จริงๆเรื่องๆที่ผมจะเล่ามันก็ผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้วครับ แต่สมัครสมาชิกมาไม่นานเลยขอตั้งกระทู้หน่อยนะครับ
note:
เรื่องนี้อาจมาจากความคิดเห็นผมเป็นส่วนมากอาจทำให้อ่านแล้วดูมีอคติไปบ้าง ป้าผมแกเป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจความรู้สึกคนอื่นเท่าไหร่(บางครั้งผมก็ไม่ค่อยโดยแคร์เท่าไหร่ แต่ผมก็รักป้านะ)
เริ่มเรื่อง ผมอาศัยอยู่กับป้า และป้าเองก็เป็นครูที่สอนอยู่ที่โรงเรียนด้วย ก่อนหน้านี้ป้าบอกว่าป้าจะรับเอานักเรียนแลกเปลี่ยนมานะเพราะตอนนี้ครูหมวดภาษาอังกฤษกำลังทำเรื่องอยู่ ด้วยความที่ผมก็อยากเรียนรู้ภาษาบ้างก็เอาว่ะ ตกลง ก่อนที่นักเรียนจะมาต้องทำเอกสารสัญญาต่างๆนาๆผมจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่จำได้คือ ตอนแรกผมบอกของ นักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นผู้หญิงนะ เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายเ๖็มร้อย เลยเข้ากับผู้หญิงได้ดีกว่า แต่ป้ากับครูภาษาอังกฤษอีกคนก็คัดค้านว่าเอาผู้ชายดีกว่านะ ผู้ชายไม่
เรื่องมาก ไม่มีปัญหา ให้ทำอะไรมันทำหมดนะ บางทีผู้หญิงปัญหาเยอะ ผมก็โอเคเอาที่สบายใจนะ ตกลง สรปุคือ ได้เด็กผู้ชายจก เยอรมันนี เขาบอกว่าเขาเคยเป็นนักมวยและอยากมาที่ไทยตอนแรกๆเขาก็ดูโอเคครับ เราตกลงกันว่าด้วยความที่บ้านเรานะ ห่างไกลตัวเมืองแม้จะไม่มากแต่การขับรถไปมามันจะเหนื่อยเขาเองก็ขับรถไม่เป็นเลยจะพาไปเที่ยวในช่วงวันหยุด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ป้าจะให้อาทิตย์ละสองร้อยเพราะโรงเรียนอาหารกลางวันไม่แพง จานล่ะ 20 บาท น้ำขวดแค่6บาท
แต่นานๆไป ความเยอะและนิสัยเริ่มปรากฏ เขาชอบเอาแต่ถามหาที่เที่ยว และด้วยความที่บ้านผมอยู่ไกลจากตัวเมืองเลยไม่ค่อยมีที่เที่ยวและผมก็กำลังจะสอบกลางภาค ป้าเองก็ต้องจัำทำข้อสอบเลยไม่มีเวลาพาไปตอนแรกก็บอกว่าเข้าใจ แต่เขาก็ทำท่าทีซึมๆเอาเรื่องไปโพส(ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเป็นภาษาเยอรมันตอนแรกเราก็อ่านไม่ออกก็เลยนึกว่าคุยกับแม่เรื่องทั่วไป)ระบายกับแม่ว่า เรากีดกัดไม่ให้เที่ยว ไม่ให้เงินใช้ แม่เขาก็เลยโทรมาต่อว่า ลูกเขาเป็นคนรักอิสระ ไหนตกลงว่าจะให้เงินเขาใช้ ป้ากับผมก็อึ้ง ผมก็งง เราให้เงินเขาทุกสัปดาห์ ให้เกินสองร้อยด้วยซ้ำ ทำไมเขาไปพูดกับแม่เขาแบบนั้น เลยเรียกมาคุยกันโดยมีครูภาษาอังกฤษที่รับเรื่องมาดูแลเป็นคนคอยไกล่เกลี่ย