สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เพราะว่าไม่ทราบว่าว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงซอฮยอนมาอย่างไง เลยตอบวิธีการเลี้ยงแบบนั้นไม่ได้
แต่จากมุมมองของเราเอง พื้นฐานครอบครัว พ่อแม่ เป็นปัจจัยสำคัญ มาก ๆ ในการดูแล เลี้ยงดูลูก และยิ่งเป็นลูกคนเดียว การดูแลเอาใจใส่ก็มากเป็นพิเศษ พ่อแม่เองจะเป็นแรงสนับสนุนส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ในหลายสิ่ง ทำให้ลูกได้ค้นพบแนวทางที่ชอบ( สนับสนุนให้ลูกทำแต่ไม่ใช่บังคับหรือกดดันลูกให้ทำในสิ่งที่อยากให้ลูกทำนะ ) ท่านก็จะคอยใส่ใจ สนใจ ลูกตลอด แต่ไม่ใช่ตามติดจนรู้สึกอึดอัด (ตามอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ) ไม่คอยมาจู้จี้ ตามบ่นตลอด กล้าปล่อยให้ลองทำในสิ่งนั้นคนเดียว เพื่อเป็นการเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ ด้านมารยาทและนิสัย คงจะเป็นการค่อยๆปลูกฝังลูกไปทีละนิดทีละน้อย จะซึมซับมันไปเอง บางอย่างก็เกิดจากการที่ตัวซอฮยอนได้ประสบมันด้วยตัวเอง เพราะว่าแต่ก่อนตัวเองก็ไม่ได้ชอบกินผัก เคยกินแฮมเบอร์เกอร์เหมือนคนอื่น ๆ ร่างกายป่วยบ่อย แต่เพราะว่าสุขภาพร่างกายที่รู้สึกได้ว่ามันไม่ดี มันเริ่มแย่นั่นแหละ ถึงได้ลด ละ เลิก มันไป อีกอย่างตัวซอฮยอนเองเป็นคนที่รู้จักการวางแบบแผน จัดการระเบียบชีวิตตัวเองตั้งแต่เด็ก และมีกระบวนการคิดที่ละเอียด ซับซ้อน มาแต่ไหนแต่ไรด้วย สังเกตเลย ประโยคหลายอย่างที่พูดไว้จะดูลึกซึ้ง ล้ำลึก แบบที่ใครหลายคนอาจคิดไม่ถึงได้ มันเลยส่งผลให้ซอฮยอนเป็นคนที่มีบุคลิกแบบนี้ ยกตัวอย่างคือ ตื่นขึ้นเองโดยไม่ต้องให้ใครปลุกตั้งแต่เด็ก ตื่นมาต้องอ่านหนังสือ ท่องศัพท์
บางครั้งพ่อแม่เลี้ยงดูดีแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเองด้วยที่จะรับมันมาทำไหม หรือเลือกที่จะละเลยมัน
สำหรับใครที่มองซอฮยอนแบบผิวเผิน หรือยึดติดกับภาพลักษณ์สาวเคร่งครัด สาวน่าเบื่อ ดูตึงเกินไป หรือภาพลักษณ์เรียบร้อยประดุจแม่ชีนั่น อยากให้ลองเปิดใจ หรือ มองในหลายมุมค่ะ จะเห็นว่าซอฮยอนไม่ใช่แบบนั้นเลย ความจริงก็เป็นคนที่ร่าเริง สดใส ตลก เฮฮา บ้าบอ รั่วได้เหมือนกับคนอื่น แต่ก็ยังมีความเคร่งครัดกฎระเบียบ จัดการแผนที่วางไว้อย่างดีเยี่ยม (เคารพแบบแผนที่วางไว้จนทำมันเสร็จ) กับรุ่นพี่ในวงแล้วตอนอยู่ในหอพักก็พูดไม่หยุดแบบน้ำไหลไฟดับ ขี้เล่น เกรียนบ้าง รั่วบ้าง แต่ถ้าเป็นงานเมื่อไร จะเข้าโหมดจริงจัง เพราะอยากให้งานเดินหน้าหรือเสร็จโดยเร็ว สำหรับเพื่อน ๆ ซอฮยอนมีทั้งเพื่อนสนิทจากนอกวงการและในวงการ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง และก็ทำตัวเหมือนเราหลายคนที่มีเพื่อน คุยกัน ไปกินข้าวกัน หยอกล้อ มีทุบตีกันบ้าง หลายครั้งก็เป็นฝ่ายเข้าไปคุยก่อนด้วยซ้ำ สำหรับรุ่นพี่และคนเคยร่วมงาน ซอฮยอนเป็นคนน่าเอ็นดู มีมารยาท ขยัน ตั้งใจ มุ่งมั่นมาก แต่ก็ยังมีความน่ารัก สดใส ไปด้วย เหมือนแฮปปี้ไวรัสในทีมงานด้วยกัน หลายคนที่ร่วมงานถึงกับออกปากชมไม่ขาด และเป็นน้องรักของหลายคน ซอฮยอนไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไรขนาดนั้น แค่มีมารยาท รู้จักกาลเทศะ เท่านั้น และด้วยความที่ใส่ใจในตัวคนอื่น ทำให้คอยเก็บรายละเอียดต่างๆตลอด บางครั้งมันเล็กน้อยจนคนไม่สนใจด้วยซ้ำ เพราะกลัวคนจะไม่สบายใจ หรือลำบาก เลยต้องคิดหน้าคิดหลังเป็นพิเศษ ซอฮยอนเป็นคนที่ดูแลและห่วงใยทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เป็นคนที่ประหยัด ใช้เงินเป็น ถึงรายได้จะมีมากจนใช้จ่ายได้สบาย ก็ไม่ค่อยเห็นซอฮยอนใช้ข้าวของแพงมากเท่าไรหรอก นานๆทีจะมีที่ราคาสูงจนน่าตกใจหน่อย และความที่เป็นคนที่ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ ก็ต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่ทำไปเลยทำให้คนบอกว่ามันตึงไป สุดท้ายซอฮยอนก็เที่ยวได้ดื่มได้เหมือนคนทั่วไป แต่ไม่บ่อย ทำเพื่อเข้าสังคมกับคนอื่น
นิสัยบางอย่างมันกลายเป็นกิจวิตรไปแล้ว อย่างอ่านหนังสือเป็นประจำ สำหรับซอฮยอนอ่านเพราะเหมือนหาที่พึ่ง ช่วยควบคุมตัวเอง อย่างเราก็อ่านเพราะชอบ อ่านเพราะทำให้มีสมาธิ มีสติ ไม่วอกแวก เปิดเสียงธรรมชาติก่อนนอน เราก็เปิด เพราะมันช่วยให้ผ่อนคลาย กล่อมให้หลับสบาย
ซอฮยอนยังเป็นทั้งเจ้าสาว ลูกสาว ลูกสะใภ้ แม่บ้าน ภรรยา ในอุดมคติของใครหลายคนที่เลือกโหวตให้ เราก็คิดว่าเป็นจริง ๆ และเชื่อว่าซอฮยอนจะมีวิธีจัดการดูแลลูกและสามีได้อย่างดี มีความยืดหยุ่น ไม่ตึงไม่หย่อนไป ว่าแล้วก็อยากเห็นชีวิตหลังจากแต่งงานไปแล้วจัง ...
