อายุ 20 ปี กับหนี้ เกือบสี่แสน ทำไงดีคะ

สวัสดีนี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งขึ้น จะว่าอยากระบายก็ได้นะคะ
ตอนนี้เราอายุ 20 ปี เริ่มขายของผ่านอินเตอร์เน็ตตั้งแต่อายุ 16 ถามว่าขายได้ไหม ขายได้ค่ะ พอมีพอกิน
เรามีแฟนคนนึง คบกันมา 5 ปี ตั้งแต่สมัยเรียน คือเราหาเงินมา เราก็ให้เค้าเป็นเก็บไว้ตลอด เหมือนใช้ด้วยกันน่ะค่ะ
แฟนเราชอบแต่งรถมาก ส่วนเราชอบกินมาก เงินส่วนมาก จะหมดไปกับการแต่งรถ และ การกินตามร้านอาหารของเรา
คือต่างคนต่างตามใจซึ่งกันและกัน
เราใช้เงินต่อวันไม่เคยต่ำกว่าวันละ 1000-1500 บาทเลย (เงินส่วนนีมาจากการขายของผ่านอินเตอร์เน็ต)


พอคบมาระยะนึง เราตัดสินใจออกรถค่ะ เป็นรถมือสองที่ซื้อมาจากญาติเรา ในราคา 220000 บาท เราออกรถตอนอายุ 19
ตอนนั้นทำงานประจำเงินเดือน 12000 + กำไรขายของต่อวัน ทำให้สเตรทเม้นส์เราผ่านมาแบบง่ายๆเลย
เราตัดสินใจผ่อนร่วมกันค่ะ ค่าผ่อนรถเดือนละ 6000 บาท รถผ่านเราก็ลาออกค่ะ
ในขณะที่พ่อแม่ของเรา เห็นกิจการขายของของเราดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นความฝันของเราค่ะ
เราอยากมีร้านเป็นของตัวเอง


พ่อจึงตัดสินใจ กู้เงินมาให้เราลงทุน 50000 ค่ะ ดอกร้อยละ 10% ต่อเดือน เพื่อมาลงของ
แรกๆ เราก็ลงของค่ะ ไม่ต้องไปฝากใครส่งในนาม มีของสต้อกเอง
ไปๆมาๆ เราเริ่มเอาเงินทุนส่วนนี้ มาใช้ส่วนตัวค่ะ หมดไปกับการแต่งรถ การกิน ของเรา จนเงินทุนหมดค่ะ
ใจนึงเราก็อยากจะห้ามแฟน อีกใจนึงเราก็มีส่วนใช้เงินด้วยเหมือนกัน
บ่อยครั้งที่เราทะเลาะกันเรื่องเงินบ่อยมากๆ ทะเลาะกันด้วยการ โยนความผิดกันไป-มา

พอเงินหมดด้วยความที่เราไม่มีของขาย และเราลาออกมาแล้ว เราขอเงินพ่อเราเพิ่มค่ะ (อันนี้พ่อเราไม่ทราบนะคะว่าเงินก้อนแรกหมดแล้ว เราโกหกว่าของอยู่อีกที่นึง)
ครั้งนี้มาเปิดร้านจริงๆ จังๆ พ่อเรายืมญาติมาให้อีก 100000 บาทค่ะ
เราตกแต่งร้าน + จ่ายค่าเช่าเดือนละ 3500 และลงของ พ่อเราเริ่มสงสัยค่ะ ว่าทำไมของเราน้อยจัง
ในเมื่อคราวที่แล้วให้มาตั้ง 50000 เราก็แถไปค่ะ คือตอนนี้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเราใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว
ตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่ค่ะ

