วันนี้พี่อ้วนจะพามาพบเจอเรื่องราวที่วัดยานนาวา
การเดินทางนั้นก็ลงรถไฟฟ้าBTSสถานีสะพานตากสิน แล้วเดินมาตามแผนที่ด่านล่างเลยครับ
เมื่อพี่อ้วนเดินทางมาถึงวัดยานนาวาแล้ว ก็เจอกับชายชรานั่งเล่นเครื่องดนตรีอยู่ตรงบริเวณหน้าวัด
ชายชราคนนี้เป็นคนตาบอด เขานั่งอยู่ที่วัดยานนาวา เป็นประจำด้วยเครื่องมือที่เรียกว่าซออู้ พี่อ้วนจึงถามชายชราสำหรับการดำเนินชีวิต เขาบอกว่าจะมีความสุขเวลาที่ได้เล่นเพลงให้คนที่ผ่านไปมาได้ฟัง เค้าหวังว่าเพลงทุกเพลงที่เล่นออกมา พวกเราจะได้ผ่อนคลาย โดยไม่อยากได้ค่าตอบแทนใดๆ แล้วแต่น้ำใจ แต่พี่อ้วนเชื่อว่า หากเราได้รับสิ่งใดก็ควรตอบแทนไปบ้างไม่มากก็น้อย ก็ยังดี และเขาคงไม่ปฏิเสธแน่นอน
เมื่อเดินเข้าไปจะเจอกับศาลาจีน ภายในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมและรูปปั้นของเหล่าเทพเจ้าของจีนให้เคราพสักการะมากมาย
การสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่วัดแห่งนี้นั้น มีความเชื่อว่า คนที่ไม่สมหวังในความรักก็มักจะมาขอพร หรือคู่รักที่จะอธิษฐานขอให้ได้ลูกก็จะนิยมมาขอ หรือคนในครอบครัวได้มาและอธิษฐานขอให้ความรักยืนยาวก็ได้เช่นกัน
ตามความเชื่อนั้นเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะ จำทำให้ชีวิตเราปลอดภัยปราศจากอุปสรรค ไร้โรคภัยไข้เจ็บและมีอายุยืนยาว
มีงานประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมที่สวยงามมาก
รอยยิ้มของรูปปั้นเทพเจ้า ทำให้พี่อ้วนรู้สึกกลัวๆนิดๆ แต่ก็สามารถทำให้เขาสบายใจได้เช่นกัน
พี่อ้วนคิดว่าหากความเชื่อและสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้นจะบันดาลสิ่งดีๆมาหาเรา
เทพเจ้าองค์นี้ ชื่อว่า ไฉ่ซิงเอี๊ย มีความเชื่อว่าะนำพา เงินทอง ความร่ำรวย และโชคลาภมาให้คนที่มาสักการะบูชา
เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าที่เราอาจจะคุ้นเคยที่สุด เนื่องจากเป็นตัวละครในวรรณกรรมเรื่อง สามก๊ก ในความเชื่อเทพเจ้ากวนอูจะส่งเสริมพลังชีวิต และครอบคลุมสิ่งดีๆหลายอย่าง ทั้งความรัก โชคลาภ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
เมื่อทำความเคราพสักการะเทพเจ้าต่างๆเสร็จ พี่อ้วนก็เลยมาเล่นเซียมซีต่อ
การเสี่ยงเซียมซี ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เราได้ทำนายดวง หรือเหตุการณ์ในอนาคต ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตในวัดของประเทศไทย หรือในศาสนาพุทธเลยก็ว่าได้ วิธีการคือ จะมีแก้ว และมีไม้เขียนตัวเลขหรือติดกระดาษไว้ จำนวนประมาณ30-40 ชิ้น และเราก็เขย่าจนกว่า จะมีไม้ร่วงลงพื้นแค่อันเดียวเท่านั้น แล้วจึงนำตัวเลขนั้นไปดูกระดาษผลทำนาย
เมื่อพี่อ้วนรู้ดวงชะตาของตัวเองเรียบร้อยแล้วเลยเดินออกมาจากศาลามุ่งหน้าสู่สำเภายานนาวา