อยากให้หลายคนเปิดใจกับซอฮยอนให้กว้างกว่านี้ จะพบว่าผู้หญิงที่ชื่อว่า’ซอจูฮยอน’ ไม่ใช่คนที่ดูน่าเบื่อ จำเจอะไรหรอกค่ะ เป็นคนที่มีด้านที่เคร่งครัดแต่ก็มีด้านที่ผ่อนคลาย ร่าเริงไปพร้อมกัน
ปล.แก้อีกแล้ว ยาวไปอีก แฮ่
ปล.สอง ถ้ามีลูกก็อยากให้ลูกเป็นแบบซฮยอนนี้ล่ะ เป็นผู้ชายก็จะเลือกผู้หญิงแบบนี้ เป็นแม่ลูกชายก็จะเลือกลูกสะใภ้แบบนี้ 5555
แต่จากมุมมองของเราเอง พื้นฐานครอบครัว พ่อแม่ เป็นปัจจัยสำคัญ มาก ๆ ในการดูแล เลี้ยงดูลูก และยิ่งเป็นลูกคนเดียว การดูแลเอาใจใส่ก็มากเป็นพิเศษ พ่อแม่เองจะเป็นแรงสนับสนุนส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ในหลายสิ่ง ทำให้ลูกได้ค้นพบแนวทางที่ชอบ( สนับสนุนให้ลูกทำแต่ไม่ใช่บังคับหรือกดดันลูกให้ทำในสิ่งที่อยากให้ลูกทำนะ ) ท่านก็จะคอยใส่ใจ สนใจ ลูกตลอด แต่ไม่ใช่ตามติดจนรู้สึกอึดอัด (ตามอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ) ไม่คอยมาจู้จี้ ตามบ่นตลอด กล้าปล่อยให้ลองทำในสิ่งนั้นคนเดียว เพื่อเป็นการเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ ด้านมารยาทและนิสัย คงจะเป็นการค่อยๆปลูกฝังลูกไปทีละนิดทีละน้อย จะซึมซับมันไปเอง บางอย่างก็เกิดจากการที่ตัวซอฮยอนได้ประสบมันด้วยตัวเอง เพราะว่าแต่ก่อนตัวเองก็ไม่ได้ชอบกินผัก เคยกินแฮมเบอร์เกอร์เหมือนคนอื่น ๆ ร่างกายป่วยบ่อย แต่เพราะว่าสุขภาพร่างกายที่รู้สึกได้ว่ามันไม่ดี มันเริ่มแย่นั่นแหละ ถึงได้ลด ละ เลิก มันไป อีกอย่างตัวซอฮยอนเองเป็นคนที่รู้จักการวางแบบแผน จัดการระเบียบชีวิตตัวเองตั้งแต่เด็ก และมีกระบวนการคิดที่ละเอียด ซับซ้อน มาแต่ไหนแต่ไรด้วย สังเกตเลย ประโยคหลายอย่างที่พูดไว้จะดูลึกซึ้ง ล้ำลึก แบบที่ใครหลายคนอาจคิดไม่ถึงได้ มันเลยส่งผลให้ซอฮยอนเป็นคนที่มีบุคลิกแบบนี้ ยกตัวอย่างคือ ตื่นขึ้นเองโดยไม่ต้องให้ใครปลุกตั้งแต่เด็ก ตื่นมาต้องอ่านหนังสือ ท่องศัพท์
บางครั้งพ่อแม่เลี้ยงดูดีแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเองด้วยที่จะรับมันมาทำไหม หรือเลือกที่จะละเลยมัน
สำหรับใครที่มองซอฮยอนแบบผิวเผิน หรือยึดติดกับภาพลักษณ์สาวเคร่งครัด สาวน่าเบื่อ ดูตึงเกินไป หรือภาพลักษณ์เรียบร้อยประดุจแม่ชีนั่น อยากให้ลองเปิดใจ หรือ มองในหลายมุมค่ะ จะเห็นว่าซอฮยอนไม่ใช่แบบนั้นเลย ความจริงก็เป็นคนที่ร่าเริง สดใส ตลก เฮฮา บ้าบอ รั่วได้เหมือนกับคนอื่น แต่ก็ยังมีความเคร่งครัดกฎระเบียบ จัดการแผนที่วางไว้อย่างดีเยี่ยม (เคารพแบบแผนที่วางไว้จนทำมันเสร็จ) กับรุ่นพี่ในวงแล้วตอนอยู่ในหอพักก็พูดไม่หยุดแบบน้ำไหลไฟดับ ขี้เล่น เกรียนบ้าง รั่วบ้าง แต่ถ้าเป็นงานเมื่อไร จะเข้าโหมดจริงจัง เพราะอยากให้งานเดินหน้าหรือเสร็จโดยเร็ว สำหรับเพื่อน ๆ ซอฮยอนมีทั้งเพื่อนสนิทจากนอกวงการและในวงการ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง และก็ทำตัวเหมือนเราหลายคนที่มีเพื่อน คุยกัน ไปกินข้าวกัน หยอกล้อ มีทุบตีกันบ้าง หลายครั้งก็เป็นฝ่ายเข้าไปคุยก่อนด้วยซ้ำ สำหรับรุ่นพี่และคนเคยร่วมงาน ซอฮยอนเป็นคนน่าเอ็นดู มีมารยาท ขยัน ตั้งใจ มุ่งมั่นมาก แต่ก็ยังมีความน่ารัก สดใส ไปด้วย เหมือนแฮปปี้ไวรัสในทีมงานด้วยกัน หลายคนที่ร่วมงานถึงกับออกปากชมไม่ขาด และเป็นน้องรักของหลายคน ซอฮยอนไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไรขนาดนั้น แค่มีมารยาท รู้จักกาลเทศะ เท่านั้น และด้วยความที่ใส่ใจในตัวคนอื่น ทำให้คอยเก็บรายละเอียดต่างๆตลอด บางครั้งมันเล็กน้อยจนคนไม่สนใจด้วยซ้ำ เพราะกลัวคนจะไม่สบายใจ หรือลำบาก เลยต้องคิดหน้าคิดหลังเป็นพิเศษ ซอฮยอนเป็นคนที่ดูแลและห่วงใยทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เป็นคนที่ประหยัด ใช้เงินเป็น ถึงรายได้จะมีมากจนใช้จ่ายได้สบาย ก็ไม่ค่อยเห็นซอฮยอนใช้ข้าวของแพงมากเท่าไรหรอก นานๆทีจะมีที่ราคาสูงจนน่าตกใจหน่อย และความที่เป็นคนที่ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ ก็ต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่ทำไปเลยทำให้คนบอกว่ามันตึงไป สุดท้ายซอฮยอนก็เที่ยวได้ดื่มได้เหมือนคนทั่วไป แต่ไม่บ่อย ทำเพื่อเข้าสังคมกับคนอื่น
