สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะค้าาาา วันนี้เราพึ่งไปรับผลสอบ TOEIC มา และเราก็ตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงเราก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกคนได้ฟังกัน
ต้องบอกก่อนว่า คะแนน 660 สำหรับเรา เราคิดว่ามันอาจจะไม่ได้มากมายอะไร เพราะเราเห็นส่วนใหญ่ที่เค้ามารีวิวกันจะอยู่ที่ประมาณ 800+ แต่จุดประสงค์ในวันนี้ก็คือ อยากจะบอกว่า หลายคนคิดที่จะไปสอบแต่ไม่รู้จะสอบอะไร? ไม่รู้จะทำยังไง? สอบยากมั้ย? เราก็อยากมาแชร์ให้ฟัง
ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่คนเก่งอะไร พื้นฐานภาษาอังกฤษดีมั้ย? เอาเป็นว่าสมัยที่เรียนมัธยม ไม่ได้เป็นคนเก่งมาก ออกจะอ่อนภาษาอังกฤษด้วยซ้ำ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่เก่งภาษากันมาก เราจึงรู้สึกว่าเราอ่อนกว่าเพื่อน แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่..พอเราเข้ามหาวิทยาลัย เรารู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันค่อนข้างสำคัญ เราจึงฝึกฝนด้วยตัวเอง บอกก่อนว่าถ้าคนเลือกที่จะทำอะไรสักอย่าง คุณต้องเริ่มจากคำว่า "ชอบ" ก่อน พยามชอบมันให้ได้ แล้วคุณจะสนุกไปกับมัน
เกริ่นมาซะนานเลย 555 มาเข้าเรื่องกันเนาะๆ พอดีว่าเราพึ่งเรียนจบ เป็นช่วงหางาน ซึ่งอาชีพที่ใฝ่ฝันก็คือ แอร์โฮสเตส แต่ว่าพอเราหางานตามเว็บไซต์ไปเรื่อยๆ เราพบว่า บริษัทหลายๆ แห่ง ต้องการคุณสมบัติข้อนึงนั่นก็คือ "คะแนน TOEIC ......" จะกี่คะแนนก็ว่ากันไป เอาล่ะสิ!! จะทำยังไงดี?? เดี๋ยวจะบอกให้ฟังนะคะ ว่าจะต้องทำยังไงกันบ้าง (พอเป็นพื้นฐานให้เอาไปฝึกฝนกันได้โดยทั่วกัน)
การสอบ TOEIC จะแบ่งออกเป็น 2ส่วนใหญ่ๆ นั่นก็คือ
1. Listening (Part 1 - 4)
>>จะวัดทักษะทางด้านการฟัง (ในข้อสอบมีให้ฟังหลายสถานการณ์มาก ไม่ว่าจะเป็น ข่าวสั้น การพยากรณ์อากาศ เสียงประกาศตามสถานี ฯลฯ)
2. Reading (Part 5 - 7)
>>จะวัดทักษะทางด้านการอ่านจับใจความ และ Grammar!!
