ในปัจจุบันเราเห็นว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนเรียนพิเศษกันเยอะมาก เราก็เป็นคนหนึ่งที่เรียน เราเรียนอยู่ที่เดียวคือที่สถาบันเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็เคยคุยกัน อัธยาศัยดีและน่ารัก แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำกันแบบนี้
คือเราได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าหน้าที่ช่วงปลายเดือนเมษาว่าเราเรียนใกล้จบคอร์สแล้วให้เตรียมชำระเงินค่าเรียนของคอร์สต่อไปด้วย เราคิดว่าเขาคงเช็คมาดีแล้วเลยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเราเองก็ได้นับจำนวนคร่าวๆไว้แล้วว่ามันจะจบในช่วงปลายพฤษภานี่แหละ แต่คือว่าเรายังเรียนขาดไปอีกทั้งหมด 4 ครั้ง/2 คอร์ส ซึ่งตัวเราเองอยากจะชดเชยทั้ง 4 ครั้งนี้ให้หมดก่อนที่จะจ่ายเงินค่าคอร์สต่อไปเพื่อที่เราจะได้ไม่งง
ที่นี้วันก่อนที่เราเข้าไปเรียนคือวันที่ 16 พฤษภา เจ้าหน้าที่เรียกเราไปคุยก่อนเข้าห้องว่าเราต้องทำการจ่ายเงินค่าเรียนก่อนเข้าเรียนเพราะมันจบคอร์สไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วก็คือวันที่ 9 พฤษภา เราก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ทำไมมันหมดคอร์สเร็วมาก เพราะจากที่เรานับ ๆ กะ ๆ ไว้มันยังไม่หมด แต่เราไม่มีอะไรมายืนยันเราก็เลยคุยเรื่องชดเชยว่าขอชดเชยให้หมดก่อน คุยไปคุยมากลายเป็นว่าเขาบอกเราว่าเราไม่สามารถชดเชยในรอบเวลาที่เราเรียนได้ ต้องไปชดเชยรอบอื่นในวันอาทิตย์ซึ่งเราแจ้งเจ้าหน้าที่แต่แรกไปแล้วว่าเราไม่ว่างเลยจริง ๆ เพราะเราติดทำงาน เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเข้ามารุม ๆ เราสามสี่คน เหมือนทำไมมันปัญหาเยอะจัง แต่ที่สิ่งที่เราเงิบที่สุดคือเจ้าหน้าที่คนที่เราคุยเรื่องการชดเชยว่าขอชดเชยรอบเดิมและพี่เขาบอกว่าได้กลับบอกเราว่า เขาไม่มีทางพูดอย่างที่เราอ้างได้ มันเป็นกฎของสถาบัน
ผมนี่งงเลยครับ...อยู่ ๆ จากวันชดเชยที่เราจะได้ชดเชยวันเสาร์รอบเรียนเดิมกลายเป็นต้องไปชดเชยวันอาทิตย์ที่บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ว่าง พอบอกว่าไม่มีเวลามาชดเชยได้เขาบอกว่างั้นก็เก็บไว้ มันไม่มีหมดอายุ ไว้มีเวลาแล้วค่อยมาเรียน เราก็ยิ่งมึนหนักเลย เราไม่รู้ เพราะทางเขาไม่เคยแจ้ง แต่เราก็ยิ่งเงิบขึ้นไปอีกตรงที่เขาบอกว่าต่อให้เขาไม่บอกเราก็ต้องรู้เพราะว่าเขาได้แนบใบระเบียบการ ข้อบังคับต่าง ๆ มาให้พร้อมกับใบแจ้งรายละเอียดของแต่ละคอร์สว่าเรียนอะไร เป็นกลุ่มเป็นเดี่ยวไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตั้งแต่แรกที่เราลงเรียนกับเขา เราไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะได้รับใบระเบียบการ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ว่านั่นเลย เราได้เพียงใบเดียวคือใบรายละเอียดคอร์สเรียนเท่านั้น พอเราบอกไปแบบนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เงียบ ๆ ไปแล้วบอกเราย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ว่ามันเป็นกฎของสถาบัน ยังไงก็ชดเชยไม่ได้
พอเรากลับมาที่บ้าน เราเลยกลับบ้านมาหาใบเสร็จชำระค่าคอร์สครั้งก่อนระบุไว้อย่างชัดเจนว่าคอร์สเรียนของเราสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ไม่ใช่วันที่ 9 พฤษภาอย่างที่ทางเจ้าหน้าที่บอกและย้ำหนักย้ำหนา
คราวนี้ผมนี่เงิบสุด ๆ เลยครับ เราก็เลยโทรเข้าไปแจ้งทางสถาบัน เขาบอกว่าขอเวลาเช็คในระบบดูก่อนซึ่งต่อมาเขาก็โทรมาขอโทษและบอกแค่ว่าเขาเช็คผิด
คือโดยตัวเราเองก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เราแค่แบบ...เออมันอธิบายไม่ถูก คือทุกอย่างที่เราเคยคุยกับเขาไว้ เขากลับพูดไปอีกทางได้อย่างง่าย ๆ โดยบอกว่าจำไม่ได้
แต่คือเรื่องนั้นมันก็เรื่องหนึ่งที่เราเองก็เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ยอมสอบถามเจ้าหน้าที่เขาให้ชัดเจนอีกอย่างคือเราเข้าใจระว่าทุกคนผิดพลาดกันได้ แต่เราก็ยังตกใจอยู่ดีกับการที่เขาแจ้งเราหลายครั้ง ย้ำเราบ่อยมาว่าคอร์สจะหมดในต้นเดือนพฤษภา แต่พอเราเอาใบเสร็จไปชี้แจงเขากลับบอกว่าเขาเช็คผิด คือ...เราสงสัยว่าเขาไม่ได้เช็คใหม่กับระบบอีกครั้งเลยเหรอเพราะเขาเช็คชื่อเราทุกครั้งที่เราไปเข้าเรียน หมายความว่าถ้าเราไม่สะกิดใจกลับไปหาใบเสร็จ เราจะต้องเสียชั่วโมงไปฟรี ๆ ใช่ไหม?