นิสัยบางอย่างมันกลายเป็นกิจวิตรไปแล้ว อย่างอ่านหนังสือเป็นประจำ สำหรับซอฮยอนอ่านเพราะเหมือนหาที่พึ่ง ช่วยควบคุมตัวเอง อย่างเราก็อ่านเพราะชอบ อ่านเพราะทำให้มีสมาธิ มีสติ ไม่วอกแวก เปิดเสียงธรรมชาติก่อนนอน เราก็เปิด เพราะมันช่วยให้ผ่อนคลาย กล่อมให้หลับสบาย
ซอฮยอนยังเป็นทั้งเจ้าสาว ลูกสาว ลูกสะใภ้ แม่บ้าน ภรรยา ในอุดมคติของใครหลายคนที่เลือกโหวตให้ เราก็คิดว่าเป็นจริง ๆ และเชื่อว่าซอฮยอนจะมีวิธีจัดการดูแลลูกและสามีได้อย่างดี มีความยืดหยุ่น ไม่ตึงไม่หย่อนไป ว่าแล้วก็อยากเห็นชีวิตหลังจากแต่งงานไปแล้วจัง ...
อยากให้หลายคนเปิดใจกับซอฮยอนให้กว้างกว่านี้ จะพบว่าผู้หญิงที่ชื่อว่า’ซอจูฮยอน’ ไม่ใช่คนที่ดูน่าเบื่อ จำเจอะไรหรอกค่ะ เป็นคนที่มีด้านที่เคร่งครัดแต่ก็มีด้านที่ผ่อนคลาย ร่าเริงไปพร้อมกัน
ปล.แก้อีกแล้ว ยาวไปอีก แฮ่
ปล.สอง ถ้ามีลูกก็อยากให้ลูกเป็นแบบซฮยอนนี้ล่ะ เป็นผู้ชายก็จะเลือกผู้หญิงแบบนี้ เป็นแม่ลูกชายก็จะเลือกลูกสะใภ้แบบนี้ 5555
ความคิดเห็นที่ 11
จริงๆหลายๆคนอาจจะติดภาพน้องซอสมัยเดบิวต์ใหม่ๆ ที่อยู่ในกรอบเคร่งครัดเงียบขรึมอะไรทำนองนั้น
แต่ตอนนี้น้องซอไม่ใช่อย่างนั้นแล้วจริงๆนะคะ ตอนนี้เป็นน้องซอที่ร่าเริงสดใสนะคะ ตลก บ๊อง ซุ่มซ่ามตามเรื่องตามราวไปแต่ก็ยังเป็นคนที่รู้กาลเทศะและถือเรื่องมารยาทมากๆ แต่สำหรับเราถ้าให้คิดว่าน้องซอเปลี่ยนไปก็คงไม่เชิงแต่เป็นเหมือนการปลดปล่อยตัวตนของตัวเองออกมามากขึ้นขึ้นกว่าสมัยแรกๆอาจจะเพราะทั้งตอนฝึกตอนเดบิวต์ มีเรื่องราวยากลำบากมากมายที่เกิดขึ้น การแสดงออกในช่วงนั้นอาจจะเป็นการรับมือสถานการณ์ที่ยากลำบากในแบบของน้องก็ได้ น้องเคยเล่าว่าเป็นเพราะตัวเองออกมาอยู่ในสังคมมาอยู่ในที่สว่างตั้งแต่เด็กมีสิ่งเข้ามากระทบจิตใจมากมายแล้วตัวเองก็ไม่ร็จะหาทางออกให้เรื่องเหล่านั้นได้ยังไงก็เลยอ่านหนังสือพวกปรัญญา พัฒนาตนเอง วิธีการคิดต่างๆ เพื่อหาทางออกให้ตนเอง นี่ก็อาจจะเป็นอื่นอย่างนึงซึ่งทำให้สมัยแรกๆน้องซอจะยึดติดทฤษฎีมากไปหน่อย แต่แล้วพอมาตอนนี้ในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วมุมมองการคิดการปรับตัวก็ดีขึ้น ทำให้ทำตัวสบายๆขึ้นเยอะเลย
ส่วนเรื่องการเข้าหาผู้คนนี่คนชอบเข้าใจผิดว่าน้องเข้าหาคนอื่นยาก เข้ากับคนอื่นยาก จริงๆแล้วมันเป็นเพราะภาษลักษณ์เก่าๆที่ทำให้คนมองน้องแบบนั้นซึ่งน้องเองก็รู้ตัว น้องซอจึงมักเป็นคนเข้าไปทักทายคนอื่นๆก่อนเสมอๆทำให้คนอื่นสบายใจที่จะคุยด้วย เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ต่างๆของทั้งดารา ทีมงานต่างๆที่บอกว่าน้องซอเป็นคนเข้าไปทักทายก่อน เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดี เป็นคนที่ทำให้กองถ่ายต่างๆยิ้มได้เสมอๆ
ในเรื่องการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ จากที่น้องเคยเล่าคือคุณพ่อคุณแม่จะคอยสนับสนุนให้น้องลองทำหลายๆอย่างทั้ง เปียโน ไวโอลีน ฟลุต ขี่ม้า บัลเล่ สเก็ตน้ำแข็ง ตีกลองโบราณ เรียนภาษา เพื่อให้น้องได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบตั้งแต่เด็กๆ ส่วนเรื่องมารยาทต่างๆก็คงปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยค่อยๆซึมซับกันไป แล้วน้องซอเองก็เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก สามารถตื่นนอนไปโรงเรียนเองได้โดยคุณแม่ไม่ต้องมาปลุกได้ตั้งแต่ประถมเพียงแค่คิดว่าต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถตื่นได้ น้องก็สามารถตื่นได้จริงๆ แล้วยังเรียนได้อันดับต้นๆของห้องตลอดทั้งๆที่ตอนเป็นเด็กฝึกต้องซ้อมเกือบทั้งคืน น้องก็ทำการบ้านบนรถไฟตอนไปบริษัท แล้วตื่นเช้ามาอ่านหนังสือไปเรียน ทำอย่างนี่จนเดบิวต์ก็ยังตื่นมาท่องศัพท์อ่านหนังสืออยู่ ขนาดช่วงงานยุ่งมากๆก็ยังพยายามตื่นมาอ่าน พอพี่ๆตื่นออกมาบางครั้งยังเจอน้องซอหลับพร้อมหนังสือเรียนอยู่บนโซฟาเลย 555+