เราเครียดตรงแกรมม่าเนี่ยล่ะ! เพราะเราเป็นคนที่อ่อนแกรมม่ามากๆๆๆๆ ไม่เคยเข้าใจว่า Adj. กับ Adv. แตกต่างกันยังไง มองยังไงให้แยกออกว่าอันไหนคือ Noun อันไหนคือ Adj อันไหนคือ Adv และอันไหนคือ V. ---- เราก็คิดนะว่า ทำไงดี? จะขอเงินแม่ไปเรียน ก็กลัวจะไม่คุ้ม เพราะแต่ละคอร์สที่เรียน TOEIC ก็ค่อนข้างราคาสูง จึงตัดสินใจเข้า Google หาข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือดีๆ ซึ่งก็มีเยอะมาก เลือกไม่ถูกจริงๆ สุดท้ายก็เลยไปที่ SE-ED บุ๊กส์ เลย แล้วก็ไปควานหาเอา ซึ่งจากการที่เราได้ซื้อมาประมาณ 6 เล่ม -*- \\ ชีวิตนี้คิดว่าจบมหาวิทยาลัยแล้ว คงไม่ต้องอ่านหนังสืออีกแล้วมั้ง... คิดผิดค่ะ!!! 55555
และหนังสือ+ไฟล์เราคิดว่าควรจะอ่านมีดังนี้.. (เออ เข้าเรื่องสักทีเนอะ 5555)
1.คัมภีร์ Resigned TOEIC ฉบับสมบูรณ์ (พิมพ์ครั้งที่ 4) : ผศ.ดร. นเรศ สุรสิทธิ์
ข้อดี : เล่มนี้จะบอกทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการสอบ แต่สิ่งที่เราชอบคือ อาจารย์ได้อธิบายการใช้แกรมม่าได้อย่างละเอียดและเป็นภาษาที่เข้าใจมากกก!! ทำให้คนที่มึนกับแกรมม่าอย่างเรา สามารถเข้าใจได้ขึ้นประมาณ 75เปอร์เซ็นต์ (ไม่กล้าบอกว่าเต็ม100) แต่มันดีงามอ่ะ คือแนะนำเลย เล่มนี้เล่มเดียว ครบครันจริงๆ กับคำว่าแกรมม่า แถมท้ายบทจะมี บฝ. ให้ได้ทดลองทำประมาณ 2 ชุด ไม่เสียหายเล่มนี้ถือว่าดีงามพระราม8 แนะนำค่ะ
ข้อเสีย : หนังสืออาจจะหนาไปหน่อย รูปภาพไม่ค่อยมี เน้นตารางเยอะ ท่องจำหน่อย แต่ถ้าคุณทำได้ มันก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปเรียนติวเตอร์แพงๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
2.Barron's TOEIC practice exams
เล่มนี้ ยอดฮิต ยอดนิยมในบรรดาผู้ที่จะสอบ TOEIC เลยทีเดียว ถามว่าโอเคมั้ย? สำหรับเราเราคิดว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ
ข้อดี : ในส่วนของ Listening ผู้พูดจะพูดค่อนข้างชัด(ในระดับหนึ่ง) ไม่เร็วมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนการฟังให้เกิดความเคยชิน
ข้อเสีย : มันเป็นลักษณะการพูดที่ไม่เหมือนกับการสอบจริงค่ะ!! ของจริงมันรัวและนัวกว่ามาก T^T
เพราะฉนั้น ใครที่หวังแค่จะอ่านเล่มนี้แล้วได้คะแนนพุ่งๆ บอกเลยว่ายาก (ถ้าคุณไม่ใช่คนเก่งอยู่แล้วนะ) แต่ถ้าจะใช้เล่มนี้ในการฝึกความคล่องของรูหูแล้วล่ะก็ แนะนำค่ะ ราคาไม่แพง หนังสือน้ำหนักเบา มีทั้งหมด 6 ชุด (เราทำครบหมด) ได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 730 - 830 ทั้ง 6 ชุด (แต่ทำไมตอนสอบจริงได้แค่ 660 ล่ะ T^T.... ก็นั่นน่ะสิ!!)
3.Tactics for TOEIC Listening and Reading Test 1 , 2 : Oxford <<<<< อันนี้คือตรงจริงงงงง!!! ย้ำ!!
*****18ล้านดอก
พูดเลยว่า ถ้าคุณไม่ได้ทำอันนี้ ถือว่าพลาดมากกกกกกกกกกก
Listening นี่สำเนียงแบบนี้เด๊ะ!!! ฟังเถอะ อ้อนวอนและกราบไหว้ให้ฟังและทำก่อนไปสอบจริงๆ นะ เรารู้สึกเสียดายมากที่ฟังชุดนี้แค่อย่างละรอบ ถ้ากลับไปสอบอีกครั้ง เราจะอัดๆๆๆ ฟังให้ดีกว่านี้จริงๆ
ต้องขอขอบคุณ กระทู้ของคุณ Cony
http://pantip.com/topic/30964839 : ฝึก TOEIC 14 วัน ได้830 จริงๆ ที่ทำให้เรารู้จักกับ บฝ. ชุดนี้
สำหรับเราที่คิดว่าสำคัญๆ ก็มีอยู่ 3 ชุดนี้ล่ะค่ะ
แต่ถ้าใครสนใจที่จะหา บฝ. เพิ่มเติม ก็ขออนุญาตแนะนำกระทู้
http://2g.pantip.com/cafe/library/topic/K12753976/K12753976.html
เป็นกระทู้แจกชุดข้อสอบตัวอย่าง Resigned TOEIC ค่ะ (กระทู้นี้เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่มาก ขอกราบไม่แบบไม่แบมือ 3ทีค่ะ *//\\* )
ปล. เวลาทำข้อสอบ ทำ บฝ. กรุณา
"จับเวลาทุกครั้ง!!"
