เคยเป็นแบบนี้ไหมครับ...ไปดูหนังแอคชั่น แล้วรู้สึกเบื่อๆ เดิมๆ
ยิ่งพอฉากบู๊แทบจะหาวหลับ
....
หรือเบื่อยิ่งกว่านั้นที่พอดูจบแล้วก็จบไป ไม่ได้อะไรกลับมาคิดติดในหัว
หรือเคยเบื่อไหมครับเวลาไปดูหนังที่เขาว่ามีแง่คิดปรัชญาอะไรแต่มันดันไม่ค่อยบันเทิงใจเลย
ถ้าเบื่อ
ผมขอแนะนำเรื่องนี้ครับ
MadMax fury road
ความมันส์แบบโคตรๆระห่ำ
ปกติตามขนบหนังแอคชั่นทั่วไป
จะบู๊นิดๆ ต้นเรื่อง กลางเรื่องหน่อยแก้ง่วง แล้วค่อยระเบิดแอ็คชั่นตบท้ายให้ตราตรึง
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ยังงั้นครับ....
มันมันส์แบบระห่ำตั้งแต่ต้นยันจบ ทิ้งช่วงให้พอหายใจหายคอนิดเดียว
ให้อารมณ์แบบเหมือนหนังใกล้จะจบทั้งเรื่อง คือ เฮ้ย... ถ้าเป็นเรื่องอื่นนี่มันแอคชั่นตอนจบแล้ว
แต่เรื่องนี้ที่ไหนได้ มันลากยาวอีก แล้วก็มีต่ออีก แล้วก็มีต่ออีกๆๆๆๆ
แถมยังมาในแบบที่เดาทางไม่ถูก
งานดีไซน์ก็เยี่ยม ถ่ายภาพก็สวย
ใครชอบงานภาพ งานอาร์ต ไม่ผิดหวังแน่ๆ
ที่สำคัญมีสาวสวยแบบนางฟ้าวิคตอเรียซีเคร็ท สี่ห้าคน ให้ดูทั้งเรื่อง
และก็ไม่ได้มาแบบตัวประกอบที่ไร้สมอง
พวกเธอมีคุณค่าและความสามารถมากกว่านั้น
คาแรคเตอร์ดีไซน์ก็ออกแบบมาได้เท่ห์มาก
มันบ้าได้ใจดี
ดนตรีก็เร้าอารมณ์สุดๆ
และบท
ถึงแม้จะเล่าเรื่องน้ำเน่าๆหน่อย (เพราะมันมีหนังที่เล่าประมาณนี้เยอะอยู่)
อย่างโลกอนาคตหลังการล่มสลายของอารยะธรรม
แบ่งเป็นชนชั้นปกครอง กับคนใต้การปกครอง....
และมีคนที่จะแสวงหาทางออก
แต่ก็เล่าได้ไม่น่าเบื่อ
อันที่จริงหนังแอคชั่นหลายๆ เรื่องก็พยายามสร้างประเด็นให้มันมีแง่คิด
แต่มันดูประดักประเดิด ดูเป็นส่วนเกินไงพิกล
ต่างจากเรื่องนี้
แม้จะมีประเด็นชวนให้พูด
แต่แทบไม่เล่ารำพึงรำพันปรัชญาชีวิต สังคม การเมือง อะไรมาก
แค่พอทิ้งแง่มุม ให้พวกชอบคิดเอาไปคิดให้สนุก
จากนั้นก็ร่ายยาวถึงความมันส์แบบเกินพิกัด
เป็นความระห่ำแบบหนังโบราณ ยุค แปดศูนย์ แนวพันนาฯ ที่พึ่งการถ่ายทำและงานสตั๊น
ไม่ได้หลงไปกับซีจี แบบหนังสมัยทุกวันนี้ ที่แทบจะหาความตื่นเต้นไม่ได้
ปีนึงๆ ผมดูหนังหลายสิบเรื่องแต่ไม่เคยรู้สึกเหมือนเรื่องนี้เลย
เห็นกระทู้ในพันทิป มีคนมาเล่ามากมายก็รู้สึกว่ามีเยอะแล้ว ก็ไม่รู้จะไปพิมพ์อีกทำไม ขี้เกียจพิมพ์
แต่เรื่องนี้ พอดูจบ... รู้สึกอยากจะบอกใครๆ ว่า
เฮ้ย ไปดูเหอะ
ผมทิ้งเวลาซักคืนนึง ดูว่า ยังมันส์กะหนังเรื่องนี้ไหม....
ก็ยังมันส์อยู่
เงินทองเป็นของมีค่า ยิ่งยุคข้าวยากตั๋วหนังแพงยังงี้
ถ้าจะดูหนังซักเรื่อง ต้องให้มันรู้สึกคุ้มค่าหน่อย
งั้นก็ เรื่องนี้แหละ
สรุปสั้นๆเลยคือ เป็นหนังที่ผมว่าสนุกมากๆ ในรอบหลายๆปี
สรุปสั้นกว่านั้นคือ ไปดูเหอะ
MAD MAX : นี่ซิหนังที่เรารอมานาน
ยิ่งพอฉากบู๊แทบจะหาวหลับ
....