เดือนแรกผ่านไป ..
สันดานเดิมของเราและแฟนกลับมาค่ะ เริ่มไม่สั่งของเข้าร้าน เริ่มเอาเงินมาใช้ แฟนเอาไปทำรถ ซื้อฝากระโปรง เปลี่ยนแม็กซ์  
แต่งรถ มีแต่เงินที่ลด เราเริ่มกิน แทบจะทุกมื้อนี่ต้องกินในห้าง บุพเฟ่ห์ อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาลี
ที่ไม่ลดคือ ดอกก้อนแรกที่กู้มาค่ะ เราส่งมาจนถึงตอนนี้ 15 เดือนแล้ว เดือนละ 5000 แต่เราไม่มีปัญญาโป๊ะเค้าค่ะ
หนักกว่าเก่าคือค่าเช่าร้านเดือนละ 3500 ค่าส่วนกลาง 400 เพียงแค่เดือน 2 เราไม่มีจ่ายค่ะ
แม่ต้องเป็นคนจ่ายให้ เวลาเราโดนด่าเรารู้สึกไม่ดีมาก เวลาแม่บอกว่าขายยังไง เงินเอาไปไหน
กำไรเอาไปไหน ของที่ร้านมีแต่ยุบลงๆ  สัญญาเช่าร้านเรา 5 เดือนค่ะ แปลว่าเราต้องแบกรับภาระไปอีก 3 เดือน
ซึ่งจริงๆ แม่เราต้องเป็นคนหามาทั้งหมดค่ะ หามาจ่ายแต่ละเดือน


เรารู้สึกไม่ดีมาก ๆ จนอยู่ดีๆ แฟนเราอยากปล่อยเงินกู้ค่ะ เราเลยไปบอกพ่อเรา เราได้เปอร์เซ็นจากการเก็บดอก
พ่อเราไปเสนอญาติเรา ญาติเราสนใจค่ะ ให้มาอีก 100000 บาท เงินแสนก้อนที่ 2 หมดไป
แม่เราก็ต้องหาจ่ายค่าเช่าร้านเรื่อยๆ จนร้านปิดค่ะ ตอนนี้เราเหลือแต่เงินปล่อยกู้นี่
แต่ก็เหมือนเดิมๆ ค่ะ มันไม่ใช่ครั้งแรก บทเรียนมีมา เราเริ่มทะเลาะกับแฟนหนักขึ้นๆ เรื่องการใช้เงิน รายจ่ายต่อเดือน
โทษกันไปมา ว่าอันไหนจำเป็นอันไหนไม่จำเป็น ทั้งค่าผ่อนรถ ค่าดอก เราก็จะดิ้นไม่หลุดแล้วค่ะ
แถมยังต้องมาคอยโกหกเค้าว่าปล่อยเงินกู้ได้เท่าไร และไปหาเงินมาใช้เค้าอีกต่อนึง จากเราจะได้เปอร์เซ็น
แปลว่าเราต้องมาเสียดอกเพิ่มเอง  
ค่างวดรถของเราเริ่มผ่อนไม่ตรงค่ะ จ่าย1งวด ค้าง2งวด พยายามไม่ให้ชน 3 งวด
แถมแฟนเรากู้จากที่ทำงาน ส่งดอกรายวันมาอีก เพื่อมาจ่ายค่างวดต่อเดือน ร้อยละ 20 ค่ะ
ขั้นต่ำต่อเดือนก็เดือนละ 8000 ค่ะ เน้นส่งรายวัน 24 วันรวมดอก


จนวันนึงพ่อเราเรียกเราไปคุยค่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา เงินเป็นแสนๆ ไปไหนหมด
เราอึ้งค่ะ ตอบคำถามพ่อเราไม่ได้ พ่อเราถามเราจะพอไหม
เรายังคงยืนยันว่าเราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง พ่อเราใจอ่อนค่ะ
และเราตั้งใจไว้แล้วจริงๆ คราวนี้พ่อให้มาอีก 50000 ค่ะ พ่อบอกว่าครั้งสุดท้ายแล้ว  
เราลงของค่ะ ตอนนี้เราเริ่มหันมากินข้าวแกงค่ะ อิ่ม อร่อย ที่สำคัญประหยัดค่ะ
เราสงสารพ่อกับแม่เราค่ะ ต้องมาเสียเงินมากมายขนาดนี้เพราะเรา
เราอายุ 20 วัยนี้จริงๆ เราควรจะเรียนมากกว่า เราใฝ่สูงเกินไป แค่คิดว่าอยากทำธุรกิจ
เราชอบค้าขาย ชอบการบริหาร  แต่ล้มไม่เป็นท่า