เรื่องเรียนนี่น้องซอสู้ไม่ถอยจริงๆค่ะ งานยุ่งขนาดไหนก็พยายามไปเรียน เคยแบบบินกลับมาถึงโซลตอนเช้าก็ไปเรียนที่มหาลัยต่อเลยก็มี แล้วน้องก็ทำสำเร็จโดยการเรียนจบตามเกณฑ์ 4 ปีพร้อมเพื่อนๆเลย
มีอีกเรื่องของน้องซอที่เราชื่นชมเสมอมานั้นก็คือความประหยัด น้องหาเงินได้มากมายตั้งแต่อายุน้อยๆแต่ก็ยังใช้เงินได้อย่างน่ารักตลอด
ข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ๆถึงมันจะแพงสำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆแต่ถ้าเทียบกับรายได้ที่น้องได้รับนี่ถือว่าน้องค่อนข้างประหยัดเลยแหละ
กระเป๋าใบละเป็นแสนที่ใช้นี่มีมาให้เห็นน้อยมาก ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ เครื่องประดับหรูๆก็ใช้บ้างแต่ไม่บ่อย รถก็ใช้รถในประเทศ มือถือก็ซัมซุง ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนตามรุ่นที่ออกใหม่ด้วยนะ นานๆเปลี่ยนที (แต่สองอย่างหลังนี่ไม่รู้ว่าเพราะประหยัดจริงๆหรือแม่นางจะชาตินิยม555+)
สุดท้ายเราก็อยากให้ทุกๆคนได้มองน้องซอในมุมใหม่ๆบ้าง อย่ายึดติดกับภาพลักษณ์เก่าๆ ตอนนี้น้องซอคือผู้หญิงที่ร่ารางสดใส แต่มีความคิดที่ถูกที่ควร และถ้าใครอยากเห็นน้องซอในมุมใหม่ๆแนะนำให้ดู The TTS รายการนี้แสดงให้เห็นถึงมุมน่ารักๆของน้องซอเยอะแยะเลย จนทีมงานยังยกให้น้องซอเป็นสาวน้อยสดใสสำหรับทีมงานเลยค่ะ ยังไงก็ฝากยัยแก้มป่องขี้อ้อนไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคร้าาา

แต่ตอนนี้น้องซอไม่ใช่อย่างนั้นแล้วจริงๆนะคะ ตอนนี้เป็นน้องซอที่ร่าเริงสดใสนะคะ ตลก บ๊อง ซุ่มซ่ามตามเรื่องตามราวไปแต่ก็ยังเป็นคนที่รู้กาลเทศะและถือเรื่องมารยาทมากๆ แต่สำหรับเราถ้าให้คิดว่าน้องซอเปลี่ยนไปก็คงไม่เชิงแต่เป็นเหมือนการปลดปล่อยตัวตนของตัวเองออกมามากขึ้นขึ้นกว่าสมัยแรกๆอาจจะเพราะทั้งตอนฝึกตอนเดบิวต์ มีเรื่องราวยากลำบากมากมายที่เกิดขึ้น การแสดงออกในช่วงนั้นอาจจะเป็นการรับมือสถานการณ์ที่ยากลำบากในแบบของน้องก็ได้ น้องเคยเล่าว่าเป็นเพราะตัวเองออกมาอยู่ในสังคมมาอยู่ในที่สว่างตั้งแต่เด็กมีสิ่งเข้ามากระทบจิตใจมากมายแล้วตัวเองก็ไม่ร็จะหาทางออกให้เรื่องเหล่านั้นได้ยังไงก็เลยอ่านหนังสือพวกปรัญญา พัฒนาตนเอง วิธีการคิดต่างๆ เพื่อหาทางออกให้ตนเอง นี่ก็อาจจะเป็นอื่นอย่างนึงซึ่งทำให้สมัยแรกๆน้องซอจะยึดติดทฤษฎีมากไปหน่อย แต่แล้วพอมาตอนนี้ในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วมุมมองการคิดการปรับตัวก็ดีขึ้น ทำให้ทำตัวสบายๆขึ้นเยอะเลย
ส่วนเรื่องการเข้าหาผู้คนนี่คนชอบเข้าใจผิดว่าน้องเข้าหาคนอื่นยาก เข้ากับคนอื่นยาก จริงๆแล้วมันเป็นเพราะภาษลักษณ์เก่าๆที่ทำให้คนมองน้องแบบนั้นซึ่งน้องเองก็รู้ตัว น้องซอจึงมักเป็นคนเข้าไปทักทายคนอื่นๆก่อนเสมอๆทำให้คนอื่นสบายใจที่จะคุยด้วย เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ต่างๆของทั้งดารา ทีมงานต่างๆที่บอกว่าน้องซอเป็นคนเข้าไปทักทายก่อน เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดี เป็นคนที่ทำให้กองถ่ายต่างๆยิ้มได้เสมอๆ
ในเรื่องการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ จากที่น้องเคยเล่าคือคุณพ่อคุณแม่จะคอยสนับสนุนให้น้องลองทำหลายๆอย่างทั้ง เปียโน ไวโอลีน ฟลุต ขี่ม้า บัลเล่ สเก็ตน้ำแข็ง ตีกลองโบราณ เรียนภาษา เพื่อให้น้องได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบตั้งแต่เด็กๆ ส่วนเรื่องมารยาทต่างๆก็คงปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยค่อยๆซึมซับกันไป แล้วน้องซอเองก็เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก สามารถตื่นนอนไปโรงเรียนเองได้โดยคุณแม่ไม่ต้องมาปลุกได้ตั้งแต่ประถมเพียงแค่คิดว่าต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถตื่นได้ น้องก็สามารถตื่นได้จริงๆ แล้วยังเรียนได้อันดับต้นๆของห้องตลอดทั้งๆที่ตอนเป็นเด็กฝึกต้องซ้อมเกือบทั้งคืน น้องก็ทำการบ้านบนรถไฟตอนไปบริษัท แล้วตื่นเช้ามาอ่านหนังสือไปเรียน ทำอย่างนี่จนเดบิวต์ก็ยังตื่นมาท่องศัพท์อ่านหนังสืออยู่ ขนาดช่วงงานยุ่งมากๆก็ยังพยายามตื่นมาอ่าน พอพี่ๆตื่นออกมาบางครั้งยังเจอน้องซอหลับพร้อมหนังสือเรียนอยู่บนโซฟาเลย 555+