แต่ ผมคิดผิด ครูคนนี้เข้าข้างเต็มที่ กลายเป็นพวกเราผิด ป้าเลยบอกว่างั้นจะพาไปเที่ยวทุกอาทิตย์ แต่เงินที่ไปพูดกับแม่แบบนั้น เขาดันแถว่า "พูดไปด้วยอารมณ์เท่านั้น" ผมก็'อะไรของว่ะ' คิดในใจ สุดท้ายป้าบอกไปส่งเขาเข้าในเมืองหน่อยนะลูกป้าไม่ว่าง 'อ้าว' ผมก็ต้องอ่านหนังสือนะป้าแล้วไอ้การไปส่งเนี่ยคือการที่เราต้องนั่งรถสองแถวไปถามว่าผมนั่งได้ไหม ได้ แต่เขา นั่งไม่ได้บอกว่า"ทำไมไม่เอารถไป" "ทำไมต้องมานั่งรถแบบนี้" ทำหน้าไม่พอใจเดินซื้อของก็ทำหน้าบึ้งไม่ยอมซื้อ ผมก็'อะไรของว่ะ' พามาห้างก็พามาแล้วยังจะมาแสดงอารการไม่พอใจอีก เดินดูไปสักพักบอกอยากไปร้านรองเท้า ผมก็พาไปอ่ะไหนๆก็ไหนๆเดินเลือกเป็นชั่วโมง ไม่เอาไปร้านอื่น พาเข้าสี่ร้านไม่เอาสักร้าน "อยากไปร้านร้องเท้าที่เป็นร้านรองเท้าจริงๆ" ก็นี่ ที่พามันมันคือร้านขายรองเท้า ตอนนั้นผมเริ่มหงุดหงิดล่ะ สุดท้ายกลับมาบ้านไม่ได้อะไรสักอย่าง
วันต่อมา แผลงฤธิ์เอาผมไปเล่าให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังหาว่าผม ไม่ยอมให้มันซื้อรองเท้า กินอะไรก็ไม่ได้กิน หิวก็หิว ริบเงินมันไปหมด คุณพระ!! ตังค์ที่มันใช้นะตังค์ตัวเองล้วนๆ และเขาใช้เงินเก่งมาก วันหนึ่งซื้ออะไรสารพัดเสียงเป็นพันๆกว่าๆ(รวมเงินที่ให้200 และเงินของตัวเองอีก) ผมเริ่มทนไม่ไหวเพราะเขาตื่นสายมากบางทีโรงเรียนผมเข้า 7.30 น แต่ตื่น 6.50 เคาะห้องก็แล้วเรียกก็แล้วไปโรงเรียนสายทุกวัน
เพื่อน เพื่อนในห้องแรกๆก็ชอบเขาอยู่เขาดูเป็นมิตรดีนะ แต่นานๆไปลายออก เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเขาเก่งภาษาอังกฤษแหละแต่ก็สนิทกับผมพอสมควรด้วยความที่เพื่อนคนนี้เขา หน้าตาดี และก็ดูจะสนิทกับเขา ไล่ไปบอกคนในโรงเรียนว่าเป็นแฟนมัน เดือดร้อนถึงแฟนของเพื่อนผมต้องมาตามแก้ข่าวให้อีกพอมันรู้ว่าเพื่อนผมมีแฟนแล้วก็ หน้าซีดนะสิ กลับมาบ้านมาโวยวายใส่ผมหาว่าผมหักหน้ามัน วันนั้นคือ เกือบ ได้มีเรื่องลงไม้ลงมือ อธิบายยังไงก็ไม่ฟังแถมยัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ YOU ป้าผมก็ อดทนเอาลูก
เราต้องปรับตัวเข้าหาเขานะ ไม่ใช่เขาปรับตัวเข้าหาเรา ป้า!! เขามาอยู่ประเทศเราเรียนรู้วัฒนธรรมเรานะ
