สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 119
ส่วนอันนี้ Timeline วงการเพลงไทยครับ
---------------
- ถ้าเป็นคนยุค Baby Boom ที่ปัจจุบันอายุคงถึงหลัก 5 หรืออาจเข้าหลัก 6 ไปแล้ว คนรุ่นนี้โตมากับเพลงไทยประเภทลูกกรุง-สุนทราภรณ์ เพลงลูกทุ่งทำนองช้าๆ ( นึกถึงเพลงของคุณสุรพล สมบัติเจริญ) อีกทีก็เพลงฝรั่ง แนวๆ Elvis ไปโน่นเลย ขณะที่สตริงเพิ่งเกิด คือวง The Impossible (ลุงต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และคณะ เป็นผู้บุกเบิกดนตรีสตริงในบ้านเรา )
.
- ถ้าเป็นคนยุค Generation X ปัจจุบันอายุน่าจะหลัก 3 ปลายๆ ไปจนถึงหลัก 4 คนรุ่นนี้เกิดมาในยุคที่เพลงลูกกรุง-สุนทราภรณ์ เริ่มถดถอย ส่วนเพลงสตริงกำลังเบ่งบาน ตั้งแต่ยุคของ GrandEx (พี่แจ้-ดนุพล) , Royal Sprike , วงเพื่อน . วงพลอย , วงชาตรี , The Innocent ( ต้นตำรับเพลง “เพียงกระซิบ” ที่ยังไม่มี “ท่อนตะโกนในตำนาน” ) ต่อมาถึงยุคสมัยของค่ายเทปใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย Kita , นิธิทัศน์ , RS , GMM ( นักร้องเยอะมากพร้อมๆ กับรายการเพลงที่เริ่มเกลื่อนทั้งวิทยุและโทรทัศน์ ) ฟากลูกทุ่งมีปรากฏการณ์ “แหวกขนบ” จากพุ่มพวง ดวงจันทร์ ( ที่บอกว่าฉีกไปจากกระแสสังคมยุคนั้น เพราะเป็นนักร้องหญิงคนแรกที่ได้ร้องเพลงทำนองออกตัวจีบผู้ชายก่อน ) ปิดท้ายด้วยเพลงแนวใหม่อย่าง “เพื่อชีวิต” กำลังก่อตัว หลังลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย อดีตฝ่ายซ้ายเก่าอย่างน้าแอ๊ด ( คาราบาว ) และน้าหงา ( คาราวาน ) ออกจากป่า นำอุดมการณ์มาสานต่อผ่านบทเพลงและดนตรี ที่มีเนื้อหาเสียดสีปัญหาสังคม ( โดยเฉพาะการเมือง )
.
- ถ้าเป็นคนยุค Generation Y ปัจจุบันอายุจะเกิน 25 ไปจนถึงอายุราวๆ 35 ปี คนยุคนี้หากเป็นคอเพลงสตริง จะพบกับยุคที่ Kita และนิธิทัศน์เริ่มเสื่อมถอย ขณะที่ RS และ GMM เติบโตสุดขีด การต่อสู้ระหว่าง “เฮีย VS กุ๋” เกิดขึ้นอย่างดุเดือดเอาเป็นเอาตาย รายการโทรทัศน์และวิทยุ โหมประโคมเปิดเพลงของ “พรรคอโศก-สำนักลาดพร้าว” กันแทบทั้งวันทั้งคืน มีนักร้อง-นักดนตรีทั้ง Pop และ Rock เข้าร่วมกองกำลังของ 2 ค่ายนี้จำนวนมาก ( ไม่อาจเอ่ยชื่อได้หมด คือมันเยอะจริงๆ ) ขณะเดียวกันก็มีค่ายเล็กๆ อย่าง Bakery และ Music Bugs เป็นทางเลือกรอง ทั้ง 2 ค่ายนี้สามารถไปร่วมเวทีกับ 2 ค่ายใหญ่ได้อย่างเสรี เมื่อข้ามมาฟากลูกทุ่ง จะเห็นว่ามีการนำดนตรีแบบสตริงมาประยุกต์บ้าง ( กรุณานึกถึงก๊อต จักรพรรณ์ , พี สะเดิด , แช่ม แช่มรัมย์ ) ส่วนเพลงเพื่อชีวิตก็กำลังรุ่งเรืองไม่แพ้สตริง ทั้งวงอดีตฝ่ายซ้ายอย่างคาราบาว , คาราวาน หรือที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฝ่ายซ้ายเลยอย่างน้าปู-พงษ์สิทธิ์ , วงมาลีฮวนน่า , น้าหมู-พงษ์เทพ
.