สุดท้ายยยยแล้ววว.. ผลสอบจะดีไม่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเกิดมาเป็นเทพภาษาอังกฤษรึเปล่า แต่มันอยู่ที่ว่า คุณมีความพยายามและความอดทนในการฝึกฝนมันมากพอแล้วหรือยัง สำหรับเรา เราอ่านก่อนไปสอบประมาณ 1เดือน (เริ่มอ่านช่วงสงกรานต์พอดีค่ะ)
- อาทิตย์แรก : ต้องอ่านแกรมม่าที่ไม่เข้าใจให้จบ ให้เคลียร์ ให้รู้เรื่อง
- อาทิตย์ที่2 : ลองฝึกทำ Barron's 1 ชุด (ซึ่งพบว่าแกรมม่าก็ยังไม่ได้เรื่อง) เลยไปหาที่ติวแบบเร่งรัด (อันนี้ลืมบอกไป..)
การติวเร่งรัด คือ ติวข้อสอบ 200 ข้อ ภายใน 3 ชม. (400฿) โดยพี่Hank : Homie English (หาดูใน FB เลยนะคะ) เค้าจะบอกเคล็ดลับ แนะนำการทำให้เร็ว ทำให้ไว ถ้าทำได้ให้ล้านนึง!!! -*- ไม่ใช่ล่ะ ... นั่นล่ะค่ะ ลองไปหากันดู เราว่าเป็นเทคนิคที่ดี ยกตัวอย่างเช่น..
>>>> คุณรู้มั้ยว่า ควรทำ Part 5 - 6 ภายในเวลา 20 นาที ไม่อย่างนั้น คุณจะทำ Part 7 ไม่ทัน (อันนี้จริงค่ะ)
- อาทิตย์ที่3 : ทำ Barron's ชุดที่ 2 - 4 , Oxford 1 ชุด ทำไปวันละชุด ขั้นเวลาด้วยการฟังข่าว CNN ฝึกจับใจความ , ฟังเพลงภาษาอังกฤษ , ฟังวิทยุช่อง MET 107 เป็นต้น
- อาทิตย์ที่4 : ทำ Barron's ชุดที่ 6 , Oxford 1 ชุด แล้วก็อาจจะหาดาวน์โหลด Longman มาเสริม (อยู่ในลิงค์ข้างต้นที่แนบไว้ค่ะ)
**จุดบกพร่องของตัวเราที่อยากจะแชร์ไว้ให้เป็นข้อเตือนใจ
- วันสุดท้าย เราก็ยังทำข้อสอบ เราไม่ได้ปล่อยให้สมองได้พัก เราเครียดและกดดันตัวเองมาก จึงอาจจะเป็นเหตุผลให้พักผ่อนไม่เพียงพอ และเกิดความกดดันเวลาทำข้อสอบ
- เราเป็นคนอ่านหนังสือดึก ชอบอ่านตอน 4-5 ทุ่ม พอทำเสร็จก็ ตี1-2 ร่างกายเลยอ่อนล้า
หมดแล้วที่จะแชร์ในวันนี้ บอกแล้วว่าพื้นฐานเราไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษแบบเป็นคอร์สจริงจัง แต่คนเรามันฝึกกันได้ เชื่อเหอะ!! เกิดมาก็ไม่มีใครท่อง ก - ฮ ได้ แล้วทำไมท่องได้ ก็เพราะเรียนไง! ต้องอ่านนะ ต้องทบทวนนะ บอกตัวเองเสมอ มันไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่ออนาคตของตัวเอง มี TOEIC ไว้ให้อุ่นใจจะดีกว่า เพราะเดี๋ยวเข้า AEC แล้ว อะไรๆก็ไม่แน่นอน
สู้ๆๆๆๆ ค่าาาา
เคล็ด(ไม่)ลับ : สอบ TOEIC ครั้งแรกได้ 660 (แบบสามัญชนทั่วไปไม่ใช่เทพ)
ต้องบอกก่อนว่า คะแนน 660 สำหรับเรา เราคิดว่ามันอาจจะไม่ได้มากมายอะไร เพราะเราเห็นส่วนใหญ่ที่เค้ามารีวิวกันจะอยู่ที่ประมาณ 800+ แต่จุดประสงค์ในวันนี้ก็คือ อยากจะบอกว่า หลายคนคิดที่จะไปสอบแต่ไม่รู้จะสอบอะไร? ไม่รู้จะทำยังไง? สอบยากมั้ย? เราก็อยากมาแชร์ให้ฟัง
ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่คนเก่งอะไร พื้นฐานภาษาอังกฤษดีมั้ย? เอาเป็นว่าสมัยที่เรียนมัธยม ไม่ได้เป็นคนเก่งมาก ออกจะอ่อนภาษาอังกฤษด้วยซ้ำ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่เก่งภาษากันมาก เราจึงรู้สึกว่าเราอ่อนกว่าเพื่อน แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่..พอเราเข้ามหาวิทยาลัย เรารู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันค่อนข้างสำคัญ เราจึงฝึกฝนด้วยตัวเอง บอกก่อนว่าถ้าคนเลือกที่จะทำอะไรสักอย่าง คุณต้องเริ่มจากคำว่า "ชอบ" ก่อน พยามชอบมันให้ได้ แล้วคุณจะสนุกไปกับมัน
เกริ่นมาซะนานเลย 555 มาเข้าเรื่องกันเนาะๆ พอดีว่าเราพึ่งเรียนจบ เป็นช่วงหางาน ซึ่งอาชีพที่ใฝ่ฝันก็คือ แอร์โฮสเตส แต่ว่าพอเราหางานตามเว็บไซต์ไปเรื่อยๆ เราพบว่า บริษัทหลายๆ แห่ง ต้องการคุณสมบัติข้อนึงนั่นก็คือ "คะแนน TOEIC ......" จะกี่คะแนนก็ว่ากันไป เอาล่ะสิ!! จะทำยังไงดี?? เดี๋ยวจะบอกให้ฟังนะคะ ว่าจะต้องทำยังไงกันบ้าง (พอเป็นพื้นฐานให้เอาไปฝึกฝนกันได้โดยทั่วกัน)
การสอบ TOEIC จะแบ่งออกเป็น 2ส่วนใหญ่ๆ นั่นก็คือ
1. Listening (Part 1 - 4)
>>จะวัดทักษะทางด้านการฟัง (ในข้อสอบมีให้ฟังหลายสถานการณ์มาก ไม่ว่าจะเป็น ข่าวสั้น การพยากรณ์อากาศ เสียงประกาศตามสถานี ฯลฯ)
2. Reading (Part 5 - 7)
>>จะวัดทักษะทางด้านการอ่านจับใจความ และ Grammar!!