แต่ที่ดูจะไม่ลดละก็คือแฟนเรา ยังคงอยากแต่งรถ อยากโน้น อยากนี่ จนตอนนี้เราคิดเหมือนเค้าคือตัวถ่วงในชีวิตเราค่ะ
เราก็ยังขายของออนไลน์อยู่ แต่วันไหนขายไม่ได้ ขายไม่ดี เค้าก็จะมีอารมย์บ้าง เพราะดอกรายวันต้องส่งทุกวันค่ะ  
จนตอนนี้เงิน 50000 สุดท้ายนั่น หมดแล้วค่ะ ไม่มีแล้ว สินค้าของเราโล่งเหมือนเดิมค่ะ
จนเราคิดว่าควรจะพอได้แล้ว  บางทีเราก็มีแอบคิดค่ะว่าจะขอพ่อเราอีกก้อน
และเราจะเป็นคนเก็บเงินเองค่ะ ไม่ไว้ใจใครอีกต่อไปแล้ว

เพื่อนๆคิดว่าเราควรไปต่อ หรือไปหางานประจำทำดีค่ะ
ถามว่าลูกค้าออนไลน์ของเราเยอะไหม เยอะค่ะ แต่เราต้องไปฝากเค้าส่ง
มันไม่สะดวกเหมือนเราส่งเองค่ะ เราไม่อยากทิ้งลูกค้าเรา กว่าจะหาลูกค้าได้ขนาดนี้
เราใช้เวลามา 5-6 ปี แต่ตอนนี้หนี้สินเราก็เยอะเหมือนกัน


โชคดีที่ญาติเราไม่คิดดอก แค่ตกลงกันว่าจะส่งให้เดือนละ 6000 จนกว่าจะครบ
มีก็ให้ไม่มีก็ไม่ให้  ซึ่งแปลว่าคงอีกนาน อาจจะ 4 ปี 5 ปี หรือ 7 ปี

รายจ่ายต่อเดือน ณ ปัจจุบันของเรา
ค่าผ่อนรถ 6000
ค่าดอกเงินกู้รายเดือน 5000
เงินญาติเรา 6000
รายวันวันละ 400
ค่าน้ำมันรถ 4000


ไม่รวมค่ากิน ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเรา
งเราต้องรอเงินขายของอย่างเดียว รายจ่ายต่อเดือนก็ประมาณ 30000 บาท
ถ้าถามว่าแฟนเรารับผิดชอบอะไร แฟนเราเค้าจะรับผิดชอบดอกรายวัน บางวันไม่มีเราก็รับผิดชอบ

เราควรจะเริ่มต้นอีกครั้งดีไหม หรือเราควรพอ และหยุด ถึงยังไงเราก็คงไม่มีวันได้เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ได้เป็นเจ้านายตัวเอง  ตอนนี้พ่อกับแม่ก็กำลังช่วยประคองเราอยู่ เราอยู่บ้านเฉยๆ ตอนนี้ เราซึ้งใจคำนึงที่พ่อเคยบอกเรา ว่าเราก็เหมือนกิ่งไม้ที่ปักอยู่ เจอลมแรง เจอพายุ มันก็ล้มก็หัก พ่อกับแม่เราจะช่วยประคองเราเอง คือตอนนี้เรารู้แล้ว ต่อให้เรามีหรือไม่มี คนที่อยู่กับเราก็คือพ่อแม่ ส่วนแฟนเรา เราเฉยๆ แต่เราคงไม่มีอะไรให้เค้าอีกแล้ว นอกจากต้องช่วยกัน ถ้าวันนึงเค้าทิ้งเราไป ภาระพวกหนี้เราก็จะแบกเอาไว้เอง เพราะเราถือว่าเป็นการกระทำของเราเอง หนี้สินเราตอนนี้ ณ ปัจจุบันคือ 350000 บาท เราคงต้องผ่อนเค้าไป ไม่ก็คงต้องหาทางลดดอกเงินกู้รายเดือนของเราก่อน

