สวัสดีชาวพันทิปค่ะ...นี่เป็นกระทู้เที่ยวกระทู้แรกของ จขกท.เลยนะคะ
ภาพเยอะไปสักนิด ด้อยฝีมือไปสักหน่อย ต้องขออภัยค่ะ...
จขกท.ตั้งใจมารีวิวมากกกกกกกกกกกกกก เพราะก่อนไปยังสถานที่แห่งนี้ หารีวิวได้น้อยจริงๆ
ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
..................................................
ทริปของเราเริ่มต้นที่ราชบุรี...โดยมี จขกท.และเพื่อนสนิทเดินทางกันเพียงสองคน
พวกเราวางแผนไว้นานมาก น่าจะตั้งแต่ปีที่แล้วตอนที่จองโปรตั๋วถูกของแอร์เอเชียว่าเราจะไปกระบี่กัน
แต่ว่าพวกเราก็เคยไปมาแล้ว จึงเริ่มหาสถานที่ใหม่ๆ
คุณเพื่อนของ จขกท. ดั๊นนนนไปเสิร์ชเจอชื่อ 'เกาะจำรีสอร์ต' ติดอยู่ 1 ใน 10 กระท่อมไม้ไผ่ที่สวยที่สุดในประเทศไทย
อั้ยย่ะ!!!! เกาะจำอยู่กระบี่ ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ จองตั๋วไปกระบี่แล้วด้วย นี่เลยกลายเป็นเป้าหมายของพวกเราไปโดยปริยาย
แต่ทว่า...ข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่มีน้อยถึงน้อยมากกกกกกกกกกก เลยกลายเป็นปัญหาแล้วล่ะ ลังเลใจกันพอสมควรว่าจะไปหรือไม่ไปดี
และสุดท้าย โปรโมชั่นแพคเกจ 3 วัน 2 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ ในราคาคนละ 3,000 บาทก็ยั่วยวนพวกเราได้สำเร็จ
การเดินทางของเราจึงเริ่มต้นขึ้น ในเช้าวันพฤหัสที่ 14 พฤษภาคม 2558
'พวกเรา' ออกเดินทางจากราชบุรีโดยรถตู้ ก่อนจะมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ตอน 11 โมงพอดิบพอดีตามที่คำนวนไว้คร่าวๆ
คุณเพื่อนซี้อ่านรีวิวจากพันทิปได้ความมาว่า จากอนุสฯ นั่งรถไฟฟ้าไปสถานีหมอชิต แล้วสามารถต่อรถ A1 ไปสนามบินดอนเมือง
ได้อย่างสะดวกโยธิน จึงเป็นผลให้พวกเราขึ้นมาตากแอร์เย็นฉ่ำบนรถไฟฟ้า
.
.
.
เมื่อลงจากรถไฟฟ้าที่สถานีหมอชิตได้ ปฏิบัติการส่องหาป้ายรถ A1 ก็เริ่มต้น
รีวิวในพันทิปบอกว่าถ้าไปเจอก็ถามพี่วินเอาเพราะพี่วินรู้ทุกสิ่ง แต่ไม่นานเราก็เจอเพียงแค่มองผ่านกลุ่มพี่วินไป
แท้แด... อยู่ตรงหน้าทางเข้า MRT นี่เอง...
ทว่ายังไม่ทันได้ลองนั่งรถ A1 คุณลุงท่านหนึ่งก็ชวนพวกเราขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินด้วยกัน เพราะคุณลุงรีบไปเชียงใหม่
ครั้นจะให้คุณลุงออกค่าแท็กซี่เองทั้งหมดพวกเราก็เกรงใจ พวกเราเลยขอออกค่าทางด่วนแทน และคุณลุงก็ออกค่ารถแท็กซี่ให้
ทันทีที่ลงจากรถได้คุณลุงก็รีบไปเช็คอินทันที พวกเราจึงติดค้างคำขอบคุณอย่างเป็นทางการกับคุณลุงท่านนั้นอยู่...
ฉะนั้นขอใช้พื้นที่นี้ "ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจค่ะ เราทั้งสองประทับใจมาก น้ำใจของคุณลุงคือก้าวแรกของทริปนี้ที่ดีงามสุดๆค่ะ "
เป็นอันว่าเรามาถึงสนามบินตอน 11 โมง 50 นาทีได้ แต่พวกเราขึ้นเครื่อง 13.50 น.
