ผมมีเรื่องอยากมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ใน Pantip หน่อยครับ ก่อนอื่น ต้องขอเล่าเรื่องตัวเองก่อนครับ
ผมอายุ 34 ปี เริ่มทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้ 1 ปีแล้ว มหาวิทยาลัยอยู่ในกรุงเทพ ตั้งอยู่ชานเมือง
เงินเดือน 31,500 บาท แต่หักฝากสหกรณ์ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหลือเงินเดือน 26,900 บาท
ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนคือ
- ค่าเช่าหอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย 5,000 บาท + น้ำ/ไฟฟ้า 1,200 บาท
- ค่าอาหาร 4,000 บาท
- ค่าซักรีด 350 บาท
- จิปาถะ 1,500 บาท
เหลือเงินประมาณ 14,850 บาท/เดือน เงินจำนวนนี้ ปัจจุบัน ผมซื้อกองทุนหมดเลย
ซื้อพวก RMF, LTF แล้วก็กองทุนรวมอื่นๆ
ผมมีเงินออมจากหลายๆ บัญชี รวมแล้วประมาณ 300,000 บาท
ผมเป็นคนโสดอยู่คนเดียว ผมไม่ต้องส่งเสียเงินให้พ่อแม่ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว
ส่วนพี่น้องก็แต่งงาน แยกย้ายกันไปหมดแล้ว ต่างก็รับผิดชอบกับครอบครัวตัวเอง ไม่มีการรบกวนกันเรื่องเงิน
และผมเป็นเกย์ เพราะฉะนั้นไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ไม่มีภาระใดๆ อีกครับ
**********************************************************
เรื่องบ้าน ตอนนี้ ผมอายุ 34 ปี แต่ยังเช่าหอพักอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่กับพวกนักศึกษานั่นแหล่ะ
ได้คุยกับเพื่อนเก่าๆ สมัยมัธยม เห็นเขาซื้อบ้านกันหมดแล้ว เพื่อนผมบางคน เตรียมจะซื้อบ้านหลังที่ 2 แล้ว
ผมรู้สึกว่า ผมควรจะเป็นผู้ใหญ่ แล้วซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้หรือยังครับ ?
การที่คนอายุ 34 ปีจะเช่าห้องไปเรื่อยๆ จนอายุ 40-50 ปี เป็นเรื่องแปลกหรือเปล่าครับ
แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยผม กำลังสร้างหอพักสวัสดิการ กำหนดเสร็จปลายปีนี้
ซึ่งผมมีสิทธิ์ที่จะอยู่ได้ แต่ต้องรอสรุปอีกครั้ง (โอกาสประมาณ 70% ที่จะได้อยู่)
โดยถ้าได้อยู่หอของมหาวิทยาลัยจะเสียค่าเช่าห้องประมาณ 500-1,000 บาท/เดือน สามารถเดินไปทำงานได้เลย
ใจหนึ่งผมก็อยากซื้อบ้านของตัวเอง เพราะอยากมีความมั่นคงให้ชีวิต
แต่ก็ลังเล เพราะว่าถ้ามีที่พักราคาถูกของมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ไม่ควรจะต้องไปซื้อบ้านของตัวเอง
เพราะเป็นภาระต้องผ่อนไป 10-20 ปี แถมต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีก
กรณีแบบนี้ ผมควรจะซื้อบ้าน เพื่อเป็นการลงทุนหรือเปล่าครับ ?
**********************************************************
ส่วนกรณีซื้อรถยนต์ ตอนนี้ผมขี่จักรยานไปทำงานครับ ประมาณ 5-10 นาทีถึงมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะหอพักอยู่ใกล้มาก
เวลาออกไปไหนไกลๆ ผมก็นั่งรถเมลล์กับรถตู้ ถ้าซื้อของเยอะๆ ผมก็นั่งแท็กซี่
ผมชอบขี่จักรยานต์นะครับ ได้ออกกำลังกาย สะดวกดี หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดด้วย
แต่บางครั้งรู้สึกสะท้อนใจ หรือลึกๆ ก็คืออายเหมือนกัน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ปั่นจักรยานไปทำงาน
และอยากมีรถเอาไว้ ขับไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง พัก 2-3 วัน
เพื่อนผมหลายคน บอกว่า ผมควรจะซื้อรถยนต์ได้แล้ว ราคาก็ไม่ได้แพงมาก ถือว่าซื้อความสบาย
ไปไหนมาไหน ไม่ต้องรอรถเมลล์เสียเวลา ไม่ต้องตากแดด หน้าฝนก็ไปทำงานได้ ไม่ต้องขี่จักรยานตากฝน
แต่ผมไม่กล้าซื้อรถยนต์ เพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะตามมา ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าประกัน ฯลฯ
ผมควรจะซื้อรถหรือเปล่าครับ หรือควรจะขี่จักรยานไปทำงานเหมือนเดิมต่อไป ?
แล้วผมควรจะซื้อบ้าน หรือซื้อรถ หรือเปล่าครับ ???