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เราแค่อยากให้ทุกคนรู้ไว้เพียงแค่ว่า ใบกระดาษใบหนึ่งอย่าง “ใบเสร็จ” มันสำคัญมาก คือมันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นเองอ่ะ เก็บมันไว้เถอะ อย่างน้อยถ้ามีปัญหาอะไรเราสามารถเอาใบเสร็จที่ว่าไปยืนยันได้นะ
ลเราไม่ได้มีจิตคิดจะสร้างดราม่า ไม่คิดจะทำลายชื่อเสียงสถาบันหรืออะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้ทุกคนรู้ว่าใบเสร็จมันก็มีความสำคัญเหมือนกันนะ ถ้าหากคำพูดหรือประโยคไหนที่เราพิมพ์ไปแล้วทำให้ไม่พอใจต้องขออภัยมาที่นี้ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาก ๆ ;]]
Ps. อันที่จริงคือเราสงสัย...คือเราเรียนพิเศษแค่ที่นี่เลยไม่รู้ว่าการชดเชยนี่ต้องทำยังไง วานผู้รู้ช่วยตอบเราทีน้า
Ps.2 รักนะ จุ๊บ ๆ
#อีดิทแก้คำผิดค่ะ
#อีดิทแก้ไขหัวกระทู้ค่ะ
เล่าสู่กันฟัง โดนเหมือนจะรร.สอนพิเศษโกงค่าเทอม กับพนักงานที่ชอบกลับคำพูด
คือเราได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าหน้าที่ช่วงปลายเดือนเมษาว่าเราเรียนใกล้จบคอร์สแล้วให้เตรียมชำระเงินค่าเรียนของคอร์สต่อไปด้วย เราคิดว่าเขาคงเช็คมาดีแล้วเลยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเราเองก็ได้นับจำนวนคร่าวๆไว้แล้วว่ามันจะจบในช่วงปลายพฤษภานี่แหละ แต่คือว่าเรายังเรียนขาดไปอีกทั้งหมด 4 ครั้ง/2 คอร์ส ซึ่งตัวเราเองอยากจะชดเชยทั้ง 4 ครั้งนี้ให้หมดก่อนที่จะจ่ายเงินค่าคอร์สต่อไปเพื่อที่เราจะได้ไม่งง
ที่นี้วันก่อนที่เราเข้าไปเรียนคือวันที่ 16 พฤษภา เจ้าหน้าที่เรียกเราไปคุยก่อนเข้าห้องว่าเราต้องทำการจ่ายเงินค่าเรียนก่อนเข้าเรียนเพราะมันจบคอร์สไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วก็คือวันที่ 9 พฤษภา เราก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ทำไมมันหมดคอร์สเร็วมาก เพราะจากที่เรานับ ๆ กะ ๆ ไว้มันยังไม่หมด แต่เราไม่มีอะไรมายืนยันเราก็เลยคุยเรื่องชดเชยว่าขอชดเชยให้หมดก่อน คุยไปคุยมากลายเป็นว่าเขาบอกเราว่าเราไม่สามารถชดเชยในรอบเวลาที่เราเรียนได้ ต้องไปชดเชยรอบอื่นในวันอาทิตย์ซึ่งเราแจ้งเจ้าหน้าที่แต่แรกไปแล้วว่าเราไม่ว่างเลยจริง ๆ เพราะเราติดทำงาน เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเข้ามารุม ๆ เราสามสี่คน เหมือนทำไมมันปัญหาเยอะจัง แต่ที่สิ่งที่เราเงิบที่สุดคือเจ้าหน้าที่คนที่เราคุยเรื่องการชดเชยว่าขอชดเชยรอบเดิมและพี่เขาบอกว่าได้กลับบอกเราว่า เขาไม่มีทางพูดอย่างที่เราอ้างได้ มันเป็นกฎของสถาบัน