เวลาที่เหลือจึงเป็นภารกิจหากินตามภาษิตที่ว่า 'กองเที่ยวต้องเดินด้วยท้อง' นั่นเอง ( ใช่เร๊อะ?????)
เราสองคนมาถึงกระบี่โดนสายการบินแอร์เอเชียตอนบ่ายสามโมงห้านาที
ทันทีที่เดินผ่านเข้าประตูสนามบินมาเราก็จะเอ๋!!! กับป้ายรถแท็กซี่และชัตเติ้ลบัสที่รอเราอยู่
เนื่องจากเราซื้อแพคเก็จของทางรีสอร์ตแล้ว พวกเราจึงไม่ต้องพึ่งพาพี่แท็กและพี่เมล์
ทางรีสอร์ตได้ส่งรถตู้มารอรับอยู่แล้ว เป็นคุณพี่หน้าโหดที่พูดแล้วฮาได้ใจจริงๆ พวกเรากระโดดขึ้นรถทันที
และเดินทางมาถึงท่าเรือท่าเรือแหลมกรวด-มูตู ราวๆ สามโมงห้าสิบนาทีโดยประมาณ (แอบแวะ 7-11 ตุนเสบียงด้วยนะคุณ 555)
ซึ่งเรือออก 4 โมงพอดิบพอดีอย่างที่พี่คนขับบอกจริงๆด้วย
ขอบอกว่าเรือที่นี่เป็นเรือประจำทางที่คนเขาโดยสารกันอยู่แล้วจึงมีตารางเวลาที่แน่นอน
แถมมีเพื่อนเดินทางเต็มเรือด้วยทั้งยังมีมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งคันมาอีก (เจ๋งอะ)
นั่งเรือราวๆ 40 นาทีก็ถึงเกาะจำแล้วววววว ขุ่นพระ!!!!! อิช้านอึ้งค่ะเมื่อได้เห็นเกาะ
เพราะท่าจอดเรือยังเป็นลูกรังแดงๆอยู่เลย
และทางรีสอร์ตส่งรถมารอรับอีกเช่นเคย
คุณขาาาาาาาา อิช้านมองหน้าเพื่อนทันทีคร่า ทางลำบากมากกกกก เพราะกำลังเทคอนกรีตค่ะ
กว่าจะถึงที่พักก็สะบักสะบอมไปเหมือนกันเพราะมีช่วงถนนเขย่าไส้อยู่สัก 400-500 เมตรได้
และแล้วพวกเราก็มาถึงจนได้ เย้ๆๆๆๆๆ
ขอออกตัวก่อนว่า พวกเราไม่ได้คาดหวังว่าทริปนี้จะแฮ้ปปี้ดี๊ด้ามากมายนะคะเพราะมีรีวิวให้ศึกษาน้อยมาก
เลยบอกกันเองว่า 'เอาน่ะ ประสบการณ์' แต่พอเห็นตัวรีสอร์ตเท่านั้นแหละ ได้แต่ร้องอุทาน 'อู้หู!!!!!' เลยทีเดียว
เพราะมันสวยมาก สวยจนลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ตอนนั่นรถไส้ถูกเขย่าไปกี่ขด 55555
เท่าที่สังเกตที่เกาะจำนี่ห้องพักทุกห้องเห็นทะเลค่ะ เดินอยู่ตรงไหนก็เห็นทะเล มันร่มรื่นมากกกกกก อากาศเย็นสดชื่น
ผสานกับลมทะเล โอ้ยยย มันชิลไม่ไหวแล้วอยากทิ้งตัวลงนอน เช็คอินเสร็จก็เอาของมาเก็บที่ห้องพัก ขอกรี๊ดกับห้องพักอีก 3 ตลบค่ะ
นอกจากระเบียงห้องจะเห็นทะเลแล้ว ห้องน้ำก็เห็นทะเลได้เหมือนกันค่ะ
หลังจากชื่นชมกับห้องพักจนพอใจแล้ว พวกเราก็จัดการอาบน้ำให้หายเหนียวตัว
ก่อนจะลงมาเดินชิล อาบแสงอาทิตย์อัสดงกันให้คุ้มกับที่เดินทางมาทั้งวัน
หลังจากเดินจนเมื่อยและฟ้าเริ่มมืดมื้อแรกที่กระบี่ก็เริ่มต้นขึ้นราวหกโมงกว่าๆ มุมทานอาหารยังคงเห็นทะเลเช่นเดิม
ดูรูปแล้ว อยากบอกว่าเป็นอะไรที่โรแมนติกมากค่ะ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
.