เรื่องเรียนนี่น้องซอสู้ไม่ถอยจริงๆค่ะ งานยุ่งขนาดไหนก็พยายามไปเรียน เคยแบบบินกลับมาถึงโซลตอนเช้าก็ไปเรียนที่มหาลัยต่อเลยก็มี แล้วน้องก็ทำสำเร็จโดยการเรียนจบตามเกณฑ์ 4 ปีพร้อมเพื่อนๆเลย
มีอีกเรื่องของน้องซอที่เราชื่นชมเสมอมานั้นก็คือความประหยัด น้องหาเงินได้มากมายตั้งแต่อายุน้อยๆแต่ก็ยังใช้เงินได้อย่างน่ารักตลอด
ข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ๆถึงมันจะแพงสำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆแต่ถ้าเทียบกับรายได้ที่น้องได้รับนี่ถือว่าน้องค่อนข้างประหยัดเลยแหละ
กระเป๋าใบละเป็นแสนที่ใช้นี่มีมาให้เห็นน้อยมาก ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ เครื่องประดับหรูๆก็ใช้บ้างแต่ไม่บ่อย รถก็ใช้รถในประเทศ มือถือก็ซัมซุง ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนตามรุ่นที่ออกใหม่ด้วยนะ นานๆเปลี่ยนที (แต่สองอย่างหลังนี่ไม่รู้ว่าเพราะประหยัดจริงๆหรือแม่นางจะชาตินิยม555+)
สุดท้ายเราก็อยากให้ทุกๆคนได้มองน้องซอในมุมใหม่ๆบ้าง อย่ายึดติดกับภาพลักษณ์เก่าๆ ตอนนี้น้องซอคือผู้หญิงที่ร่ารางสดใส แต่มีความคิดที่ถูกที่ควร และถ้าใครอยากเห็นน้องซอในมุมใหม่ๆแนะนำให้ดู The TTS รายการนี้แสดงให้เห็นถึงมุมน่ารักๆของน้องซอเยอะแยะเลย จนทีมงานยังยกให้น้องซอเป็นสาวน้อยสดใสสำหรับทีมงานเลยค่ะ ยังไงก็ฝากยัยแก้มป่องขี้อ้อนไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคร้าาา



ความคิดเห็นที่ 8
เมื่อก่อน น้องซออาจดูเป็นคนเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตค่ะ มันอาจเป็นเพราะน้องยังเด็กมาก คิดว่าอะไรถูกต้อง ก็เลยทำอย่างนั้น
แต่ตอนนี้น้องโตมากแล้ว เรียนรู้ที่จะปรับตัว ใส่ใจและฟังความคิดความรู้สึกของคนรอบข้าง
คนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม หรือติดตามน้องแบบผิวเผินมักจะยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ ว่าน้องเป็นคนเคร่งครัด แลดูมีกฎในชีวิตเยอะแยะมากมาย แต่ความจริงเราว่าถ้าได้ทำความรู้จักน้องอีกสักนิด จะได้รู้ว่ากฎต่างๆ มันค่อยๆ ถูกปรับให้ผ่อนลงมากแล้วค่ะ น้องไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย ไม่ได้ใสซื่อเป็นผ้าขาวเหมือนแม่ชี แต่น้องเป็นคนคิดเป็น รู้กาลเทศะและรู้จักการวางตัว คำพูดคำจา และความคิดความอ่าน ลึกซึ้งเกินกว่าคนในช่วงอายุเดียวกัน สิ่งเหล่านี้มาจากตัวน้องเองค่ะ (สคริปที่ผ่านการแต่งแล้วยังไม่ล้ำลึกเท่าความคิดน้องเลย ทำให้ทึ่งได้ทุกเวลา) อาจจะเพราะน้องชอบอ่านหนังสือที่ให้ข้อคิดแง่คิดต่างๆ ก็เลยทำให้น้องมีความคิดลึกซึ้งไม่เหมือนใคร
ด้านการปรับตัว การเข้าสังคม ตอนรู้จักน้องใหม่ๆ เรายังแอบคิดว่าน้องน่าจะเข้ากับคนอื่นได้ยาก แต่ความจริงแล้วไม่เลยค่ะ
น้องเป็นคนที่เข้าถึงง่าย เป็นคนที่เข้าหาคนอื่นก่อน พอได้รู้จักแล้ว ภาพลักษณ์ที่เห็นถูกพังทลายหมดเลยค่ะ 555++ เราดูจากในรายการ The TTS น้องเป็นคนสบายๆ เพื่อนไอดอลคนสนิท ล้วนเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ทั้งนั้นเลยด้วย ทั้งที่น้องไม่ใช่คนเซ็กซี่ซักนิด แต่อย่างโซยู นิโคลคาร่า สองคนนี้แบบ ดูเหมือนไม่น่าจะไปสนิทกันได้เลย 555+ โซยูยังบอกเลยว่าซอฮยอนไม่ใช่เงียบๆ หรือเรียบร้อยอย่างที่คิด
กับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย น้องเฮฮา ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ถือว่าตัวเองคือคนดัง นั่งรถแท็กซี่ไปเรียนเอง จะมีไอดอลกี่คนที่ไปเรียนบ่อยๆทั้งที่ตัวเองงานยุ่ง น้องมีแก้งเพื่อน เฮฮา แอบไปปาร์ตี้กันอยู่บ่อยๆ เราคิดว่าเบื้องหลังน้องก็คนธรรมดาๆนี่แหละค่ะ ทั้งทำงานทั้งเล่น แล้วก็หาความสุขใส่ตัว รั่วบ้าง หลุดบ้าง เกรียนบ้างไปตามประสา ชีวิตไม่ได้เป๊ะอะไรเหมือนกับที่ทุกคนคิด น้องเล่นและเกรียนเต็มที่กับคนที่สนิท ไปทำงานที่ไหนคนก็เอ็นดูแล้วก็มีแต่คำชมตามหลัง เพื่อนน้องที่คบกันมานานยังเผาน้องเลยบอกว่า ซอฮยอนนิสัยเหมือนผู้ชายด้วยซ้ำค่ะ คือดูในรายการ TTS ตอนไป NY รึเปล่าไม่แน่ใจ น้องซอมีเพื่อนฝรั่ง พากันไปช้อป ไปดูมิวสิคัลแบบชิวๆ เลย ไปรู้จักกันตอนไหน 555 + แถมเพื่อนคนนั้นยังตามมาดูมิวสิคัลน้องอีกด้วย
เขียนยาว ไม่ได้ช่วยอะไรคุณเจ้าของกระทู้เลยค่ะ 555++ เราเองก็อยากมีลูกสาวแบบน้องซอเหมือนกัน
คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ เลี้ยงน้องมาดีมากเหมือนความเห็น 5 สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ พ่อแม่น้องสนับสนุนน้องทุกอย่างเลยค่ะ แบบว่าช่วยให้ค้นพบตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยๆ (พ่อแม่เรายังห้ามในหลายเรื่องที่เราชอบด้วยซ้ำ 555++ ช่างผิดกัน T_T)
สิ่งที่น้องดูแตกต่างกับคนอื่นก็คือน้องค้นพบตัวเอง รู้ว่าชอบอะไร พ่อแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ ปัญหาของเด็กๆบ้านเราก็คือ เรียนมามากมาย ไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเองชอบอะไร หรือถนัดอะไร.....
น้องเป็นคนคิดเป็น ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น อาจเพราะได้มาอยู่หอกับพี่ๆตั้งแต่มาเป็นเด็กฝึกด้วยมั้งคะ เลยทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง น้องตื่นนอนก่อน จากนั้นก็ไปปลุกพี่ๆ ตื่นมั่งไม่ตื่นกันมั่ง ก็ว่ากันไปค่ะ 555++
เรื่องมารยาท การวางตัว การรู้จักกาลเทศะ เด็กสมัยใหม่ มักจะชอบทำอะไรตามใจตัวเอง สนใจแต่ตัวเอง น้อยคนค่ะ ที่จะใส่ใจแม้กระทั่งว่าคุยโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ ต้องให้ผู้ใหญ่กดตัดสายก่อน ดูในรายการ WGM น้องรอให้คุณแม่ยงฮวากินก่อน ตัวเองถึงกินตาม รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่มันดูน่ารักมากค่ะ หลายอย่างเราก็เก็บเอามาทำตามด้วย 555++ จุดนี้คือแบบ คุณพ่อคุณแม่น้องสอนมาดีจริงค่ะ
สำคัญมาก น้องไม่ใช่เด็กขี้เกียจ เป็นคนลำดับความสำคัญในแต่ละเรื่องของชีวิต คือรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นมาคอยเซ้าซี้บอกให้ทำ เวลาทำงานก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไปทำงานกับใครที่ไหนก็ได้รับแต่คำชมในแง่ดี สังเกตเลยว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่ พี่สาวพี่ชาย หรือเด็กๆกว่า น้องเข้ากับคนทุกเพศทุกวัยได้ดีหมดเลย
ถ้าเทียบกับคนอื่น น้องอาจดูตึงๆ เคร่งครัด มีกฎระเบียบกับตัวเอง(บ้าง) แต่น้องไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ ไม่ฟังคนอื่น ไม่ใช้เหตุผลค่ะ ทะเยอทะยานตั้งใจเต็มที่เพื่อความสุข เพื่อสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่ทะเยอทะยานด้วยการเบียดเบียนคนอื่น หรือทำให้ใครเดือดร้อน
เอาจริงๆ บ้านนี้ขนาดหมายังเลี้ยงได้เรียบร้อยเลยค่ะ 555++
แต่ตอนนี้น้องโตมากแล้ว เรียนรู้ที่จะปรับตัว ใส่ใจและฟังความคิดความรู้สึกของคนรอบข้าง
คนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม หรือติดตามน้องแบบผิวเผินมักจะยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ ว่าน้องเป็นคนเคร่งครัด แลดูมีกฎในชีวิตเยอะแยะมากมาย แต่ความจริงเราว่าถ้าได้ทำความรู้จักน้องอีกสักนิด จะได้รู้ว่ากฎต่างๆ มันค่อยๆ ถูกปรับให้ผ่อนลงมากแล้วค่ะ น้องไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย ไม่ได้ใสซื่อเป็นผ้าขาวเหมือนแม่ชี แต่น้องเป็นคนคิดเป็น รู้กาลเทศะและรู้จักการวางตัว คำพูดคำจา และความคิดความอ่าน ลึกซึ้งเกินกว่าคนในช่วงอายุเดียวกัน สิ่งเหล่านี้มาจากตัวน้องเองค่ะ (สคริปที่ผ่านการแต่งแล้วยังไม่ล้ำลึกเท่าความคิดน้องเลย ทำให้ทึ่งได้ทุกเวลา) อาจจะเพราะน้องชอบอ่านหนังสือที่ให้ข้อคิดแง่คิดต่างๆ ก็เลยทำให้น้องมีความคิดลึกซึ้งไม่เหมือนใคร