ผมนี่งงเลยครับ...อยู่ ๆ จากวันชดเชยที่เราจะได้ชดเชยวันเสาร์รอบเรียนเดิมกลายเป็นต้องไปชดเชยวันอาทิตย์ที่บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ว่าง พอบอกว่าไม่มีเวลามาชดเชยได้เขาบอกว่างั้นก็เก็บไว้ มันไม่มีหมดอายุ ไว้มีเวลาแล้วค่อยมาเรียน เราก็ยิ่งมึนหนักเลย เราไม่รู้ เพราะทางเขาไม่เคยแจ้ง แต่เราก็ยิ่งเงิบขึ้นไปอีกตรงที่เขาบอกว่าต่อให้เขาไม่บอกเราก็ต้องรู้เพราะว่าเขาได้แนบใบระเบียบการ ข้อบังคับต่าง ๆ มาให้พร้อมกับใบแจ้งรายละเอียดของแต่ละคอร์สว่าเรียนอะไร เป็นกลุ่มเป็นเดี่ยวไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตั้งแต่แรกที่เราลงเรียนกับเขา เราไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะได้รับใบระเบียบการ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ว่านั่นเลย เราได้เพียงใบเดียวคือใบรายละเอียดคอร์สเรียนเท่านั้น พอเราบอกไปแบบนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เงียบ ๆ ไปแล้วบอกเราย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ว่ามันเป็นกฎของสถาบัน ยังไงก็ชดเชยไม่ได้
พอเรากลับมาที่บ้าน เราเลยกลับบ้านมาหาใบเสร็จชำระค่าคอร์สครั้งก่อนระบุไว้อย่างชัดเจนว่าคอร์สเรียนของเราสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ไม่ใช่วันที่ 9 พฤษภาอย่างที่ทางเจ้าหน้าที่บอกและย้ำหนักย้ำหนา
คราวนี้ผมนี่เงิบสุด ๆ เลยครับ เราก็เลยโทรเข้าไปแจ้งทางสถาบัน เขาบอกว่าขอเวลาเช็คในระบบดูก่อนซึ่งต่อมาเขาก็โทรมาขอโทษและบอกแค่ว่าเขาเช็คผิด
คือโดยตัวเราเองก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เราแค่แบบ...เออมันอธิบายไม่ถูก คือทุกอย่างที่เราเคยคุยกับเขาไว้ เขากลับพูดไปอีกทางได้อย่างง่าย ๆ โดยบอกว่าจำไม่ได้
แต่คือเรื่องนั้นมันก็เรื่องหนึ่งที่เราเองก็เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ยอมสอบถามเจ้าหน้าที่เขาให้ชัดเจนอีกอย่างคือเราเข้าใจระว่าทุกคนผิดพลาดกันได้ แต่เราก็ยังตกใจอยู่ดีกับการที่เขาแจ้งเราหลายครั้ง ย้ำเราบ่อยมาว่าคอร์สจะหมดในต้นเดือนพฤษภา แต่พอเราเอาใบเสร็จไปชี้แจงเขากลับบอกว่าเขาเช็คผิด คือ...เราสงสัยว่าเขาไม่ได้เช็คใหม่กับระบบอีกครั้งเลยเหรอเพราะเขาเช็คชื่อเราทุกครั้งที่เราไปเข้าเรียน หมายความว่าถ้าเราไม่สะกิดใจกลับไปหาใบเสร็จ เราจะต้องเสียชั่วโมงไปฟรี ๆ ใช่ไหม?
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เราแค่อยากให้ทุกคนรู้ไว้เพียงแค่ว่า ใบกระดาษใบหนึ่งอย่าง “ใบเสร็จ” มันสำคัญมาก คือมันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นเองอ่ะ เก็บมันไว้เถอะ อย่างน้อยถ้ามีปัญหาอะไรเราสามารถเอาใบเสร็จที่ว่าไปยืนยันได้นะ
ลเราไม่ได้มีจิตคิดจะสร้างดราม่า ไม่คิดจะทำลายชื่อเสียงสถาบันหรืออะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้ทุกคนรู้ว่าใบเสร็จมันก็มีความสำคัญเหมือนกันนะ ถ้าหากคำพูดหรือประโยคไหนที่เราพิมพ์ไปแล้วทำให้ไม่พอใจต้องขออภัยมาที่นี้ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาก ๆ ;]]
Ps. อันที่จริงคือเราสงสัย...คือเราเรียนพิเศษแค่ที่นี่เลยไม่รู้ว่าการชดเชยนี่ต้องทำยังไง วานผู้รู้ช่วยตอบเราทีน้า
Ps.2 รักนะ จุ๊บ ๆ
#อีดิทแก้คำผิดค่ะ
#อีดิทแก้ไขหัวกระทู้ค่ะ