- ถ้าเป็นคน Generation Z ปัจจุบันคงอายุไม่น่าเกิน 25 ปี คนกลุ่มนี้มาทันยุคท้ายๆ ของสงครามระหว่าง RS กับ GMM ขณะเดียวกันคนยุคนี้จะมีความเป็นปัจเจกสูงมาก ไม่ได้บริโภคอะไรที่ Mass เป็นหลักแบบเมื่อก่อน เนื่องจากเทคโนโลยี Internet ทำให้แต่ละคนเลือกเสพตามใจชอบได้มากขึ้น ไม่ต้องฟังสื่อหลักเปิดเพลงกรอกหูทางเดียวอย่างรุ่นก่อนๆ เราจึงเห็นคน Gen Z ตั้งแต่ติ่งเกาหลี , AF , The Star , กามีกาเซ่ ไปยันพวกอินดี้เด็กแนว , ชาวสกา-เร็กเก้ , แก๊งค์ฮิปฮ็อปของแท้จากอเมริกา ตลอดจนสายฮาร์ดคอร์ที่ชอบเพลง Metal พูดง่ายๆ คือแตกเป็นกลุ่มย่อยมากมาย ฟากลูกทุ่งกลายเป็นกึ่งสตริงเต็มตัว ( บรรดานักร้องในสังกัด R-Siam ) และเพื่อชีวิตที่ไปๆ มาๆ กลายเป็นเพลงภาษาใต้เป็นหลัก
.
.
.
จะเห็นว่าแต่ละยุคก็มี FC มีคนชอบแตกต่างกันไป สังเกตได้จากเวลาจัดคอนเสิร์ตรำลึกวงเก่าๆ ลูกค้าหลักที่ซื้อตั๋วคืออดีตติ่งของนักร้องหรือวงนั้นๆ เมื่อครั้งตัวเองเป็นวัยรุ่น อันเป็นช่วงที่วงหรือนักร้องเหล่านั้นกำลังดังสุดขีดทั้งสิ้น เพียงแต่คน Gen X กับ Gen Y เป็นคนรุ่นใกล้เคียงกัน เพราะเป็นรุ่นที่ผ่าน “รอยต่อประวัติศาสตร์” ระหว่างยุค Analog ( แผ่นเสียง เทปคาสเซ็ท โทรทัศน์ไม่มีรีโมท โทรไปขอเพลงกับผู้จัดรายการวิทยุ ) กับยุค Digital ( แผ่น CD , MP3 , ฟังเพลงผ่านรายการที่ออกอากาศบน Internet , ดูรายการเพลงทั้งไทยและเทศบนช่องดาวเทียม ) มาด้วยกัน
.
คนทั้ง 2 ยุคนี้ จะผ่านทั้ง “ของเก่า” และ “ของใหม่” ในช่วงอายุที่ไม่เด็กเกินไปจนไม่รู้เรื่อง และไม่แก่เกินไปจนปฏิเสธการรับรู้และเข้าใจกระแสใหม่ๆ ดังนั้นจะค่อนข้างคุยกันรู้เรื่อง และสามารถทำความเข้าใจกับคนยุค Baby Boom หรือ Gen Z ไม่ยากนัก ( ปัญหาของวันนี้ กลายเป็นคน Baby Boom กับคน Gen Z ที่มักไม่ค่อยเข้าใจกัน เพราะช่วงวัยห่างกันเกินไป ไม่เคยผ่านประวัติศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน คนยุค Baby Boom มองว่าแนวเพลงยุค Gen Z ฟังไม่รู้เรื่อง ปวดหัว ส่วนคนยุค Gen Z มองว่าแนวเพลงยุค Baby Boom น่าเบื่อ เชย ล้าสมัย )
.
ผมอาจยกตัวอย่างแค่เรื่องเพลง แต่เชื่อว่าน่าจะมองเห็นภาพรวมของ “โลกทัศน์” ที่คนแต่ละยุคเจอนะครับ แต่อีกสาเหตุที่สิ่งของ หรือเพลง หรือสิ่งอื่นๆ ( การ์ตูน ,วีดีโอเกม ) ในยุค Gen X กับ Gen Y ถูกพูดถึงบ่อยๆ เพราะคนทั้ง 2 ยุค เป็นประชากรที่ใช้ Internet ค่อนข้างมาก ขณะที่คนยุค Baby Boom จะใช้กันน้อยเพราะไม่ค่อยเปิดใจรับ มองว่ายากเกินไป ส่วน Gen Z ยังเป็นยุคปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นจึงยังไม่ถึงห้วงเวลาที่จะมีการรำลึกความหลัง
.
ก็คงต้องดูกันต่อไป ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีนักร้องในยุค Gen Z กลายเป็นตำนาน หรือมีกิจกรรมของยุค Gen Z ถูกพูดถึงกันได้เหมือนคนยุคก่อนหน้าหรือเปล่า? เพราะปัจจัยมันต่างกัน คือคนยุค Gen Z ไม่ได้เสพสื่อหลัก ( วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ) ที่เป็น Mass อีกต่อไป แต่มีช่องทางแสวงหาความเป็นปัจเจกมากขึ้น (Internet ที่มีเว็บไซต์ หรือเพจเฉพาะกลุ่มเฉพาะทางมากมาย )
.
ตามนี้แหละครับ
.
.
ปล.ทุกวันนี้ Bodyslam เป็นวงดนตรีวงเดียวที่เหลือรอดจากยุค Gen Y มาถึง Gen Z ( นิยามคำว่า “เหลือรอด” หมายถึงยังคงโด่งดังอยู่ ซึ่งพี่ตูนและชาวคณะวันนี้ยังยืนอยู่ได้ ขณะที่วงอื่นๆ ร่วมยุคสมัยเดียวกัน ถ้าไม่ยุบเลิกไป ก็ไม่ดังเหมือนในยุคที่เพิ่งออกอัลบั้มชุดแรกๆ ครับ )
งมงาย-Bodyslam 2002 ( พ.ศ.2545 )

