ในขณะที่เกิดเหตุหายนะอยู่นี้ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เดินทางจากฟลอริดากลับสู่วอชิงตัน และได้มีการออกแถลงการณ์ในเหตุการณ์ มีการขอให้ประชาชนร่วมกันสวดมนต์ให้กับผู้เคราะห์ร้าย รวมทั้งยังประกาศว่า "ผู้ที่กระทำการครั้งนี้จะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ"
ต่อมามีรายงานว่าตึกอื่นๆ ในบริเวณนั้นก็ได้พังทลายลงทั้งหมด(เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ประกอบด้วยตึก 7 หลัง) อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ตึก 5 ยังคงตั้งอยู่แต่ก็เสียหายยับเยินเช่นกัน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้นยังไม่ทราบแน่นอน แต่พบศพแล้วกว่า 200 ศพ และยังสูญหายอีกประมาณ 6,000 คน
และนั้นก็กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาประกาศสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างจริงจัง และประกาศสงครามกับประเทศอัฟกานิสถาน และอิรักอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา
แต่................
จากการวิเคราะห์ก็มีทฤษฎีข้อพิรุธ มีการโต้แย้งว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัย ว่าถล่มเพราะเครื่องบินชนจริงหรือไม่ หรือว่า มีใครจงใจทำให้มันถล่ม เพื่อสร้างสถานการณ์ เพื่ออ้างผู้ก่อการร้าย และเข้าไปยึดน้ำมัน อย่างเช่นประเทศอิรัก เป็นต้น เหตุน่าสงสัยนี้ ออกเป็นรายการทีวี ในอเมริกา มากมาย จนเป็นกระแสน่าสงสัย
ว่ามันเป็นทฤษฏีสมคบคิดหรือเปล่า
เรามาไล่ดีกว่าว่าจุดสงสัยนั้นมีอะไรบ้าง
(อย่าเพิ่งไปเชื่อมากน่ะครับ มันก็เหมือนเรื่องพอลตายแล้วแหละ)
ทำไมตัวตึกถึงถล่มลงมาได้อย่างมีระบบ เหมือนกับได้มีการวางแผนมาก่อนแล้ว
คนในเหตุการณ์มากมายได้ยินเสียงระเบิด เป็นชุดๆ อย่างรวดเร็วเหมือนที่เขาใช้ถล่มตึก และตึกปกติแทบไม่มีโอกาสถล่มลงมาตรงๆ เพราะหากเสียหายด้านขวา ก็ตรงเอนถล่มลงมาด้านขวา เหมือนต้นไม้ แต่นี่ลงมาตรงๆ ซึ่งเหมือนกับมีระเบิด ตัดฐานของตึก จึงถล่มลงมาตรงๆได้
และเสียงระเบิดที่ว่านี้ดังมาจากจุดที่ต่ำกว่าตรงที่เครื่องบินพุ่งชนมาก
ตึกเวิลด์เทรดสองตึก ถล่มลงมาในแนวตั้งอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย ราวกับมีการวางระเบิดที่แกนกลางตึก อีกทั้งยังมีโลหะหลอมเหลวจำนวนมากในพื้นที่ใต้ดินของตึกด้วย
ตึกที่ 3 ที่อยู่ใกล้เคียงที่เก็บเอกสารสำคัญมากมาย ก็ถล่มตามลงมา ทั้งๆ ที่ไม่โดนเครื่องบินชน และก็ถล่มลงมาตรงๆ เหมือนโดนระเบิด พร้อมทั้งมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น และหากเป็นเพราะเกิดจากความเสียหายของตึก World Trade ก็ต้องเสียหายเฉพาะด้านที่ติดกับตึก World Trade หากจะถล่มก็ต้องเอียงถล่มมาทางด้านความเสียหายนั้น ไม่ใช่ถล่มลงมาตรงๆ และที่สำคัญ แทบไม่น่าเป็นไปได้ ที่ตึกนี้จะถล่ม เพียงแค่สาเหตุนี้ และ วิศวกรเยอรมันคนหนึ่งพบว่าเหล็กโคนเสาของตึก 7 ขนาดโดนระเบิดด้วยเทอร์ไมท์ซึ่งเป็นวัตถุที่ถูกใช้ในการระเบิดตึก
ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Physic และวิศวะกรมากมาย ออกแสดงความคิดเห็นว่า โอกาสที่ทั้ง 3 ตึกจะถล่มลงมาตรงๆ แบบนั้น ในเวลาสั้นๆ แบบนั้น แถบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้ จากการคำนวนเวลาความเร็วของการถล่มของตึกสูงขนาดนี้ ลงมากองกับพื้น เท่ากับว่า เป็นความเร็วของการถล่มแบบ Free Fall หรือแบบล่วงหล่นโดยไม่มีฐานรองรับเลย เหมือนโดนระเบิดตัดฐาน ซึ่งหากเป็นเพราะไฟไหม้ ก็น่าจะค่อยๆถล่มทีละชั้น
ตึก WTC7 ที่ไม่ได้ถูกเครื่องบินพุ่งชน กลับถล่ม ราวกับถูกวางระเบิดตามหลักการทำลายอาคารของมืออาชีพ นอกจากนี้มันยังถล่มลงมาใน 6.6 วินาที ใช้เวลานานกว่าวัตถุชิ้นหนึ่งตกจากหลังคากระทบพื้นเพียงแค่ 0.6 วินาที ทำไมจึงไม่มีการทรงมวลของโมเมนตัม ซึ่งเป็นกฎพื้นฐานของฟิสิกส์
ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมี ตึกไฟไหม้แล้วถล่มเลย
ขนาดไหม้หลายสิบชั่วโมง ก็ยังไม่เคยถล่ม แต่นี่เพียงไม่กี่นาที ก็เกิดเสียงดังเหมือนระเบิด แล้วก็ถล่มลงมาทันที
สังเกตภาพขณะตึกกำลังถล่มจากด้านบน จะมีควันทะลุออกมาเหมือนมีการระเบิดจากด้านล่าง ก่อนที่ตึกจะถล่มลงไปถึง
- ฟังเสียงจากเทป การติดต่อขณะเกิดเหตุการณ์ มีคนเหตุการณ์ระเบิดมากมาย ปกติหากใช้การระเบิดใต้ฐานให้ตึกถล่ม จะต้องได้ยินเสียงระเบิด ติดๆกันหลายๆนัด และในเหตุการณ์นั้นมีคนได้ยินเสียงแบบนี้มากมาย
เหล็กจะละลายได้ต้องใช้ความร้อนถึง 1500 องศา แต่ความร้อนจากเครื่องบินชนเพียง 825 องศา ไม่สามารถทำให้เหล็กของตึกละลายได้ แต่ สาร Thermite สามารถทำให้เกิดความร้อนถึง 2500 องศา จึงละลายเหล็กได้ (Thermite สามารถละลายได้แม้กระทั้งน้ำแข็งแห้ง) และมีหลักฐานการหลอมละลายของเหล็กแบบ Thermite ในตึก World Trade ด้วย และภาพตอนที่ตึกกำลังถล่ม ก็มีการหลอมละลายเหมือน Thermite ที่เป็นจุดแดงๆ ที่ตึกด้วย
โครงสร้างเหล็กบางส่วนหลอมละลายหายไป แต่มันต้องอาศัยอุณหภูมิเกือบ 5,000 องศาฟาเรนไฮต์ในการหลอมเหล็กจนระเหย วัตถุต่าง ๆ ในสำนักงานหรือน้ำมันดีเซลไม่มีทางทำให้เกิดอุณหภูมิที่สูงขนาดนั้น ไฟที่เกิดจากน้ำมันเครื่องบินลุกไหม้อย่างมากก็แค่ไม่กี่นาที ส่วนวัสดุติดไฟในสำนักงานน่าจะไหม้หมดภายในเวลาแค่ 20 นาที