ปัญหาบานปลาย(หลังสอบกลางภาค) หลังจากวันนั้นเขาหลบเรียนบ่อยมากหนีไปอยู่ห้องสมุดเล่นคอมพิวเตอร์บ้าง หนีไปนั่งอยู่โรงอาหารบ้าง จนเพื่อนอีกห้องหนึ่ง(ลืมบอกผมมีพี่ชายอีกคนหนึ่งอยู่ห่างกันไป1ชั้นปี) มาชวนมันไปกินหมูกะทะ ด้วยความที่ผมไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนกลุ่มนั้น แต่เขาสนิทเพราะครูภาษาอังกฤษที่ดูแลให้เขาย้ายไปอยู่ห้องนั้นแทนห้องผม(เพราะปัญหาเรื่องเพื่อนผู้หญิง) เขาก็รบเร้าบอกว่าจะไป เราก็โอเคไปก็ไปแล้วแต่คุณเอาที่คุณสบายใจก็ไป ปรากฏว่า สี่ทุ่มยังไม่ยอมเข้าบ้านป้าขับรถไปหาที่ร้านหมูกะทะ ความจริงตบหน้าไปหนึ่งฉาด
วันนี้ร้านหมูกะทะปิด และในตัวอำเภอมันมีอยู่สองร้านอีกร้านไปหาเขาบอกว่า
ไม่มีน้องฝรั่งที่ไหนมากินวันนี้ม.3/2 ปิดร้านเลี้ยงกัน ป้าผมก็เลยโทรหาเลยเขาบอก
อยู่บ้านเพื่อนววันนี้ไม่กลับนะนอนบ้านเพื่อน ป้าผมก็ โอเค ผม ไม่ได้นะป้า เพราะ เรารับเขามาดูแลในสัญญาก็บอกแล้วว่าต้องดูแลเขาห้ามให้เขาเป็นอะไรที่ไดรับอันตรายและเพื่อนกลุ่มนั้นผมก็ไม่ได้สนิทด้วยอีก แต่สุดท้ายก็ขัดป้าไม่ได้ ตอนเช้าเข้าบ้านมาเกือบ สิบโมงกว่า กลิ่นเหล้ากลิ่นอ้วกเหม็นหึ่ง พอถามว่าทำไมกินเหล้าก็ไม่ยอมชักสีหน้าใส่แล้วเดินเข้าห้องปิดประตูดังมาก สุดท้าย เรื่องที่ผมรับรุ้คือ 1.เขาตกลงกับเพื่อนว่าจะโกหกว่าไปกินหมูกะทะ(เพื่อนผมให้มันเรียกว่า บาร์บิคิว) 2.เพื่อนในห้องผมไปกินด้วยหนึ่งคนบอกว่า มันกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งขับรถจักยานยนต์เข้าไปในเมืองเพื่อเข้าผับ ผมยอมรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวเลยตัดสินใจ พิมพ์หนังสือแจ้งเตือนพฤติกรรมของเขาไป แอบส่งปลอมลายเซ็นป้าเรี้ยบร้อย(ให้เพื่อนปลอมเพราะเพื่อนผมปลอมลายเซ็นเก่ง) พอป้ากับครูภาษาอังกฤษรู้ ด่าผม ยังกับหมูกับหมา
เขาแค่ไปกินเหล้าเอง ผมก็เถียงมันไปผับด้วย เรื่องพลิกเพราะผมเอาพยานคือคนที่ไปงานวันนั้นมาด้วย มันหน้าซีดเลยทีเดียว แต่สุดท้าย อี่อาจารย์ก็
ไม่เป็นไรเขาแค่อยากลอง ทั้งหมดเป็นความผิดของผมนะที่ทำแบบนี้
หลังจากววันนั้นเรียกได้ว่าผมกับมันคือ อากาศธาตุ ไม่สนใจไม่พูดมันถามว่ามีไรกินมั่งผมตอนเป็นภาษาไทยเลย "ตีน" มันก็คงรู้แหละเพราะมันเรียนภาษาไทยกับครูอีกคนด้วย ถามว่าผมผิดในส่วนนี้ไหม