ชีวิตยังคงสวยงาม-Bodyslam 2014 ( พ.ศ.2557 )

สารภาพว่าดู MV 2 ตัวนี้แล้วขนลุกครับ
วงร็อคสตริงวัยรุ่นวงสุดท้าย ที่เหลือรอดมาจากยุคอนาล็อก
---------------
- ถ้าเป็นคนยุค Baby Boom ที่ปัจจุบันอายุคงถึงหลัก 5 หรืออาจเข้าหลัก 6 ไปแล้ว คนรุ่นนี้โตมากับเพลงไทยประเภทลูกกรุง-สุนทราภรณ์ เพลงลูกทุ่งทำนองช้าๆ ( นึกถึงเพลงของคุณสุรพล สมบัติเจริญ) อีกทีก็เพลงฝรั่ง แนวๆ Elvis ไปโน่นเลย ขณะที่สตริงเพิ่งเกิด คือวง The Impossible (ลุงต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และคณะ เป็นผู้บุกเบิกดนตรีสตริงในบ้านเรา )
.
- ถ้าเป็นคนยุค Generation X ปัจจุบันอายุน่าจะหลัก 3 ปลายๆ ไปจนถึงหลัก 4 คนรุ่นนี้เกิดมาในยุคที่เพลงลูกกรุง-สุนทราภรณ์ เริ่มถดถอย ส่วนเพลงสตริงกำลังเบ่งบาน ตั้งแต่ยุคของ GrandEx (พี่แจ้-ดนุพล) , Royal Sprike , วงเพื่อน . วงพลอย , วงชาตรี , The Innocent ( ต้นตำรับเพลง “เพียงกระซิบ” ที่ยังไม่มี “ท่อนตะโกนในตำนาน” ) ต่อมาถึงยุคสมัยของค่ายเทปใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย Kita , นิธิทัศน์ , RS , GMM ( นักร้องเยอะมากพร้อมๆ กับรายการเพลงที่เริ่มเกลื่อนทั้งวิทยุและโทรทัศน์ ) ฟากลูกทุ่งมีปรากฏการณ์ “แหวกขนบ” จากพุ่มพวง ดวงจันทร์ ( ที่บอกว่าฉีกไปจากกระแสสังคมยุคนั้น เพราะเป็นนักร้องหญิงคนแรกที่ได้ร้องเพลงทำนองออกตัวจีบผู้ชายก่อน ) ปิดท้ายด้วยเพลงแนวใหม่อย่าง “เพื่อชีวิต” กำลังก่อตัว หลังลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย อดีตฝ่ายซ้ายเก่าอย่างน้าแอ๊ด ( คาราบาว ) และน้าหงา ( คาราวาน ) ออกจากป่า นำอุดมการณ์มาสานต่อผ่านบทเพลงและดนตรี ที่มีเนื้อหาเสียดสีปัญหาสังคม ( โดยเฉพาะการเมือง )
.
- ถ้าเป็นคนยุค Generation Y ปัจจุบันอายุจะเกิน 25 ไปจนถึงอายุราวๆ 35 ปี คนยุคนี้หากเป็นคอเพลงสตริง จะพบกับยุคที่ Kita และนิธิทัศน์เริ่มเสื่อมถอย ขณะที่ RS และ GMM เติบโตสุดขีด การต่อสู้ระหว่าง “เฮีย VS กุ๋” เกิดขึ้นอย่างดุเดือดเอาเป็นเอาตาย รายการโทรทัศน์และวิทยุ โหมประโคมเปิดเพลงของ “พรรคอโศก-สำนักลาดพร้าว” กันแทบทั้งวันทั้งคืน มีนักร้อง-นักดนตรีทั้ง Pop และ Rock เข้าร่วมกองกำลังของ 2 ค่ายนี้จำนวนมาก ( ไม่อาจเอ่ยชื่อได้หมด คือมันเยอะจริงๆ ) ขณะเดียวกันก็มีค่ายเล็กๆ อย่าง Bakery และ Music Bugs เป็นทางเลือกรอง ทั้ง 2 ค่ายนี้สามารถไปร่วมเวทีกับ 2 ค่ายใหญ่ได้อย่างเสรี เมื่อข้ามมาฟากลูกทุ่ง จะเห็นว่ามีการนำดนตรีแบบสตริงมาประยุกต์บ้าง ( กรุณานึกถึงก๊อต จักรพรรณ์ , พี สะเดิด , แช่ม แช่มรัมย์ ) ส่วนเพลงเพื่อชีวิตก็กำลังรุ่งเรืองไม่แพ้สตริง ทั้งวงอดีตฝ่ายซ้ายอย่างคาราบาว , คาราวาน หรือที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฝ่ายซ้ายเลยอย่างน้าปู-พงษ์สิทธิ์ , วงมาลีฮวนน่า , น้าหมู-พงษ์เทพ
.