ภาพเครื่องบินที่พุ่งชนตึกในมุมต่างๆถูกบันทึกไว้เหมือนมีการเตรียมถ่ายทำไว้อย่างดีเพราะโดยปรกติแล้วไม่มีใครที่ไหนคิดจะเตรียมกล้องไว้ถ่ายภาพเครื่องบินบนท้องฟ้าที่มีนับร้อยเที่ยวบินในแต่ละวัน และหลังจากเครื่องบินพุ่งชนตึกก็มีคนเห็นกลุ่มหนึ่งกระโดดโลดเต้นบนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่งเหมือนกับดีใจที่ทำงานอะไรสักอย่างเป็นผลสำเร็จ
เครื่องบินโดยสารที่พุ่งชนตึกบินออกมานอกเส้นทาง ซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐสามารถดักสกัดได้แต่ทำไมกลับไม่มีการบินขึ้นสกัด
ทำไมชาวยิวประมาณสามพันคนที่ทำงานอยู่ในตึกที่ถล่มจึงถูกแจ้งล่วงหน้ามิให้ไปทำงานในวันเกิดเหตุการณ์
11กันยายน ค.ศ. 1994 นายแฟรงค์ ยูยีน คอเดอร์ ได้ขโมยเครื่องบินลำเล็ก เซสน่า 150L จากสนามบินแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของบัลติมอร์แล้วบินตรงไปยังสนามหญ้าทางตอนใต้ของทำเนียบขาว หลังจากนั้นก็ลดเพดานบินลงต่ำเรี่ยพื้นจนไถ่ต้นไม้และสนามหญ้าพุ่งเข้าไปชนกำแพงใต้ห้องนอนของประธานาธิบดีสหรัฐ นายแฟรงค์ตายภายใต้ซากเครื่องบิน แต่การสอบสวนพบว่าไม่มีใครใครรู้เห็นเป็นพยานว่า นายแฟรงค์ขึ้นเครื่องบิน หรือ ขโมยเครื่องบินลำนี้มา และเขาก็ไม่ได้ทำการติดต่อหอบังคับการบิน หรือกับใคร.......เป็นไปได้ไหมว่าเขาตายแล้วก่อนที่ขับเครื่องบิน และมีการขับเครื่องบินนั้นโดยการบังคับรีโมตเพื่อจัดฉาก
42% จากคนอเมริกา เชื่อว่ารัฐบาลจัดทำขึ้น
ยังไม่ทันที่โลกจะหายตกตะลึง ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็หลุดปากคำว่า “สงครามครูเสด” ออกมา จนที่ปรึกษาต้องออกมาแก้ตัวให้เป็นพัลวัน หลังจากนั้นเขาก็ตั้งศาลเตี้ยประกาศคำตัดสินโดยที่ไม่ได้ไต่สวนออกมาทันทีว่าผู้บงการถล่มตึกเวิลด์เทรดคือ อุซามะห์ บินลาดิน หัวหน้าขบวนการอัลกออิดะห์ ราวกับว่าตัวเองรู้เรื่องนี้ก่อนแล้ว และยังมิทันที่กระบวนการยุติธรรมจะเริ่มต้น ประธานนาธิบดีบุชก็ประกาศกร้าวแทนศาลว่าเมื่อสหรัฐไม่สามารถนำตัวผู้บงการมารับความยุติธรรมในสหรัฐได้ สหรัฐก็จะนำความยุติธรรมไปให้ผู้บงการเอง
มีเสียงระเบิด..ก่อนเครื่องบินชนตึกตึกเวอเทรดถล่ม???? (9-11)
ต่อมามีรายงานว่าตึกอื่นๆ ในบริเวณนั้นก็ได้พังทลายลงทั้งหมด(เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ประกอบด้วยตึก 7 หลัง) อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ตึก 5 ยังคงตั้งอยู่แต่ก็เสียหายยับเยินเช่นกัน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้นยังไม่ทราบแน่นอน แต่พบศพแล้วกว่า 200 ศพ และยังสูญหายอีกประมาณ 6,000 คน
และนั้นก็กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาประกาศสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างจริงจัง และประกาศสงครามกับประเทศอัฟกานิสถาน และอิรักอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา
แต่................