ด้านการปรับตัว การเข้าสังคม ตอนรู้จักน้องใหม่ๆ เรายังแอบคิดว่าน้องน่าจะเข้ากับคนอื่นได้ยาก แต่ความจริงแล้วไม่เลยค่ะ
น้องเป็นคนที่เข้าถึงง่าย เป็นคนที่เข้าหาคนอื่นก่อน พอได้รู้จักแล้ว ภาพลักษณ์ที่เห็นถูกพังทลายหมดเลยค่ะ 555++ เราดูจากในรายการ The TTS น้องเป็นคนสบายๆ เพื่อนไอดอลคนสนิท ล้วนเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ทั้งนั้นเลยด้วย ทั้งที่น้องไม่ใช่คนเซ็กซี่ซักนิด แต่อย่างโซยู นิโคลคาร่า สองคนนี้แบบ ดูเหมือนไม่น่าจะไปสนิทกันได้เลย 555+ โซยูยังบอกเลยว่าซอฮยอนไม่ใช่เงียบๆ หรือเรียบร้อยอย่างที่คิด
กับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย น้องเฮฮา ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ถือว่าตัวเองคือคนดัง นั่งรถแท็กซี่ไปเรียนเอง จะมีไอดอลกี่คนที่ไปเรียนบ่อยๆทั้งที่ตัวเองงานยุ่ง น้องมีแก้งเพื่อน เฮฮา แอบไปปาร์ตี้กันอยู่บ่อยๆ เราคิดว่าเบื้องหลังน้องก็คนธรรมดาๆนี่แหละค่ะ ทั้งทำงานทั้งเล่น แล้วก็หาความสุขใส่ตัว รั่วบ้าง หลุดบ้าง เกรียนบ้างไปตามประสา ชีวิตไม่ได้เป๊ะอะไรเหมือนกับที่ทุกคนคิด น้องเล่นและเกรียนเต็มที่กับคนที่สนิท ไปทำงานที่ไหนคนก็เอ็นดูแล้วก็มีแต่คำชมตามหลัง เพื่อนน้องที่คบกันมานานยังเผาน้องเลยบอกว่า ซอฮยอนนิสัยเหมือนผู้ชายด้วยซ้ำค่ะ คือดูในรายการ TTS ตอนไป NY รึเปล่าไม่แน่ใจ น้องซอมีเพื่อนฝรั่ง พากันไปช้อป ไปดูมิวสิคัลแบบชิวๆ เลย ไปรู้จักกันตอนไหน 555 + แถมเพื่อนคนนั้นยังตามมาดูมิวสิคัลน้องอีกด้วย
เขียนยาว ไม่ได้ช่วยอะไรคุณเจ้าของกระทู้เลยค่ะ 555++ เราเองก็อยากมีลูกสาวแบบน้องซอเหมือนกัน
คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ เลี้ยงน้องมาดีมากเหมือนความเห็น 5 สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ พ่อแม่น้องสนับสนุนน้องทุกอย่างเลยค่ะ แบบว่าช่วยให้ค้นพบตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยๆ (พ่อแม่เรายังห้ามในหลายเรื่องที่เราชอบด้วยซ้ำ 555++ ช่างผิดกัน T_T)
สิ่งที่น้องดูแตกต่างกับคนอื่นก็คือน้องค้นพบตัวเอง รู้ว่าชอบอะไร พ่อแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ ปัญหาของเด็กๆบ้านเราก็คือ เรียนมามากมาย ไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเองชอบอะไร หรือถนัดอะไร.....
น้องเป็นคนคิดเป็น ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น อาจเพราะได้มาอยู่หอกับพี่ๆตั้งแต่มาเป็นเด็กฝึกด้วยมั้งคะ เลยทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง น้องตื่นนอนก่อน จากนั้นก็ไปปลุกพี่ๆ ตื่นมั่งไม่ตื่นกันมั่ง ก็ว่ากันไปค่ะ 555++
เรื่องมารยาท การวางตัว การรู้จักกาลเทศะ เด็กสมัยใหม่ มักจะชอบทำอะไรตามใจตัวเอง สนใจแต่ตัวเอง น้อยคนค่ะ ที่จะใส่ใจแม้กระทั่งว่าคุยโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ ต้องให้ผู้ใหญ่กดตัดสายก่อน ดูในรายการ WGM น้องรอให้คุณแม่ยงฮวากินก่อน ตัวเองถึงกินตาม รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่มันดูน่ารักมากค่ะ หลายอย่างเราก็เก็บเอามาทำตามด้วย 555++ จุดนี้คือแบบ คุณพ่อคุณแม่น้องสอนมาดีจริงค่ะ
สำคัญมาก น้องไม่ใช่เด็กขี้เกียจ เป็นคนลำดับความสำคัญในแต่ละเรื่องของชีวิต คือรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นมาคอยเซ้าซี้บอกให้ทำ เวลาทำงานก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไปทำงานกับใครที่ไหนก็ได้รับแต่คำชมในแง่ดี สังเกตเลยว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่ พี่สาวพี่ชาย หรือเด็กๆกว่า น้องเข้ากับคนทุกเพศทุกวัยได้ดีหมดเลย