- ถ้าเป็นคน Generation Z ปัจจุบันคงอายุไม่น่าเกิน 25 ปี คนกลุ่มนี้มาทันยุคท้ายๆ ของสงครามระหว่าง RS กับ GMM ขณะเดียวกันคนยุคนี้จะมีความเป็นปัจเจกสูงมาก ไม่ได้บริโภคอะไรที่ Mass เป็นหลักแบบเมื่อก่อน เนื่องจากเทคโนโลยี Internet ทำให้แต่ละคนเลือกเสพตามใจชอบได้มากขึ้น ไม่ต้องฟังสื่อหลักเปิดเพลงกรอกหูทางเดียวอย่างรุ่นก่อนๆ เราจึงเห็นคน Gen Z ตั้งแต่ติ่งเกาหลี , AF , The Star , กามีกาเซ่ ไปยันพวกอินดี้เด็กแนว , ชาวสกา-เร็กเก้ , แก๊งค์ฮิปฮ็อปของแท้จากอเมริกา ตลอดจนสายฮาร์ดคอร์ที่ชอบเพลง Metal พูดง่ายๆ คือแตกเป็นกลุ่มย่อยมากมาย ฟากลูกทุ่งกลายเป็นกึ่งสตริงเต็มตัว ( บรรดานักร้องในสังกัด R-Siam ) และเพื่อชีวิตที่ไปๆ มาๆ กลายเป็นเพลงภาษาใต้เป็นหลัก
.
.
.
จะเห็นว่าแต่ละยุคก็มี FC มีคนชอบแตกต่างกันไป สังเกตได้จากเวลาจัดคอนเสิร์ตรำลึกวงเก่าๆ ลูกค้าหลักที่ซื้อตั๋วคืออดีตติ่งของนักร้องหรือวงนั้นๆ เมื่อครั้งตัวเองเป็นวัยรุ่น อันเป็นช่วงที่วงหรือนักร้องเหล่านั้นกำลังดังสุดขีดทั้งสิ้น เพียงแต่คน Gen X กับ Gen Y เป็นคนรุ่นใกล้เคียงกัน เพราะเป็นรุ่นที่ผ่าน “รอยต่อประวัติศาสตร์” ระหว่างยุค Analog ( แผ่นเสียง เทปคาสเซ็ท โทรทัศน์ไม่มีรีโมท โทรไปขอเพลงกับผู้จัดรายการวิทยุ ) กับยุค Digital ( แผ่น CD , MP3 , ฟังเพลงผ่านรายการที่ออกอากาศบน Internet , ดูรายการเพลงทั้งไทยและเทศบนช่องดาวเทียม ) มาด้วยกัน
.
คนทั้ง 2 ยุคนี้ จะผ่านทั้ง “ของเก่า” และ “ของใหม่” ในช่วงอายุที่ไม่เด็กเกินไปจนไม่รู้เรื่อง และไม่แก่เกินไปจนปฏิเสธการรับรู้และเข้าใจกระแสใหม่ๆ ดังนั้นจะค่อนข้างคุยกันรู้เรื่อง และสามารถทำความเข้าใจกับคนยุค Baby Boom หรือ Gen Z ไม่ยากนัก ( ปัญหาของวันนี้ กลายเป็นคน Baby Boom กับคน Gen Z ที่มักไม่ค่อยเข้าใจกัน เพราะช่วงวัยห่างกันเกินไป ไม่เคยผ่านประวัติศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน คนยุค Baby Boom มองว่าแนวเพลงยุค Gen Z ฟังไม่รู้เรื่อง ปวดหัว ส่วนคนยุค Gen Z มองว่าแนวเพลงยุค Baby Boom น่าเบื่อ เชย ล้าสมัย )
.
ผมอาจยกตัวอย่างแค่เรื่องเพลง แต่เชื่อว่าน่าจะมองเห็นภาพรวมของ “โลกทัศน์” ที่คนแต่ละยุคเจอนะครับ แต่อีกสาเหตุที่สิ่งของ หรือเพลง หรือสิ่งอื่นๆ ( การ์ตูน ,วีดีโอเกม ) ในยุค Gen X กับ Gen Y ถูกพูดถึงบ่อยๆ เพราะคนทั้ง 2 ยุค เป็นประชากรที่ใช้ Internet ค่อนข้างมาก ขณะที่คนยุค Baby Boom จะใช้กันน้อยเพราะไม่ค่อยเปิดใจรับ มองว่ายากเกินไป ส่วน Gen Z ยังเป็นยุคปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นจึงยังไม่ถึงห้วงเวลาที่จะมีการรำลึกความหลัง
.
ก็คงต้องดูกันต่อไป ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีนักร้องในยุค Gen Z กลายเป็นตำนาน หรือมีกิจกรรมของยุค Gen Z ถูกพูดถึงกันได้เหมือนคนยุคก่อนหน้าหรือเปล่า? เพราะปัจจัยมันต่างกัน คือคนยุค Gen Z ไม่ได้เสพสื่อหลัก ( วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ) ที่เป็น Mass อีกต่อไป แต่มีช่องทางแสวงหาความเป็นปัจเจกมากขึ้น (Internet ที่มีเว็บไซต์ หรือเพจเฉพาะกลุ่มเฉพาะทางมากมาย )
.
ตามนี้แหละครับ
.
.
ปล.ทุกวันนี้ Bodyslam เป็นวงดนตรีวงเดียวที่เหลือรอดจากยุค Gen Y มาถึง Gen Z ( นิยามคำว่า “เหลือรอด” หมายถึงยังคงโด่งดังอยู่ ซึ่งพี่ตูนและชาวคณะวันนี้ยังยืนอยู่ได้ ขณะที่วงอื่นๆ ร่วมยุคสมัยเดียวกัน ถ้าไม่ยุบเลิกไป ก็ไม่ดังเหมือนในยุคที่เพิ่งออกอัลบั้มชุดแรกๆ ครับ )
งมงาย-Bodyslam 2002 ( พ.ศ.2545 )

