คู่ต่าง ความรักของคนมีเชื้อ HIV
สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ครับ ผมเริ่มรักษาตัวและกินยามาเป็นเวลา ๓ ปีกว่าแล้วครับ ผมมีแฟนคนหนึ่งคบกันมาได้ ๕ ปีกว่า ผมกับแฟนเป็นคู่รักชายรักชายครับ
เริ่มเรื่อง.. เมื่อประมาณ ๕ ปีกว่า ผมกับแฟนได้รู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ของเพศที่ ๓ ผมกับแฟนได้ทำความรู้จักกันทั้งการโทรและการนัดเจอ เมื่อเราทำความรู้จักจนแน่ใจว่าเราเข้ากันได้เราก็ตกลงเป็นแฟนกัน โดยเราทั้งคู่เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการพาไปพบครอบครัวของแต่ละฝ่ายในฐานะ 'เพื่อน' เพื่อไม่ให้ทางครอบครัวของเราทั้งสองตกใจ และให้ท่านได้ทำความรู้จักและยอมรับด้วยตัวของท่านเองแล้วค่อยบอกท่าน
เวลาผ่านไป ๔ เดือนเราทั้งคู่ต่างสนิทกับครอบครัวทั้งสองฝ่าย และคิดว่าถึงเวลาที่จะบอกท่านแล้ว เราเลยพากันไปบอกพ่อแม่ของครอบครัวทั้งสองฝ่ายให้ได้รับรู้ ทั้งสองครอบครัวต่างยินดีและยอมรับกับความรักของเราทั้งคู่ ช่วงนั้นผมมีความสุขมากครับ ทั้งการงาน ความรัก และครอบครัว ผมกับแฟนมีอนาคตว่าอยากมาทำงานที่เดียวกัน มีบ้านหลังเล็กๆ มีหมามีแมวเป็นลูกตัวน้อยๆ ในบ้าน เราทั้งคู่ต่างคิดว่าชีวิตเราทั้งสองต่างมีความสุข แต่ไม่ครับ เพราะเวลาที่ผ่านมานั่นแค่เริ่มต้นบททดสอบที่แท้จริงกำลังจะเข้ามา
แฟนผมเป็นคนที่ตรวจ HIV เป็นประจำครับ ในขณะที่เราคบกันเค้าก็เคยชวนผมไปตรวจด้วยกันแต่ผมก็ติดงานบ้าง ธุระบ้าง จนวันนึงผมกับแฟนว่างกันทั้งคู่เลยมีแผนจะพากันไปตรวจ HIV และโรคติดต่ออื่นๆ ครับ เวลาก็ดำเนินไปหลายชั่วโมง ผมกับแฟนก็นั่งหยอกล้อกันตามปกติพอถึงคิวแฟนผม แฟนผมก็เข้าไปฟังผลการตรวจครับผลออกมาปกติ พอถึงคราวผมบ้างผมก็เดินเข้าไปในห้องที่เรียกคิว
ตอนนั้นหมอบอกผมว่า "ทำใจให้ดีๆ ก่อนนะคะ ตอนนี้ผลที่อออกมาคุณมีเชื้ออยู่ในเลือด แต่อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาบางตัวเลยทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้" คุณหมอเลยสั่งให้ผมไปเจาะเลือดซ้ำและนี่งรอฟังผลครับตอนนั้นผมนี่หงอยสุดๆ เลยครับอนาคตที่วาดฝันไว้อาจจะไม่มี คนที่คอยอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้อาจจะไม่อีกต่อไป.. แต่ขณะที่ผมนั่งรอฟังผลซ้ำแฟนผมก็บอกว่า "อย่ากลัวไปเลยนะ ต่อให้เตงเป็นอะไรเค้าก็จะไม่ทิ้งเตงไปไหน เค้าสัญญา"
เมื่อถึงคิวฟังผลของผมอีกรอบผมก็พาแฟนเข้าไปฟังผลด้วยผลออกมาคุณหมอยืนยันว่าผมมีเชื้อ HIV ตอนนั้นผมนั่งกุมมือแฟนไปร้องไห้ไป พยายามสงบสติอารมณ์และออกมาจากที่นั่นให้ไว
เมื่อผมเดินออกมาพ้นประตูสถานที่นั้น ผมก็ปล่อยน้ำตาร้องโฮไม่อายคนเลยครับ แต่แฟนผมเค้าก็เข้ามากุมมือพร้อมเอาตัวผมไปกอดอย่างไม่แคร์สายตาใคร หลังตากนั้นในวันแรกๆ นั้นผมเหมือนคนไม่มีสตินอนร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนหมดหนทาง แต่ผมก็มีแฟนผมนี่แหละที่ค่อยมาปลอบและดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในตอนนั้นแฟนของผมคือคนเดียวที่รู้เรื่องของผมแฟนผมเหมือนเป็นแรงที่ทำให้ผมสู้ต่อไปไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร หลายเดือนผ่านมาผมเริ่มยอมรับตนเองและกลับมาสนใจอนาคตตัวเองมากขึ้น และเปลี่ยนอนาคตของตัวเองใหม่คือ 'ทำให้ชีวิตของคนที่เรารักและคนรอบข้างให้มีความสุขที่สุด'
