ยืม Log-In คุณ ตกต้นตาลมาค่ะ มาขอคำปรึกษา เพราะเริ่มมีปัญหาด้านการเงิน ยอดขายลดลง รายรับหามาไม่พอค่าใช้จ่ายที่วางแผนไว้
เริ่มเลยนะคะ เราทำกิจการส่วนตัวเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่มาก ทำแบบซื้อมาขายไปค่ะ ไม่มีโรงงาน ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ทำมาประมาณเกือบ 10 ปี แล้วค่ะ กิจการก็พอไปได้ โตแบบช้าๆ เราเป็นคนใช้เงินค่อนข้างระวัง เราเริ่มต้นชีวิตการทำงานมาจากเงินก้อนเดียวประมาณ 8 แสนบาท ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง แต่จะมุ่งมั่นเก็บรักษาไว้ให้ลูกอย่างเดียว ฉะนั้นได้เงินมาเท่าไร กำไรเหลือจากกิจการก็จะนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ช่วงรายได้ดีๆ ก็จะโปะเยอะๆ ให้ปลอดหนี้ไวๆ
ที่มาของปัญหา เราคิดว่า เกิดจาก
1. โปะหนี้อสังหาฯ ไวไป มากไป เงินเลยไปถมอยู่ในนั้นหมด
2. รายรับจากบริษัทลดลง แต่รายจ่ายมีเท่าเดิม
3. ส่งประกันมากเกินไป หยุดก็ไม่ได้ ถอนก็ไม่ได้
ปลายปี 2556 การเงินเริ่มมีปัญหา แต่เราก็ประคับประคองมาเรื่อยๆ ด้วยการนำเงินสดที่สะสมมาใช้ จนเหลือไม่ถึง 5 ล้านบาท ที่ผ่านมาเราอดออม วางแผนการเงินใช้แบบระวัง ทำ 100 ใช้ 40 เก็บ 60 (เงินสด+ประกัน+อสังหาฯ)
ตอนนี้มาคิดได้ว่า หากยังประคับประคองไปแบบนี้ คงได้อีกไม่นาน เพราะรายรับมีตัวเลขที่น้อยลงเรื่อยๆ เงินเก่าเริ่มถูกเบิกออกมาใช้ ไม่ว่าจะพยายามใช้อย่างประหยัดอย่างไรก็ตาม
ตอนนี้เราเริ่มหาทางออกไว้หลายๆ ทาง แต่ก็ดูจะมืดมน เราเลยอยากปรึกษาท่านที่มีประสบการณ์ในมุมมองของท่านว่า เราควรทำอย่างไรดี ไม่ให้เป็นหนี้ไปมากกว่านี้ และสามารถประคับประคองไปจนกว่าจะมีอะไรดีขึ้น
รายละเอียดที่เราจะให้นี้ อาจจะช่วยประกอบการแนะแนวทางได้อาจไม่มากก็น้อยค่ะ
1. เงินเก็บ ณ ปัจจุบัน 5,000,000 บาท (ใช้ค้ำวงเงิน OD ไว้ มีการเบิก Od มาใช้แล้วประมาณ 800,000 บ)
2. รายจ่าย รายเดือน 100,000 บาท
3. รายจ่ายประกัน 1,500,000 บาท / ปี
4. รายรับบริษัท ปัจจุบัน เหลือ เดือนละ 1 - 1.5 ล้านบาท กำไร ประมาณ 10-15% หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
5. รายรับนอกเหนือจากงานประจำ รับค่าเช่าตึก เดือนละ 37,000 บาท
6. รายจ่ายแต่ละเดือน ค่าผ่อนรถ 2 คัน (35,000 บ) อาคารพาณิชย์ 1 คู่ (ผ่อน 55,000 แต่ให้เช่าอยู่ 30,000 บ) + บ้านที่อยู่ปัจจุบัน + คอนโด (45,000บ)
7. มีที่ดินที่ปลอดภาระหนี้อยู่ 3 แปลง คือ
7.1. อาคารพาณิชย์อีก 1 คู่ ที่ปัจจุบันใช้ทำบริษัท
7.2 ที่ดิน ตจว ประมาณ 19 ไร่ ปัจจุบันใช้ทำไร่ แต่รายได้พอแค่เลี้ยงคนงาน
7.3 ที่ดินใน กทม 1 แปลง ประมาณ 178 ตรว. ซึ่งเราซื้อมาประมาณราคา 2.9 ล้าน ปัจจุบัน มีคนมาเสนอราคาราวๆ 4 ล้าน
สิ่งที่คิดไว้ตอนนี้คือ
- Re-finance บ้าน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง (บ้านที่อยู่ปัจจุบัน ราคา 7 ล้านบาท แต่เหลือหนี้ 3 ล้านบาท)