ชีวิตยังคงสวยงาม-Bodyslam 2014 ( พ.ศ.2557 )

สารภาพว่าดู MV 2 ตัวนี้แล้วขนลุกครับ
วงร็อคสตริงวัยรุ่นวงสุดท้าย ที่เหลือรอดมาจากยุคอนาล็อก
ความคิดเห็นที่ 25
ดูรูปพวกนี้แทนละกัน ที่เก็บไว้


แบบ กล่องเหล็ก หา ไม่ได้ แล้ววว

ดูหนัง ราคาไม่เกิน 100 บาท

ดูคั่วหนังพวกนี้ นึกถึงเรื่องประทับใจ ของเมเจอร์(ในอดีต) วันที่ 14 กุมพา ผมชวนแฟนคนแรก ไปดูหนังด้วยกัน และ ซื้อตั่วเก้าฮี้โซฟา ราคา 300 บาท (ตั่วปกติ 80 บาท) ดูหนังสักพัก มีพนักงาน มานั่งคุกเข่า และ ส่งช่อกุหลาบดอกใหญ่(คอกใหญ่ประมาณ 10-15ซม.) มาให้ ตอนแรก ก็ งง สิครับ ต่อมา รู้เลย วันอะไร เลยส่งให้แฟน เชอร์ไฟรส์ ทั้งคู่ ผมไม่ต้องไปซื้อกุหลาบ(ดอกขนาดนั้นน่าไม่ต่ำกว่า 500แน่) แฟน ชอบมาก ตอนนั้นและไป กินข้าว และไปต่อห้องแฟน สมัยนี้คงไม่มีแล้วแบบที่ผมเจอ นะ
เพลงที่ นักร้องทั้งอเมริกา ร้องเพือคนอดหยากในเอธิโอเปีย รวมนักร้องมากที่สุด

หนังสือราคาไม่เกิน 50 บาท

ตุกตายาง ไว้โยน เส้น

เครื่อง เล่นใช้ บัตร เท่ากับ ATM เล่นเกม สวยๆ และสนุกสนานแบบไม่ลืม เล่น จอเดียว 5 คน

เกม เดียว ที่เล่น 4 คนบนจอเดียวกัน ความสนุก ไม่ต้องพูด เล่นได้ ทั้งคืน

มาเพื่มเติมครับ
ไปค้นๆ มา ที่เก็บ ยังไม่หมด เพราะ ทีวี เครื่องเล่น วิดิโอ อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง
เอาที่เจอมาก่อน
แผ่นเสียง ในตำนาน