หรือเบื่อยิ่งกว่านั้นที่พอดูจบแล้วก็จบไป ไม่ได้อะไรกลับมาคิดติดในหัว
หรือเคยเบื่อไหมครับเวลาไปดูหนังที่เขาว่ามีแง่คิดปรัชญาอะไรแต่มันดันไม่ค่อยบันเทิงใจเลย
ถ้าเบื่อ
ผมขอแนะนำเรื่องนี้ครับ
MadMax fury road
ความมันส์แบบโคตรๆระห่ำ
ปกติตามขนบหนังแอคชั่นทั่วไป
จะบู๊นิดๆ ต้นเรื่อง กลางเรื่องหน่อยแก้ง่วง แล้วค่อยระเบิดแอ็คชั่นตบท้ายให้ตราตรึง
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ยังงั้นครับ....
มันมันส์แบบระห่ำตั้งแต่ต้นยันจบ ทิ้งช่วงให้พอหายใจหายคอนิดเดียว
ให้อารมณ์แบบเหมือนหนังใกล้จะจบทั้งเรื่อง คือ เฮ้ย... ถ้าเป็นเรื่องอื่นนี่มันแอคชั่นตอนจบแล้ว
แต่เรื่องนี้ที่ไหนได้ มันลากยาวอีก แล้วก็มีต่ออีก แล้วก็มีต่ออีกๆๆๆๆ
แถมยังมาในแบบที่เดาทางไม่ถูก
งานดีไซน์ก็เยี่ยม ถ่ายภาพก็สวย
ใครชอบงานภาพ งานอาร์ต ไม่ผิดหวังแน่ๆ
ที่สำคัญมีสาวสวยแบบนางฟ้าวิคตอเรียซีเคร็ท สี่ห้าคน ให้ดูทั้งเรื่อง
และก็ไม่ได้มาแบบตัวประกอบที่ไร้สมอง
พวกเธอมีคุณค่าและความสามารถมากกว่านั้น
คาแรคเตอร์ดีไซน์ก็ออกแบบมาได้เท่ห์มาก
มันบ้าได้ใจดี
ดนตรีก็เร้าอารมณ์สุดๆ
และบท
ถึงแม้จะเล่าเรื่องน้ำเน่าๆหน่อย (เพราะมันมีหนังที่เล่าประมาณนี้เยอะอยู่)
อย่างโลกอนาคตหลังการล่มสลายของอารยะธรรม
แบ่งเป็นชนชั้นปกครอง กับคนใต้การปกครอง....
และมีคนที่จะแสวงหาทางออก
แต่ก็เล่าได้ไม่น่าเบื่อ
อันที่จริงหนังแอคชั่นหลายๆ เรื่องก็พยายามสร้างประเด็นให้มันมีแง่คิด
แต่มันดูประดักประเดิด ดูเป็นส่วนเกินไงพิกล
ต่างจากเรื่องนี้
แม้จะมีประเด็นชวนให้พูด
แต่แทบไม่เล่ารำพึงรำพันปรัชญาชีวิต สังคม การเมือง อะไรมาก
แค่พอทิ้งแง่มุม ให้พวกชอบคิดเอาไปคิดให้สนุก
จากนั้นก็ร่ายยาวถึงความมันส์แบบเกินพิกัด
เป็นความระห่ำแบบหนังโบราณ ยุค แปดศูนย์ แนวพันนาฯ ที่พึ่งการถ่ายทำและงานสตั๊น
ไม่ได้หลงไปกับซีจี แบบหนังสมัยทุกวันนี้ ที่แทบจะหาความตื่นเต้นไม่ได้
ปีนึงๆ ผมดูหนังหลายสิบเรื่องแต่ไม่เคยรู้สึกเหมือนเรื่องนี้เลย
เห็นกระทู้ในพันทิป มีคนมาเล่ามากมายก็รู้สึกว่ามีเยอะแล้ว ก็ไม่รู้จะไปพิมพ์อีกทำไม ขี้เกียจพิมพ์
แต่เรื่องนี้ พอดูจบ... รู้สึกอยากจะบอกใครๆ ว่า
เฮ้ย ไปดูเหอะ
ผมทิ้งเวลาซักคืนนึง ดูว่า ยังมันส์กะหนังเรื่องนี้ไหม....
ก็ยังมันส์อยู่
เงินทองเป็นของมีค่า ยิ่งยุคข้าวยากตั๋วหนังแพงยังงี้
ถ้าจะดูหนังซักเรื่อง ต้องให้มันรู้สึกคุ้มค่าหน่อย
งั้นก็ เรื่องนี้แหละ
สรุปสั้นๆเลยคือ เป็นหนังที่ผมว่าสนุกมากๆ ในรอบหลายๆปี
สรุปสั้นกว่านั้นคือ ไปดูเหอะ