อยากกินลาบปลาดุกครับ ลาบแบบเมืองเหนือที่พริกลาบประกอบด้วยพริกคั่วและเครื่องเทศต่าง ๆ
วานเด็กไปตลาดให้ช่วยจัดปลาดุกขนาดพอเหมาะให้สักตัว ปรากฎว่าคำว่าพอเหมาะนั้นมันไม่มีมาตรฐาน
กำหนดชัดเจน เลยได้ตัวค่อนข้างใหญ่สักหน่อยมา 1 ตัว
สมองแล่นปรึ๊ด ใหญ่ ๆ อย่างนี้แหละดีได้เนื้อเยอะ ยอมเสียเวลาทำเป็นลาบปลา 2 รูปแบบไปเลย
คนเหนือเรียก "ลาบหลน"
ส่วนแบบนี้เรียก "ลาบหมี่"
มาดูวิธีทำกันครับ
ปลา 1 ตัวล้างเมือกสะอาด บั้งข้าง เข้าหม้ออบลมร้อน หยิบมะเขือฝากไปด้วย 5-6 ผล ไฟ 220 นาน 25 นาที
ทิ้งไว้เย็นแกะเอาแต่เนื้อ มะเขือก็ลอกเปลือกทิ้งไป
คำว่าลาบในภาษาเหนือ คือการสับให้ละเอียด นำเนื้อปลาแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสับรวมกับมะเขือเผา อีกส่วนหนึ่ง
สัยเฉพาะเนื้อปลาอย่างเดียว พักเก็บไว้
หนังกับครีบบนครีบล่างเก็บไว้ไม่ทิ้งนะครับ เก็บไว้ทอด
เตรียมเครื่องกรอบหรือที่บางคนเรียกว่า "หมี่" ประกอบด้วย หอมแดงซอย ขิงแก่ซอยฝอย ใบมะกรูด หนังปลา มันแข็ง
เจียวเป็นกากหมู อันนี้เป็นตัวทีเด็ดของลาบหมี่
เราจะทำลาบหลนกันก่อนนะครับ
เอาปลาที่สับรวมกับมะเขือออกมา ใส่พริกลาบเมือง ผักไผ่ (ผักแพว) สะระแหน่ ทั้งหมดคลุกให้เข้ากัน
เสร็จแล้วเอาไปผัดโดยใส่น้ำมันเล็กน้อย คนเหนือเรียกว่า "คั่วลาบ" พอสุกตักใส่จานกลับกลายเป็น "ลาบคั่ว" สะงั้น
นี่คือโฉมหน้าของลาบหลน จะมีลักษณะเหลวและมีเม็ดมะเขือลอยปนแสดงสัญลักษณ์เลยว่า ลาบหลนโบราณ ของแท้
อีกหนึ่งลาบคือลาบหมี่ ทำต่อไปเลย นำเนื้อปลาที่สับแล้ว ตักพริกลาบใส่ลงไป (ดูเหมือนน้อยนะ แต่ถ้าไปรวมกับเครื่องกรอบ
ได้จานเบ้อเริ่มเลยครับ) ทั้งหมดคลุกให้เข้ากัน เอาเครื่องกรอบที่เตรียมไว้แบ่งลงคลุกครึ่งหนึ่งที่เหลือไว้โรยหน้า
อย่างง่าย ๆ ได้ลาบหมี่มาอีก 1 จาน
ลาบปลาได้ข้าวเหนียวอุ่น ๆ กับยอดมะกอกเปรี้ยว ๆ แค่นี้ก็อิ่มอึดอัดแบบไม่ทันรู้ตัวเลยครับ
โปรดสังเกตว่าทั้งสองลาบ จะไม่มีมะนาวกับน้ำตาลทรายเข้ามาเกี่ยวข้องเลยนะครับ รสมันจะเพี้ยนไปครับ
สวัสดีครับ
ปลาดุกตัวเดียวได้ลาบ 2 เมนู ดูแล้วรักพี่เสียดายน้องครับ
วานเด็กไปตลาดให้ช่วยจัดปลาดุกขนาดพอเหมาะให้สักตัว ปรากฎว่าคำว่าพอเหมาะนั้นมันไม่มีมาตรฐาน
กำหนดชัดเจน เลยได้ตัวค่อนข้างใหญ่สักหน่อยมา 1 ตัว
สมองแล่นปรึ๊ด ใหญ่ ๆ อย่างนี้แหละดีได้เนื้อเยอะ ยอมเสียเวลาทำเป็นลาบปลา 2 รูปแบบไปเลย
คนเหนือเรียก "ลาบหลน"
ส่วนแบบนี้เรียก "ลาบหมี่"
มาดูวิธีทำกันครับ
ปลา 1 ตัวล้างเมือกสะอาด บั้งข้าง เข้าหม้ออบลมร้อน หยิบมะเขือฝากไปด้วย 5-6 ผล ไฟ 220 นาน 25 นาที
ทิ้งไว้เย็นแกะเอาแต่เนื้อ มะเขือก็ลอกเปลือกทิ้งไป
คำว่าลาบในภาษาเหนือ คือการสับให้ละเอียด นำเนื้อปลาแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสับรวมกับมะเขือเผา อีกส่วนหนึ่ง
สัยเฉพาะเนื้อปลาอย่างเดียว พักเก็บไว้
หนังกับครีบบนครีบล่างเก็บไว้ไม่ทิ้งนะครับ เก็บไว้ทอด
เตรียมเครื่องกรอบหรือที่บางคนเรียกว่า "หมี่" ประกอบด้วย หอมแดงซอย ขิงแก่ซอยฝอย ใบมะกรูด หนังปลา มันแข็ง
เจียวเป็นกากหมู อันนี้เป็นตัวทีเด็ดของลาบหมี่
เราจะทำลาบหลนกันก่อนนะครับ
เอาปลาที่สับรวมกับมะเขือออกมา ใส่พริกลาบเมือง ผักไผ่ (ผักแพว) สะระแหน่ ทั้งหมดคลุกให้เข้ากัน
เสร็จแล้วเอาไปผัดโดยใส่น้ำมันเล็กน้อย คนเหนือเรียกว่า "คั่วลาบ" พอสุกตักใส่จานกลับกลายเป็น "ลาบคั่ว" สะงั้น
นี่คือโฉมหน้าของลาบหลน จะมีลักษณะเหลวและมีเม็ดมะเขือลอยปนแสดงสัญลักษณ์เลยว่า ลาบหลนโบราณ ของแท้
อีกหนึ่งลาบคือลาบหมี่ ทำต่อไปเลย นำเนื้อปลาที่สับแล้ว ตักพริกลาบใส่ลงไป (ดูเหมือนน้อยนะ แต่ถ้าไปรวมกับเครื่องกรอบ
ได้จานเบ้อเริ่มเลยครับ) ทั้งหมดคลุกให้เข้ากัน เอาเครื่องกรอบที่เตรียมไว้แบ่งลงคลุกครึ่งหนึ่งที่เหลือไว้โรยหน้า
อย่างง่าย ๆ ได้ลาบหมี่มาอีก 1 จาน
ลาบปลาได้ข้าวเหนียวอุ่น ๆ กับยอดมะกอกเปรี้ยว ๆ แค่นี้ก็อิ่มอึดอัดแบบไม่ทันรู้ตัวเลยครับ
โปรดสังเกตว่าทั้งสองลาบ จะไม่มีมะนาวกับน้ำตาลทรายเข้ามาเกี่ยวข้องเลยนะครับ รสมันจะเพี้ยนไปครับ
สวัสดีครับ