ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพทุกท่านนะครับ หลังจากได้ความรู้หลายๆเรื่องจากพันทิพ คราวนี้คงเป็นรีวิวแรกของผม และเป็นรีวิวิเล็กๆด้วยซ้ำครับ ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายภาพเท่าไหร่ ถ่ายจากไอโฟน มือถือเครื่องโปรด อีกทั้งยังมีสัมภาระเต็มมือ ภาพทั้งหมดเลยออกมาไม่สวยครับ แต่จะพยายามใส่เนื้อหาให้ก็แล้วกันครับ
ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ประเทศพม่า จริงๆแล้วผมประจำอยู่ที่ย่างกุ้งครับ ได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่มัณฑะเลย์ประมาณสองสัปดาห์ครับ ขาไปผมเหมารถตู้ไปจากย่างกุ้ง เนื่องจากมีอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะครับ ส่วนขากลับ ทางทีมตกลงกันว่าจะกลับรถทัวร์ แต่ด้วยอายุของผมแล้ว ไม่น่าจะไหวครับ ปวดหลังแน่ๆ ระยะทางจากย่างกุ้ง ไปถึงมัณฑะเลย์ประมาณ 350 ไมล์ หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมงครับ
เริ่มแรกเลย จริงๆผมก้อทำใจแล้วครับ ว่าผมจะต้องเดินทางกลับย่างกุ้งกับรถทัวร์ เพราะผมไม่อยากทิ้งให้ทีมต้องกลับกันเองครับ และอีกอย่างงานผมเป็นแบบแผนปลายเปิดครับ เลยไม่รู้วันที่จะกลับที่ชัดเจนครับ แต่เนื่องจากผมทำงานหนักมาก หามรุ่งหามค่ำ เมื่อทราบวันกลับที่ค่อนข้างชัดเจน ผมก้อเรื่มหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน จากมัรฑะเลย์ไปย่างกุ้งครับ
1. ระบบมือถือในพม่า คิดเงินตามการใช้งานครับ เป็น MB (ผมใช้ของค่าย Telenor) คิดอัตรา MB ละ 10 Ks ครับ การเข้าเวบที่โหลดหน้า content มากๆ ทำให้ค่อนข้างเปลืองเงินครับ ผมเลยต้องใช้เนตที่โรงแรมเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน/หาข้อมูลตั๋วเครื่องบิน
2. สายการบินที่เดินทางจากมัณฑะเลย์ไปย่างกุ้ง เท่าที่หาข้อมูล ก้อจะมี Air Mandalay, Air Bagan, Air KBZ, Golden Myanmar Air, Asian Wings, Yangon Airway และ Myanmar National Airline ครับ
3. สายการบินที่ผมเลือกคือ Myanmar National Airline ครับ เนื่องจากราคาถูกที่สุด ในการจองล่วงหน้าแค่ 2 วันครับ ราคาที่ผมได้มาคือ 57 USD ครับ วิธีการจองคือจองผ่านเวบไซค์ และชำระเงินผ่านบัตรเดบิต MPU ครับ (ผมได้ทำบัตรเอทีเอ็มกับธนาคาร CB-Bank ไว้ครับ การเปิดบัญชีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ เพียงแค่ฝากขั้นต่ำ 1,000 ks แต่หากอยากได้ค่ายของ Visa, Mastercard ต้องจ่ายแพงกว่านี้ครับ ผมเลยไม่สนใจ เพราะแค่ตั้งใจจะเอาเงินไปฝากธนาคาร ไม่อยากเก็บเงินไว้ที่ตัวเยอะๆ)
4. ก่อนถึงวันเดินทาง ผมติดต่อโรงแรมเพื่อสอบถามแท็กซี่ไปที่สนามบินครับ เนื่องจากผมพักในเมืองครับ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ค่าแท็กซี่ไปสนามบินคือ 12 USD ครับ และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
5. ผมใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก้อถึงสนามบินครับ ซึ่งอยู่นอกตัวเมือง ได้สังเกตุเห็นข้างทาง ออกแนวชานเมืองบ้านเราครับ ไม่มีตึกอะไรเลย มีแต่ป่าครับ **คำเตือน การให้เจ้าหน้าที่ช่วยยกของที่สนามบินในพม่า มีค่าทิปครับ หากไม่อยากจ่าย กรุณาแจ้งเขา และยกขึ้นรถเข็นเองครับ
6. ผมไปถึงก่อนเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง หิวมาก แต่อยากไปเชคอินก่อน ผมเลยเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์เชคอิน ปรากฎว่า เขาไม่ให้เข้าครับ ผมเลยถามว่าทำไม เขาบอกเคาท์เตอร์เปิดบ่าย 3 (แต่ไฟลท์ผมบ่าย 2.30 ก้อโดนเหวี่ยงไปหนึ่งรอบครับ) เจ้าหน้าที่เลยให้เข้าได้โดยดี ผ่านเครื่อง X-ray กระเป๋า ไม่มีวัตถุต้องสงสัยใดๆ ผ่านฉลุยครับ
7. เมื่อไปถึงเคาท์เตอร์ ... ไม่มีใครสักคนครับ มีผู้โดยสารมารอประมาณ 3-4 คน เปิดอยู่ 2 เคาท์เตอร์ ไอเราก้อใจไม่ดีแล้วครับ ทำไมยังไม่มา ไม่เคยเจอเคาท์เตอร์ปิดครับ รอสัก 15 นาทีก้อมีคนเดินทางประจำเครื่อง ดูไม่ค่อยชำนาญอะไรเลย ทั้งสองคน มานั่งแล้วก้อทุบๆคอม เข้าใจว่ามันคงไม่ติด ปล. อุปกรณ์ทุกอย่างในสนามบินเก่ามาก คอมฯ จอทีวี เคาท์เตอร์ คิดถึงดอนเมืองเลยครับตอนนั้น
8. พอเชคอิน ยื่นแค่ตั๋วครับ ไม่ตรวจ passport ครับ งงเลย ทุกคนที่มาเชคอิน ยื่นแค่ตั๋ว และโหลดกระเป๋า ขึ้นเครื่องได้เลยครับ แถมน้ำหนักกระเป๋าผมเกินด้วย สายการบินฯให้โควตา 20 กก ผมโหลดไปประมาณ 25 กก. ไม่มีใครว่าอะไรครับ
9. เมื่อติดป้ายสัมภาระเสร็จ แอบไปเห็นว่าสายพานลำเลียงสำภาระไม่ทำงานครับ งงครับคราวนี้ แถมยังมีคนมายกกระเป๋าเราไป เลยถามว่าเอาไปไหน เค้าบอกเอาไปโหลดใน Cargo ,,, เอิ่ม งงครับ ไม่เคยเจอ ใช้ระบบแบบนี้เลยหรอ ผู้โดยสารร้อยคน ทำไงละ ไม่ยกกันตายหรอ สงสารจัง ทำไมไม่ซ่อมละสายพาน แต่ก้อช่างมันครับ ขอให้สัมภาระเราปลอดภัยครับ หลังจากจะเดินออกไปกินข้าวร้านข้าวข้างนอกครับ เจ้าหน้าที่ไม่ให้ออก เขาบอกข้างในก้อมี เราก้อรีบเดินๆไปกิน ก่อนจะขึ้นเครื่อง สั่งสปาเก็ตตี้ต้มยำไป หมดไป $6 ราคาสมเหตุสผลครับ
10. เดินไปที่เกทรอขึ้นเครื่อง แม่เจ้า ร้อนครับ คนเยอะมาก แอร์ก้อไม่ทำงาน (ปล. พม่าเป็นประเทศที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ขนาด 220V เท่ากับประเทศไทยครับแต่มีระบบไฟที่ไม่ค่อยเสถียร จึงต้องมีเครื่องมือชนิดหนึ่ง คอยตรวจจับว่า ขณะนี้แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า หรือสูงกว่าปกติ หากไม่อยู่ในสภาวะปกติ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นจะไม่ทำงานครับ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานครับ) นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม แอร์ถึงไม่ทำงานครับ ร้อนกันทั้งอาคาร เริ่มหงุดหงิดครับ
11. ที่เกท ไม่มีจอประกาศ หรือเสียงตามสายใดๆ เพื่อแสดงสถานะของเที่ยวบินครับ ตามมีตามเกิดครับ คิดในใจ กรูจะตกเครื่องมั้ย? แต่โชคดีที่จำคนที่มาเชคอินด้วยกันได้ เลยเดินตามเขาไป รอดครับ
