สืบเนื่องจากข่าวล่าสุด http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431951880

ประเพณีที่มีแต่เกิดอุบัติเหต คนตาย ไฟไหม้บ้าน พุ่งใส่โน้นนี่นั้น เผาทำลายบ้านเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่เรื่อยๆ คือ มันมีความจำเป็นแค่ไหนกันที่จะต้องสืบสานประเพณีนี้ต่อไป ในเมื่อบ้านเมืองสมัยก่อน มันต่างจากสมัยนี้มากนัก สมัยก่อนอาจเป็นความเชื่อ บ้านเรือนห่างกันเป็นหลายร้อยลี้ ที่จัดงานอาจอยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนผู้คน อาจจะเคยเกิดเหตุ แต่ข่าวสารสมัยก่อนมันไม่ได้ทั่วถึงรวดเร็วเหมือนสมัยนี้

พอบ้านไหนไฟไหม้ มีคนตาย หาใครรับผิดชอบกันได้บ้างไหม? จับมือใครดมได้ไหม? ความเสียหายที่เกิดใครดูแลค่ะ ก็ต้องเจ้าของบ้านผู้เสียหายที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย ทำไมต้องมาเดือดร้อนด้วยล่ะ

แล้วอย่ามาเถียงนะว่า เป็นประเพณีเก่าแก่เราต้องอนุรักษ์มันไว้ โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกวัน เราควรจะประยุกต์ให้เขากับยุคสมัยรึเปล่าค่ะ ถ้าอยากอนุรักษ์กันจริง จะจัดแห่ความสวยงามของบั้งไฟก็แห่ไปค่ะ แต่อย่ามาจุดเลย



ภาพงานแห่จากอากู๋

ข้อมูลจาก wiki

ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานของไทยรวมไปถึงลาว โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสานเรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้

// มันเกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้าน ก็เพราะประเพณีมากกว่านะ ที่ฝนมันจะไม่ตก ก็เพราะตัดไม้ทำลายป่า มีแต่ปลูกสร้างตึก ปูนฉาบสิ่งก่อสร้างต่างๆ แต่ไม่คิดจะปลูกต้นไม้มาแทนที่นะสิ อากาศยิ่งร้อน ยิ่งเป็นฉนวนเชื้อเพลิงอย่างดีกับบั้งไฟ


ประเพณีบางประเพณีมันก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรต่อชีวิต แถมก่อแต่เหตุ ยกเลิกไปเถอะค่ะ!!!