ขอขอบพระคุณ คุณตาจอร์จ มิลเลอร์ ที่แหกสังขาร ลุกขึ้นมาทำหนังเรื่องนี้ให้ได้ดูกัน
และแสดงฝีมือให้ผู้กำกับหนังแอ๊คชั่นรุ่นใหม่ได้เห็นว่าคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ไหน มันจะมาสู้งานสตั้นต์งามๆเทพๆของคุณตาได้
ในตัวอย่างหนังอันแรก โปรยไว้ว่า from the mastermind director george miller ก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เพราะคุณตาแกแน่วแน่เหลือเกินว่า นี่คือหนัง "แอ๊คชั่น" เพราะฉะนั้น 80 เปอร์เซนต์ของเรื่องนี้จึงมีแต่ฉากแอคชั่นมันส์ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เอาล่อเอาเถิด และทำให้เราลุ้นระทึกไปด้วยได้ เพราะเดาไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในท่ามกลางหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ และหนังยุคหลังที่หันไปใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเป็นหลัง
การได้ดู Mad max นี่ถือว่าคืนลมหายใจสะอาดๆ สูดแล้วโล่งปอดให้กับคนดูหนังเลยทีเดียว
คุณตาจอร์จ แกไม่ได้เก่งแค่เรื่องกำกับฉากแอคชั่น แต่ว่าเนื้อหาและการเล่าเรื่อง แกก็ใส่มาได้อย่างพอดีๆ ไม่พยายามจะเยอะแยะฟูมฟายให้มากความ
แต่ก็ไม่ได้เบาโหวงและมั่วซั่วจนจับต้องไม่ได้ ทำให้เรายังลุ้นเอาใจช่วย และสลดใจไปกับชะตากรรมของตัวละครหลายตัวได้อยู่
เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มเงิน คุ้มเวลา
และรู้สึกขอบคุณทีมงานสร้างมาก ที่อุตส่าห์ทำมาให้ดูขนาดนี้ ดูจากเบื้องหลังแล้ว ถ้าใจไม่มาจริงๆ คงทำหนังแบบนี้ออกมาไม่ได้
ที่สำคัญคุณตาจอร์จ ถ้าคุณตามัวแต่นั่งเลี้ยงหลานอยู่บ้าน คงไม่มีงานดีๆแบบนี้ออกมาให้ดูแน่
10/10 ประทับใจมาก ไม่มีอะไรจะหักคะแนน
แค่ 30 นาทีสุดท้ายก็ได้คะแนนเต็มแล้วครับ
Madmax 2015 นี่จะเป็นหนังที่เปิดที่ไหน ก็จะมีคนหยุดดู เหมือนที่ คนเหล็ก 2029 เคยทำได้อย่างแน่นอน
และแสดงฝีมือให้ผู้กำกับหนังแอ๊คชั่นรุ่นใหม่ได้เห็นว่าคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ไหน มันจะมาสู้งานสตั้นต์งามๆเทพๆของคุณตาได้
ในตัวอย่างหนังอันแรก โปรยไว้ว่า from the mastermind director george miller ก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เพราะคุณตาแกแน่วแน่เหลือเกินว่า นี่คือหนัง "แอ๊คชั่น" เพราะฉะนั้น 80 เปอร์เซนต์ของเรื่องนี้จึงมีแต่ฉากแอคชั่นมันส์ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เอาล่อเอาเถิด และทำให้เราลุ้นระทึกไปด้วยได้ เพราะเดาไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในท่ามกลางหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ และหนังยุคหลังที่หันไปใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเป็นหลัง
การได้ดู Mad max นี่ถือว่าคืนลมหายใจสะอาดๆ สูดแล้วโล่งปอดให้กับคนดูหนังเลยทีเดียว
คุณตาจอร์จ แกไม่ได้เก่งแค่เรื่องกำกับฉากแอคชั่น แต่ว่าเนื้อหาและการเล่าเรื่อง แกก็ใส่มาได้อย่างพอดีๆ ไม่พยายามจะเยอะแยะฟูมฟายให้มากความ
แต่ก็ไม่ได้เบาโหวงและมั่วซั่วจนจับต้องไม่ได้ ทำให้เรายังลุ้นเอาใจช่วย และสลดใจไปกับชะตากรรมของตัวละครหลายตัวได้อยู่
เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มเงิน คุ้มเวลา
และรู้สึกขอบคุณทีมงานสร้างมาก ที่อุตส่าห์ทำมาให้ดูขนาดนี้ ดูจากเบื้องหลังแล้ว ถ้าใจไม่มาจริงๆ คงทำหนังแบบนี้ออกมาไม่ได้
ที่สำคัญคุณตาจอร์จ ถ้าคุณตามัวแต่นั่งเลี้ยงหลานอยู่บ้าน คงไม่มีงานดีๆแบบนี้ออกมาให้ดูแน่
10/10 ประทับใจมาก ไม่มีอะไรจะหักคะแนน
แค่ 30 นาทีสุดท้ายก็ได้คะแนนเต็มแล้วครับ