12. ขณะนี้ เลยเวลาขึ้นเครื่อง (Boarding time) แล้วครับ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากผู้โดยสารคนใด ห๊ะ อะไรกัน เลยมาครึงชั่วโมงแล้วนะ ร้อนก้อร้อน แถมไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนยืนให้ถามอีก เพลียครับ เริ่มใจไม่ดีละ
13. รอไปประมาณ 40 นาที ก้อมีคนเดินออกไปที่เกท โดยปราศจาคเสียงประกาศใดๆ ไอเราก้อเดินตาม คิดในใจดีกว่าตกเครื่องครับ พนักงานภาคพื้น ไม่มีการตรวจสอบหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใดๆครับ ตรวจแค่ตั๋ว แล้วก้อจบ ขึ้นเครื่องได้เลย (มาตรฐานอยู่ไหนกัน)
14. เมื่อขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่แจกผ้าเช็ดมือแล้วแจ้งว่า Free seat ไอเราก้องง อะไร Free seat พอขึ้นไปเท่านั้นแหละครับ อ่อเลย อยากนั่งตรงไหนก้อได้ แล้วที่จองมาในตั๋วละ เพื่ออะไร? ส่วนสภาพเครื่องบิน เก่ามากครับ เหม็น และร้อน ผมคงให้ทุกคนจินตนาการไม่ออก เพราะว่าในประเทศไทยไม่มีแบบนั้นครับ เพลีย
15. เมื่อเครื่องเริ่มออก แอร์มีแต่ลมครับ ไม่เย็นเลย ผสด ทุกคนต่างเอาหนังสือพิมพ์ หรืออะไรก้อได้ที่เป็นพัดให้ความเย็นได้ มาช่วยตัวเองกันใหญ่เลยครับ โหย สุดๆครับ เครื่องบินนี้ใช้เครื่องบินเล็กครับ เข้าใจว่าเป็นแบบ ATR ใช้เวลา Taxi ไม่นาน ก้อ Take off ได้ครับ แต่เสียงดังมาก ร้อนมาก อยากจะบ้าตายครับ ร้อนๆๆๆ อากาศข้างนอกก้อโคดจะร้อน เข้ามาในเครื่องยังกะเตาอบ แถมนั่งติดหน้าต่าง กระจกเหมือนมีใครเอาอะไรไปข่วนๆ เป็นรอยครับ มองวิวไม่เห็นเลย เซงมาก
16. เมื่อเครื่องได้ระดับสักพัก พนักงานก้อแจกขนมเป็นกล่องให้ ผสด ครับ เป็นแซนวิสกะน้ำ ให้บริการคล้ายๆ การบินไทย แต่ขนมไม่อลังขนาดนั้นครับ ก้อโอเค พอสงบอาการหงุดหงิดลงไปได้บ้าง พอกินได้ครับ
17. ผมลืมปิดมือถือครับ เอามือถือมาดู ปรากฎว่ามีสัญญาณโทรศัพท์ครับ แสดงว่าบินไม่สูง นิสัยไม่ดี เลยรีบปิดครับ ตอนนี้แอร์เริ่มเย็นละ ค่อยใจร่มลงหน่อย
18. ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ ก้อถึงสนามบินย่างกุ้ง นั่งรถบัสจากเครื่องบินไปอาคารผู้โดยสาร รอรับกระเป๋า แม่เจ้าครับ หาตั้งนาน สายพานอยู่ไหน มองซ้าย มองขวา ไม่มีครับ ใช้คนยกกระเป๋ามาแจกเป็นใบๆ เหยๆ ถ้ากระเป๋าหาย จะเอา Tag ตามยังไงหว่า คิดในใจ แต่ถึงละ ก้อจะพยายามลืมมันครับ ก่อนจะออกไปเข้าเครื่อง X-ray เพื่อไปเรียกแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ก้อมาเอา Tag กระเป๋าจากเรากลับไป เพื่อตรวจสอบจำนวนสัมภาระครับ เอาๆไปเหอะ อยากถึงที่พักแล้ว
สรุปว่าการเดินทางคนเดียวครั้งนี้ เหนื่อยมากครับ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่พยายามเข้าใจครับ ว่าประเทศเค้าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งพม่าเองก้อเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่กี่ปี แต่ก้อจะเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ไว้ในความทรงจำครั้งนึงของชีวิตครับ จบแล้วสำหรับรีวิว มีข้อแนะนำตรงไหน ติ/ชม/ด่า ได้เลยครับ ยินดีน้อมรับครับ