ผิด เพราะ ผมเองก็เริ่มแผลงฤธิ์ใส่เขาเยอะเช่นกันตอนนั้นผมยอมทำทุกอย่างให้มันออกไปจากบ้าน ตอนส่งหนังสือไปให้ทางฝ่ายโครงการรับรู้เขาโดนตักเตือนมาแล้วหนึ่งครั้งเลยซ่าไม่ได้เหมือนก่อน ตอนมันไม่อยู่ห้องผมเข้าไปในห้องมันกลิ่นเน่าคลุ้งห้องไปหมด ขนมกินหมดแล้วไม่ทิ้ง ข้าวกล่องเซเว่นเน่าสามกล่องอยู่ในห้อง ผ้าห่มอยู่หน้าห้องน้ำ เรียกว่า โสโครกสุดๆ ที่เข้ามาเพราะ มันบ่นกับป้าว่าห้องมันเหม็น ป้าก็ เข้าไปทำความสะอาดให้เขาหน่อยนะลูก ตอนได้ยินประโยคนี้แทนที่จะโกรธบอกตรงๆรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏในใจทันที ผมก็ทำความสะอาดไปจนเสร็จแล้วไปเจอกับ เอกสารที่มันเขียนอยู่ พออ่านๆดูเหมือนมันจะร้องเรียนว่าเราเป็น host ที่แย่ เสียใจ ผมฉีกทิ้งลงถังขยะเลยแล้วเขียนรายงานพฤติกรรมรอบสองส่งไปให้ตัดหน้าทันที พฤติกรรมหลังจากวันนั้นก็เยอะพอสมควร: ไปถามเพื่อนผู้หญิงว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Do you want to with me?(อันนี้เงิบจริงขนาดเพื่อนยังตบหน้ามันหัน รอดได้ยังไง ก็ อี่อาจารย์คนนั้นเช่นเคย เพราะเธอแต่งตัวแรดยังไงเขาถึงถามด่าเพื่อนคนนั้นต่อหน้าคนทั้งห้อง เจอเสียงโห่เลยสิ) หนีออกจากโรงเรียนไปนั่งเ่ลนเกมส์(สามารถมาก รอดเช่นเคย) ไปลวนลามน้อง ม.3(จับนมน้องเข้า ก็รอดเช่นเคยความผิดใคร ความผิดน้องเขาตามระเบียบ) ตอนนั้นผมก็ทำได้แต่พยายามรวบรวมหลักฐาน รวบรวมพยานไปด้วยแต่ที่ได้จริงคือ ลายมือของพฤติกรรมถ่อยๆของมันจากพยาน แต่ไม่ทันส่งเรื่องจุดพีคมาถึงเสียก่อน
เรื่องมีอยู่ว่ารูปที่มันติดอยู่หน้าบอร์ดมันฉีกมันก็มาโวยวายว่าทำไมรูปมันฉีก เป็นผมแน่ๆที่ต้องฉีก กล่าวหาลอยๆไร้ซึ่งหลักฐาน มันด่าผมเป็นชุด แถมยังหันไปด่าอี่อาจารย์คนนั้นว่า "คุณช่วยอะไรฉันไม่ได้ คุณไร้ประโยชน์กับฉันแล้ว ฉันติดต่อกับโครงการแล้วฉันจะมีhostใหม่!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้You are so slutty!" ถามตอนนีผมทำอะไรอยู่ ยืนยิ้มดู อี่อาจารย์นั่นดิ้นด่ามัน สุดท้ายป้าผมส่งเรื่องยอมให้มันพ้นสภาพ host ให้เขาไปหา hostใหม่เถอะ โครงการตอบกลับมา
เรายังไม่ได้หาhostให้เขาเลยตอนแรกมีคนจะรับทางเราจึงส่งรายการพฤติกรรมบางส่วนเขาไป hostรายนั้นเลยไม่รับ ผมโครตสะใจ ส่วนมันคือ เงิบ ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร สุดท้ายก็เลยให้มันไปอยู่กับทางโครงการก่อนแล้วค่อยหาที่อยู่ใหม่ให้ แต่สุดท้ายมันขอกลับประเทศ
ขอฝากก่อนจบนะครับคือ เรื่องบางส่วนอาจเกิดจากการกระทำของผมด้วยผมจะไม่โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาคนเดียวมันเป็นความผิดของผมด้วย ส่วนใครที่อยากรับ host กรุณาเลือกดีๆหากเรารู้ประวัติเขาคร่าวๆแล้วเราควรศึกษาวัฒธรรมเขาด้วย หากเรารู้สึกไม่โอเค ควรรีบแจ้งทางโครงการให้ทราบทุกโครงการครับก่อนที่ปัญหามันจะบานปลาย
