียงดัง...ปุ๊...ถูกกลางหลังมันถนัดถนี่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่