ใต้แสงไฟฟ้า...ก็พาเอากองทัพยุงและแมลงมาด้วย 5555 คือที่นี่มันธรรมชาติมากกกกกกกกก
ประกอบกับมาช่วงฝนเริ่มตกแล้ว แมลงเลยเยอะเป็นธรรมดา แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคการกินแต่อย่างใด เพราะ
.
.
.
เพราะ
.
.
.
เพราะ
.
.
.
แท้แดๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!!
อาหารทะเลที่นี่สดมากค่ะ และรสชาติอาหารก็อร่อยมากด้วย เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึกนี่กรอบเชียว เคี้ยวทีนี่เด้งๆๆๆๆ อยู่ในปาก
โอ้ย ชีวิตดี๊ดีค่ะคุณขาาาาาาาาาาา
พอกินเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่ห้องพัก ตั้งใจว่าจะมานอนเอ้เตผึ่งพุงฟังเสียงคลื่นซะหน่อย
แต่ดั้นนนนน!!!!! เปิดไฟหลังห้องไว้ ปรากฏแมลงเพียบเลย 5555 เป็นอันว่าต้องปิดมุ้งลวดนอนฟังเพลงกันในห้องไปแทน
ก่อนที่ฝนจะตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยตอนราวๆ สามทุ่มได้ แถมตกหนักมากซะด้วย
อากาศเริ่มชื้น เสียงหริ่งหรีดเรไรและจั๊กจั่นร้องกันระงม เท่านั้นยังไม่พอ ประสานเสียงระดับคอมโบด้วยอึ่งอ่างอีกฝูงใหญ่
เรียกได้ว่าฟังเพลินเลยทีเดียวเชียว เป็นอันว่าคืนนี้จบลงโดยปริยายด้วยการนอนฟังเสียงคลื่น เคล้าเสียงฝน และปนด้วยเสียงอึ่งอ่างภูเขา
[CR] ทิ้ง 'ใจ' ไว้ให้ 'จำ'...บันทึกการเดินทาง...
ภาพเยอะไปสักนิด ด้อยฝีมือไปสักหน่อย ต้องขออภัยค่ะ...
จขกท.ตั้งใจมารีวิวมากกกกกกกกกกกกกก เพราะก่อนไปยังสถานที่แห่งนี้ หารีวิวได้น้อยจริงๆ
ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
..................................................
ทริปของเราเริ่มต้นที่ราชบุรี...โดยมี จขกท.และเพื่อนสนิทเดินทางกันเพียงสองคน
พวกเราวางแผนไว้นานมาก น่าจะตั้งแต่ปีที่แล้วตอนที่จองโปรตั๋วถูกของแอร์เอเชียว่าเราจะไปกระบี่กัน
แต่ว่าพวกเราก็เคยไปมาแล้ว จึงเริ่มหาสถานที่ใหม่ๆ
คุณเพื่อนของ จขกท. ดั๊นนนนไปเสิร์ชเจอชื่อ 'เกาะจำรีสอร์ต' ติดอยู่ 1 ใน 10 กระท่อมไม้ไผ่ที่สวยที่สุดในประเทศไทย
อั้ยย่ะ!!!! เกาะจำอยู่กระบี่ ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ จองตั๋วไปกระบี่แล้วด้วย นี่เลยกลายเป็นเป้าหมายของพวกเราไปโดยปริยาย
แต่ทว่า...ข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่มีน้อยถึงน้อยมากกกกกกกกกกก เลยกลายเป็นปัญหาแล้วล่ะ ลังเลใจกันพอสมควรว่าจะไปหรือไม่ไปดี
และสุดท้าย โปรโมชั่นแพคเกจ 3 วัน 2 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ ในราคาคนละ 3,000 บาทก็ยั่วยวนพวกเราได้สำเร็จ
การเดินทางของเราจึงเริ่มต้นขึ้น ในเช้าวันพฤหัสที่ 14 พฤษภาคม 2558
'พวกเรา' ออกเดินทางจากราชบุรีโดยรถตู้ ก่อนจะมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ตอน 11 โมงพอดิบพอดีตามที่คำนวนไว้คร่าวๆ
คุณเพื่อนซี้อ่านรีวิวจากพันทิปได้ความมาว่า จากอนุสฯ นั่งรถไฟฟ้าไปสถานีหมอชิต แล้วสามารถต่อรถ A1 ไปสนามบินดอนเมือง
ได้อย่างสะดวกโยธิน จึงเป็นผลให้พวกเราขึ้นมาตากแอร์เย็นฉ่ำบนรถไฟฟ้า
.