เคยรับนักเรียนแลกเปลี่ยนมาอยู่ได้ไม่ถึงปีเกลียดกันเข้าไส้
note: เรื่องนี้อาจมาจากความคิดเห็นผมเป็นส่วนมากอาจทำให้อ่านแล้วดูมีอคติไปบ้าง ป้าผมแกเป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจความรู้สึกคนอื่นเท่าไหร่(บางครั้งผมก็ไม่ค่อยโดยแคร์เท่าไหร่ แต่ผมก็รักป้านะ)
เริ่มเรื่อง ผมอาศัยอยู่กับป้า และป้าเองก็เป็นครูที่สอนอยู่ที่โรงเรียนด้วย ก่อนหน้านี้ป้าบอกว่าป้าจะรับเอานักเรียนแลกเปลี่ยนมานะเพราะตอนนี้ครูหมวดภาษาอังกฤษกำลังทำเรื่องอยู่ ด้วยความที่ผมก็อยากเรียนรู้ภาษาบ้างก็เอาว่ะ ตกลง ก่อนที่นักเรียนจะมาต้องทำเอกสารสัญญาต่างๆนาๆผมจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่จำได้คือ ตอนแรกผมบอกของ นักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นผู้หญิงนะ เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายเ๖็มร้อย เลยเข้ากับผู้หญิงได้ดีกว่า แต่ป้ากับครูภาษาอังกฤษอีกคนก็คัดค้านว่าเอาผู้ชายดีกว่านะ ผู้ชายไม่ เรื่องมาก ไม่มีปัญหา ให้ทำอะไรมันทำหมดนะ บางทีผู้หญิงปัญหาเยอะ ผมก็โอเคเอาที่สบายใจนะ ตกลง สรปุคือ ได้เด็กผู้ชายจก เยอรมันนี เขาบอกว่าเขาเคยเป็นนักมวยและอยากมาที่ไทยตอนแรกๆเขาก็ดูโอเคครับ เราตกลงกันว่าด้วยความที่บ้านเรานะ ห่างไกลตัวเมืองแม้จะไม่มากแต่การขับรถไปมามันจะเหนื่อยเขาเองก็ขับรถไม่เป็นเลยจะพาไปเที่ยวในช่วงวันหยุด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ป้าจะให้อาทิตย์ละสองร้อยเพราะโรงเรียนอาหารกลางวันไม่แพง จานล่ะ 20 บาท น้ำขวดแค่6บาท
แต่นานๆไป ความเยอะและนิสัยเริ่มปรากฏ เขาชอบเอาแต่ถามหาที่เที่ยว และด้วยความที่บ้านผมอยู่ไกลจากตัวเมืองเลยไม่ค่อยมีที่เที่ยวและผมก็กำลังจะสอบกลางภาค ป้าเองก็ต้องจัำทำข้อสอบเลยไม่มีเวลาพาไปตอนแรกก็บอกว่าเข้าใจ แต่เขาก็ทำท่าทีซึมๆเอาเรื่องไปโพส(ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเป็นภาษาเยอรมันตอนแรกเราก็อ่านไม่ออกก็เลยนึกว่าคุยกับแม่เรื่องทั่วไป)ระบายกับแม่ว่า เรากีดกัดไม่ให้เที่ยว ไม่ให้เงินใช้ แม่เขาก็เลยโทรมาต่อว่า ลูกเขาเป็นคนรักอิสระ ไหนตกลงว่าจะให้เงินเขาใช้ ป้ากับผมก็อึ้ง ผมก็งง เราให้เงินเขาทุกสัปดาห์ ให้เกินสองร้อยด้วยซ้ำ ทำไมเขาไปพูดกับแม่เขาแบบนั้น เลยเรียกมาคุยกันโดยมีครูภาษาอังกฤษที่รับเรื่องมาดูแลเป็นคนคอยไกล่เกลี่ย