หรือว่าควรจะออมเงินด้วยวิธีเดิม โดยใช้วิธีการฝากเงิน และซื้อกองทุนรวม แบบเดิมไปเรื่อยๆ จนเกษียณ
มนุษย์เงินเดือน ที่เป็นโสดแบบผม ควรจะวางแผนทางการเงินแบบไหนดีครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะครับ
คนโสดแบบผม ควรจะซื้อบ้าน หรือ ซื้อรถ หรือ ซื้อกองทุนรวม ดีกว่าครับ
ผมอายุ 34 ปี เริ่มทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้ 1 ปีแล้ว มหาวิทยาลัยอยู่ในกรุงเทพ ตั้งอยู่ชานเมือง
เงินเดือน 31,500 บาท แต่หักฝากสหกรณ์ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหลือเงินเดือน 26,900 บาท
ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนคือ
- ค่าเช่าหอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย 5,000 บาท + น้ำ/ไฟฟ้า 1,200 บาท
- ค่าอาหาร 4,000 บาท
- ค่าซักรีด 350 บาท
- จิปาถะ 1,500 บาท
เหลือเงินประมาณ 14,850 บาท/เดือน เงินจำนวนนี้ ปัจจุบัน ผมซื้อกองทุนหมดเลย
ซื้อพวก RMF, LTF แล้วก็กองทุนรวมอื่นๆ
ผมมีเงินออมจากหลายๆ บัญชี รวมแล้วประมาณ 300,000 บาท
ผมเป็นคนโสดอยู่คนเดียว ผมไม่ต้องส่งเสียเงินให้พ่อแม่ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว
ส่วนพี่น้องก็แต่งงาน แยกย้ายกันไปหมดแล้ว ต่างก็รับผิดชอบกับครอบครัวตัวเอง ไม่มีการรบกวนกันเรื่องเงิน
และผมเป็นเกย์ เพราะฉะนั้นไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ไม่มีภาระใดๆ อีกครับ
**********************************************************
เรื่องบ้าน ตอนนี้ ผมอายุ 34 ปี แต่ยังเช่าหอพักอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่กับพวกนักศึกษานั่นแหล่ะ
ได้คุยกับเพื่อนเก่าๆ สมัยมัธยม เห็นเขาซื้อบ้านกันหมดแล้ว เพื่อนผมบางคน เตรียมจะซื้อบ้านหลังที่ 2 แล้ว
ผมรู้สึกว่า ผมควรจะเป็นผู้ใหญ่ แล้วซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้หรือยังครับ ?
การที่คนอายุ 34 ปีจะเช่าห้องไปเรื่อยๆ จนอายุ 40-50 ปี เป็นเรื่องแปลกหรือเปล่าครับ
แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยผม กำลังสร้างหอพักสวัสดิการ กำหนดเสร็จปลายปีนี้
ซึ่งผมมีสิทธิ์ที่จะอยู่ได้ แต่ต้องรอสรุปอีกครั้ง (โอกาสประมาณ 70% ที่จะได้อยู่)
โดยถ้าได้อยู่หอของมหาวิทยาลัยจะเสียค่าเช่าห้องประมาณ 500-1,000 บาท/เดือน สามารถเดินไปทำงานได้เลย
ใจหนึ่งผมก็อยากซื้อบ้านของตัวเอง เพราะอยากมีความมั่นคงให้ชีวิต
แต่ก็ลังเล เพราะว่าถ้ามีที่พักราคาถูกของมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ไม่ควรจะต้องไปซื้อบ้านของตัวเอง
เพราะเป็นภาระต้องผ่อนไป 10-20 ปี แถมต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีก
กรณีแบบนี้ ผมควรจะซื้อบ้าน เพื่อเป็นการลงทุนหรือเปล่าครับ ?
**********************************************************
ส่วนกรณีซื้อรถยนต์ ตอนนี้ผมขี่จักรยานไปทำงานครับ ประมาณ 5-10 นาทีถึงมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะหอพักอยู่ใกล้มาก
เวลาออกไปไหนไกลๆ ผมก็นั่งรถเมลล์กับรถตู้ ถ้าซื้อของเยอะๆ ผมก็นั่งแท็กซี่
ผมชอบขี่จักรยานต์นะครับ ได้ออกกำลังกาย สะดวกดี หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดด้วย
แต่บางครั้งรู้สึกสะท้อนใจ หรือลึกๆ ก็คืออายเหมือนกัน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ปั่นจักรยานไปทำงาน
และอยากมีรถเอาไว้ ขับไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง พัก 2-3 วัน
เพื่อนผมหลายคน บอกว่า ผมควรจะซื้อรถยนต์ได้แล้ว ราคาก็ไม่ได้แพงมาก ถือว่าซื้อความสบาย
ไปไหนมาไหน ไม่ต้องรอรถเมลล์เสียเวลา ไม่ต้องตากแดด หน้าฝนก็ไปทำงานได้ ไม่ต้องขี่จักรยานตากฝน
แต่ผมไม่กล้าซื้อรถยนต์ เพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะตามมา ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าประกัน ฯลฯ
ผมควรจะซื้อรถหรือเปล่าครับ หรือควรจะขี่จักรยานไปทำงานเหมือนเดิมต่อไป ?
แล้วผมควรจะซื้อบ้าน หรือซื้อรถ หรือเปล่าครับ ???
หรือว่าควรจะออมเงินด้วยวิธีเดิม โดยใช้วิธีการฝากเงิน และซื้อกองทุนรวม แบบเดิมไปเรื่อยๆ จนเกษียณ
มนุษย์เงินเดือน ที่เป็นโสดแบบผม ควรจะวางแผนทางการเงินแบบไหนดีครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะครับ