



หุ้นขึ้นมาหลายว้น คงอารมณ์ดีกันบ้างแล้วนะครับ
ขอน้ำท่วมทุ่งชี้แจงบางเรื่อง ก่อนจะเข้าเรื่องของหัวกระทู้
เนื่องจากผมอ่านจาก smart search แล้วเจอว่า
มีบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรืออาจจะทำให้คนเข้าใจผิดดังนี้
๑ คำกล่าวที่ว่า "เข้าซื้อหุ้นเพราะเหตุผลใด เวลาขายออกก็ต้องเป็นไปตามเหตุผลนั้น"
คำกล่าวนี้ คนในตลาดหุ้นใช้กันมานานแล้ว
เป็นไปได้ว่า ผมเอามาพูดต่อ จนคนคิดว่าผมเป็นพูด
แต่ที่ผมพูดเองแน่ๆคือ
"เข้าซื้อหุ้นเพราะเชื่อว่า ราคาหุ้นมี"แต้มต่อ" ไม่มากก็น้อย
ถือเอาไว้เมื่อเชื่อว่า ราคาหุ้นยังมี"แต้มต่อ"เหลือพอให้ถือ
และขายหุ้นออกบางส่วนหรือทั้งจำนวน เมื่อเชื่อว่า ราคาหุ้นไม่มี "แต้มต่อ" เหลือแล้ว
คำว่า "แต้มต่อ" ก็เป็นคำที่นักลงทุนหลายคน แปลมาจากคำว่า "margin of safety"
๒ การขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไปบางส่วน เพื่อเอาเงินต้นของตัวเองออกมาก่อน
เป็นวิธีการที่นักลงทุนส่วนหนึ่ง ทำกันมานานแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นมา
เพียงแต่ผมเอาวิธีการนี้ มาตั้งชื่อเรียก พร้อมกับวัดค่าออกมาเป็นตัวเลฃแบบง่ายๆ
ส่วนแนวคิดเรื่องการขายคลายเครียดเรโช
ผมได้แนวคิดมาจาก แม่มักจะเล่าบ่อยๆว่า เวลาซื้อเงินแท่งเก็งกำไร
ถ้าราคามันขึ้นมากพอ
ก็จะขายเงินแท่งบางส่วน เพื่อเอาเงินต้นของตัวเองออกมาก่อน
กลับมาที่หัวข้อกระทู้ เรทอาร์ ฮาฮา
ดูภาพประกอบแล้วจะเข้าใจว่า
ทำไมตอนแหย่เข้าไปก็เฉยๆ มาเสียวเอาตอนที่ชักออกมา
ดูว่า งวดนี้ จะถูกรางวัลที่หนึ่งหรือรางวัลใหญ่หรือเปล่า
ตั้งแต่มีสมุดออมทรัพย์ที่ผูกติดกับการโอนเงินรางวัลจากสลากออมสินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง
ผมก็ไม่ค่อยจะตรวจรางวัลจากออนไลน์แล้ว
รอลุ้นเสียว ปนสนุกหรือซึม ตอนชักสมุดเงินฝากออกมาจากตู้อัพเดทสมุด
เพื่อดูยอดเข้าบัญชี
คงสรุปได้ว่า การเล่นสลากออมสิน ปีนี้อาจจะขาดทุนดอกเบี้ยเงินฝากประมาณ สี่หรือห้าหมื่น
เงินที่เอามาซื้อสลากออมสิน เป็นเงินบางส่วน ที่ได้มาจากการขายคลายเครียดเรโชมหภาค
การเล่นสลากออมสิน ผมจะเน้น เสี่ยงโชคไม่เสี่ยงเงินต้น เป็นแต้มต่อหลัก
คือวัดดวงไปเลยว่าจะถูกรางวัลใหญ่ๆหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ขาดทุนแค่ดอกเบี้ยเงินฝาก
ก็เลยจะขายคืนสลากทุก ๓ เดือนนิดๆ
เพื่อแรนด้อมหาเลขสลากชุดใหม่ มาลุ้นรางวัลใหญ่
ซึ่งจะไม่ได้ดอกเบี้ยสลากออมสิน แบบคนที่ถือนานเกิน ๑ ปี
แต่จะไม่โดนหักเงินต้น เหมือนกับขายคืนก่อนครบสามเดือน (สำหรับสลากออมสินแบบล่าสุด)
ชีวิตการเดินทางแสวงหาเงินของผม
ไม่ว่าในตลาดหุ้นหรือนอกตลาดหุ้น
ผมพยายามทำตามที่ ป๋าบุฟเฟต์บอกไว้
( ไม่แน่ใจว่า พวกวีไอทางทีวีใส่สีตีความเพิ่มหรือเปล่า ? ) คือ
๑ จงอย่าขาดทุน
๒ ถ้าขาดทุน ให้ดูข้อ ๑







แม้แต่ลงทุนแบบมวยวัด ก็ยังต้องมีหลักการ หลักคิดแบบมวยวัดครับ
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ตอนแหย่เข้าไปก็เฉยๆ มาเสียวเอาตอนที่ชักออก......
หุ้นขึ้นมาหลายว้น คงอารมณ์ดีกันบ้างแล้วนะครับ
ขอน้ำท่วมทุ่งชี้แจงบางเรื่อง ก่อนจะเข้าเรื่องของหัวกระทู้
เนื่องจากผมอ่านจาก smart search แล้วเจอว่า
มีบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรืออาจจะทำให้คนเข้าใจผิดดังนี้
๑ คำกล่าวที่ว่า "เข้าซื้อหุ้นเพราะเหตุผลใด เวลาขายออกก็ต้องเป็นไปตามเหตุผลนั้น"
คำกล่าวนี้ คนในตลาดหุ้นใช้กันมานานแล้ว
เป็นไปได้ว่า ผมเอามาพูดต่อ จนคนคิดว่าผมเป็นพูด
แต่ที่ผมพูดเองแน่ๆคือ
"เข้าซื้อหุ้นเพราะเชื่อว่า ราคาหุ้นมี"แต้มต่อ" ไม่มากก็น้อย
ถือเอาไว้เมื่อเชื่อว่า ราคาหุ้นยังมี"แต้มต่อ"เหลือพอให้ถือ
และขายหุ้นออกบางส่วนหรือทั้งจำนวน เมื่อเชื่อว่า ราคาหุ้นไม่มี "แต้มต่อ" เหลือแล้ว
คำว่า "แต้มต่อ" ก็เป็นคำที่นักลงทุนหลายคน แปลมาจากคำว่า "margin of safety"
๒ การขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไปบางส่วน เพื่อเอาเงินต้นของตัวเองออกมาก่อน
เป็นวิธีการที่นักลงทุนส่วนหนึ่ง ทำกันมานานแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นมา
เพียงแต่ผมเอาวิธีการนี้ มาตั้งชื่อเรียก พร้อมกับวัดค่าออกมาเป็นตัวเลฃแบบง่ายๆ
ส่วนแนวคิดเรื่องการขายคลายเครียดเรโช
ผมได้แนวคิดมาจาก แม่มักจะเล่าบ่อยๆว่า เวลาซื้อเงินแท่งเก็งกำไร
ถ้าราคามันขึ้นมากพอ
ก็จะขายเงินแท่งบางส่วน เพื่อเอาเงินต้นของตัวเองออกมาก่อน
กลับมาที่หัวข้อกระทู้ เรทอาร์ ฮาฮา
ดูภาพประกอบแล้วจะเข้าใจว่า
ทำไมตอนแหย่เข้าไปก็เฉยๆ มาเสียวเอาตอนที่ชักออกมา
ดูว่า งวดนี้ จะถูกรางวัลที่หนึ่งหรือรางวัลใหญ่หรือเปล่า
ตั้งแต่มีสมุดออมทรัพย์ที่ผูกติดกับการโอนเงินรางวัลจากสลากออมสินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง
ผมก็ไม่ค่อยจะตรวจรางวัลจากออนไลน์แล้ว
รอลุ้นเสียว ปนสนุกหรือซึม ตอนชักสมุดเงินฝากออกมาจากตู้อัพเดทสมุด
เพื่อดูยอดเข้าบัญชี
คงสรุปได้ว่า การเล่นสลากออมสิน ปีนี้อาจจะขาดทุนดอกเบี้ยเงินฝากประมาณ สี่หรือห้าหมื่น
เงินที่เอามาซื้อสลากออมสิน เป็นเงินบางส่วน ที่ได้มาจากการขายคลายเครียดเรโชมหภาค
การเล่นสลากออมสิน ผมจะเน้น เสี่ยงโชคไม่เสี่ยงเงินต้น เป็นแต้มต่อหลัก
คือวัดดวงไปเลยว่าจะถูกรางวัลใหญ่ๆหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ขาดทุนแค่ดอกเบี้ยเงินฝาก
ก็เลยจะขายคืนสลากทุก ๓ เดือนนิดๆ
เพื่อแรนด้อมหาเลขสลากชุดใหม่ มาลุ้นรางวัลใหญ่
ซึ่งจะไม่ได้ดอกเบี้ยสลากออมสิน แบบคนที่ถือนานเกิน ๑ ปี
แต่จะไม่โดนหักเงินต้น เหมือนกับขายคืนก่อนครบสามเดือน (สำหรับสลากออมสินแบบล่าสุด)
ชีวิตการเดินทางแสวงหาเงินของผม
ไม่ว่าในตลาดหุ้นหรือนอกตลาดหุ้น
ผมพยายามทำตามที่ ป๋าบุฟเฟต์บอกไว้
( ไม่แน่ใจว่า พวกวีไอทางทีวีใส่สีตีความเพิ่มหรือเปล่า ? ) คือ
๑ จงอย่าขาดทุน
๒ ถ้าขาดทุน ให้ดูข้อ ๑
แม้แต่ลงทุนแบบมวยวัด ก็ยังต้องมีหลักการ หลักคิดแบบมวยวัดครับ