ถ้าเทียบกับคนอื่น น้องอาจดูตึงๆ เคร่งครัด มีกฎระเบียบกับตัวเอง(บ้าง) แต่น้องไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ ไม่ฟังคนอื่น ไม่ใช้เหตุผลค่ะ ทะเยอทะยานตั้งใจเต็มที่เพื่อความสุข เพื่อสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่ทะเยอทะยานด้วยการเบียดเบียนคนอื่น หรือทำให้ใครเดือดร้อน
เอาจริงๆ บ้านนี้ขนาดหมายังเลี้ยงได้เรียบร้อยเลยค่ะ 555++
ความคิดเห็นที่ 2
ขอแชร์ด้วยคนนะครับ ในฐานะพ่อที่มีลูกสาวคนหนึ่งเหมือนกัน
ผมว่าน้องซอมักเน่ มีกฏเกณฑ์ในชีวิตมากเกินไป
น่าเป็นห่วงเวลาที่มีครอบครัวมากกว่าครับ ... ไม่ค่อยยืดหยุ่น
ส่วนตัวผมชอบ ฮันซึงยอนและคูฮาร่า จากวง Kara มากกว่า
ทั้งสองคนนั้น จะดูง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ก็มีความมุ่งมั่นและเต็มที่กับสิ่งที่ทำครับ
แข็งแกร่ง ร่าเริงสมวัย
ผมว่าน้องซอมักเน่ มีกฏเกณฑ์ในชีวิตมากเกินไป
น่าเป็นห่วงเวลาที่มีครอบครัวมากกว่าครับ ... ไม่ค่อยยืดหยุ่น
ส่วนตัวผมชอบ ฮันซึงยอนและคูฮาร่า จากวง Kara มากกว่า
ทั้งสองคนนั้น จะดูง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ก็มีความมุ่งมั่นและเต็มที่กับสิ่งที่ทำครับ
แข็งแกร่ง ร่าเริงสมวัย
ความคิดเห็นที่ 17
ซอฮยอนได้ฉายาว่าเป็น 'ไอดอลผู้มีหลักการและความคิด’
ส่วนหนึ่งเราว่าเป็นเพราะความคิดความอ่านของน้องเอง แต่อีกส่วนหนึ่งคงเป็นการเลี้ยงดูปลูกฝังจากพ่อแม่เหมือนกัน เราอึ้งและทึ่งในคำตอบของน้องทุกครั้ง เป็นคนมีแบบแผนในชีวิตจริงๆ เป็นตัวอย่างการดำรงชีวิตที่ดี
ถ้าถามว่าเลี้ยงลูกยังไงเราเคยอ่านสัมภาษณ์ของซอฮยอนประมาณว่าเพราะคุณแม่จบเอกดนตรี Blure และวิชาโทคือเปียโน ซอฮยอนเลยได้อิทธิพลมาจากคนแม่ น้องเลยชอบฟังเพลงคลาสสิคและฝันอยากจะเป็นนักเปียโนตั้งแต่เด็ก ในช่วงที่เป็นเด็กฝึก น้องก็ตั้งใจเรียนไปด้วยตั้งใจซ้อมไปด้วย เวลานั่งรถไฟกลับบ้านก็จะอาศัยเวลานั้นทำการบ้าน น้องไม่ได้ค่อยได้มีเวลากับครอบครัวกับเพื่อนๆ
ตอนยังเด็กซอฮยอนก็เป็นเด็กเลือกกินนะ ! ชอบกินแต่เนื้อ ไม่ชอบผัก หัวหอม เกลียดซุปแครอท แต่คุณแม่ก็พยายามเอาสิ่งที่ไม่ชอบมารวมกับสิ่งที่ชอบ จนน้องยอมกินได้ในที่สุดค่ะ
ทั้งหมดนี้เราจะบอกว่าเพราะพ่อแม่คอยสนับสนุน และเป็นกำลังใจในทุกเรื่องทำให้น้องโตมาเป็นคนแบบนี้ ภูมิใจแทนพ่อแม่เลย แต่... การเลี้ยงดูมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะอยู่ที่ตัวเด็กด้วยว่าใฝ่ดีแค่ไหน
ส่วนหนึ่งเราว่าเป็นเพราะความคิดความอ่านของน้องเอง แต่อีกส่วนหนึ่งคงเป็นการเลี้ยงดูปลูกฝังจากพ่อแม่เหมือนกัน เราอึ้งและทึ่งในคำตอบของน้องทุกครั้ง เป็นคนมีแบบแผนในชีวิตจริงๆ เป็นตัวอย่างการดำรงชีวิตที่ดี
ถ้าถามว่าเลี้ยงลูกยังไงเราเคยอ่านสัมภาษณ์ของซอฮยอนประมาณว่าเพราะคุณแม่จบเอกดนตรี Blure และวิชาโทคือเปียโน ซอฮยอนเลยได้อิทธิพลมาจากคนแม่ น้องเลยชอบฟังเพลงคลาสสิคและฝันอยากจะเป็นนักเปียโนตั้งแต่เด็ก ในช่วงที่เป็นเด็กฝึก น้องก็ตั้งใจเรียนไปด้วยตั้งใจซ้อมไปด้วย เวลานั่งรถไฟกลับบ้านก็จะอาศัยเวลานั้นทำการบ้าน น้องไม่ได้ค่อยได้มีเวลากับครอบครัวกับเพื่อนๆ
ตอนยังเด็กซอฮยอนก็เป็นเด็กเลือกกินนะ ! ชอบกินแต่เนื้อ ไม่ชอบผัก หัวหอม เกลียดซุปแครอท แต่คุณแม่ก็พยายามเอาสิ่งที่ไม่ชอบมารวมกับสิ่งที่ชอบ จนน้องยอมกินได้ในที่สุดค่ะ
ทั้งหมดนี้เราจะบอกว่าเพราะพ่อแม่คอยสนับสนุน และเป็นกำลังใจในทุกเรื่องทำให้น้องโตมาเป็นคนแบบนี้ ภูมิใจแทนพ่อแม่เลย แต่... การเลี้ยงดูมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะอยู่ที่ตัวเด็กด้วยว่าใฝ่ดีแค่ไหน
และนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่เราจะบอกว่า "ซอฮยอนไม่ใช่แม่ชี" กับคนที่สนิทด้วยนางเป็นเด็กเกรียนๆคนนึงเลยนะ
แสดงความคิดเห็น
จะเลี้ยงลูกสาวอย่างไรให้มีนิสัยแบบ ซอฮยอน snsd
ด้วยความที่ว่าเป็นแฟนคลับของ snsd เห็นนิสัยน้องซอละนี่แบบลูกสาวในอุดมคติเลย 555
ด้วยโลกที่มันโหดร้ายและสิ่งยั่วยุมากมายแบบนี้ การมีลูกสาวนิสัยแบบนี้คงสบายใจได้เยอะเลย
ผมละสงสัยจริงๆว่าพ่อแม่เลี้ยงน้องมายังไง
ป.ล.ถ้ามีลูกชายก็อยากได้ลูกสะไภ้แบบนี้นะครับ 555