- หาทางเพิ่มรายได้ ซึ่งยังไม่รู้จะทำอะไร (ว่าจะเปิดร้านอาหารในตึกที่ใช้ทำบริษัท ที่มีหน้าร้านติดถนนใหญ่)
- หาทางลดรายจ่าย โดยการขายตึก 1 หลัง (ที่ให้เขาเช่าอยู่) มูลค่าประมาณ 8.5 ล้านบาท
- ทำอาหารปิ่นโต ส่งในหมู่บ้าน ซึ่งมีราวๆ 4-500 หลังคาเรือน แต่ก็ไม่รู้จะขายได้ไหม
- คิดจะขายทุกอย่างเก็บเป็นเงินสด แล้วไปอยู่ ตจว กัน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง
ใจคิดว่าไม่อยากขายอะไรออกไปค่ะ อยากเก็บไว้ให้ลูก เพราะว่าลูกไม่ปกติ เขาเป็นออทิสติก เลยไม่เต็มร้อยเท่าไร และมีคนเดียวค่ะ หากไม่ทำเก็บให้เขาเราตายไป กลัวเขาจะเอาตัวไม่รอด ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้หญิง เราเลยวางแผนที่จะลงทุนเป็นตึกเป็นที่ดินไว้ เพื่อให้เขาเก็บค่าเช่าไปเรื่อยๆ อย่างน้อยสอนเขาบริหารการใช้เงินให้เป็น เขาคงมีชีวิตไปได้เรื่อยๆ ไม่ลำบาก
รบกวนคำแนะนำ เป็นแนวทางหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ คำแนะนำนั้นแม้จะขัดแย้งกับสิ่งที่เราเคยคิดก็ไม่เป็นไรค่ะ เผื่อเราจะได้นำมามองใหม่ว่า สิ่งที่คิดมันไม่ใช่ ที่ผ่านมาคิดคนเดียวทำคนเดียว พลาดมาหลายอย่างก็เคย สำเร็จมาหลายอย่างก็มี แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเหนื่อย มึนตึบเลยค่ะ กลัว กลัวว่าจะทำให้ลูกต้องลำบาก เรามีเขามาแล้ว เขาจะดีจะเลว เรามีหน้าที่ประคองเขาจนเราหมดลมหายใจเป็นอันจบหน้าที่ค่ะ
**** ขอคำแนะนำ ปัญหาการบริหารเงินที่ผิดพลาด งานลด เงินตึง ***
เริ่มเลยนะคะ เราทำกิจการส่วนตัวเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่มาก ทำแบบซื้อมาขายไปค่ะ ไม่มีโรงงาน ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ทำมาประมาณเกือบ 10 ปี แล้วค่ะ กิจการก็พอไปได้ โตแบบช้าๆ เราเป็นคนใช้เงินค่อนข้างระวัง เราเริ่มต้นชีวิตการทำงานมาจากเงินก้อนเดียวประมาณ 8 แสนบาท ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง แต่จะมุ่งมั่นเก็บรักษาไว้ให้ลูกอย่างเดียว ฉะนั้นได้เงินมาเท่าไร กำไรเหลือจากกิจการก็จะนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ช่วงรายได้ดีๆ ก็จะโปะเยอะๆ ให้ปลอดหนี้ไวๆ
ที่มาของปัญหา เราคิดว่า เกิดจาก
1. โปะหนี้อสังหาฯ ไวไป มากไป เงินเลยไปถมอยู่ในนั้นหมด
2. รายรับจากบริษัทลดลง แต่รายจ่ายมีเท่าเดิม
3. ส่งประกันมากเกินไป หยุดก็ไม่ได้ ถอนก็ไม่ได้
ปลายปี 2556 การเงินเริ่มมีปัญหา แต่เราก็ประคับประคองมาเรื่อยๆ ด้วยการนำเงินสดที่สะสมมาใช้ จนเหลือไม่ถึง 5 ล้านบาท ที่ผ่านมาเราอดออม วางแผนการเงินใช้แบบระวัง ทำ 100 ใช้ 40 เก็บ 60 (เงินสด+ประกัน+อสังหาฯ)
ตอนนี้มาคิดได้ว่า หากยังประคับประคองไปแบบนี้ คงได้อีกไม่นาน เพราะรายรับมีตัวเลขที่น้อยลงเรื่อยๆ เงินเก่าเริ่มถูกเบิกออกมาใช้ ไม่ว่าจะพยายามใช้อย่างประหยัดอย่างไรก็ตาม