สำเภา ยานนาวา มีความยาววัดจากหงอนข้างบนถึงท้ายบาหลี (ห้องขนาดเล็กท้ายเรือสำเภา) 21 วา 2 ศอก ความยาวส่วนล่างวัดที่พื้นดิน 18 วา 1 ศอกเศษ ความกว้างตอนกลางลำเรือ 4 วา 3 ศอก ความสูงตอนกลางลำเรือ 2 วา 3 ศอก
นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์องค์ใหญ่และเล็กอยู่ในลำสำเภารวม 2 องค์ ที่ห้องบาหลีมีรูปหล่อของพระเวสสันดรกับพระกัญหาชาลีประดิษฐานอยู่ อันเนื่องมาจากเนื้อความในมหาชาติคำหลวง ที่พระเวสสันดรโน้มน้าวใจพระโอรสธิดาให้อุทิศตนร่วมกับพระบิดาสร้างมหากุศล เสมือนเรือสำเภาใหญ่พามนุษยชาติข้ามโอฆสงสารไปสู่พระนิพพาน
เมื่อได้เที่ยวไปซักพักแล้ว พี่อ้วนเริ่มรู้สึกสบายใจ
ถึงทางเข้าจะเล็กแต่พี่อ้วนก็ยังเดินเข้าได้สบายมาก
ภาพดังกล่าวนั้นเป็นเจดีย์สำเภาแห่งเดียวของประเทศไทย
จบทริปสั้นๆด้วยแสงสวยๆ
คำคมจากพี่อ้วน
แม้สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรานั้นสุดแสนวุ่นวาย แต่ภายในจิตใจเรายังหาความสงบได้เสมอ
ความสวยงามที่เกินจะบรรยาย
ความเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และนี่แหละคือสัจธรรม หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ และนี่คือประเทศไทย
หากเพื่อนๆคนไหนมีสถานที่เที่ยวในกรุงเทพฯที่น่าสนใจช่วยแนะนำใต้กระทู้นี้ด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/meetrip 
พี่อ้วนพาเดินเล่นแถววัดยานนาวา
การเดินทางนั้นก็ลงรถไฟฟ้าBTSสถานีสะพานตากสิน แล้วเดินมาตามแผนที่ด่านล่างเลยครับ
เมื่อพี่อ้วนเดินทางมาถึงวัดยานนาวาแล้ว ก็เจอกับชายชรานั่งเล่นเครื่องดนตรีอยู่ตรงบริเวณหน้าวัด
ชายชราคนนี้เป็นคนตาบอด เขานั่งอยู่ที่วัดยานนาวา เป็นประจำด้วยเครื่องมือที่เรียกว่าซออู้ พี่อ้วนจึงถามชายชราสำหรับการดำเนินชีวิต เขาบอกว่าจะมีความสุขเวลาที่ได้เล่นเพลงให้คนที่ผ่านไปมาได้ฟัง เค้าหวังว่าเพลงทุกเพลงที่เล่นออกมา พวกเราจะได้ผ่อนคลาย โดยไม่อยากได้ค่าตอบแทนใดๆ แล้วแต่น้ำใจ แต่พี่อ้วนเชื่อว่า หากเราได้รับสิ่งใดก็ควรตอบแทนไปบ้างไม่มากก็น้อย ก็ยังดี และเขาคงไม่ปฏิเสธแน่นอน
เมื่อเดินเข้าไปจะเจอกับศาลาจีน ภายในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมและรูปปั้นของเหล่าเทพเจ้าของจีนให้เคราพสักการะมากมาย
การสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่วัดแห่งนี้นั้น มีความเชื่อว่า คนที่ไม่สมหวังในความรักก็มักจะมาขอพร หรือคู่รักที่จะอธิษฐานขอให้ได้ลูกก็จะนิยมมาขอ หรือคนในครอบครัวได้มาและอธิษฐานขอให้ความรักยืนยาวก็ได้เช่นกัน
ตามความเชื่อนั้นเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะ จำทำให้ชีวิตเราปลอดภัยปราศจากอุปสรรค ไร้โรคภัยไข้เจ็บและมีอายุยืนยาว
มีงานประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมที่สวยงามมาก
รอยยิ้มของรูปปั้นเทพเจ้า ทำให้พี่อ้วนรู้สึกกลัวๆนิดๆ แต่ก็สามารถทำให้เขาสบายใจได้เช่นกัน
พี่อ้วนคิดว่าหากความเชื่อและสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้นจะบันดาลสิ่งดีๆมาหาเรา
เทพเจ้าองค์นี้ ชื่อว่า ไฉ่ซิงเอี๊ย มีความเชื่อว่าะนำพา เงินทอง ความร่ำรวย และโชคลาภมาให้คนที่มาสักการะบูชา
เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าที่เราอาจจะคุ้นเคยที่สุด เนื่องจากเป็นตัวละครในวรรณกรรมเรื่อง สามก๊ก ในความเชื่อเทพเจ้ากวนอูจะส่งเสริมพลังชีวิต และครอบคลุมสิ่งดีๆหลายอย่าง ทั้งความรัก โชคลาภ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
เมื่อทำความเคราพสักการะเทพเจ้าต่างๆเสร็จ พี่อ้วนก็เลยมาเล่นเซียมซีต่อ
การเสี่ยงเซียมซี ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เราได้ทำนายดวง หรือเหตุการณ์ในอนาคต ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตในวัดของประเทศไทย หรือในศาสนาพุทธเลยก็ว่าได้ วิธีการคือ จะมีแก้ว และมีไม้เขียนตัวเลขหรือติดกระดาษไว้ จำนวนประมาณ30-40 ชิ้น และเราก็เขย่าจนกว่า จะมีไม้ร่วงลงพื้นแค่อันเดียวเท่านั้น แล้วจึงนำตัวเลขนั้นไปดูกระดาษผลทำนาย
เมื่อพี่อ้วนรู้ดวงชะตาของตัวเองเรียบร้อยแล้วเลยเดินออกมาจากศาลามุ่งหน้าสู่สำเภายานนาวา
สำเภา ยานนาวา มีความยาววัดจากหงอนข้างบนถึงท้ายบาหลี (ห้องขนาดเล็กท้ายเรือสำเภา) 21 วา 2 ศอก ความยาวส่วนล่างวัดที่พื้นดิน 18 วา 1 ศอกเศษ ความกว้างตอนกลางลำเรือ 4 วา 3 ศอก ความสูงตอนกลางลำเรือ 2 วา 3 ศอก
นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์องค์ใหญ่และเล็กอยู่ในลำสำเภารวม 2 องค์ ที่ห้องบาหลีมีรูปหล่อของพระเวสสันดรกับพระกัญหาชาลีประดิษฐานอยู่ อันเนื่องมาจากเนื้อความในมหาชาติคำหลวง ที่พระเวสสันดรโน้มน้าวใจพระโอรสธิดาให้อุทิศตนร่วมกับพระบิดาสร้างมหากุศล เสมือนเรือสำเภาใหญ่พามนุษยชาติข้ามโอฆสงสารไปสู่พระนิพพาน
เมื่อได้เที่ยวไปซักพักแล้ว พี่อ้วนเริ่มรู้สึกสบายใจ
ถึงทางเข้าจะเล็กแต่พี่อ้วนก็ยังเดินเข้าได้สบายมาก
ภาพดังกล่าวนั้นเป็นเจดีย์สำเภาแห่งเดียวของประเทศไทย
จบทริปสั้นๆด้วยแสงสวยๆ
คำคมจากพี่อ้วน
แม้สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรานั้นสุดแสนวุ่นวาย แต่ภายในจิตใจเรายังหาความสงบได้เสมอ
ความสวยงามที่เกินจะบรรยาย
ความเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และนี่แหละคือสัจธรรม หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ และนี่คือประเทศไทย
หากเพื่อนๆคนไหนมีสถานที่เที่ยวในกรุงเทพฯที่น่าสนใจช่วยแนะนำใต้กระทู้นี้ด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/meetrip