เราเครียดตรงแกรมม่าเนี่ยล่ะ! เพราะเราเป็นคนที่อ่อนแกรมม่ามากๆๆๆๆ ไม่เคยเข้าใจว่า Adj. กับ Adv. แตกต่างกันยังไง มองยังไงให้แยกออกว่าอันไหนคือ Noun อันไหนคือ Adj อันไหนคือ Adv และอันไหนคือ V. ---- เราก็คิดนะว่า ทำไงดี? จะขอเงินแม่ไปเรียน ก็กลัวจะไม่คุ้ม เพราะแต่ละคอร์สที่เรียน TOEIC ก็ค่อนข้างราคาสูง จึงตัดสินใจเข้า Google หาข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือดีๆ ซึ่งก็มีเยอะมาก เลือกไม่ถูกจริงๆ สุดท้ายก็เลยไปที่ SE-ED บุ๊กส์ เลย แล้วก็ไปควานหาเอา ซึ่งจากการที่เราได้ซื้อมาประมาณ 6 เล่ม -*- \\ ชีวิตนี้คิดว่าจบมหาวิทยาลัยแล้ว คงไม่ต้องอ่านหนังสืออีกแล้วมั้ง... คิดผิดค่ะ!!! 55555
และหนังสือ+ไฟล์เราคิดว่าควรจะอ่านมีดังนี้.. (เออ เข้าเรื่องสักทีเนอะ 5555)
1.คัมภีร์ Resigned TOEIC ฉบับสมบูรณ์ (พิมพ์ครั้งที่ 4) : ผศ.ดร. นเรศ สุรสิทธิ์
ข้อดี : เล่มนี้จะบอกทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการสอบ แต่สิ่งที่เราชอบคือ อาจารย์ได้อธิบายการใช้แกรมม่าได้อย่างละเอียดและเป็นภาษาที่เข้าใจมากกก!! ทำให้คนที่มึนกับแกรมม่าอย่างเรา สามารถเข้าใจได้ขึ้นประมาณ 75เปอร์เซ็นต์ (ไม่กล้าบอกว่าเต็ม100) แต่มันดีงามอ่ะ คือแนะนำเลย เล่มนี้เล่มเดียว ครบครันจริงๆ กับคำว่าแกรมม่า แถมท้ายบทจะมี บฝ. ให้ได้ทดลองทำประมาณ 2 ชุด ไม่เสียหายเล่มนี้ถือว่าดีงามพระราม8 แนะนำค่ะ
ข้อเสีย : หนังสืออาจจะหนาไปหน่อย รูปภาพไม่ค่อยมี เน้นตารางเยอะ ท่องจำหน่อย แต่ถ้าคุณทำได้ มันก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปเรียนติวเตอร์แพงๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
2.Barron's TOEIC practice exams
เล่มนี้ ยอดฮิต ยอดนิยมในบรรดาผู้ที่จะสอบ TOEIC เลยทีเดียว ถามว่าโอเคมั้ย? สำหรับเราเราคิดว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ
ข้อดี : ในส่วนของ Listening ผู้พูดจะพูดค่อนข้างชัด(ในระดับหนึ่ง) ไม่เร็วมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนการฟังให้เกิดความเคยชิน
ข้อเสีย : มันเป็นลักษณะการพูดที่ไม่เหมือนกับการสอบจริงค่ะ!! ของจริงมันรัวและนัวกว่ามาก T^T
เพราะฉนั้น ใครที่หวังแค่จะอ่านเล่มนี้แล้วได้คะแนนพุ่งๆ บอกเลยว่ายาก (ถ้าคุณไม่ใช่คนเก่งอยู่แล้วนะ) แต่ถ้าจะใช้เล่มนี้ในการฝึกความคล่องของรูหูแล้วล่ะก็ แนะนำค่ะ ราคาไม่แพง หนังสือน้ำหนักเบา มีทั้งหมด 6 ชุด (เราทำครบหมด) ได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 730 - 830 ทั้ง 6 ชุด (แต่ทำไมตอนสอบจริงได้แค่ 660 ล่ะ T^T.... ก็นั่นน่ะสิ!!)
3.Tactics for TOEIC Listening and Reading Test 1 , 2 : Oxford <<<<< อันนี้คือตรงจริงงงงง!!! ย้ำ!! *****18ล้านดอก
พูดเลยว่า ถ้าคุณไม่ได้ทำอันนี้ ถือว่าพลาดมากกกกกกกกกกก
Listening นี่สำเนียงแบบนี้เด๊ะ!!! ฟังเถอะ อ้อนวอนและกราบไหว้ให้ฟังและทำก่อนไปสอบจริงๆ นะ เรารู้สึกเสียดายมากที่ฟังชุดนี้แค่อย่างละรอบ ถ้ากลับไปสอบอีกครั้ง เราจะอัดๆๆๆ ฟังให้ดีกว่านี้จริงๆ
ต้องขอขอบคุณ กระทู้ของคุณ Cony http://pantip.com/topic/30964839 : ฝึก TOEIC 14 วัน ได้830 จริงๆ ที่ทำให้เรารู้จักกับ บฝ. ชุดนี้
สำหรับเราที่คิดว่าสำคัญๆ ก็มีอยู่ 3 ชุดนี้ล่ะค่ะ
แต่ถ้าใครสนใจที่จะหา บฝ. เพิ่มเติม ก็ขออนุญาตแนะนำกระทู้ http://2g.pantip.com/cafe/library/topic/K12753976/K12753976.html
เป็นกระทู้แจกชุดข้อสอบตัวอย่าง Resigned TOEIC ค่ะ (กระทู้นี้เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่มาก ขอกราบไม่แบบไม่แบมือ 3ทีค่ะ *//\\* )
ปล. เวลาทำข้อสอบ ทำ บฝ. กรุณา "จับเวลาทุกครั้ง!!"