ขาดไม่ได้เครื่องเล่น ตัวเล่นแผ่นเสียง ถ่ายไม่ได้ ของตั้งไว้เยอะ เอาออกไม่ได้

อันนี้สำหรับเด็ก อาหารหลางวัน

CD ชุดแรกที่ซื้อเยอะที่สุด 10 แผ่น

การตูนเรื่องนี้ถ้าผู้ชายคนไหนที่เกิน 30 แล้ว ไม่รู้จักบอกได้เลย ว่า ตุ้ด แน่



สมุดเล่มละ 25 บาท (ถ้าจำไม่ผิด )โดยปกติสมุดเล่มหนึ่ง 5 บาทก็แพงมาก

โปรเตอร์ 6 แผ่น ๆ ละ 30 บาท ขนาด 1*1.25 เมตร เอามาติดที่ห้อง ญาติมาหา แล้วเราไป ค่าย กลับมา โปรเตอร์ หายหมดเลย อีก 2ปีไปบ้านญาติ มันเอาไปติดห้องมัน จำได้ เพราะทำสัญลักษณ์ ไว้ แต่ พูดยาก เลย ช่างมัน
และ CD เพลง แผ่นละ 400 บาท ข้าวจานละ 10 บาท เก็บเงินเกือบเดือน

ไม่มีแว่นนี้ดูหนังสามมิติไม่ได้ ดูโดยไม่ใส่แว่นจะปวดหัว

หนังสือเกมคอม ตั้งแต่เล่มแรก จนเล่มสุดท้าย

ถ้าไม่มีหนังสือเล่มนี้เล่นเกม ไม่ได้ เพราะ ว่าเวลาเข้าเกม จะถามคำในหนังสือ ถ้าไม่ถูกจะเข้าเกมไม่ได้

สมัยก่อนถ้าคอมไม่มีตัวนี้ อย่าเล่นเกมเพราะว่า ได้แต่เสียง ปิ้ปแค่นั้น ตัวนี้ ไม่แพงหรอก แค่ card 8000 บาท ถ้าทั้งชุด รวม CD-ROM Driver 13000 เอง

หนังสือการตูนสี่สี เล่มละ 12 บาท เอง

เกมนี้ใครไม่รู้จักบ้าง


เครื่องเกม 16 บิต ตัวแรกของโลก แต่จริงๆ แค่ ชิป 8 บิต 2 ตัว

เครื่องนี้ ใครไม่เคยเล่น บ้าง


เหล้าขวดเดียวกินได้ทั้งห้อง เรียน

สมุดเพลงเชียร สมัยเรียน 30 ปีแล้ว ยังอยู่ เลย คิดถึง ตอนมาร้องเพลง ด้วยกัน กับเพื่อนๆ ไม่ต้องเรียน แต่เบื่อตรง ตากแดด เพื่อ แปรอักษร 4-6 ชม เป็นเวลา เกือบเดือน แต่ ฝึกแบบนั้น มาทำงาน ถื่อว่า หมูๆ เลย
แต่ ตอน ม.ปลาย มา เป็น Staff Cheer สนุก อีก รวมกัน ประชุมกัน


แบบ กล่องเหล็ก หา ไม่ได้ แล้ววว

ดูหนัง ราคาไม่เกิน 100 บาท

ดูคั่วหนังพวกนี้ นึกถึงเรื่องประทับใจ ของเมเจอร์(ในอดีต) วันที่ 14 กุมพา ผมชวนแฟนคนแรก ไปดูหนังด้วยกัน และ ซื้อตั่วเก้าฮี้โซฟา ราคา 300 บาท (ตั่วปกติ 80 บาท) ดูหนังสักพัก มีพนักงาน มานั่งคุกเข่า และ ส่งช่อกุหลาบดอกใหญ่(คอกใหญ่ประมาณ 10-15ซม.) มาให้ ตอนแรก ก็ งง สิครับ ต่อมา รู้เลย วันอะไร เลยส่งให้แฟน เชอร์ไฟรส์ ทั้งคู่ ผมไม่ต้องไปซื้อกุหลาบ(ดอกขนาดนั้นน่าไม่ต่ำกว่า 500แน่) แฟน ชอบมาก ตอนนั้นและไป กินข้าว และไปต่อห้องแฟน สมัยนี้คงไม่มีแล้วแบบที่ผมเจอ นะ
เพลงที่ นักร้องทั้งอเมริกา ร้องเพือคนอดหยากในเอธิโอเปีย รวมนักร้องมากที่สุด

หนังสือราคาไม่เกิน 50 บาท

ตุกตายาง ไว้โยน เส้น

เครื่อง เล่นใช้ บัตร เท่ากับ ATM เล่นเกม สวยๆ และสนุกสนานแบบไม่ลืม เล่น จอเดียว 5 คน

เกม เดียว ที่เล่น 4 คนบนจอเดียวกัน ความสนุก ไม่ต้องพูด เล่นได้ ทั้งคืน

มาเพื่มเติมครับ
ไปค้นๆ มา ที่เก็บ ยังไม่หมด เพราะ ทีวี เครื่องเล่น วิดิโอ อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง
เอาที่เจอมาก่อน
แผ่นเสียง ในตำนาน