ในตอนนั้นผมมั่นใจว่าผมรักและซื่อตรงต่อแฟนผมและพยายามทำให้เร้ามีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อให้แฟนผมจะเป็นอะไร หรือจะมีแค่ครึ่งตัว ผมก็จะขอรักเค้าตลอดไปและจะไม่จากเค้าไปไหน แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวอยากให้แฟนผมอยู่กับผมคนที่ติดเชื้อ HIV ตลอดไปหรอกนะครับ ผมให้เสรีเค้าในการจะคบคนใหม่ ผมบอกว่า "ไม่ผิดเลยนะ ถ้าเตงจะมีใคร แต่ขอได้ไหมอย่าหลอกกัน" นี่คือคำพูดของผม เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนผมก็รู้สึกรักแฟนมากขึ้น และคิดว่านี่แหละ คู่ชีวิต
แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในคืนวันหนึ่งแฟนผมโทรมาบอกว่ามีคนคุยด้วยอยู่ตอนนั้นหัวใจผมแตกสลายเลยครับ เหมือนใครควักหัวใจผมไปปาทิ้ง แต่ผมก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เค้าเลือกคนที่ดีกว่า... หลายวันผ่านมาเค้ามาหาผมครับ แล้วบอกว่า "ขอโทษนะ ที่ทิ้งไปต่อจากนี้จะไม่ไปไหนแล้ว" ในใจของผมไม่มีความแค้น มีแต่ความยินดีรับเค้ากลับมา ไม่ว่าเค้าจะทำผิดซักกี่รอบ แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะรักเค้าไปแล้ว ผมคงจะไม่มีวันปฏิเสธเค้า หรือต่อให้เค้าจากผมไปผมก็จะเฝ้ามองเค้าอยู่ตรงนี้ และจะขอรักเค้าตราบนานเท่านาน
ปล. ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย หากคุณไม่ได้พบเจอด้วยตนเอง อย่าคิดว่ามันไม่มีจริง
คู่ต่าง ความรักของคนมีเชื้อ HIV
สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ครับ ผมเริ่มรักษาตัวและกินยามาเป็นเวลา ๓ ปีกว่าแล้วครับ ผมมีแฟนคนหนึ่งคบกันมาได้ ๕ ปีกว่า ผมกับแฟนเป็นคู่รักชายรักชายครับ
เริ่มเรื่อง.. เมื่อประมาณ ๕ ปีกว่า ผมกับแฟนได้รู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ของเพศที่ ๓ ผมกับแฟนได้ทำความรู้จักกันทั้งการโทรและการนัดเจอ เมื่อเราทำความรู้จักจนแน่ใจว่าเราเข้ากันได้เราก็ตกลงเป็นแฟนกัน โดยเราทั้งคู่เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการพาไปพบครอบครัวของแต่ละฝ่ายในฐานะ 'เพื่อน' เพื่อไม่ให้ทางครอบครัวของเราทั้งสองตกใจ และให้ท่านได้ทำความรู้จักและยอมรับด้วยตัวของท่านเองแล้วค่อยบอกท่าน
เวลาผ่านไป ๔ เดือนเราทั้งคู่ต่างสนิทกับครอบครัวทั้งสองฝ่าย และคิดว่าถึงเวลาที่จะบอกท่านแล้ว เราเลยพากันไปบอกพ่อแม่ของครอบครัวทั้งสองฝ่ายให้ได้รับรู้ ทั้งสองครอบครัวต่างยินดีและยอมรับกับความรักของเราทั้งคู่ ช่วงนั้นผมมีความสุขมากครับ ทั้งการงาน ความรัก และครอบครัว ผมกับแฟนมีอนาคตว่าอยากมาทำงานที่เดียวกัน มีบ้านหลังเล็กๆ มีหมามีแมวเป็นลูกตัวน้อยๆ ในบ้าน เราทั้งคู่ต่างคิดว่าชีวิตเราทั้งสองต่างมีความสุข แต่ไม่ครับ เพราะเวลาที่ผ่านมานั่นแค่เริ่มต้นบททดสอบที่แท้จริงกำลังจะเข้ามา
แฟนผมเป็นคนที่ตรวจ HIV เป็นประจำครับ ในขณะที่เราคบกันเค้าก็เคยชวนผมไปตรวจด้วยกันแต่ผมก็ติดงานบ้าง ธุระบ้าง จนวันนึงผมกับแฟนว่างกันทั้งคู่เลยมีแผนจะพากันไปตรวจ HIV และโรคติดต่ออื่นๆ ครับ เวลาก็ดำเนินไปหลายชั่วโมง ผมกับแฟนก็นั่งหยอกล้อกันตามปกติพอถึงคิวแฟนผม แฟนผมก็เข้าไปฟังผลการตรวจครับผลออกมาปกติ พอถึงคราวผมบ้างผมก็เดินเข้าไปในห้องที่เรียกคิว
