1 ปี รัฐประหาร ‘พอใจและภูมิใจ’ ก๊อปแปะ By อดีตหัวหน้าเผ่าฯ

กระทู้สนทนา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์ครบรอบ 1 ปี ของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ในทำนองว่า วันนี้ “พอใจ แต่ไม่ได้ภาคภูมิใจที่ต้องเข้ามาตรงนี้”

“ผมต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจสถานการณ์ของประเทศชาติ เว้นแต่บางคนบางพวกไม่เข้าใจ ก็ไปพิจารณากันเอาเองว่าควรจะทำอย่างไรกันต่อไป ประเทศชาติจะไปอย่างไร ฉะนั้น วันนี้ สิ่งสำคัญคือการรักษาความสงบเรียบร้อย เดินหน้าประเทศ แก้ปัญหาที่มีความเร่งด่วน จัดการบริหารระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนหรือรั่วไหล... ผมประเมินว่าพอใจ แต่ไม่ใช่ความภาคภูมิใจ... ทำไมผมต้องมาอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ทำกัน เลือกตั้งกันมาไม่ใช่หรือ” พลเอกประยุทธ์กล่าว

1) หากประเมินในสายตาคนนอก มองแบบไม่ใช่พวกโลกสวย

โดยอยู่บนพื้นฐานของสภาพความเป็นจริง

พูดตรงๆ ระยะเวลา 1 ปี คสช.และรัฐบาลดูแลบ้านเมืองมาได้ขนาดนี้ ก็ทั้งน่าพอใจ และควรภูมิใจ

2) น่าพอใจ เพราะปัญหาเฉพาะหน้าถูกปัดเป่า ระงับยับยั้งไปเกือบทั้งหมด

โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง การใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน

ไม่เกิดสงครามกลางเมือง

ไม่เกิดการปะทะนองเลือด

เป็นรัฐประหารที่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อคนไทยด้วยกัน

แถมยังช่วยให้สามารถจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้ชาวนาทันที หลังจากที่รัฐบาลรักษาการติดค้างเงินชาวนาข้ามปี ยุติโครงการประชานิยมแบบล้างผลาญ ทุจริตรั่วไหล โครงการซึ่งกำลังจะล้มลงด้วยตัวเอง เพื่อมิให้โครงการนี้ลากเอาประเทศชาติลงเหวไปด้วยมากกว่านี้ (ปัจจุบัน รัฐบาลก็ยังจะต้องกู้เงินเพื่อมาใช้หนี้โครงการจำนำข้าว ร่วมๆ 7 แสนล้านบาท)

3) น่าพอใจ เพราะปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมจำนวนมาก หมักหมม สะสม เน่าเฟะ เสมือนหนึ่งเป็นโรคร้ายแรงอยู่ภายในร่างกาย ได้เริ่มต้นถูกดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง รักษาครั้งใหญ่

ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาค้ามนุษย์ ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ปัญหานายทุนรุกป่า ปัญหาทุจริตโกงกินในแวดวงราชการ ปัญหามาตรฐานการบินไอซีเอโอ ปัญหาธุรกิจสีเทา ปัญหาลอตเตอรี่แพงเกินจริง ปัญหาผลประโยชน์มิชอบในแวดวงครู การทุจริตสหกรณ์คลองจั่น การค้างาช้าง ฯลฯ

ปัญหาเหล่านี้ ล้วนดำรงอยู่ก่อนรัฐประหารทั้งสิ้น

แต่เมื่อ คสช.เข้ามามีอำนาจ ก็พยายามดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่ ปรากฏรูปธรรมความคืบหน้า

ทั้งๆ ที่ หากจะซุกไว้ใต้พรมต่อๆ ไป ไม่สนใจไยดี หรือเข้าไปสวมตอ รับผลประโยชน์อันมิชอบต่อไปเลย ก็น่าจะกระทำได้ไม่ยาก

4) น่าภูมิใจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงนาทีนี้ ได้สะท้อนว่า พลังของความถูกต้อง หรือความไม่ยอมแพ้แต่อำนาจฝ่ายต่ำ ฝ่ายที่เห็นแก่ตัว พวกที่พยายามจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ตนเองและพวกพ้องแบบ “สุดซอย” และแก๊งโจรที่พยายามยื้อยุดอำนาจรัฐไว้กับตนเองจนถึงนาทีสุดท้าย ในที่สุดก็ไม่สามารถจะเอาชนะ “ประเทศไทย”

ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามความต้องการของเขา

บางคน ถึงขนาดต้องหนีออกไปเป็นสัมภเวสีเหมือนนายใหญ่

แผ่นดินไทยเบาขึ้นเยอะ

5) น่าภูมิใจ เพราะในยามวิกฤติ บ้านเมืองมีภัย เราได้เห็นว่า คนไทย มวลมหาประชาชนจำนวนหลายล้านคน ไม่ทอดทิ้งประเทศชาติ

พร้อมจะออกมายืนหยัด ต่อสู้ ปกป้องในสิ่งที่ถูกต้อง

แล้วกองทัพไทยก็พร้อมที่จะออกมาเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบอำนาจของทุรชนที่หน่วงรั้งการปฏิรูปบ้านเมืองด้วยเช่นกัน

ลองคิดให้ดี... นายทหารอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น และผู้นำเหล่าทัพทั้งหลาย หากคิดถึงเฉพาะผลประโยชน์ส่วนตนแล้วไซร้ ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องทำการรัฐประหาร

สู้อยู่เฉยๆ ปล่อยให้รัฐบาลขณะนั้นใช้อำนาจรัฐและอำนาจการเมืองเล่นงาน ข่มขี่ บีฑาประชาชนไปเรื่อยๆ

รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

แถมแค่อยู่เฉยๆ ตอนนั้น ก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนมหาศาล ทั้งก่อนและหลังเกษียณจากระบอบการเมืองสามานย์ ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเปลืองตัว

อย่าลืมว่า สถานการณ์เวลานั้น หากทำรัฐประหารไม่สำเร็จ โทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต

6) 1 ปีของการรัฐประหาร แม้ประเทศชาติยังไม่ก้าวหน้า การปฏิรูปยังไม่ก้าวไกล เศรษฐกิจยังไม่ได้ดั่งใจ

แต่สถานการณ์บ้านเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นชัดเจน มีความสงบเรียบร้อย นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เติบโตทะลุเป้า แต่ปัญหาจากเศรษฐกิจโลกตึงตัว โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอย่าง จีน กลุ่มยูโร ญี่ปุ่น ก็ฉุดการส่งออกของไทยถดถอยตามไปด้วย

แต่สถานการณ์ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

เข้าใจว่า เหตุที่พลเอกประยุทธ์บอกว่า ไม่ภาคภูมิใจนั้น ก็คงเพราะว่า ไม่ได้ต้องการจะทำรัฐประหารเลย หากว่าการเมืองในระบบสามารถหาทางออกร่วมกันได้ แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ แก้ไขปัญหากันเองไม่ได้ บ้านเมืองตกหล่ม ถดถอยตกต่ำ ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะอย่างก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2558 ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จุดจบ ก็มีแต่จะเสียหายต่อชาติบ้านเมืองส่วนรวม จนไม่อาจเยียวยา

ในที่สุด จึงเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557


น่าพอใจ และภาคภูมิใจ

สารส้ม

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/18574


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่