แต่ ผมคิดผิด ครูคนนี้เข้าข้างเต็มที่ กลายเป็นพวกเราผิด ป้าเลยบอกว่างั้นจะพาไปเที่ยวทุกอาทิตย์ แต่เงินที่ไปพูดกับแม่แบบนั้น เขาดันแถว่า "พูดไปด้วยอารมณ์เท่านั้น" ผมก็'อะไรของว่ะ' คิดในใจ สุดท้ายป้าบอกไปส่งเขาเข้าในเมืองหน่อยนะลูกป้าไม่ว่าง 'อ้าว' ผมก็ต้องอ่านหนังสือนะป้าแล้วไอ้การไปส่งเนี่ยคือการที่เราต้องนั่งรถสองแถวไปถามว่าผมนั่งได้ไหม ได้ แต่เขา นั่งไม่ได้บอกว่า"ทำไมไม่เอารถไป" "ทำไมต้องมานั่งรถแบบนี้" ทำหน้าไม่พอใจเดินซื้อของก็ทำหน้าบึ้งไม่ยอมซื้อ ผมก็'อะไรของว่ะ' พามาห้างก็พามาแล้วยังจะมาแสดงอารการไม่พอใจอีก เดินดูไปสักพักบอกอยากไปร้านรองเท้า ผมก็พาไปอ่ะไหนๆก็ไหนๆเดินเลือกเป็นชั่วโมง ไม่เอาไปร้านอื่น พาเข้าสี่ร้านไม่เอาสักร้าน "อยากไปร้านร้องเท้าที่เป็นร้านรองเท้าจริงๆ" ก็นี่ ที่พามันมันคือร้านขายรองเท้า ตอนนั้นผมเริ่มหงุดหงิดล่ะ สุดท้ายกลับมาบ้านไม่ได้อะไรสักอย่าง
วันต่อมา แผลงฤธิ์เอาผมไปเล่าให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังหาว่าผม ไม่ยอมให้มันซื้อรองเท้า กินอะไรก็ไม่ได้กิน หิวก็หิว ริบเงินมันไปหมด คุณพระ!! ตังค์ที่มันใช้นะตังค์ตัวเองล้วนๆ และเขาใช้เงินเก่งมาก วันหนึ่งซื้ออะไรสารพัดเสียงเป็นพันๆกว่าๆ(รวมเงินที่ให้200 และเงินของตัวเองอีก) ผมเริ่มทนไม่ไหวเพราะเขาตื่นสายมากบางทีโรงเรียนผมเข้า 7.30 น แต่ตื่น 6.50 เคาะห้องก็แล้วเรียกก็แล้วไปโรงเรียนสายทุกวัน
เพื่อน เพื่อนในห้องแรกๆก็ชอบเขาอยู่เขาดูเป็นมิตรดีนะ แต่นานๆไปลายออก เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเขาเก่งภาษาอังกฤษแหละแต่ก็สนิทกับผมพอสมควรด้วยความที่เพื่อนคนนี้เขา หน้าตาดี และก็ดูจะสนิทกับเขา ไล่ไปบอกคนในโรงเรียนว่าเป็นแฟนมัน เดือดร้อนถึงแฟนของเพื่อนผมต้องมาตามแก้ข่าวให้อีกพอมันรู้ว่าเพื่อนผมมีแฟนแล้วก็ หน้าซีดนะสิ กลับมาบ้านมาโวยวายใส่ผมหาว่าผมหักหน้ามัน วันนั้นคือ เกือบ ได้มีเรื่องลงไม้ลงมือ อธิบายยังไงก็ไม่ฟังแถมยัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ป้าผมก็ อดทนเอาลูก เราต้องปรับตัวเข้าหาเขานะ ไม่ใช่เขาปรับตัวเข้าหาเรา ป้า!! เขามาอยู่ประเทศเราเรียนรู้วัฒนธรรมเรานะ
