อ่านดูแล้วหลาย ๆ คนยังเข้าใจว่านางเอกคนนั้นไม่ยกมือไหว้ อ๊อฟเลยปรี๊ด
แต่อ่านจากไอจีอ๊อฟแล้ว คือกระเป๋าของนางเอกคนนั้นวางอยู่เก้าอี้ข้าง ๆ ตัว
แล้วเธอก็เดินไปมา แล้วมาหยิบของแบบเมิน ๆ คนที่นั่งอยู่
คือถ้าแค่ยิ้มแย้มทักทาย คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อะ อ๊อฟคงไม่ได้อยากให้มายกมือไหว้ขนาดนั้น
แค่ยิ้มทักทายตามประสาคนร่วมวงการก็โอเคแล้ว
แต่ห้องแต่งตัวแคบ ๆ น้องเขาแสดงท่าทางไม่สนคนไม่รู้จัก/ไม่สนิท
นึกภาพตามแล้วก็น่าปรี๊ดนะ 55+ คือเหมือนไม่เห็นหัวอะ

ลองนึกภาพเรานั่งกินข้าวร้านตามสั่งแบบบ้าน ๆ บางร้านมันมีทิชชู่ไม่ครบทุกโต๊ะงี้
เคยมีแบบอยู่ดี ๆ คนโต๊ะอื่นเดินมาหยิบทิชชู่ไปจากโต๊ะเรา เราก็เหวอนะ เหมือนทำอะไรข้ามหัวเราเลย
ไม่ได้หวง แต่ถ้าเป็นคนปกติเขาจะแบบ.. ขอทิชชู่หน่อยนะคะ

แค่กลัวว่าการตีข่าวจะกลายเป็น นางเอกคนนั้นไม่ยอมไหว้ อ๊อฟเลยปรี๊ด
ทั้งที่เจตนาของอ๊อฟ เราว่าไม่ได้โฟกัสที่การยกมือไหว้หรอก
แต่เป็นอาการแบบไม่เห็นหัวคนอื่นของน้องคนนั้นมากกว่า

อันนี้พูดในมุมที่เขาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนนะ ว่ากิริยาของน้องคนนั้นดูไม่น่ารัก
แต่เบื้องลึกอาจจะไม่ถูกกันอยู่แล้วหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

เห็นบอกอิน้อง ม  แฟนบี้   เป็นเมื่อไหร่อะคะ บี้ไม่เคยให้ข่าวใดๆว่าแฟนบี้   พึ่งฟ้งสัมนางล่าสุด  นางดูไม่มีอะไรจะพูดเลยถึงบี้  ดูนางพิกล
รับปริญญา นักข่าวถามบี้มีอะไรให้  นางบอกไม่บอกพี่บี้  ไม่มีดอกไม้  ไม่มีของให้  บี้ไม่รู้  นางไม่ให้ความสำคัญ  พี่บี้ยุ่ง  ไม่ค่อยได้ติดต่อ เวลาต่างกัน   เอ่อแปลกๆเนอะ  คนแฟนกัน  

ก็เห็นไอจีนางน้องหน้าแข็ง  มันก็ลงเชิญแฟนคลับ  เชิญสื่อ  นัดเวลาใหญ่โต  พึ่งมาลบออกหลังงานจบ  ลงล่วงหน้าตั้งหลายวัน  พี่บี้ก็ลงไอจีให้แฟนคลับเห็นหน้าทุกวัน  เช้าก่อนทำงาน  หรือไม่ก็ก่อนนอน  น่าจะมีเวลา  ส่องโซเชียลนะ  อาการน่าเป็นห่วงนะ  ตอบสื่อแบบนี้

สุดท้าย  งานรับปริญญา  แกรนด์  แก้ม  บี้ส่งดอกไม้  แถมโทรยินดีนะ  ไม่ใช่บี้  ไม่สนใจใคร  ผจก บี้ จะไปแทนบี้เสมอ  อ้าวแล้วน้อง ม ไงไม่ได้เลยอะนี่  

แฟนจริงๆ   หรือ พยายาม UPตัวเองจากชื่อเสียงบี้   นางใช้เงินอัปตัวเยอะ  เที่ยวต่างประเทศ  ใช้แบรนด์  กินของหรู  เกาะกลุ่มดาราช่อง  3 ผจก แสบทรวง นิสัย  แรงพอกันทั้งกลุ่ม สร้าวข่าวเกาะกระแสถนัดกันทั้งฝูง

งานที่มีเรื่อง  กับอ๊อฟ  มันก็แค่ อิน้องนางนี่  ออกสื่อเจอไมค์บ่อย  และเหลิงคิดว่าตัวเอง  ดังมากกก   เดินเข้ารัชดาลัย  แบบสันดานเดิม  ทีมละครเวทีเค้ารวมกันอยู่ทั้งกลุ่ม ดัน เชิด เค้าส่งยิ้มให้เพราะเอากระเป๋ามาหย่อนข้างตัว  อินี่ก็ไม่ทักทายซักที เดินเชิดเป็นสิบรอบ  คนยิ้มให้ก็ค้างดิ เงิบ นี่เค้าเรียก  ไม่มีมารยาทสังคม  

ที่เห็น คนมาแสดงออก
อ๊อฟ   นี่ตัวแม่ GMM  ทั้งค่าย หรือแทบทั้งวงการ  รักนางแทบทั้งนั้น
Jibbenjanat     นี่ นางเอกรัชดาลัยเด็กปั้น  คุณบอย  นางเอก สี่แผ่นดิน  และเอามาลงละครจัดรัก  แถมต่อละครเวทีคืนสละโสด
Namnoonnaka  นี่ทำรายการบันเทิงมานาน  วันรับปริญญา น้ำนุ่นไปทำสกู๊ปข่าว  นักแสดงช่องวันรับปริญญา  ก็เลยมีภาพ แสดงความยินดี  นางคงแซวกันเองว่า  นางเค้ายังไม่ยกมือไหว้  เจอมาหลายงาน
Aaejung.  คนดูแลศิลปินเดอะสตาร์
Taraetae  ผจก ออม
Jade8jade.  นี่เด็ดสุด คนนี้คือเลขาส่วนตัวคุณบอยและทำงานกับบี้ทั้งไทยและต่างประเทศ  โพส '"ผมไม่ชอบน้องคนนี้  ตั้งแต่แรกที่เจอ หรือว่าตึงโบท๊อกซ์ 555"  อุ้ยสภาพนี้  คือคนมีข่าวแฟนน้องชายอะพี่ด่าไม่เกรงใจเลยเหรอ มันไงละนี่
โอ้ยเรื่อง วีรกรรม วีรเวรนางหน้าแข็ง  มือแข็งอีกเยอะ  เดี่ยวเรื่องมันคงแดงเอง  โจทย์นางเยอะมากก

ผมว่านะ โม มนชนก เป็นประเภทที่ยึดเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นหลัก และมองว่าการทำแต่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการนั้นเป็นการซื้อสัตย์ต่อตัวเอง เป็นนิยามของคนตรงไปตรงมา แต่เธอดีว่าสก๊อยหน่อยตรงที่ยังรู้จักควบคุมไม่ให้ไปเดือดร้อนคนอื่น

อย่างเรื่องไหว้ เธอคงมองว่า ทำไมต้องไหว้ เพื่อให้คนอื่นพอใจ? ทำไมต้องให้คนอื่นพอใจ คนอื่นจะคิดยังไงทำไมต้องสน ดังนั้นไม่ไหว้ก็ได้นี่ เมื่อคิดว่าไม่ไหว้ ก็ไม่ไหว้มันจริงๆ เพราะคิดว่าทำแบบนี้เป็นคนตรงไปตรงมา

ที่เธอยังใช้ชีวิตแบบนี้ได้ เพราะเธอยังไม่เจอจุดเปลี่ยนอ่ะครับ เธอยังไม่เจอจุดที่ว่า เพราะเธอเป็นคนแบบนี้ ทำไมเธอต้องเสียอะไรที่สำคัญต่อเธอมากๆไป คนแบบนี้คงต้องรอให้เจอวันที่ฟ้าถล่มมาจริงๆ มันต้องให้เจ็บเอง ถึงจะคิดได้ครับ

ก๊อปมาจากความเห็น149 กระทู้นู้น
http://www.clipmass.com/story/27481

ข้างล่างคือบทสัมภาษณ์บางส่วน
************************************

ไม่ยุ่งใครและไม่อยากให้ใครมายุ่ง
       ถ้ายังไม่มีสมญานามในวงการ เราขอตั้งให้เธอเป็น “เจ้าแม่เอ็มวี” เพราะที่ผ่านมาโมมีโอกาสได้แสดงมิวสิกวิดีโอหลายสิบชิ้น จะเรียกว่าเป็นหนทางสู่การแจ้งเกิดก็ว่าได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าคนจำนวนมากจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาก่อน แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าคือผลงานเกือบทุกชิ้นที่ได้รับเล่น โมแทบไม่เคยใช้ความพยายามในการแคสต์งานด้วยซ้ำ แต่อาศัยโชคชะตาเป็นหลัก
       
      
       “อย่างงานแรกที่ได้ก็เพราะ ความบังเอิญ ตอนนั้นโมแวะเข้าไปหาเพื่อนตอนเขาถ่ายเอ็มวีอยู่ ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเสนอหน้าให้ใครเห็นจริงๆ แค่แวะไปโม้นู่นนี่ให้เพื่อนฟัง ไม่สนด้วยซ้ำว่าเขากำลังถ่ายทำอยู่ หรือนักร้องคือใคร พอดีผู้กำกับเอ็มวีเห็นโม เลยบอกโมเดลลิ่งของเพื่อนว่าอยากให้เราไปเล่นเอ็มวีอีกตัวหนึ่ง ก็เลยได้เริ่มทำมาตั้งแต่ตอนนั้น แล้วเอ็มวีอีก 7 ตัวหลังจากนั้นก็ได้มาเรื่อยๆ แบบไม่เคยไปแคสต์เลยสักตัวค่ะ”
       
      
       อาจเพราะเส้นทางชีวิตในวงการ ของโมได้มาแบบไม่ต้องดิ้นรนมากนัก เธอจึงมีมุมมองแตกต่างจากวัยรุ่นทั่วไปที่อยากเข้าวงการ โดยให้เหตุผลว่า “คง เป็นเพราะโมได้อะไรมาง่ายๆ มั้งคะ ก็เลยทำให้ไม่ค่อยเห็นคุณค่าสักเท่าไหร่ เทียบกับบางคน เขาต้องพยายามไปแคสต์งานเป็น 40-50 ตัว กว่าจะได้สักงานหนึ่ง ก็เลยอาจจะอยากทำงานตรงนี้มาก แต่โมรู้สึกว่าถึงไม่ได้เป็น ไม่ได้ทำงานนี้ ฉันก็ไม่ตาย แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้ค่ะ” และด้วยความคิดแบบนี้เองจึงทำให้โมสามารถแสดงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำดีกับใคร คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น และไม่ต้องห่วงเรื่องภาพลักษณ์มากมายนัก แม้กระทั่งต่อกลุ่มคนที่ชื่นชอบเธอเอง