ตอนนี้เราเริ่มหาทางออกไว้หลายๆ ทาง แต่ก็ดูจะมืดมน เราเลยอยากปรึกษาท่านที่มีประสบการณ์ในมุมมองของท่านว่า เราควรทำอย่างไรดี ไม่ให้เป็นหนี้ไปมากกว่านี้ และสามารถประคับประคองไปจนกว่าจะมีอะไรดีขึ้น
รายละเอียดที่เราจะให้นี้ อาจจะช่วยประกอบการแนะแนวทางได้อาจไม่มากก็น้อยค่ะ
1. เงินเก็บ ณ ปัจจุบัน 5,000,000 บาท (ใช้ค้ำวงเงิน OD ไว้ มีการเบิก Od มาใช้แล้วประมาณ 800,000 บ)
2. รายจ่าย รายเดือน 100,000 บาท
3. รายจ่ายประกัน 1,500,000 บาท / ปี
4. รายรับบริษัท ปัจจุบัน เหลือ เดือนละ 1 - 1.5 ล้านบาท กำไร ประมาณ 10-15% หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
5. รายรับนอกเหนือจากงานประจำ รับค่าเช่าตึก เดือนละ 37,000 บาท
6. รายจ่ายแต่ละเดือน ค่าผ่อนรถ 2 คัน (35,000 บ) อาคารพาณิชย์ 1 คู่ (ผ่อน 55,000 แต่ให้เช่าอยู่ 30,000 บ) + บ้านที่อยู่ปัจจุบัน + คอนโด (45,000บ)
7. มีที่ดินที่ปลอดภาระหนี้อยู่ 3 แปลง คือ
7.1. อาคารพาณิชย์อีก 1 คู่ ที่ปัจจุบันใช้ทำบริษัท
7.2 ที่ดิน ตจว ประมาณ 19 ไร่ ปัจจุบันใช้ทำไร่ แต่รายได้พอแค่เลี้ยงคนงาน
7.3 ที่ดินใน กทม 1 แปลง ประมาณ 178 ตรว. ซึ่งเราซื้อมาประมาณราคา 2.9 ล้าน ปัจจุบัน มีคนมาเสนอราคาราวๆ 4 ล้าน
สิ่งที่คิดไว้ตอนนี้คือ
- Re-finance บ้าน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง (บ้านที่อยู่ปัจจุบัน ราคา 7 ล้านบาท แต่เหลือหนี้ 3 ล้านบาท)
- หาทางเพิ่มรายได้ ซึ่งยังไม่รู้จะทำอะไร (ว่าจะเปิดร้านอาหารในตึกที่ใช้ทำบริษัท ที่มีหน้าร้านติดถนนใหญ่)
- หาทางลดรายจ่าย โดยการขายตึก 1 หลัง (ที่ให้เขาเช่าอยู่) มูลค่าประมาณ 8.5 ล้านบาท
- ทำอาหารปิ่นโต ส่งในหมู่บ้าน ซึ่งมีราวๆ 4-500 หลังคาเรือน แต่ก็ไม่รู้จะขายได้ไหม
- คิดจะขายทุกอย่างเก็บเป็นเงินสด แล้วไปอยู่ ตจว กัน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง
ใจคิดว่าไม่อยากขายอะไรออกไปค่ะ อยากเก็บไว้ให้ลูก เพราะว่าลูกไม่ปกติ เขาเป็นออทิสติก เลยไม่เต็มร้อยเท่าไร และมีคนเดียวค่ะ หากไม่ทำเก็บให้เขาเราตายไป กลัวเขาจะเอาตัวไม่รอด ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้หญิง เราเลยวางแผนที่จะลงทุนเป็นตึกเป็นที่ดินไว้ เพื่อให้เขาเก็บค่าเช่าไปเรื่อยๆ อย่างน้อยสอนเขาบริหารการใช้เงินให้เป็น เขาคงมีชีวิตไปได้เรื่อยๆ ไม่ลำบาก
รบกวนคำแนะนำ เป็นแนวทางหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ คำแนะนำนั้นแม้จะขัดแย้งกับสิ่งที่เราเคยคิดก็ไม่เป็นไรค่ะ เผื่อเราจะได้นำมามองใหม่ว่า สิ่งที่คิดมันไม่ใช่ ที่ผ่านมาคิดคนเดียวทำคนเดียว พลาดมาหลายอย่างก็เคย สำเร็จมาหลายอย่างก็มี แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเหนื่อย มึนตึบเลยค่ะ กลัว กลัวว่าจะทำให้ลูกต้องลำบาก เรามีเขามาแล้ว เขาจะดีจะเลว เรามีหน้าที่ประคองเขาจนเราหมดลมหายใจเป็นอันจบหน้าที่ค่ะ