.
.
เมื่อลงจากรถไฟฟ้าที่สถานีหมอชิตได้ ปฏิบัติการส่องหาป้ายรถ A1 ก็เริ่มต้น
รีวิวในพันทิปบอกว่าถ้าไปเจอก็ถามพี่วินเอาเพราะพี่วินรู้ทุกสิ่ง แต่ไม่นานเราก็เจอเพียงแค่มองผ่านกลุ่มพี่วินไป
แท้แด... อยู่ตรงหน้าทางเข้า MRT นี่เอง...
ทว่ายังไม่ทันได้ลองนั่งรถ A1 คุณลุงท่านหนึ่งก็ชวนพวกเราขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินด้วยกัน เพราะคุณลุงรีบไปเชียงใหม่
ครั้นจะให้คุณลุงออกค่าแท็กซี่เองทั้งหมดพวกเราก็เกรงใจ พวกเราเลยขอออกค่าทางด่วนแทน และคุณลุงก็ออกค่ารถแท็กซี่ให้
ทันทีที่ลงจากรถได้คุณลุงก็รีบไปเช็คอินทันที พวกเราจึงติดค้างคำขอบคุณอย่างเป็นทางการกับคุณลุงท่านนั้นอยู่...
ฉะนั้นขอใช้พื้นที่นี้ "ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจค่ะ เราทั้งสองประทับใจมาก น้ำใจของคุณลุงคือก้าวแรกของทริปนี้ที่ดีงามสุดๆค่ะ "
เป็นอันว่าเรามาถึงสนามบินตอน 11 โมง 50 นาทีได้ แต่พวกเราขึ้นเครื่อง 13.50 น.
เวลาที่เหลือจึงเป็นภารกิจหากินตามภาษิตที่ว่า 'กองเที่ยวต้องเดินด้วยท้อง' นั่นเอง ( ใช่เร๊อะ?????)
เราสองคนมาถึงกระบี่โดนสายการบินแอร์เอเชียตอนบ่ายสามโมงห้านาที
ทันทีที่เดินผ่านเข้าประตูสนามบินมาเราก็จะเอ๋!!! กับป้ายรถแท็กซี่และชัตเติ้ลบัสที่รอเราอยู่
เนื่องจากเราซื้อแพคเก็จของทางรีสอร์ตแล้ว พวกเราจึงไม่ต้องพึ่งพาพี่แท็กและพี่เมล์
ทางรีสอร์ตได้ส่งรถตู้มารอรับอยู่แล้ว เป็นคุณพี่หน้าโหดที่พูดแล้วฮาได้ใจจริงๆ พวกเรากระโดดขึ้นรถทันที
และเดินทางมาถึงท่าเรือท่าเรือแหลมกรวด-มูตู ราวๆ สามโมงห้าสิบนาทีโดยประมาณ (แอบแวะ 7-11 ตุนเสบียงด้วยนะคุณ 555)
ซึ่งเรือออก 4 โมงพอดิบพอดีอย่างที่พี่คนขับบอกจริงๆด้วย
ขอบอกว่าเรือที่นี่เป็นเรือประจำทางที่คนเขาโดยสารกันอยู่แล้วจึงมีตารางเวลาที่แน่นอน
แถมมีเพื่อนเดินทางเต็มเรือด้วยทั้งยังมีมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งคันมาอีก (เจ๋งอะ)
นั่งเรือราวๆ 40 นาทีก็ถึงเกาะจำแล้วววววว ขุ่นพระ!!!!! อิช้านอึ้งค่ะเมื่อได้เห็นเกาะ
เพราะท่าจอดเรือยังเป็นลูกรังแดงๆอยู่เลย
และทางรีสอร์ตส่งรถมารอรับอีกเช่นเคย
คุณขาาาาาาาา อิช้านมองหน้าเพื่อนทันทีคร่า ทางลำบากมากกกกก เพราะกำลังเทคอนกรีตค่ะ
กว่าจะถึงที่พักก็สะบักสะบอมไปเหมือนกันเพราะมีช่วงถนนเขย่าไส้อยู่สัก 400-500 เมตรได้
และแล้วพวกเราก็มาถึงจนได้ เย้ๆๆๆๆๆ