โชคดีครับ
[CR] รีวิวเล็กๆ บินเดี่ยวจากมัณฑะเลย์ไปย่างกุ้ง ><'
ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ประเทศพม่า จริงๆแล้วผมประจำอยู่ที่ย่างกุ้งครับ ได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่มัณฑะเลย์ประมาณสองสัปดาห์ครับ ขาไปผมเหมารถตู้ไปจากย่างกุ้ง เนื่องจากมีอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะครับ ส่วนขากลับ ทางทีมตกลงกันว่าจะกลับรถทัวร์ แต่ด้วยอายุของผมแล้ว ไม่น่าจะไหวครับ ปวดหลังแน่ๆ ระยะทางจากย่างกุ้ง ไปถึงมัณฑะเลย์ประมาณ 350 ไมล์ หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมงครับ
เริ่มแรกเลย จริงๆผมก้อทำใจแล้วครับ ว่าผมจะต้องเดินทางกลับย่างกุ้งกับรถทัวร์ เพราะผมไม่อยากทิ้งให้ทีมต้องกลับกันเองครับ และอีกอย่างงานผมเป็นแบบแผนปลายเปิดครับ เลยไม่รู้วันที่จะกลับที่ชัดเจนครับ แต่เนื่องจากผมทำงานหนักมาก หามรุ่งหามค่ำ เมื่อทราบวันกลับที่ค่อนข้างชัดเจน ผมก้อเรื่มหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน จากมัรฑะเลย์ไปย่างกุ้งครับ
1. ระบบมือถือในพม่า คิดเงินตามการใช้งานครับ เป็น MB (ผมใช้ของค่าย Telenor) คิดอัตรา MB ละ 10 Ks ครับ การเข้าเวบที่โหลดหน้า content มากๆ ทำให้ค่อนข้างเปลืองเงินครับ ผมเลยต้องใช้เนตที่โรงแรมเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน/หาข้อมูลตั๋วเครื่องบิน
2. สายการบินที่เดินทางจากมัณฑะเลย์ไปย่างกุ้ง เท่าที่หาข้อมูล ก้อจะมี Air Mandalay, Air Bagan, Air KBZ, Golden Myanmar Air, Asian Wings, Yangon Airway และ Myanmar National Airline ครับ
3. สายการบินที่ผมเลือกคือ Myanmar National Airline ครับ เนื่องจากราคาถูกที่สุด ในการจองล่วงหน้าแค่ 2 วันครับ ราคาที่ผมได้มาคือ 57 USD ครับ วิธีการจองคือจองผ่านเวบไซค์ และชำระเงินผ่านบัตรเดบิต MPU ครับ (ผมได้ทำบัตรเอทีเอ็มกับธนาคาร CB-Bank ไว้ครับ การเปิดบัญชีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ เพียงแค่ฝากขั้นต่ำ 1,000 ks แต่หากอยากได้ค่ายของ Visa, Mastercard ต้องจ่ายแพงกว่านี้ครับ ผมเลยไม่สนใจ เพราะแค่ตั้งใจจะเอาเงินไปฝากธนาคาร ไม่อยากเก็บเงินไว้ที่ตัวเยอะๆ)
4. ก่อนถึงวันเดินทาง ผมติดต่อโรงแรมเพื่อสอบถามแท็กซี่ไปที่สนามบินครับ เนื่องจากผมพักในเมืองครับ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ค่าแท็กซี่ไปสนามบินคือ 12 USD ครับ และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
5. ผมใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก้อถึงสนามบินครับ ซึ่งอยู่นอกตัวเมือง ได้สังเกตุเห็นข้างทาง ออกแนวชานเมืองบ้านเราครับ ไม่มีตึกอะไรเลย มีแต่ป่าครับ **คำเตือน การให้เจ้าหน้าที่ช่วยยกของที่สนามบินในพม่า มีค่าทิปครับ หากไม่อยากจ่าย กรุณาแจ้งเขา และยกขึ้นรถเข็นเองครับ
