แชร์ประสบการณ์การสมัครและสัมภาษณ์งานที่ SF

กระทู้สนทนา
นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท. หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะว่าตอนเราจะสมัครงานเราหาข้อมูลในเน็ตแล้วปรากฏว่าเจอแต่กระทู้เก่าๆ ตั้งแต่รายได้ 26-27 บาท/ชม. ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 38 บาท /ชม. - -‘’  เราเลยตั้งขึ้นมาเพื่อเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้อัพเดตบ้าง

เมื่อปลายเมษาที่ผ่านมาเราเพิ่งปิดเทอม (มหาลัย) ซึ่งพวกงานพาร์ทไทม์ตามห้างทั้งหลายแหล่ก็ได้ถูกน้องๆม.6ที่ปิดเทอมหลายเดือนแย่งสมัครทำงานกันไปเกือบหมด ถามที่ไหนๆก็มีแต่เต็ม ในใจเราอยากทำที่เอสเอฟ แต่ตอนนั้นยังไม่กล้าไปขอใบสมัครที่สาขาเลยส่งใบสมัครไปทางเมลซึ่งเขาบอกให้ส่งรูปไปด้วยเราก็งงว่าจะเอารูป1นิ้วส่งทางเมลยังไงเครื่องสแกนเราก็ไม่มี เราก็ได้ถามแอดมินเพจสมัครงานของเอสเอฟไปว่ารูปที่ส่งต้องเป็นรูปติดบัตรหรือเป็นรูปอะไรก็ได้แต่แอดมินยังไม่ตอบ เวลาผ่านไปค่อนข้างนานวันนั้นได้นั่งเล่นคอมที่ม.เน็ตแรงๆเลยตัดสินใจส่งเรซูเม่ไปพร้อมรูปในชุดธรรมดาไป แล้วพอคืนนั้นแอดมินก็ตอบกลับมาคำตอบเชิงว่า รูปที่ใช้คือ1นิ้ว เราก็เงิบเลยที่นี้ = = เริ่มเครียดว่าที่ส่งไปคงไม่มีประโยชน์อะไร
    จนวันหนึ่งเราได้ไปอ่านบล็อกหนึ่งซึ่งเขียนเล่าเรื่องที่ไปขอใบสมัครงานเอสเอฟจนสัมภาษณ์และได้ทำงานจนลาออกเพราะต้องไปสอบแก้ เราเลยได้แรงฮึดขึ้นมานิดหน่อย ตัดสินใจไปขอใบสมัครที่เคาน์เตอร์ และเรื่องก็เริ่มตั้งแต่นี้...
    เราเดินตรงไปที่โต๊ะก่อนถึงเคาน์เตอร์ซึ่งตอนนั้นมีจัดกิจกรรมจับตุ๊กตามิกิจากเรื่องปรสิต (จับไป3ครั้งไม่ได้เลยสักตัว T T) เราก็ตรงเข้าไปถามพนักงานประจำโต๊ะว่าอยากสมัครงาน จากในความคิดเราและความรู้สึกเรานะ พอเหมือนเขาได้ยินคำว่าสมัครงานเราเห็นสายตาเขามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเขาก็บอกให้ไปที่ติดต่อที่เคาน์เตอร์เราก็กล่าวขอบคุณแต่ในใจนี่คือเดือดค่ะ เริ่มรู้สึกว่าถ้าเราต้องมาทำงานกับคนที่มองเราด้วยสายตาแบบนี้ก็คงไม่มีความสุข (แต่ก็ยังอยากทำ 555+) พอเราถึงเคาน์เตอร์พนักงานพูดดีมากค่ะเป็นกันเองเขาก็ถามว่าเราเอาเอกสารมาครบไหมเราก็บอกครบและเขาก็ให้ใบสมัครเราไปกรอกตรงมุมหนึ่งของเคาน์เตอร์ (แนะนำให้ไปช่วงที่ห้างเพิ่งเปิดหรือช่วงที่คนไม่เยอะค่ะจะได้ไม่วุ่นวาย)
เอกสารที่ต้องเตรียมไปก็คือ
-    สำเนาบัตรประชาชน
-    สำเนาทะเบียนบ้าน
-    สำเนาใบผลการเรียน (ม.6)
-    รูปถ่าย 1 นิ้ว
