#Backpackลุยเดี่ยวเที่ยวJapan ค้นหา 9 ศาลเจ้าดังที่หลายคนไม่รู้ว่ามีอยู่ที่โตเกียว

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่าตอนนี้ผู้เขียนกำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าและความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาชินโตเพื่อมาเขียนเป็นหนังสือ โดยวางแผนทำเป็นหนังสือทำเพื่อขายหรือแจกจ่ายสำหรับคนรู้จัก เลยคิดว่าควรจะนำเรื่องราวที่ผู้เขียนได้บินตรงไปเก็บข้อมูลจากญี่ปุ่นมาเผยแพร่ให้กับเพื่อนๆพี่ๆใน Pantip ได้อ่านและช่วยกันแสดงความคิดเห็นครับ

ขอเริ่มต้นกับศาลเจ้าแห่งแรกที่อาจจะไม่ตรงคอนเซปเท่าไหร่ แต่เป็นสถานที่ ที่อยากนำเสนอมากครับ
ตอนที่ 1
ศาลเจ้าเมจิ 明治神宮


(เสา Torii ไม้ต้นสุดท้ายก่อนเข้าถึงตัวอาคารหลักของศาลเจ้า )


           ศาลเจ้าแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ผู้อ่านทุกๆท่านได้รู้จัก นั่นก็คือ ศาลเจ้าเมจิ (明治神宮)ศาลเจ้าแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญสูงสุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็ตามควรจะมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ด้วยตนเองสักครั้ง แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มีโอกาสมาชื่นชมด้วยตนเองแล้วหล่ะก็ เพียงแค่ท่านหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ผู้เขียนก็จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับเรื่องราวต่างๆของศาลเจ้าแห่งนี้ ราวกับได้มีโอกาสไปยืนที่นี่ด้วยตัวเอง ผู้เขียนสัญญาว่าจะเล่ารายละเอียดทุกอย่างของศาลเจ้า ที่ผู้เขียนได้ลงทุนบินมาเก็บข้อมูลครั้งนี้ด้วยตนเอง ให้ละเอียดชนิดที่ว่า หลับตาปุ๊บ ก็จะนึกถึงภาพสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเลย พร้อมกับรูปภาพประกอบสวยๆจากสถานที่จริงให้ผู้อ่านได้ซึมซับความงามของศาลเจ้าแห่งนี้แบบเต็มอิ่ม



           ศาลเจ้าเมจิแห่งนี้ผู้เขียนขอเรียกว่า “ป่ากลางเมือง” ได้อย่างเต็มปาก เพราะเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่กลางป่าของจริง ที่มีเนื้อที่กว่า 700,000 ตารางกิโลเมตร
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ(明治天皇) และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง (昭憲皇太后) หลังจากทั้งสองพระองค์ได้เสด็จสวรรค์คตลงเมื่อปีค.ศ. 1912 และ ค.ศ. 1914 ตามลำดับ ส่วนหลุมฝังพระบรมศพของทั้งสองพระองค์ตั้งอยู่ ณ เมือง เกียวโต ในปัจจุบัน



           สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีทั้งสองพระองค์ทรงเป็นที่รักแลเคารพของประชาชนชาวญี่ปุ่นอย่างมาก พระองค์ทรงเป็นผู้ย้ายเมืองหลวงมาที่เมืองโตเกียว จนถึงปัจจุบัน ในฐานะที่ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชน และมีพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ให้ชมพระบารมีแทนสมเด็จพระบรมสาทิสลักษณ์เช่นในสมัยก่อน ต้องนับว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิมีพระบุคลิกภาพที่เด็ดขาด เปี่ยมด้วยพระราชอำนาจยิ่ง โดยรวมแล้ว พระราชจริยวัตรที่งามสง่าของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ส่งให้ทรงเป็นจักรพรรดิของญี่ปุ่นยุคใหม่เพียงพระองค์เดียวที่เรียกได้ว่าทรงพระบรมเดชานุภาพ อย่างแท้จริง