ปัญหาบานปลาย(หลังสอบกลางภาค) หลังจากวันนั้นเขาหลบเรียนบ่อยมากหนีไปอยู่ห้องสมุดเล่นคอมพิวเตอร์บ้าง หนีไปนั่งอยู่โรงอาหารบ้าง จนเพื่อนอีกห้องหนึ่ง(ลืมบอกผมมีพี่ชายอีกคนหนึ่งอยู่ห่างกันไป1ชั้นปี) มาชวนมันไปกินหมูกะทะ ด้วยความที่ผมไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนกลุ่มนั้น แต่เขาสนิทเพราะครูภาษาอังกฤษที่ดูแลให้เขาย้ายไปอยู่ห้องนั้นแทนห้องผม(เพราะปัญหาเรื่องเพื่อนผู้หญิง) เขาก็รบเร้าบอกว่าจะไป เราก็โอเคไปก็ไปแล้วแต่คุณเอาที่คุณสบายใจก็ไป ปรากฏว่า สี่ทุ่มยังไม่ยอมเข้าบ้านป้าขับรถไปหาที่ร้านหมูกะทะ ความจริงตบหน้าไปหนึ่งฉาด วันนี้ร้านหมูกะทะปิด และในตัวอำเภอมันมีอยู่สองร้านอีกร้านไปหาเขาบอกว่า ไม่มีน้องฝรั่งที่ไหนมากินวันนี้ม.3/2 ปิดร้านเลี้ยงกัน ป้าผมก็เลยโทรหาเลยเขาบอก อยู่บ้านเพื่อนววันนี้ไม่กลับนะนอนบ้านเพื่อน ป้าผมก็ โอเค ผม ไม่ได้นะป้า เพราะ เรารับเขามาดูแลในสัญญาก็บอกแล้วว่าต้องดูแลเขาห้ามให้เขาเป็นอะไรที่ไดรับอันตรายและเพื่อนกลุ่มนั้นผมก็ไม่ได้สนิทด้วยอีก แต่สุดท้ายก็ขัดป้าไม่ได้ ตอนเช้าเข้าบ้านมาเกือบ สิบโมงกว่า กลิ่นเหล้ากลิ่นอ้วกเหม็นหึ่ง พอถามว่าทำไมกินเหล้าก็ไม่ยอมชักสีหน้าใส่แล้วเดินเข้าห้องปิดประตูดังมาก สุดท้าย เรื่องที่ผมรับรุ้คือ 1.เขาตกลงกับเพื่อนว่าจะโกหกว่าไปกินหมูกะทะ(เพื่อนผมให้มันเรียกว่า บาร์บิคิว) 2.เพื่อนในห้องผมไปกินด้วยหนึ่งคนบอกว่า มันกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งขับรถจักยานยนต์เข้าไปในเมืองเพื่อเข้าผับ ผมยอมรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวเลยตัดสินใจ พิมพ์หนังสือแจ้งเตือนพฤติกรรมของเขาไป แอบส่งปลอมลายเซ็นป้าเรี้ยบร้อย(ให้เพื่อนปลอมเพราะเพื่อนผมปลอมลายเซ็นเก่ง) พอป้ากับครูภาษาอังกฤษรู้ ด่าผม ยังกับหมูกับหมา เขาแค่ไปกินเหล้าเอง ผมก็เถียงมันไปผับด้วย เรื่องพลิกเพราะผมเอาพยานคือคนที่ไปงานวันนั้นมาด้วย มันหน้าซีดเลยทีเดียว แต่สุดท้าย อี่อาจารย์ก็ ไม่เป็นไรเขาแค่อยากลอง ทั้งหมดเป็นความผิดของผมนะที่ทำแบบนี้
หลังจากววันนั้นเรียกได้ว่าผมกับมันคือ อากาศธาตุ ไม่สนใจไม่พูดมันถามว่ามีไรกินมั่งผมตอนเป็นภาษาไทยเลย "ตีน" มันก็คงรู้แหละเพราะมันเรียนภาษาไทยกับครูอีกคนด้วย ถามว่าผมผิดในส่วนนี้ไหม ผิด เพราะ ผมเองก็เริ่มแผลงฤธิ์ใส่เขาเยอะเช่นกันตอนนั้นผมยอมทำทุกอย่างให้มันออกไปจากบ้าน ตอนส่งหนังสือไปให้ทางฝ่ายโครงการรับรู้เขาโดนตักเตือนมาแล้วหนึ่งครั้งเลยซ่าไม่ได้เหมือนก่อน ตอนมันไม่อยู่ห้องผมเข้าไปในห้องมันกลิ่นเน่าคลุ้งห้องไปหมด ขนมกินหมดแล้วไม่ทิ้ง ข้าวกล่องเซเว่นเน่าสามกล่องอยู่ในห้อง ผ้าห่มอยู่หน้าห้องน้ำ เรียกว่า โสโครกสุดๆ ที่เข้ามาเพราะ มันบ่นกับป้าว่าห้องมันเหม็น ป้าก็ เข้าไปทำความสะอาดให้เขาหน่อยนะลูก ตอนได้ยินประโยคนี้แทนที่จะโกรธบอกตรงๆรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏในใจทันที ผมก็ทำความสะอาดไปจนเสร็จแล้วไปเจอกับ เอกสารที่มันเขียนอยู่ พออ่านๆดูเหมือนมันจะร้องเรียนว่าเราเป็น host ที่แย่ เสียใจ ผมฉีกทิ้งลงถังขยะเลยแล้วเขียนรายงานพฤติกรรมรอบสองส่งไปให้ตัดหน้าทันที พฤติกรรมหลังจากวันนั้นก็เยอะพอสมควร: ไปถามเพื่อนผู้หญิงว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (อันนี้เงิบจริงขนาดเพื่อนยังตบหน้ามันหัน รอดได้ยังไง ก็ อี่อาจารย์คนนั้นเช่นเคย เพราะเธอแต่งตัวแรดยังไงเขาถึงถามด่าเพื่อนคนนั้นต่อหน้าคนทั้งห้อง เจอเสียงโห่เลยสิ) หนีออกจากโรงเรียนไปนั่งเ่ลนเกมส์(สามารถมาก รอดเช่นเคย) ไปลวนลามน้อง ม.3(จับนมน้องเข้า ก็รอดเช่นเคยความผิดใคร ความผิดน้องเขาตามระเบียบ) ตอนนั้นผมก็ทำได้แต่พยายามรวบรวมหลักฐาน รวบรวมพยานไปด้วยแต่ที่ได้จริงคือ ลายมือของพฤติกรรมถ่อยๆของมันจากพยาน แต่ไม่ทันส่งเรื่องจุดพีคมาถึงเสียก่อน
เรื่องมีอยู่ว่ารูปที่มันติดอยู่หน้าบอร์ดมันฉีกมันก็มาโวยวายว่าทำไมรูปมันฉีก เป็นผมแน่ๆที่ต้องฉีก กล่าวหาลอยๆไร้ซึ่งหลักฐาน มันด่าผมเป็นชุด แถมยังหันไปด่าอี่อาจารย์คนนั้นว่า "คุณช่วยอะไรฉันไม่ได้ คุณไร้ประโยชน์กับฉันแล้ว ฉันติดต่อกับโครงการแล้วฉันจะมีhostใหม่!! [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ " ถามตอนนีผมทำอะไรอยู่ ยืนยิ้มดู อี่อาจารย์นั่นดิ้นด่ามัน สุดท้ายป้าผมส่งเรื่องยอมให้มันพ้นสภาพ host ให้เขาไปหา hostใหม่เถอะ โครงการตอบกลับมา เรายังไม่ได้หาhostให้เขาเลยตอนแรกมีคนจะรับทางเราจึงส่งรายการพฤติกรรมบางส่วนเขาไป hostรายนั้นเลยไม่รับ ผมโครตสะใจ ส่วนมันคือ เงิบ ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร สุดท้ายก็เลยให้มันไปอยู่กับทางโครงการก่อนแล้วค่อยหาที่อยู่ใหม่ให้ แต่สุดท้ายมันขอกลับประเทศ
ขอฝากก่อนจบนะครับคือ เรื่องบางส่วนอาจเกิดจากการกระทำของผมด้วยผมจะไม่โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาคนเดียวมันเป็นความผิดของผมด้วย ส่วนใครที่อยากรับ host กรุณาเลือกดีๆหากเรารู้ประวัติเขาคร่าวๆแล้วเราควรศึกษาวัฒธรรมเขาด้วย หากเรารู้สึกไม่โอเค ควรรีบแจ้งทางโครงการให้ทราบทุกโครงการครับก่อนที่ปัญหามันจะบานปลาย