จากการวิเคราะห์ก็มีทฤษฎีข้อพิรุธ มีการโต้แย้งว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัย ว่าถล่มเพราะเครื่องบินชนจริงหรือไม่ หรือว่า มีใครจงใจทำให้มันถล่ม เพื่อสร้างสถานการณ์ เพื่ออ้างผู้ก่อการร้าย และเข้าไปยึดน้ำมัน อย่างเช่นประเทศอิรัก เป็นต้น เหตุน่าสงสัยนี้ ออกเป็นรายการทีวี ในอเมริกา มากมาย จนเป็นกระแสน่าสงสัย
ว่ามันเป็นทฤษฏีสมคบคิดหรือเปล่า
เรามาไล่ดีกว่าว่าจุดสงสัยนั้นมีอะไรบ้าง
(อย่าเพิ่งไปเชื่อมากน่ะครับ มันก็เหมือนเรื่องพอลตายแล้วแหละ)
ทำไมตัวตึกถึงถล่มลงมาได้อย่างมีระบบ เหมือนกับได้มีการวางแผนมาก่อนแล้ว
คนในเหตุการณ์มากมายได้ยินเสียงระเบิด เป็นชุดๆ อย่างรวดเร็วเหมือนที่เขาใช้ถล่มตึก และตึกปกติแทบไม่มีโอกาสถล่มลงมาตรงๆ เพราะหากเสียหายด้านขวา ก็ตรงเอนถล่มลงมาด้านขวา เหมือนต้นไม้ แต่นี่ลงมาตรงๆ ซึ่งเหมือนกับมีระเบิด ตัดฐานของตึก จึงถล่มลงมาตรงๆได้
และเสียงระเบิดที่ว่านี้ดังมาจากจุดที่ต่ำกว่าตรงที่เครื่องบินพุ่งชนมาก
ตึกเวิลด์เทรดสองตึก ถล่มลงมาในแนวตั้งอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย ราวกับมีการวางระเบิดที่แกนกลางตึก อีกทั้งยังมีโลหะหลอมเหลวจำนวนมากในพื้นที่ใต้ดินของตึกด้วย
ตึกที่ 3 ที่อยู่ใกล้เคียงที่เก็บเอกสารสำคัญมากมาย ก็ถล่มตามลงมา ทั้งๆ ที่ไม่โดนเครื่องบินชน และก็ถล่มลงมาตรงๆ เหมือนโดนระเบิด พร้อมทั้งมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น และหากเป็นเพราะเกิดจากความเสียหายของตึก World Trade ก็ต้องเสียหายเฉพาะด้านที่ติดกับตึก World Trade หากจะถล่มก็ต้องเอียงถล่มมาทางด้านความเสียหายนั้น ไม่ใช่ถล่มลงมาตรงๆ และที่สำคัญ แทบไม่น่าเป็นไปได้ ที่ตึกนี้จะถล่ม เพียงแค่สาเหตุนี้ และ วิศวกรเยอรมันคนหนึ่งพบว่าเหล็กโคนเสาของตึก 7 ขนาดโดนระเบิดด้วยเทอร์ไมท์ซึ่งเป็นวัตถุที่ถูกใช้ในการระเบิดตึก
ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Physic และวิศวะกรมากมาย ออกแสดงความคิดเห็นว่า โอกาสที่ทั้ง 3 ตึกจะถล่มลงมาตรงๆ แบบนั้น ในเวลาสั้นๆ แบบนั้น แถบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้ จากการคำนวนเวลาความเร็วของการถล่มของตึกสูงขนาดนี้ ลงมากองกับพื้น เท่ากับว่า เป็นความเร็วของการถล่มแบบ Free Fall หรือแบบล่วงหล่นโดยไม่มีฐานรองรับเลย เหมือนโดนระเบิดตัดฐาน ซึ่งหากเป็นเพราะไฟไหม้ ก็น่าจะค่อยๆถล่มทีละชั้น
ตึก WTC7 ที่ไม่ได้ถูกเครื่องบินพุ่งชน กลับถล่ม ราวกับถูกวางระเบิดตามหลักการทำลายอาคารของมืออาชีพ นอกจากนี้มันยังถล่มลงมาใน 6.6 วินาที ใช้เวลานานกว่าวัตถุชิ้นหนึ่งตกจากหลังคากระทบพื้นเพียงแค่ 0.6 วินาที ทำไมจึงไม่มีการทรงมวลของโมเมนตัม ซึ่งเป็นกฎพื้นฐานของฟิสิกส์
ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมี ตึกไฟไหม้แล้วถล่มเลย
ขนาดไหม้หลายสิบชั่วโมง ก็ยังไม่เคยถล่ม แต่นี่เพียงไม่กี่นาที ก็เกิดเสียงดังเหมือนระเบิด แล้วก็ถล่มลงมาทันที
สังเกตภาพขณะตึกกำลังถล่มจากด้านบน จะมีควันทะลุออกมาเหมือนมีการระเบิดจากด้านล่าง ก่อนที่ตึกจะถล่มลงไปถึง