           หลังจากการเสด็จสวรรคตของทั้งสองพระองค์เพื่อเป็นการละลึกถึงและแสดงความเคารพชาวญี่ปุ่นจึงร่วมบริจาคต้นไม้กว่า 100,000 ต้นจากทั่วประเทศหนุ่มสาวหลายคนอาสาเข้าช่วยก่อสร้างพระอารามและปลูกต้นไม้ที่นำมาจากทุกภาคของประเทศให้เต็มพื้นที่สวนอันกว้างขวางโดยรอบ
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเมืองชิบูย่า ก่อนสถานีรถไฟใต้ดินสถานีชิบูย่าเพียง 1 ป้าย โดยสามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda สถานี Meiji-Jingumae จากนั้นเดินอีกเพียงแค่นิดเดียวก็จะมาถึงศาลเจ้าแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย



          เมื่อมาถึงศาลเจ้าแห่งนี้สิ่งแรกที่จะได้พบคือ ประตูเสา Torii ขนาดใหญ่ ที่มีความสูงถึง 12 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ โดยใครที่ได้มาที่นี้ก็ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก (อย่างเช่นผู้เขียนเอง)



           หลังจากที่เดินผ่านประตูเสา Torii ไม้ ผ่านเข้ามาด้านใน ก็จะพบกับ     ทางเดินเพื่อเข้าไปสู่ตัวศาลเจ้า ที่รายล้อมไปด้วย ป่าไม้ ทั้งสองข้างท้าง ที่ไม่ใช่แค่ต้นไม้ แต่ขอย้ำว่า บรรยากาศทั้งสองข้างทางคือป่าของจริง พูดง่ายๆว่าถ้าเดินเข้าไปนี่มีอันต้องหลงเป็นแน่



          เมื่อเดินตามทางเข้ามาเรื่อยๆจะพบกับถังใหญ่วางเรียงกันเป็นแถวๆ      โดยถังเหล่านี้ฝั่งซ้ายมือคือถังบรรจุไวน์ และฝั่งขวามือคือถังบรรจุสาเกญี่ปุ่น

          หลังชื่นชมบรรยากาศความงามของบรรดาต้นไม้ทั้งสองข้างทางอย่างเพลิดเพลินเมื่อเดินตรงมาเรื่อยๆก็จะพบกับซุ้มประตูทางเข้าทางด้านซ้ายมือ มีป้ายไม้เขียนไว้ว่า 明治神宮御苑 หรือ Meiji-jingu inner garden


            (ป้ายภาษาญี่ปุ่น明治神宮御苑อ่านว่า Meiji-Jingu gyoen)
           สำหรับผู้ที่ต้องการเดินเข้าไปเยี่ยมชมสวนด้านในต้องจ่ายค่าธรรมเนียมราคา 500 เยน กับเจ้าหน้าที่ด้านใน ผู้เขียนแนะนำว่าถ้าหากได้มีโอกาสเข้ามาแล้วควรอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปชมให้ได้ เพราะสิ่งที่อยู่ภายในนั้นเกินกว่าที่หลายคนจะคาดถึง
      เมื่อเดินเข้ามาด้านก็จะพบกับทางเดินที่นำทุกท่านเข้าไปสู่ “ป่า” ของจริง เปรียบเสมือนกับว่าใครที่เข้ามาเดินในสวนแห่งนี้ก็เท่ากับได้มาเดินป่านั่นเอง สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบเกี่ยวกับศาลเจ้าแห่งนี้นั่นคือความร่มรื่นของธรรมชาติและความเงียบสงบ ถ้าหากผู้เขียนมีเวลาทั้งวันที่จะต้องมานั่งพักนิ่งๆอยู่ ณ ที่แห่งนี้คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย


(ตัวอย่างภาพบรรยากาศด้านในสวน)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่