นักรบโรฮิงญาช่วยทหารกรุงศรีรบกับพม่า

ปีระกา พ.ศ. ๒๓๐๘ ช่วงที่กรุงศรีอยุธยาใกล้แตกนั้น พม่าได้บุกเข้ามาหลายเส้นทาง ช่วงที่บ้านเมืองระสำระสาย ไพร่พลกลุ่มท้ายๆที่พยายามรักษาพระนครก็คือชาวโรฮิงญา นำโดยแม่ทัพขุนอับดุล สาเดก ได้รวบรวมไพร่พลจำนวน ๓๐๐ นาย จากหมู่บ้านโรฮิงญาที่ตั้งอยู่ด้านใต้เกาะกรุงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นำทัพออกไปตั้งรับพระพม่าที่เขาสามร้อยยอดซึ่งเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมแก่การต้านทานกองทัพพม่า และได้เข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ สังหารไพร่พลพม่าไปเป็นจำนวนมาก แม้กำลังพลจะต่างกันมาก แต่ด้วยทักษะการรบของชาวโรฮิงญาที่เป็นนักรบโดยกำเนิด สามารถตั้งรับกองทัพพม่าหนึ่งแสนนายไว้ได้ถึง ๗ วัน จนสุดท้ายเสียทีแก่กองทัพพม่าเมื่อมีไส้ศึกชาวมอญบอกเส้นทางลับบนเขา จนกระทั่งนักรบโรฮิงญาถูกปิดล้อมไว้หมดทุกทาง ในพงศดารพม่าได้กล่าวถึงเหล่านักรบโรฮิงญาว่ากล้าหาญเป็นที่ประจักษ์ แม้เข้าตาจนแม่ทัพ สาเดก ก็เกือบเขวี้ยงหอกเข้าใส่อะแซหวุ่นกี้ที่นั่งอยู่บนหลังช้างได้ แต่ก็พลาดไปเพียงนิดเดียว ทำให้ครั้งนั้นนักรบโรฮิงญาทั้งหมดถูกกองทัพพม่าสังหารหมู่เยี่ยงวีรบุรุษโดยไม่หลบหนีไปไหน ชาวโรฮิงญาจึงมีเป็นที่จดจำแก่อนุชนรุ่นหลัง และได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ชาวโรฮิงญาอยู่จนทุกวันนี้