สุดท้ายยยยแล้ววว.. ผลสอบจะดีไม่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเกิดมาเป็นเทพภาษาอังกฤษรึเปล่า แต่มันอยู่ที่ว่า คุณมีความพยายามและความอดทนในการฝึกฝนมันมากพอแล้วหรือยัง สำหรับเรา เราอ่านก่อนไปสอบประมาณ 1เดือน (เริ่มอ่านช่วงสงกรานต์พอดีค่ะ)
- อาทิตย์แรก : ต้องอ่านแกรมม่าที่ไม่เข้าใจให้จบ ให้เคลียร์ ให้รู้เรื่อง
- อาทิตย์ที่2 : ลองฝึกทำ Barron's 1 ชุด (ซึ่งพบว่าแกรมม่าก็ยังไม่ได้เรื่อง) เลยไปหาที่ติวแบบเร่งรัด (อันนี้ลืมบอกไป..)
การติวเร่งรัด คือ ติวข้อสอบ 200 ข้อ ภายใน 3 ชม. (400฿) โดยพี่Hank : Homie English (หาดูใน FB เลยนะคะ) เค้าจะบอกเคล็ดลับ แนะนำการทำให้เร็ว ทำให้ไว ถ้าทำได้ให้ล้านนึง!!! -*- ไม่ใช่ล่ะ ... นั่นล่ะค่ะ ลองไปหากันดู เราว่าเป็นเทคนิคที่ดี ยกตัวอย่างเช่น..
>>>> คุณรู้มั้ยว่า ควรทำ Part 5 - 6 ภายในเวลา 20 นาที ไม่อย่างนั้น คุณจะทำ Part 7 ไม่ทัน (อันนี้จริงค่ะ)
- อาทิตย์ที่3 : ทำ Barron's ชุดที่ 2 - 4 , Oxford 1 ชุด ทำไปวันละชุด ขั้นเวลาด้วยการฟังข่าว CNN ฝึกจับใจความ , ฟังเพลงภาษาอังกฤษ , ฟังวิทยุช่อง MET 107 เป็นต้น
- อาทิตย์ที่4 : ทำ Barron's ชุดที่ 6 , Oxford 1 ชุด แล้วก็อาจจะหาดาวน์โหลด Longman มาเสริม (อยู่ในลิงค์ข้างต้นที่แนบไว้ค่ะ)
**จุดบกพร่องของตัวเราที่อยากจะแชร์ไว้ให้เป็นข้อเตือนใจ
- วันสุดท้าย เราก็ยังทำข้อสอบ เราไม่ได้ปล่อยให้สมองได้พัก เราเครียดและกดดันตัวเองมาก จึงอาจจะเป็นเหตุผลให้พักผ่อนไม่เพียงพอ และเกิดความกดดันเวลาทำข้อสอบ
- เราเป็นคนอ่านหนังสือดึก ชอบอ่านตอน 4-5 ทุ่ม พอทำเสร็จก็ ตี1-2 ร่างกายเลยอ่อนล้า
หมดแล้วที่จะแชร์ในวันนี้ บอกแล้วว่าพื้นฐานเราไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษแบบเป็นคอร์สจริงจัง แต่คนเรามันฝึกกันได้ เชื่อเหอะ!! เกิดมาก็ไม่มีใครท่อง ก - ฮ ได้ แล้วทำไมท่องได้ ก็เพราะเรียนไง! ต้องอ่านนะ ต้องทบทวนนะ บอกตัวเองเสมอ มันไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่ออนาคตของตัวเอง มี TOEIC ไว้ให้อุ่นใจจะดีกว่า เพราะเดี๋ยวเข้า AEC แล้ว อะไรๆก็ไม่แน่นอน
สู้ๆๆๆๆ ค่าาาา