ขอบคุณเพื่อนๆที่รับฟังนะคะ เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยน้ะค้ะ เผื่อเพื่อนๆ จะช่วยเสนอแนวคิด แนวทางแก้ปัญหา ที่ให้เด็กอายุ 20 คนนี้ จัดการหนี้สินนี้ยังไง  อันไหนก่อน อันไหนหลัง บางทียังมี งงๆ เลยค่ะ ว่าต้องจ่ายอะไรบ้าง หรือว่าเอาเงินไปลงทุนอะไรดี จะบริหารหนี้สินยังไง มีเคยคิดจะฆ่าตัวตายให้พ้นๆ แต่นึกถึงหน้าพ่อแม่ทีไร ทำไม่ลงค่ะ สงสารท่านค่ะ แม่เคยบอกว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่ทิ้งค่ะ แต่ตอนนี้ก็ทนอยู่เฉยๆ นั่งกิน นอนกินไม่ได้เหมือนกันค่ะ

ตอนนี้แฟนเราเริ่มเข้าใจปัญหามากขึ้น เลยคิดจะหาธุรกิจเล็กๆ ทำค่ะ คือขายของ ยอมทนร้อน ทนเหนื่อย แต่ก็จะสู้ค่ะ
เราเป็นคนผูก เราก็ควรเป็นคนแก้เอง ทนเห็นพ่อกับแม่ลำบากไม่ได้แล้วค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ปรับอย่างอื่นปรับได้ แต่ปรับพฤติกรรมคุณเองปรับไม่ได้หรอก แถมมีแฟนคุณร่วมด้วยช่วยกันเอาเงินใส่เครื่องปั่นแบบนี้
คนที่เค้าใช้เงินเป็น ประหยัด ตระหนี่ถี่เหนียว เค้าก็ไม่มีทางเข้าใจคนที่ใช้เงินมือเติบแบบคุณ และถึงเค้าจะแนะนำไปอีกสิบปี คุณก็ไม่มีวันเข้าใจเหมือนกัน
เพราะมันคือสันดาน นิสัยที่ติดตัวมาของแต่ละคน แก้ยากหรืออาจจะแก้ไม่ได้เลย
เพราะถ้าแก้ได้ คุณก็จะไม่ซ้ำซากจนมีวันนี้ และผมบอกเลย ว่าถึงคุณจะได้เงินมาเริ่มต้นอีกมาปิดหนี้อะไรก็แล้วแต่"เดี๋ยวคุณก็จะกลับไปทำแบบเดิม"
พนันกันก็ได้ เลี้ยงข้าวมื้อนึงกินให้เต็มคราบเดี๋ยวผมจ่ายเอง

ถ้าแฟนคุณคอยฉุดหรือแฟนเป็นคนตรงกันข้ามกับคุณแบบนั้นยังพอจะเชื่อ แต่นี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ยิ่งคุณอายุยังน้อยแล้วเคยเจอเงินเยอะ แบบนี้ล่ะยิ่งหนัก เอะอะก็อ้างว่าเคยทำได้ เสียดายแนวทาง เสียดายลูกค้า แต่ค้าขายมันต้องรอบคอบมากและต้องไม่ลืมว่ามันมีขึ้นมีลงและวูบวาบได้ง่าย
ถ้าคุณขายดีจริง ขายดีทุกวัน ขายขยะก็ขายได้คนบ้าคลั่งไม่สนใจขอให้ได้เป็นลูกค้าคุณ แบบนั้นผมจะสนับสนุนให้ทำต่อ
แต่ในเมื่อเล่ามาว่าวันที่ขายไม่ได้ก็มี และการขายต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยและ"สันดาน"ของคุณเอง แบบนั้นควรหยุดหรือคิดดูดีๆ
อาจจะหยุด แล้วไปหางานประจำทำแล้วผ่อนหนี้ไป มีเงินเก็บเขียมมาซื้อของขายก๊อกแก๊ก เริ่มจากน้อยอีกครั้ง "ถ้าทำได้"ตรงนั้นแหละมันจะสอนนิสัยใหม่ให้ หรือฝึกนิสัยคุณ
จะให้พ่อช่วยปิดหยุดดอกอะไรนั่นก็แล้วแต่ แต่การจะต้องเอาเงิน(ที่ไม่ใช่ของคุณ)มาอีกก้อนทุ่มลงไปแล้วเสี่ยงกับนิสัยของคุณเดิมๆ ฝันไปเถอะ