6. ผมไปถึงก่อนเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง หิวมาก แต่อยากไปเชคอินก่อน ผมเลยเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์เชคอิน ปรากฎว่า เขาไม่ให้เข้าครับ ผมเลยถามว่าทำไม เขาบอกเคาท์เตอร์เปิดบ่าย 3 (แต่ไฟลท์ผมบ่าย 2.30 ก้อโดนเหวี่ยงไปหนึ่งรอบครับ) เจ้าหน้าที่เลยให้เข้าได้โดยดี ผ่านเครื่อง X-ray กระเป๋า ไม่มีวัตถุต้องสงสัยใดๆ ผ่านฉลุยครับ
7. เมื่อไปถึงเคาท์เตอร์ ... ไม่มีใครสักคนครับ มีผู้โดยสารมารอประมาณ 3-4 คน เปิดอยู่ 2 เคาท์เตอร์ ไอเราก้อใจไม่ดีแล้วครับ ทำไมยังไม่มา ไม่เคยเจอเคาท์เตอร์ปิดครับ รอสัก 15 นาทีก้อมีคนเดินทางประจำเครื่อง ดูไม่ค่อยชำนาญอะไรเลย ทั้งสองคน มานั่งแล้วก้อทุบๆคอม เข้าใจว่ามันคงไม่ติด ปล. อุปกรณ์ทุกอย่างในสนามบินเก่ามาก คอมฯ จอทีวี เคาท์เตอร์ คิดถึงดอนเมืองเลยครับตอนนั้น
8. พอเชคอิน ยื่นแค่ตั๋วครับ ไม่ตรวจ passport ครับ งงเลย ทุกคนที่มาเชคอิน ยื่นแค่ตั๋ว และโหลดกระเป๋า ขึ้นเครื่องได้เลยครับ แถมน้ำหนักกระเป๋าผมเกินด้วย สายการบินฯให้โควตา 20 กก ผมโหลดไปประมาณ 25 กก. ไม่มีใครว่าอะไรครับ
9. เมื่อติดป้ายสัมภาระเสร็จ แอบไปเห็นว่าสายพานลำเลียงสำภาระไม่ทำงานครับ งงครับคราวนี้ แถมยังมีคนมายกกระเป๋าเราไป เลยถามว่าเอาไปไหน เค้าบอกเอาไปโหลดใน Cargo ,,, เอิ่ม งงครับ ไม่เคยเจอ ใช้ระบบแบบนี้เลยหรอ ผู้โดยสารร้อยคน ทำไงละ ไม่ยกกันตายหรอ สงสารจัง ทำไมไม่ซ่อมละสายพาน แต่ก้อช่างมันครับ ขอให้สัมภาระเราปลอดภัยครับ หลังจากจะเดินออกไปกินข้าวร้านข้าวข้างนอกครับ เจ้าหน้าที่ไม่ให้ออก เขาบอกข้างในก้อมี เราก้อรีบเดินๆไปกิน ก่อนจะขึ้นเครื่อง สั่งสปาเก็ตตี้ต้มยำไป หมดไป $6 ราคาสมเหตุสผลครับ
10. เดินไปที่เกทรอขึ้นเครื่อง แม่เจ้า ร้อนครับ คนเยอะมาก แอร์ก้อไม่ทำงาน (ปล. พม่าเป็นประเทศที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ขนาด 220V เท่ากับประเทศไทยครับแต่มีระบบไฟที่ไม่ค่อยเสถียร จึงต้องมีเครื่องมือชนิดหนึ่ง คอยตรวจจับว่า ขณะนี้แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า หรือสูงกว่าปกติ หากไม่อยู่ในสภาวะปกติ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นจะไม่ทำงานครับ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานครับ) นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม แอร์ถึงไม่ทำงานครับ ร้อนกันทั้งอาคาร เริ่มหงุดหงิดครับ
11. ที่เกท ไม่มีจอประกาศ หรือเสียงตามสายใดๆ เพื่อแสดงสถานะของเที่ยวบินครับ ตามมีตามเกิดครับ คิดในใจ กรูจะตกเครื่องมั้ย? แต่โชคดีที่จำคนที่มาเชคอินด้วยกันได้ เลยเดินตามเขาไป รอดครับ