ขาดไม่ได้เครื่องเล่น ตัวเล่นแผ่นเสียง ถ่ายไม่ได้ ของตั้งไว้เยอะ เอาออกไม่ได้

อันนี้สำหรับเด็ก อาหารหลางวัน

CD ชุดแรกที่ซื้อเยอะที่สุด 10 แผ่น

การตูนเรื่องนี้ถ้าผู้ชายคนไหนที่เกิน 30 แล้ว ไม่รู้จักบอกได้เลย ว่า ตุ้ด แน่



สมุดเล่มละ 25 บาท (ถ้าจำไม่ผิด )โดยปกติสมุดเล่มหนึ่ง 5 บาทก็แพงมาก

โปรเตอร์ 6 แผ่น ๆ ละ 30 บาท ขนาด 1*1.25 เมตร เอามาติดที่ห้อง ญาติมาหา แล้วเราไป ค่าย กลับมา โปรเตอร์ หายหมดเลย อีก 2ปีไปบ้านญาติ มันเอาไปติดห้องมัน จำได้ เพราะทำสัญลักษณ์ ไว้ แต่ พูดยาก เลย ช่างมัน
และ CD เพลง แผ่นละ 400 บาท ข้าวจานละ 10 บาท เก็บเงินเกือบเดือน

ไม่มีแว่นนี้ดูหนังสามมิติไม่ได้ ดูโดยไม่ใส่แว่นจะปวดหัว

หนังสือเกมคอม ตั้งแต่เล่มแรก จนเล่มสุดท้าย

ถ้าไม่มีหนังสือเล่มนี้เล่นเกม ไม่ได้ เพราะ ว่าเวลาเข้าเกม จะถามคำในหนังสือ ถ้าไม่ถูกจะเข้าเกมไม่ได้

สมัยก่อนถ้าคอมไม่มีตัวนี้ อย่าเล่นเกมเพราะว่า ได้แต่เสียง ปิ้ปแค่นั้น ตัวนี้ ไม่แพงหรอก แค่ card 8000 บาท ถ้าทั้งชุด รวม CD-ROM Driver 13000 เอง

หนังสือการตูนสี่สี เล่มละ 12 บาท เอง

เกมนี้ใครไม่รู้จักบ้าง


เครื่องเกม 16 บิต ตัวแรกของโลก แต่จริงๆ แค่ ชิป 8 บิต 2 ตัว

เครื่องนี้ ใครไม่เคยเล่น บ้าง


เหล้าขวดเดียวกินได้ทั้งห้อง เรียน

สมุดเพลงเชียร สมัยเรียน 30 ปีแล้ว ยังอยู่ เลย คิดถึง ตอนมาร้องเพลง ด้วยกัน กับเพื่อนๆ ไม่ต้องเรียน แต่เบื่อตรง ตากแดด เพื่อ แปรอักษร 4-6 ชม เป็นเวลา เกือบเดือน แต่ ฝึกแบบนั้น มาทำงาน ถื่อว่า หมูๆ เลย
แต่ ตอน ม.ปลาย มา เป็น Staff Cheer สนุก อีก รวมกัน ประชุมกัน

ความคิดเห็นที่ 10
- ยุคที่มีการ์ตูนฉายยาวเป็นพรืด จากช่อง 3 ช่อง 7 มาจบช่อง 9 ไม่มีตัดตอน ไม่มีหมอก และเพลงเปิดปิดอยู่ครบ
- ยุคที่งอแงจะซื้อรองเท้าใหม่เพราะอยากได้ของแถม
- ยุคที่นั่งโยกหัวตามมาริโอ้ ทำลายความสามัคคีด้วยเกมทวินบี สร้างด่านเอาเหล็กล้อมฐานในเกมรถถัง จดสูตรเซฟในดราก้อนเควส
- ยุคที่แค่บังคับเกมคอม มีแค่วิ่งๆโดดๆยิง ไม่ต้องมีโกง เป็นระบบ Dot ขาวดำ ก็เล่นได้ทั้งวันแม้ฉากจะวนไปมา
- ยุคที่แผ่นฟลอบบี้แผ่นเดียวใส่เกมที่จิ๊กห้องคอมได้ตั้ง 4-5 เกม
- ยุคที่การ์ตูนยังราคา 15 - 20 บาท
รู้สึกเหมือนแฉอายุตัวเองเรื่อยๆ
- ยุคที่งอแงจะซื้อรองเท้าใหม่เพราะอยากได้ของแถม
- ยุคที่นั่งโยกหัวตามมาริโอ้ ทำลายความสามัคคีด้วยเกมทวินบี สร้างด่านเอาเหล็กล้อมฐานในเกมรถถัง จดสูตรเซฟในดราก้อนเควส
- ยุคที่แค่บังคับเกมคอม มีแค่วิ่งๆโดดๆยิง ไม่ต้องมีโกง เป็นระบบ Dot ขาวดำ ก็เล่นได้ทั้งวันแม้ฉากจะวนไปมา
- ยุคที่แผ่นฟลอบบี้แผ่นเดียวใส่เกมที่จิ๊กห้องคอมได้ตั้ง 4-5 เกม
- ยุคที่การ์ตูนยังราคา 15 - 20 บาท
รู้สึกเหมือนแฉอายุตัวเองเรื่อยๆ