วันนั้นที่เราไปสมัครก็มีคนกำลังกรอกใบสมัครอีก3 คน ชื้นใจขึ้นมาหน่อยไม่เหงา พอเรากรอกเสร็จพนักงานก็จะตรวจเอกสารว่าครบไหมและบอกเราว่าจะติดต่อกลับไป ไม่ได้บอกนะคะว่าภายในกี่วันๆ
    ช่วงนั้นติดโทรศัพท์เลยค่ะ พอโทรศัพท์ไม่อยู่กับตัวนี่ใจตกไปถึงตาตุ่มกลัวเขาโทรมาแล้วเราไม่ได้รับ 5555 เหมือนคนโรคจิตเลยค่ะ พอสายเข้าโทรศัพท์สั่นนิดหน่อยสติกระเจิงเลย วันที่เราสมัครคือวันศุกร์ 6วันผ่านไป ซึ่งตอนนั้นกำลังจะตัดใจไปหางานทำที่อื่นโทรศัพท์ก็สั่น หมายเลขแปลกโทรมาค่ะ พอรับปุ๊บต้นสายบอกว่าโทรมาจากเอสเอฟเท่านั้นแหละค่ะแทบกรี๊ด สรุปก็คือนัดสัมภาษณ์วันพรุ่งนี้บ่ายโมง ใส่ชุดสุภาพเราเลือกใส่ชุดนักศึกษาไป แนะนำนะค่ะว่าเขานัดวันไหนเราก็เออออกับเขาไปจะได้ดูไม่เรื่องมากเพราะเราไปของานเขาทำทำตัวเรื่องมากไม่ได้หรอกค่ะ แต่ถ้ามีธุระจำเป็นจริงๆก็เลื่อนได้
    วันสัมภาษณ์เราอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย (ปกติไม่เคยเรียบร้อยขนาดนี้มาก่อน) เดินไปที่เคาน์เตอร์ใจเต้นตุบๆ พอเราบอกกับพนักงานว่ามาสัมภาษณ์เขาก็ให้เรานั่งรอที่หน้าเคาน์เตอร์ค่ะ ก็ที่ๆสำหรับคนทั่วไปนั่งรอดูหนังนั่นแหละค่ะ ตอนนั้นกลัวทุกอย่างเลยค่ะว่าผู้จัดการอาจจะแอบสังเกตเราอยู่จากตรงไหนรึเปล่า 555 นั่งหลังตรงแด่วเลยค่ะ สักพักพนักงานคนเดิมก็เดินมาพาเราเข้าไปที่ออฟฟิต คำถามแรกที่โดนคือ
“แนะนำตัวสั้นๆให้ฟังหน่อยค่ะ” เงิบค่ะ เพราะที่อ่านจากในเน็ตไม่เห็นมีแนะนำตัวเลยโดยส่วนมากเข้ามาก็ถามแนวทำไมถึงอยากทำ ทำไหวไหม บ้านอยู่ไหน ไปกลับยังไง พอตั้งสติได้ก็แนะนำตัวไปค่ะ ชื่อ-นามสกุล จบมัธยมจากที่ไหนตอนนี้เรียนอยู่คณะอะไรสาขาอะไรมหาวิทยาลัยอะไร ปีอะไร จากนั้นคำถามที่ถามก็มีตามนี้อาจจะไม่ได้เรียงนะคะ
-    บ้านอยู่แถวนี้เหรอ
-    ทำไมถึงอยากทำที่นี่
-    เคยทำงานแบบนี้มาก่อนรึเปล่า (พอดีบ้านเราเป็นร้านขายข้าวแกงค่ะเราเลยบอกเขาว่าไม่เคยทำแต่ที่บ้านขายข้าวแกงก็จะช่วยที่บ้าน)
-    ขอที่บ้านรึยังว่าจะมาทำงานที่นี่
-    กลับดึกนะที่บ้านว่าอะไรรึเปล่า
-    ถ้ากลับตี1ตี2จะกลับยังไง (“ก็คงรถเมล์ไม่ก็รถกระป๋องค่ะ”)
-    ไม่มีแล้วดึกขนาดนั้นรถเมล์ไม่มีแล้ว (ตอนนั้นเงิบค่ะไม่คิดว่าจะดึกขนาดนั้นเลยตอบไปว่า “เดินกลับก็ได้ค่ะไม่ไกลเท่าไหร่” กลับมานึกก็ขำตัวเองนะคะ5555)
-    ถ้านั่งแท็กซี่จากที่นี่กลับบ้านเท่าไหร่ (“ประมาณไม่เกิน 45 บาทค่ะ”)
-    ที่...(ชื่อเล่นเรา)เลือกตำแหน่งไว้คือขายตั๋ว ขายป๊อบคอร์น...ทำไมถึงอยากทำตรงนี้ (เงิบขึ้นไปอีกค่ะ ตอบไม่ถูกเลย เราเลยบอกไปว่า “ที่บ้านเราทำพวกขายของค่ะเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะมาทำพวกขายเพราะเคยทำมาก่อน”)