- ฟังเสียงจากเทป การติดต่อขณะเกิดเหตุการณ์ มีคนเหตุการณ์ระเบิดมากมาย ปกติหากใช้การระเบิดใต้ฐานให้ตึกถล่ม จะต้องได้ยินเสียงระเบิด ติดๆกันหลายๆนัด และในเหตุการณ์นั้นมีคนได้ยินเสียงแบบนี้มากมาย
เหล็กจะละลายได้ต้องใช้ความร้อนถึง 1500 องศา แต่ความร้อนจากเครื่องบินชนเพียง 825 องศา ไม่สามารถทำให้เหล็กของตึกละลายได้ แต่ สาร Thermite สามารถทำให้เกิดความร้อนถึง 2500 องศา จึงละลายเหล็กได้ (Thermite สามารถละลายได้แม้กระทั้งน้ำแข็งแห้ง) และมีหลักฐานการหลอมละลายของเหล็กแบบ Thermite ในตึก World Trade ด้วย และภาพตอนที่ตึกกำลังถล่ม ก็มีการหลอมละลายเหมือน Thermite ที่เป็นจุดแดงๆ ที่ตึกด้วย
โครงสร้างเหล็กบางส่วนหลอมละลายหายไป แต่มันต้องอาศัยอุณหภูมิเกือบ 5,000 องศาฟาเรนไฮต์ในการหลอมเหล็กจนระเหย วัตถุต่าง ๆ ในสำนักงานหรือน้ำมันดีเซลไม่มีทางทำให้เกิดอุณหภูมิที่สูงขนาดนั้น ไฟที่เกิดจากน้ำมันเครื่องบินลุกไหม้อย่างมากก็แค่ไม่กี่นาที ส่วนวัสดุติดไฟในสำนักงานน่าจะไหม้หมดภายในเวลาแค่ 20 นาที
ภาพเครื่องบินที่พุ่งชนตึกในมุมต่างๆถูกบันทึกไว้เหมือนมีการเตรียมถ่ายทำไว้อย่างดีเพราะโดยปรกติแล้วไม่มีใครที่ไหนคิดจะเตรียมกล้องไว้ถ่ายภาพเครื่องบินบนท้องฟ้าที่มีนับร้อยเที่ยวบินในแต่ละวัน และหลังจากเครื่องบินพุ่งชนตึกก็มีคนเห็นกลุ่มหนึ่งกระโดดโลดเต้นบนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่งเหมือนกับดีใจที่ทำงานอะไรสักอย่างเป็นผลสำเร็จ
เครื่องบินโดยสารที่พุ่งชนตึกบินออกมานอกเส้นทาง ซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐสามารถดักสกัดได้แต่ทำไมกลับไม่มีการบินขึ้นสกัด
ทำไมชาวยิวประมาณสามพันคนที่ทำงานอยู่ในตึกที่ถล่มจึงถูกแจ้งล่วงหน้ามิให้ไปทำงานในวันเกิดเหตุการณ์
11กันยายน ค.ศ. 1994 นายแฟรงค์ ยูยีน คอเดอร์ ได้ขโมยเครื่องบินลำเล็ก เซสน่า 150L จากสนามบินแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของบัลติมอร์แล้วบินตรงไปยังสนามหญ้าทางตอนใต้ของทำเนียบขาว หลังจากนั้นก็ลดเพดานบินลงต่ำเรี่ยพื้นจนไถ่ต้นไม้และสนามหญ้าพุ่งเข้าไปชนกำแพงใต้ห้องนอนของประธานาธิบดีสหรัฐ นายแฟรงค์ตายภายใต้ซากเครื่องบิน แต่การสอบสวนพบว่าไม่มีใครใครรู้เห็นเป็นพยานว่า นายแฟรงค์ขึ้นเครื่องบิน หรือ ขโมยเครื่องบินลำนี้มา และเขาก็ไม่ได้ทำการติดต่อหอบังคับการบิน หรือกับใคร.......เป็นไปได้ไหมว่าเขาตายแล้วก่อนที่ขับเครื่องบิน และมีการขับเครื่องบินนั้นโดยการบังคับรีโมตเพื่อจัดฉาก
42% จากคนอเมริกา เชื่อว่ารัฐบาลจัดทำขึ้น
ยังไม่ทันที่โลกจะหายตกตะลึง ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็หลุดปากคำว่า “สงครามครูเสด” ออกมา จนที่ปรึกษาต้องออกมาแก้ตัวให้เป็นพัลวัน หลังจากนั้นเขาก็ตั้งศาลเตี้ยประกาศคำตัดสินโดยที่ไม่ได้ไต่สวนออกมาทันทีว่าผู้บงการถล่มตึกเวิลด์เทรดคือ อุซามะห์ บินลาดิน หัวหน้าขบวนการอัลกออิดะห์ ราวกับว่าตัวเองรู้เรื่องนี้ก่อนแล้ว และยังมิทันที่กระบวนการยุติธรรมจะเริ่มต้น ประธานนาธิบดีบุชก็ประกาศกร้าวแทนศาลว่าเมื่อสหรัฐไม่สามารถนำตัวผู้บงการมารับความยุติธรรมในสหรัฐได้ สหรัฐก็จะนำความยุติธรรมไปให้ผู้บงการเอง