12. ขณะนี้ เลยเวลาขึ้นเครื่อง (Boarding time) แล้วครับ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากผู้โดยสารคนใด ห๊ะ อะไรกัน เลยมาครึงชั่วโมงแล้วนะ ร้อนก้อร้อน แถมไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนยืนให้ถามอีก เพลียครับ เริ่มใจไม่ดีละ
13. รอไปประมาณ 40 นาที ก้อมีคนเดินออกไปที่เกท โดยปราศจาคเสียงประกาศใดๆ ไอเราก้อเดินตาม คิดในใจดีกว่าตกเครื่องครับ พนักงานภาคพื้น ไม่มีการตรวจสอบหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใดๆครับ ตรวจแค่ตั๋ว แล้วก้อจบ ขึ้นเครื่องได้เลย (มาตรฐานอยู่ไหนกัน)
14. เมื่อขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่แจกผ้าเช็ดมือแล้วแจ้งว่า Free seat ไอเราก้องง อะไร Free seat พอขึ้นไปเท่านั้นแหละครับ อ่อเลย อยากนั่งตรงไหนก้อได้ แล้วที่จองมาในตั๋วละ เพื่ออะไร? ส่วนสภาพเครื่องบิน เก่ามากครับ เหม็น และร้อน ผมคงให้ทุกคนจินตนาการไม่ออก เพราะว่าในประเทศไทยไม่มีแบบนั้นครับ เพลีย
15. เมื่อเครื่องเริ่มออก แอร์มีแต่ลมครับ ไม่เย็นเลย ผสด ทุกคนต่างเอาหนังสือพิมพ์ หรืออะไรก้อได้ที่เป็นพัดให้ความเย็นได้ มาช่วยตัวเองกันใหญ่เลยครับ โหย สุดๆครับ เครื่องบินนี้ใช้เครื่องบินเล็กครับ เข้าใจว่าเป็นแบบ ATR ใช้เวลา Taxi ไม่นาน ก้อ Take off ได้ครับ แต่เสียงดังมาก ร้อนมาก อยากจะบ้าตายครับ ร้อนๆๆๆ อากาศข้างนอกก้อโคดจะร้อน เข้ามาในเครื่องยังกะเตาอบ แถมนั่งติดหน้าต่าง กระจกเหมือนมีใครเอาอะไรไปข่วนๆ เป็นรอยครับ มองวิวไม่เห็นเลย เซงมาก
16. เมื่อเครื่องได้ระดับสักพัก พนักงานก้อแจกขนมเป็นกล่องให้ ผสด ครับ เป็นแซนวิสกะน้ำ ให้บริการคล้ายๆ การบินไทย แต่ขนมไม่อลังขนาดนั้นครับ ก้อโอเค พอสงบอาการหงุดหงิดลงไปได้บ้าง พอกินได้ครับ
17. ผมลืมปิดมือถือครับ เอามือถือมาดู ปรากฎว่ามีสัญญาณโทรศัพท์ครับ แสดงว่าบินไม่สูง นิสัยไม่ดี เลยรีบปิดครับ ตอนนี้แอร์เริ่มเย็นละ ค่อยใจร่มลงหน่อย
18. ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ ก้อถึงสนามบินย่างกุ้ง นั่งรถบัสจากเครื่องบินไปอาคารผู้โดยสาร รอรับกระเป๋า แม่เจ้าครับ หาตั้งนาน สายพานอยู่ไหน มองซ้าย มองขวา ไม่มีครับ ใช้คนยกกระเป๋ามาแจกเป็นใบๆ เหยๆ ถ้ากระเป๋าหาย จะเอา Tag ตามยังไงหว่า คิดในใจ แต่ถึงละ ก้อจะพยายามลืมมันครับ ก่อนจะออกไปเข้าเครื่อง X-ray เพื่อไปเรียกแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ก้อมาเอา Tag กระเป๋าจากเรากลับไป เพื่อตรวจสอบจำนวนสัมภาระครับ เอาๆไปเหอะ อยากถึงที่พักแล้ว
สรุปว่าการเดินทางคนเดียวครั้งนี้ เหนื่อยมากครับ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่พยายามเข้าใจครับ ว่าประเทศเค้าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งพม่าเองก้อเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่กี่ปี แต่ก้อจะเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ไว้ในความทรงจำครั้งนึงของชีวิตครับ จบแล้วสำหรับรีวิว มีข้อแนะนำตรงไหน ติ/ชม/ด่า ได้เลยครับ ยินดีน้อมรับครับ
โชคดีครับ