ตอนนั้นหมอบอกผมว่า "ทำใจให้ดีๆ ก่อนนะคะ ตอนนี้ผลที่อออกมาคุณมีเชื้ออยู่ในเลือด แต่อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาบางตัวเลยทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้" คุณหมอเลยสั่งให้ผมไปเจาะเลือดซ้ำและนี่งรอฟังผลครับตอนนั้นผมนี่หงอยสุดๆ เลยครับอนาคตที่วาดฝันไว้อาจจะไม่มี คนที่คอยอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้อาจจะไม่อีกต่อไป.. แต่ขณะที่ผมนั่งรอฟังผลซ้ำแฟนผมก็บอกว่า "อย่ากลัวไปเลยนะ ต่อให้เตงเป็นอะไรเค้าก็จะไม่ทิ้งเตงไปไหน เค้าสัญญา"
เมื่อถึงคิวฟังผลของผมอีกรอบผมก็พาแฟนเข้าไปฟังผลด้วยผลออกมาคุณหมอยืนยันว่าผมมีเชื้อ HIV ตอนนั้นผมนั่งกุมมือแฟนไปร้องไห้ไป พยายามสงบสติอารมณ์และออกมาจากที่นั่นให้ไว
เมื่อผมเดินออกมาพ้นประตูสถานที่นั้น ผมก็ปล่อยน้ำตาร้องโฮไม่อายคนเลยครับ แต่แฟนผมเค้าก็เข้ามากุมมือพร้อมเอาตัวผมไปกอดอย่างไม่แคร์สายตาใคร หลังตากนั้นในวันแรกๆ นั้นผมเหมือนคนไม่มีสตินอนร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนหมดหนทาง แต่ผมก็มีแฟนผมนี่แหละที่ค่อยมาปลอบและดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในตอนนั้นแฟนของผมคือคนเดียวที่รู้เรื่องของผมแฟนผมเหมือนเป็นแรงที่ทำให้ผมสู้ต่อไปไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร หลายเดือนผ่านมาผมเริ่มยอมรับตนเองและกลับมาสนใจอนาคตตัวเองมากขึ้น และเปลี่ยนอนาคตของตัวเองใหม่คือ 'ทำให้ชีวิตของคนที่เรารักและคนรอบข้างให้มีความสุขที่สุด'
ในตอนนั้นผมมั่นใจว่าผมรักและซื่อตรงต่อแฟนผมและพยายามทำให้เร้ามีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อให้แฟนผมจะเป็นอะไร หรือจะมีแค่ครึ่งตัว ผมก็จะขอรักเค้าตลอดไปและจะไม่จากเค้าไปไหน แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวอยากให้แฟนผมอยู่กับผมคนที่ติดเชื้อ HIV ตลอดไปหรอกนะครับ ผมให้เสรีเค้าในการจะคบคนใหม่ ผมบอกว่า "ไม่ผิดเลยนะ ถ้าเตงจะมีใคร แต่ขอได้ไหมอย่าหลอกกัน" นี่คือคำพูดของผม เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนผมก็รู้สึกรักแฟนมากขึ้น และคิดว่านี่แหละ คู่ชีวิต
แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในคืนวันหนึ่งแฟนผมโทรมาบอกว่ามีคนคุยด้วยอยู่ตอนนั้นหัวใจผมแตกสลายเลยครับ เหมือนใครควักหัวใจผมไปปาทิ้ง แต่ผมก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เค้าเลือกคนที่ดีกว่า... หลายวันผ่านมาเค้ามาหาผมครับ แล้วบอกว่า "ขอโทษนะ ที่ทิ้งไปต่อจากนี้จะไม่ไปไหนแล้ว" ในใจของผมไม่มีความแค้น มีแต่ความยินดีรับเค้ากลับมา ไม่ว่าเค้าจะทำผิดซักกี่รอบ แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะรักเค้าไปแล้ว ผมคงจะไม่มีวันปฏิเสธเค้า หรือต่อให้เค้าจากผมไปผมก็จะเฝ้ามองเค้าอยู่ตรงนี้ และจะขอรักเค้าตราบนานเท่านาน
ปล. ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย หากคุณไม่ได้พบเจอด้วยตนเอง อย่าคิดว่ามันไม่มีจริง