ความคิดเห็นที่ 1
ขายรถทิ้งไปก่อนเป็นอย่างแรก ค่าใช้จ่ายก็ลดลงไปแล้ว 1 หมื่นบาท / เดือนเม่าหนาว
ความคิดเห็นที่ 39
1. รถ 220000  + ดอกเบี้ย 5% ต่อปี   ผ่อน 6000  ทั้งหมด 48 งวด ผ่านมาแล้วประมาณ 15 งวด ถ้ามากกว่านั้นก็ดี

2. กู้ก้อนแรก 50000 ดอกร้อยละ 10 ต่อเดือนยอด  5000  ต้นไม่ลด เพราะไม่จ่ายต้น

3. 100,000  ยืมญาติมา  ไม่มีคืนและคิดว่าถ้าไม่มีคงยังไม่คืนยาวไป 10 ปี  จ่ายคืนเดือนละ  6000

4. 100000 ยืมญาติมาจะไปปล่อยเงินกู้  ต้องใช้ญาติ พร้อมดอก ไม่รู้ เท่าไร

5. "แฟนเรากู้จากที่ทำงาน ส่งดอกรายวันมาอีก เพื่อมาจ่ายค่างวดต่อเดือน ร้อยละ 20 ค่ะ
ขั้นต่ำต่อเดือนก็เดือนละ 8000 ค่ะ เน้นส่งรายวัน 24 วันรวมดอก"
ดอกร้อยละ 20 กู้เท่าไร ไม่รู้ จ่ายต่อดอกเดือนละ 8000 ตกวันละ 400

6. พ่อให้มา 500000 ไม่รู้เอามาจากไหน ดอกเท่าไร พ่อรับผิดชอบไป

สรุป

1. รถขายไปก็ไม่ได้ราคา อาจไม่ cover หนี้รถ ถ้า Cover ก็ดี
2. ดอกร้อยละ 10% จ่ายเดือนละ 5000 เฉพาะดอก
3. ญาติ 200000 จ่ายเดือนละ 6000 ไม่มีไม่จ่าย
4. แฟนกู้เงินมา ร้อยละ 20 ต่อเดือน จ่ายรายวัน วันละ 400 ต้นไม่รู้เท่าไร  เดาว่า 50,000

เท่ากับ ภาระ เฉพาะดอกเบี้ย เดือนละ 5000 + 8000 = 13,000 ต่อเดือน

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน  
6000+5000+6000+8000(24*400)
จ่ายจริง
รถ 6000+ ดอกรายเดือน 5000 + ญาติ 0 + ดอกรายวันคิดเป็นต่อเดือน 8000
ควรจ่าย 6000+10000+16000 ต่อเดือน

ถ้าไม่ใช้รถ ขายทิ้ง เหลือจ่าย
10000+16000 ตัดต้นให้ได้เดือนละ 10% ของเงินต้น ถ้ามีเงินโป๊ะให้หมด

ทำได้ไหม ใช้หนี้ ร้อยละ 10 กับ 20 ต่อเดือนให้หมดก่อน พังเพราะ 2 ตัวนี้  แล้วไปดูว่าเงินที่พ่อให้มากู้มาไหม ถ้ากู้ ตามไปใช้หนี้ให้พ่อ ด้วย และ ตามด้วยญาติ

จขกท เก่งแล้วละ อายุ 20 ทำงานหาเงินเอง ที่พลั้งผิดไปเอาเป็นประสบการณ์
ความคิดเห็นที่ 10
เท่าที่อ่านดู  เจ้าของกระทู้ น่าจะรู้แล้วว่า ปัญหาคืออะไร เพราะสามารถแจกแจง ลำดับขั้นตอนได้แม่นยำ และเห็นถึงจุดบอดที่ชัดเจน

  เงินเท่านี้ กับอายุเท่านี้  คุ้มค่าครับ แม้จะเป็นก้าวที่พลาดก็ตาม ....  

  แต่จะคุ้มคลั่ง ทันที  หากยังไม่ปรับพฤติกรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่