-    ถ้า...ทำที่นี่...จะได้ทำเป็นตำแหน่งขายป๊อบคอร์นนะ ทำไหวไหมจะต้องมีล้างเครื่องล้างอุปกรณ์ ทำได้รึเปล่า
-    เงินเดือนชม.ละ 38 บาทถ้าขายตั๋วกับป๊อบคอร์นจะได้ค่าขึ้นเครื่อง5บาทเป็น 43 บาท / ชม.นะ แล้วทำงานเกี่ยวกับเงินถ้าเกิดวันนี้ช๊อต 80 บาท พรุ่งนี้ ช๊อตอีก 50 บาท สมมติสองวัน ช๊อตไป100บาท ...ก็ต้องจ่ายเลย คิดว่าตรงนี้ไหวไหม เพราะที่ผ่านมาช๊อตกันหมดไม่เคยมีใครที่ไม่ช๊อต (สรุปสั้นๆก็คือถ้าวันไหนเงินขาดเราก็ต้องออกในส่วนที่หายไป)
-    ...เคยทำเงินหายไหม (ตอนนั้นในใจคิดว่าหมายถึงเงินตัวเองหรือเงินที่ร้าน ลังเลกับคำตอบแต่สุดท้ายก็ตอบไปว่าไม่เคย)
-    โอเค ถ้า...ทำงานที่นี่นะ กางเกงจะเป็นกางเกงสแล็คทำงานสีดำไม่ใช่แฟชั่น รองเท้าคัชชูส้นสูงตั้งแต่ 1.5 นิ้วขึ้นไป ส่วนยูนิฟอร์มทางบริษัทจะมีให้ ทำงานตรงนี้ไหวนะเพราะอะไรๆก็ต้องบริษัทก่อน

เท่าที่จำได้ก็มีประมาณนี้ค่ะ หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า ภายใน 3 วันจะติดต่อกลับไปถ้าผ่านเพื่อนัดมาเซ็นสัญญา
บอกตรงๆนะคะว่าตอนนั้นคิดว่ามีโอกาสผ่านค่อนข้างสูงเพราะ บ้านเราอยู่ใกล้มาก นั่งวินมา 10 บาท สองแถว 2-3 ป้ายก็ถึง และตอนสัมภาษณ์นี่เหมือนเขาอธิบายงานให้เกือบหมดว่าตำแหน่งที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง ถ้ามาดูงานก็ต้องมาดูทุกกะว่าแต่ละกะทำงานยังไง หวังไว้สูงค่ะ ผ่านไปสามวันไม่มีการติดต่อกลับมา ช่วงสายวันที่สี่เราจึงติดต่อกลับไปถามเพื่อความแน่ใจ ถ้าไม่ผ่านเราจะได้ไปหางานอื่นทำ แต่พอโทรไปถาม เขาก็ถามว่ายังไม่มีใครติดต่อไปใช่ไหม จากนั้นถามชื่อแล้วบอกว่าเดี๋ยวติดต่อกลับไป จนวันที่ห้าตอนบ่ายๆเราเลยติดต่อกลับอีกครั้ง เบอร์เดิมค่ะแต่คราวนี้เหมือนคนละคนรับเราก็ถามว่าผ่านมา 3 วันแล้วยังไม่มีคนติดต่อกลับมาแสดงว่าเราไม่ผ่านใช่ไหม เขาก็เหมือนงงๆถามว่าจากใคร เราก็บอกชื่อไปเขาก็เหมือนงงๆค่ะถามเราประมาณเรื่องสัมภาษณ์เราก็บอกว่าสัมภาษณ์แล้ว ผ่านมา3วันแล้วแสดงว่าไม่ผ่านใช่ไหม คือเราแค่ต้องการให้แน่ใจค่ะ จะให้เรามานั่งรอตรงนี้ตลอดก็ไม่ได้ เขาก็บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีการโททรไปเรียกให้มาเซ็นสัญญาอ่ะค่ะ เราก็เลยค่ะๆ แล้ววางสายไป ดูเหมือนจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ก็ตัดใจแล้วค่ะ กำลังหางานอื่นทำ เราคุยกับเพื่อน เพื่อนเราก็บอกเหมือนกันว่า ขนาดเพื่อนของเพื่อนอีกทีไปสมัครอยู่ใกล้มากแถมตำแหน่งว่างยังไม่ได้งานเลยค่ะ ตอนนี้เราก็เป็นกำลังใจให้คนที่จะไปสมัครนะคะ  ตั้งสติดีๆ อย่าตอบแล้วค่อยคิด คิดก่อนแล้วตอบ แต่อย่าคิดนานนะคะ 5555
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่