แสดงความคิดเห็น
คุณว่า โชคดีของคนแก่ เอ๊ย! คนที่โตมาในยุค 70-90 มีอะไรบ้าง มาช่วยนึกกันให้เด็กอิจฉาเล่นๆ
- ได้ดูทีวีขาวดำ (เคยเห็นกันป่าว) และตื่นเต้นสุดขึดกับทีวีสี (คงงงสิ ตื่นเต้นตรงไหนฟะ)
- ไปยืนรอหน้าแผงเทปตามริมถนน (งงล่ะสิ แผงเทปคืออะไรเหรอลุง อยู่ตรงไหน เหมือนแผงขายผักป่าว) เพื่อรอซื้ออัลบั้มออกใหม่
- อยู่ในยุคกำเนิดการ์ตูนอมตะ อย่างไอ้มดแดงอาละวาด (ช่อง 5) อภินิหารกันดั้ม (ช่อง 7) ขบวนการ 5 มนุษย์ไฟฟ้า (ช่อง 7) เด็กสมัยนี้คงชินกับกองทัพคาเมนไรเดอร์ และสารพัดกันพลา แต่คงไม่รู้จักกับ ประสบการณ์ครั้งแรก เวอร์ชั่นแรก มันยอดมากนะ
- ยุค King of Pop หนึ่งเดียวตลอดกาลอย่าง Michel Jackson วันที่เค้าจากไป เด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจจะแค่รู้จักแต่ชื่อ
- ยืนต่อคิวตู้โทรศัพท์ จำได้เวลานัดเจอเพื่อนที่มาบุญครอง ต้องนัดเจอที่ไกล้ๆ กับตู้โทรศัพท์ ถ้าเพื่อนมาช้า ต้องไปต่อคิวโทรตาม คิวยาวมากกกก
- และถ้าจะโทรทางไกล ต้องรอหลังสี่ทุ่ม เพราะจะลดราคาเหลือนาที่ละ 6 บาท (จากกลางวัน 18 บาท หลัง 6 โมงลดครึ่งหนึ่ง) จากประสบการณ์เด็กหอ มช ที่โทรกลับบ้านประจำ
- เห็นวิวัฒนาการของเด็กถาปัดจุฬากลุ่มนึง จากละครศรีธนญชัย ละครสั่นเจเอสแอล มาเป็นกลุ่มปั้นจั่นสำอาค์ ซูโมสำอางค์ และพีคสุดกับรายการในตำนานอย่าง เพชรฆาตความเครียด หลายคนตอนนี้เป็นผู้บริหารระดับร้อยล้านพันล้านกันแล้ว
- เป็นวัยรุ่นยุคเดียวกับไมโคร นูโว บิลลี่ พวกพี่เท่ไม่เลิก ไม่เกรงใจเด็กๆ อย่างพวกผมเลย (เพราะโดนเรียกลุงเรียกน้าแล้ว แต่พวกพี่ยังเป็นพี่ตลอด)
- แวะะแผงหนังสือหน้าปากซอยทุกสัปดาห์ หลังเลิกเรียน เพื่อซื้อ Zero เล่มละ 10 บาท อ่านการ์ตูนได้ 5-6 เรื่อง ดราก้อนบอล ขุนพลประจัญบาน City Hunter คอบร้า ซื้อจนแม่ด่า
- ตื่นตาตื่นใจกับการดู Superman พ่อพาไปดูที่อินทรา ประมาณ ป.4 ไม่ดูโดนเพื่อนล้อ ขอบคุณครับพ่อ
- ตื่นตาตื่นใจกับการเห็นไดโนเสาร์ที่โคตรรรรรรรเหมือนจริงใน Jurassic Park และระบบเสียง DTS ที่ CG เป็นของธรรมดาเหลือเกินในยุคสมัยนี้
- ยุคติดหนังจีนงอมแงม ดูมังกรหยก เวอร์ชั่นแรก ช่อง 7 (เสียงญาญ่าอุทานว่า หมีเซียะ ลอยมาทันได) แล้วมารอเช่าวีดีโอดูเวอร์ชั่นหวงเย่อหัว องเหม่ยหลิง เหมือนคนจะลงแดง ใครเข่าตัดหน้าไป มีซึม
เดี๋ยวมานึกต่อ