ขอออกตัวก่อนว่า พวกเราไม่ได้คาดหวังว่าทริปนี้จะแฮ้ปปี้ดี๊ด้ามากมายนะคะเพราะมีรีวิวให้ศึกษาน้อยมาก
เลยบอกกันเองว่า 'เอาน่ะ ประสบการณ์' แต่พอเห็นตัวรีสอร์ตเท่านั้นแหละ ได้แต่ร้องอุทาน 'อู้หู!!!!!' เลยทีเดียว
เพราะมันสวยมาก สวยจนลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ตอนนั่นรถไส้ถูกเขย่าไปกี่ขด 55555
เท่าที่สังเกตที่เกาะจำนี่ห้องพักทุกห้องเห็นทะเลค่ะ เดินอยู่ตรงไหนก็เห็นทะเล มันร่มรื่นมากกกกกก อากาศเย็นสดชื่น
ผสานกับลมทะเล โอ้ยยย มันชิลไม่ไหวแล้วอยากทิ้งตัวลงนอน เช็คอินเสร็จก็เอาของมาเก็บที่ห้องพัก ขอกรี๊ดกับห้องพักอีก 3 ตลบค่ะ
นอกจากระเบียงห้องจะเห็นทะเลแล้ว ห้องน้ำก็เห็นทะเลได้เหมือนกันค่ะ
หลังจากชื่นชมกับห้องพักจนพอใจแล้ว พวกเราก็จัดการอาบน้ำให้หายเหนียวตัว
ก่อนจะลงมาเดินชิล อาบแสงอาทิตย์อัสดงกันให้คุ้มกับที่เดินทางมาทั้งวัน
หลังจากเดินจนเมื่อยและฟ้าเริ่มมืดมื้อแรกที่กระบี่ก็เริ่มต้นขึ้นราวหกโมงกว่าๆ มุมทานอาหารยังคงเห็นทะเลเช่นเดิม
ดูรูปแล้ว อยากบอกว่าเป็นอะไรที่โรแมนติกมากค่ะ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
.
ใต้แสงไฟฟ้า...ก็พาเอากองทัพยุงและแมลงมาด้วย 5555 คือที่นี่มันธรรมชาติมากกกกกกกกก
ประกอบกับมาช่วงฝนเริ่มตกแล้ว แมลงเลยเยอะเป็นธรรมดา แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคการกินแต่อย่างใด เพราะ
.
.
.
เพราะ
.
.
.
เพราะ
.
.
.
แท้แดๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!!
อาหารทะเลที่นี่สดมากค่ะ และรสชาติอาหารก็อร่อยมากด้วย เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึกนี่กรอบเชียว เคี้ยวทีนี่เด้งๆๆๆๆ อยู่ในปาก
โอ้ย ชีวิตดี๊ดีค่ะคุณขาาาาาาาาาาา
พอกินเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่ห้องพัก ตั้งใจว่าจะมานอนเอ้เตผึ่งพุงฟังเสียงคลื่นซะหน่อย
แต่ดั้นนนนน!!!!! เปิดไฟหลังห้องไว้ ปรากฏแมลงเพียบเลย 5555 เป็นอันว่าต้องปิดมุ้งลวดนอนฟังเพลงกันในห้องไปแทน
ก่อนที่ฝนจะตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยตอนราวๆ สามทุ่มได้ แถมตกหนักมากซะด้วย
อากาศเริ่มชื้น เสียงหริ่งหรีดเรไรและจั๊กจั่นร้องกันระงม เท่านั้นยังไม่พอ ประสานเสียงระดับคอมโบด้วยอึ่งอ่างอีกฝูงใหญ่
เรียกได้ว่าฟังเพลินเลยทีเดียวเชียว เป็นอันว่าคืนนี้จบลงโดยปริยายด้วยการนอนฟังเสียงคลื่น เคล้าเสียงฝน และปนด้วยเสียงอึ่งอ่างภูเขา